ตอนแรกเย่เทียนแค่อยากมาช่วยจี้เยียนหรันเล็กๆน้อยๆ เผื่อได้เงินรางวัล แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอปลาตัวใหญ่
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคนพวกนี้จะกล้าขนาดนี้ และบุคคลเป้าหมายเป็นถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่!
ส่วนขุนนางชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นใครนั้น ให้เย่เทียนคิดด้วยนิ้วโป้งเท้ายังรู้เลย ว่าต้องเป็นถังเหวินหลง
อีกทั้งเป็นไปได้สูงว่าอาจเกี่ยวข้องกับหลัวสามและโลกนักบู๊!
ก่อนหน้านี้ตอนไปเขตทหารที่เจียงหนาน ถังเหวินหลงไม่เต็มใจแม้แต่จะเชิญกินมื้อเที่ยง หลังจากมอบใบคุณสมบัติให้ตนเสร็จก็ไล่เขาไปทันที
แต่หลัวสามกลับไม่ได้ออกมากับตนด้วย อยู่ประชุมกับถังเหวินหลงที่เขตทหารของจียงหนานต่อ นี่ก็เพียงพอที่จะให้คิดได้
ทำให้เย่เทียนสงสัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ว่าตกลงแล้วอะไรที่ทำให้หลี่เหวินกับพวกคิดสังหารถังเหวินหลงทั้งที่เสี่ยงขนาดนี้?
และเพราะเช่นนี้ เย่เทียนจึงเหยียบทำลายอุปกรณ์สื่อสารอย่างไม่ลังเล กลัวว่าจะมีข้อมูลอะไรลั่วไหลออกไป
“ผมเป็นคนมีเหตุผล ตราบใดที่พวกคุณให้ความร่วมมือ บอกผมว่าทำไมถึงอยากลอบสังหารขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แล้วผมจะลองพิจารณาเว้นศพพวกคุณให้ครบ32!”
ทันทีที่พูดออกมา หลี่เหวินและคนอื่นๆก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“พ่อหนุ่ม สมองแกโดนประตูหนีบจนเอ๋อไปแล้วเหรอ?”
“หมอนี่คงไม่ใช่ตัวตลกที่โหวจื่อส่งมาหรอกใช่ไหม?”
“โลกนี้มันโหดร้าย สมองมีปัญหาก็ไปโรงพยาบาลจิตเวชซะ อย่าเที่ยวออกมารนหาที่ตาย!”
ในสายตาหลี่เหวินพวกเขา คนตัวคนเดียวอย่างเย่เทียนไม่ได้น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นกำลังคนหรืออาวุธ พวกเขาล้วนได้เปรียบกว่ามาก มีอะไรต้องกลัว?
“ไอ้น้องแหกตาดูให้ชัดๆ ยังอยากให้พวกเราให้ความร่วมมือแก คิดว่าตัวเองเป็นใคร?! ”
ความตึงเครียดบนใบหน้าหลี่เหวินหายไปไม่น้อย ปรากฏความเย้าหยอกเบาๆ ไม่เอาเย่เทียนมาใส่ใจ
“ฟังจากที่พวกคุณพูด คงไม่ให้ความร่วมมือกับผมใช่ไหม?”
เย่เทียนเบ้ปาก ประกบมือเข้าหากันยืดเส้นยืดสาย จนเกิดเสียงดังกร็อบแกร๊บออกมา
“ร่วมมือ! พวกเราต้องให้ความร่วมมือสิ!”
หลี่เหวินยิ้มเยาะแปลกๆ พลางพูดด้วยสีหน้าโหดๆ:“ฉันรับรองว่าจะให้ความร่วมมือแกเป็นอย่างดี ให้แกได้ลิ้มลองโทษที่เจ็บปวดที่สุดในโลก แล้วค่อยให้แกตาย!”
ไม่รอให้เย่เทียนตอบกลับ หลี่เหวินขี้เกียจพูดพล่ามต่อ มือใหญ่โบกลงล่าง ออกคำสั่งกับลูกน้องโดยไม่ลังเล
“ยืนบื้ออยู่ทำไม? รีบไปจับมันมาให้ฉัน!”
“ไอน้อง ยอมให้จับแต่โดยดี อย่างน้อยอาจเจ็บปวดน้อยลง!”
“หวังว่าแกได้กลับชาติไปเกิดใหม่ได้ดีๆหน่อย ชาติหน้าอย่าเกิดเป็นคนโง่อีกล่ะ!”
พวกที่แอบเข้าใกล้เย่เทียนโดยไม่ให้รู้ตัวเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่ปิดบังอีกต่อไป เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหว ตรงไปยังเย่เทียนด้วยรอยยิ้มน่าขยะแขยง
แม้พวกเขามีอาวุธในมือทุกคน แต่เย่เทียนเหรอจะใส่ใจปัญหาเล็กน้อยแค่นี้?
เขาเบ้ปากอย่างรังเกียจ ไม่มองพวกลูกน้องนั่นแม้น้อย พวกมันก็ร่วงตกลงไปด้านหลังหลี่เหวินแล้ว
“อะไรกัน? คุณคิดจะรุมกันงั้นเหรอ?”
“ถ้าฉันรุมแล้วแกจะทำไม? มีปัญญาก็เข้ามาจัดการฉันสิ!”
หลี่เหวินหัวเราะเยาะ พูดเย้ยหยันเย่เทียนตามอำเภอใจ
“ผมไม่เคยเจอใครต่ำต้อยเท่าคุณเลย ถึงขนาดร้องขอให้คนอื่นจัดการคุณ”
“ช่างเถอะ ใครใช้ให้ผมเป็นคนดีล่ะ? ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ งั้นผมจะฝืนใจทำให้คุณสมปรารถนาก็แล้วกัน!”
เย่เทียนครุ่นคิดด้วยความจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลงคำร้องขอของหลี่เหวิน
“ห้ะ?”
หลี่เหวินและคนอื่นๆตกใจ ไม่เข้าใจความหมายที่เย่เทียนพูด
แต่พวกเขาตกใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนจะตกใจ
คัมภีร์หวงในร่างกายของเขาเริ่มเคลื่อนไหว และพลังอันแข็งแกร่งที่เป็นของผู้แข็งแกร่งระดับดิน ปกคลุมไปทั่วร่างกาย
แล้วออกตัว เย่เทียนไม่ได้ถอยแต่พุ่งไปยังตรงหน้าพวกลูกน้อง5คนนั้นด้วยความเร็วปานสายฟ้า พลางยื่นมือออกไป
อั่กๆ!
น่าสงสารลูกน้อง5คนนั้น ยังไม่ทันได้สติกลับมาจากความตกตะลึง ก็โดนเย่เทียนซัดจนสลบกันออกไป แม้เห็นๆอยู่ว่ามีอาวุธแต่กลับไม่ทันได้ใช้
เย่เทียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นับเวลารวมๆแล้วไม่ถึง3วินาที เมื่อ5คนนั้นล้มลงจนเกิดเสียงดังอั่ก หลี่เหวินพวกเขาจึงได้สติกลับมา
“เหนี่ยวไก! เหนี่ยวไก!”
เมื่อเห็นว่าเย่เทียนจัดการคน5คนได้อย่างสบายๆ ท่าทางมั่นใจของหลี่เหวินก็หายวับไป แทนที่ด้วยความตกตะลึงและความหวาดกลัว ตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง
หลี่เหวินพูดพลางรีบยกปลายกระบอกปืนขึ้น แล้วเหนี่ยวไกอย่างโหดเหี้ยม
ปังๆ!
ท่ามกลางเสียงปืนกลขนาดเล็ก ลูกน้อง7คนที่เหลือของหลี่เหวินก็ค่อยๆได้สติกลับมา ส่งเสียงคำรามพร้อมเหนี่ยวไกออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่กังวลว่าจะยิงโดนเพื่อนที่สลบอยู่บนพื้นหรือไม่
แม้พวกเขาจะชำนาญเรื่องปืน แต่ลูกกระสุนมันไม่มีตา ยิ่งมั่วซั่วแบบนี้จะโดนคนอื่นได้ง่าย
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้โหดเหี้ยมเพียงใด เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา
ปังๆ!
เสียงปืนกลขนาดเล็กดังก้องไปทั่วทั้งโกดัง กระสุนพุ่งไปยังเย่เทียนเสียงดังราวกับประทัด
ภายใต้การจู่โจมที่รุนแรงนี้ อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่แผ่นเหล็กขนาด10นิ้วยังถูกยิงพรุนเป็นรังแตน!
แต่เย่เทียนไม่ใช่คนธรรมดาๆ!
ก่อนที่หลี่เหวินจะเหนี่ยวไก เย่เทียนก็เหยียดมือออกไปพลางยิ้มเยาะ ปล่อยพลังโล่ทิพย์ป้องกันกายออกมาทันใด
ปังๆ!
กระสุนอันหนาแน่นกระทบกับโล่ทิพย์ป้องกันกาย โล่ทิพย์ป้องกันกายอันราบรื่นเปล่งแสงออกมา เหมือนจะต้านไม่ค่อยอยู่!
“แม่ง!”
เย่เทียนหน้าถอดสีเล็กน้อย จึงตั้งใจกวาดตามองอาวุธในมือพวกเขา มันเป็นปืนกลขนาดเล็กแบบเดียวกัน!
ที่สำคัญที่สุดคือเย่เทียนจำได้ ว่าปืนกลขนาดเล็กนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในโลก ภายในเวลา1นาทีสามารถยิงกระสุนได้ถึง50นัด เป็นตัวเลือกแรกๆในการกราดยิง
ตอนนี้นับได้ว่าหลี่เหวินมีปืนกลขนาดเล็ก8กระบอก กระสุน400นัด จะไม่ให้โล่ทิพย์ป้องกันกายสั่นคลอนได้ยังไง?
“มิน่าล่ะพลังโล่ทิพย์ป้องกันกายถึงเอาไม่อยู่”
เย่เทียนแอบตกใจ รู้ดีว่าพวกหลี่เหวินอาจมีพวกมาสมทบอีก
ด่านศุลกากรของจีนไม่ใช่เล่นๆ จะเอาอาวุธร้อนเข้ามานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าบอกว่าไม่มีคนในสนับสนุน ตีให้ตายเย่เทียนก็ไม่เชื่อ
ขณะกำลังคิด เย่เทียนก็กลิ้งหลบไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่าพื้นสกปรกหรือไม่
“คิดว่าฉันเล่นปืนไม่เป็นใช่ไหม? ตอนที่ฉันเล่นปืนพวกแกยังเล่นโคลนอยู่เลย!”
ขณะเดียวกัน เย่เทียนก็หยิบปืนกลขนาดเล็กสองกระบอกในมือลูกน้องที่สลบอยู่บนพื้นขึ้นมา พลางตะโกนเสียงดัง ยังไม่ทันยืนขึ้นสองมือก็เหนี่ยวไกปืนไม่ยั้ง
ทั้งสองฝ่ายยิงใส่กันในโกดังอันโล่งแจ้งแห่งนี้……