ตอนที่ 593 วิเคราะห์จิตใจ / ตอนที่ 594 ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนได้

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 593 วิเคราะห์จิตใจ

 

 

“นายรู้สึกไหมว่าแม่นายเกลียดฉันไปแล้ว” สวีอันหรานมองตามแม่เหยียนไปจนหล่อนเดินกลับไปถึงโต๊ะ จากนั้นก็ดึงสะกิดแขนเสื้อเหยียนเค่อ

 

 

เหยียนเค่อปัดมือสวีอันหรานออก “นายยิ่งทำแบบนี้แม่ฉันจะยิ่งเกลียดนายเข้าไปใหญ่”

 

 

“นายไม่แต่งงานแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันวะ อีกอย่างฉันว่าถ้าเทียบกันแล้วฉันดูดีกว่าสวีอิ๋งอิ๋งอีก” สวีอันหรานยังคงมีความหลงตัวเอง

 

 

เหยียนเค่อยิ้มเย็น “สวยแล้วยังไง นายก็ไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย”

 

 

สวีอันหรานถูกทำให้โมโหจนพูดอะไรไม่ออก จึงได้แต่เบนสายตาไปสนใจเรื่องอื่นแทน สักพักก็เริ่มไปสังเกตวิเคราะห์คู่ของเฉิงซินกับเหยียนเฟิงแทน

 

 

“นายดู เหยียนเฟิงดูไม่ได้สนใจเรื่องที่เฉิงซินคุยกับพ่อแม่นายเท่าไหร่ แสดงว่าเขากับเฉิงซินไม่ได้จะร่วมมือกันทำอะไร”

 

 

เหยียนเค่อพยักหน้า “นายวิเคราะห์ได้ดีมาก”

 

 

ในตอนนี้เองฉินซื่อหลานก็เข้ามาร่วมวงด้วย เอ่ยแทรกถามระหว่างพวกเขาสองคนด้วยเสียงเบาๆ “วิเคราะห์อะไรได้ดีหน่ะ”

 

 

เหยียนเค่อใช้สายตาเพยิดไปทางคู่หนุ่มสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม ฉินซื่อหลานก็เข้าใจในทันที “ให้ฉันช่วยวิเคราะห์ใจให้ไหม”

 

 

“เอาสิ” สวีอันหรานรู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีรีบเล่าเรื่องที่เขาคุยเมื่อครู่ให้ฉินซื่อหลานฟังอีกรอบ แล้วก็รอฟังผลสรุป

 

 

ฉินซื่อหลานก็ไม่ได้อ้อมค้อม “ถ้ามองจากมุมของเหยียนเฟิงแล้ว คนอย่างเขาไม่น่าจะตัดตัวเลือกดีๆ อย่างเฉิงซินออกหรอก หรือหล่อนอาจจะเคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเขาด้วยก็ได้”

 

 

“นายรู้ได้อย่างไร” เหยียนเค่อถามอย่างไม่เข้าใจ

 

 

ฉินซื่อหลานแบมือ “มันก็เห็นกันชัดๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ นายไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้แล้วมีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรเนี่ย”

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องของผู้หญิง” เหยียนเค่อไม่ได้โรคจิตขนาดเหยียนเฟิงที่ต้องไปสืบค้นทำรายชื่อผู้หญิงที่เหมาะสมที่จะแต่งงานด้วยแล้วมานั่งเลือกเมียจากรายชื่อแบบนั้น

 

 

แต่สวีอันหรานเข้าใจดี เร่งให้ฉินซื่อหลานพูดต่อ “ไม่ต้องไปสนใจมัน ปกติมันก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”

 

 

คนที่ถูกเพิกเฉยอย่างเหยียนเค่อได้แต่มองพวกเขาวิเคราะห์ใจออกมาเป็นประเด็นๆ ด้วยสายตาเย็นชา แล้วผลวิเคราะห์สุดท้ายที่ฉินซื่อหลานสรุปออกมามันก็ตรงมากๆ ด้วย

 

 

“ตอนนี้ผลสรุปออกมาที่เฉิงซิน ดังนั้นแสดงว่าเหยียนเฟิงยังหาคนที่เหมาะสมกว่านี้ยังไม่ได้”

 

 

“อย่างนั้น Belle ล่ะ” ผู้ชายที่ละเอียดอ่อนอย่างสวีอันหรานอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

 

 

ฉินซื่อหลานตามความคิดของเพื่อนตนเองไม่ทัน “เกี่ยวอะไรกับ Belle ล่ะ ไม่ใช่ว่า…” ฉินซื่อหลานชี้ไปทางเหยียนเค่อ ‘ฟิ้บ’ แต่ก็ถูกเหยียนเค่อผลักกลับไป

 

 

“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”

 

 

ฉินซื่อหลานลูบมือตัวเองที่เอามากุมไว้ที่หน้าอก เอ่ยเสียงอ่อยๆ กับการเลือกปฏิบัติของเหยียนเค่อ “แต่ซย่าเสี่ยวมั่วเข้าใจว่าพวกนายมีความสัมพันธ์กันนี่”

 

 

สายตาเหยียนเค่อเริ่มสั่นไหว กำลังจะขอคำอธิบายจากฉินซื่อหลานแต่ผู้เฒ่าเหยียนก็เดินลงมาเสียก่อน ทุกคนจึงลุกขึ้นยืนรอผู้เฒ่าเดินมา

 

 

พิธีก็เป็นเหมือนครั้งก่อนๆ กล่าวเปิดงานเล็กน้อยจากนั้นก็ดื่มฉลองกัน พอการเปิดพิธีที่เป็นทางการผ่านไปก็สามารถดื่มเล่นกันได้อย่างผ่อนคลาย

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งที่ไม่รู้เดินกลับเข้ามาตอนไหน หล่อนกับคู่ควงที่เหยียนเฟิงพามาจึงได้แต่นั่งอยู่ตรงที่ที่ไม่ค่อยโดดเด่นนัก

 

 

สวีอันหรานเห็นก็ขมวดคิ้ว “ไม่รักษาความเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีไว้ แต่กลับไปทำตัวที่ลดศักดิ์ศรีตัวเอง ไม่รู้ว่าสมองหล่อนมีปัญหาหรืออย่างไร”

 

 

“ขนาดคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายอย่างนายยังคิดแบบนี้ พวกฉันก็คิดไม่ต่างกันหรอก” ฉินซื่อหลานหัวเราะ แล้วมองไปยังเหยียนเค่อ สายตาเต็มไปด้วยความเห็นใจอย่างที่สุด

 

 

พวกเขายังนั่งวิเคราะห์กันอยู่ นายประโยคฉันประโยคคุยกันอย่างสนุก ส่วนแม่เหยียนเหมือนว่าจะเพิ่งสังเกตเห็นสวีอิ๋งอิ๋งที่นั่งหลบมุมอยู่จึงรีบกวักมือเรียกหล่อน

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งยิ้ม รีบลุกออกมาจากที่นั่งแย่ๆ ตรงนั้นแล้วเดินตรงมา แต่ก่อนจะมาก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปจ้องผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 594 ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนได้

 

 

คุณหญิงที่สนิทกับแม่เหยียนเห็นสวีอิ๋งอิ๋งเดินเข้ามาหาแม่เหยียนอย่างสนิทสนมสีหน้าทุกคนก็รู้สึกแปลกใจ เอ่ยล้อเล่น “นี่มันคุณหนูสวีไม่ใช่เหรอ คุณรับเป็นลูกบุญธรรมเหรอคะ”

 

 

“ลูกบุญธรรมที่ไหนจะใส่ใจฉันดีอย่างลูกสะใภ้เล่า” คำพูดของแม่เหยียนนี้เหมือนเป็นการประกาศชัดถึงการเกี่ยวดองของตระกูลเหยียนกับตระกูลสวี

 

 

“แหม ช่างโชคดีจริงๆนะ แล้วเหยียนเค่อล่ะ ยังไม่มีเหรอ” คุณหญิงถูกใจเหยียนเค่อ เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้สนใจเหยียนเฟิงสักเท่าไหร่นัก

 

 

แม่เหยียนกับสวีอิ๋งอิ๋งมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน “นี่คือคู่หมั้นของเหยียนเค่อ ส่วนเหยียนเฟิงเขาก็มีของเขา”

 

 

คุณหญิงดูอึ้งไปพักหนึ่ง พอได้ยินแม่เหยียนพูดแบบนี้ก็เริ่มคิดว่าสายตาของหล่อนมีปัญหาหรือเปล่า

 

 

เหยียนเค่อไม่ต้องฟังก็รู้ว่าแม่ตนกำลังพูดอะไรอยู่ แต่เขาก็จนปัญญาที่จะไปขัด จึงได้แต่นั่งดื่มเหล้าอยู่ตรงนั้นอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

สักพักแม่เหยียนก็ให้สวีอิ๋งอิ๋งมานั่งคั่นกลางระหว่างเหยียนเค่อกับสีวอันหราน เหยียนเค่อที่พอมีสวีอิ๋งอิ๋งมานั่งข้างๆก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

 

 

แม่เหยียนพูดดังมาจากอีกฝั่งของโต๊ะ “ดูแลสวีอิ๋งอิ๋งดีๆ อย่ามัวแต่มานั่งดื่มเหล้า”

 

 

แค่สายตาของเหยียนเค่อก็ดูหาเรื่องมากแล้ว สวีอิ๋งอิ่งนั่งอยู่ตรงนั้นไม่กล้าล่วงเกินเหยียนเค่อ “คุณป้าคะ วันนี้ทุกคนมีความสุข ให้เขาดื่มไปเถอะค่ะ”

 

 

“เด็กคนนี้…” แม่เหยียนกล่าวชมสวีอิ๋งอิ๋งให้คนรอบๆตัวฟังพร้อมแนะนำว่าคือคู่หมั้นของเหยียนเค่อ ซึ่งแบบนี้ก็เหมือนเป็นการบีบเหยียนเค่อไปด้วย

 

 

พ่อแม่ของสวีอิ๋งอิ๋งต้องอยู่เป็นประธานจัดงานเลี้ยงปีใหม่ที่บ้านสวีแทนพ่อแม่ของสวีอันหรานดังนั้นวันนี้จึงไม่ได้มาร่วมงาน พ่อเหยียนกับแม่เหยียนรู้สึกเสียดายมาก เพราะถ้าทั้งคู่มาจะได้หารือกำหนดวันแต่งงานกันไปเลย

 

 

ผู้เฒ่าเหยียนเห็นเหยียนเค่อดื่มเหล้าตนเองก็อยากจะดื่มบ้างแต่ก็ถูกเหยียนเค่อขัดไว้เสียก่อน

 

 

“แกนี่ยุ่งยิ่งกว่าลุงฝูของแกอีกนะ”

 

 

“ก็ถ้าลุงฝูให้ปู่ดื่มได้ผมก็จะไม่ขัดข้อง”

 

 

ความเร็วในการดื่มเหล้าของเหยียนเค่อนั้นเร็วกว่าฉินซื่อหลานที่ดื่มน้ำผลไม้เสียอีก ฉินซื่อหลานเห็นแล้วก็รู้สึกหนาว แต่ว่าผู้เฒ่าเหยียนก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเอ่ยสอนกลุ่มเด็กๆ “ยังหนุ่มๆทำอะไรแบบนี้เขาเรียกว่าเลือดร้อน พอแก่ตัวลงนะ ก็หมดแรงทำอะไรแบบนี้แล้ว”

 

 

ด้านนั้นก็เสแสร้งแสดงความรักจอมปลอม ส่วนด้านนี้ก็คุยเรื่องความเหงาที่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

 

 

เหยียนเค่อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกปวดใจ รู้แค่อย่างเดียวว่าเขาไม่อยากโดนแม่ควบคุมเรื่องการแต่งงาน

 

 

ไม่ว่าจะมองที่มุมไหนเขาก็เสียสละทำเพื่อตระกูลเหยียนไปมากพอแล้ว เขาไม่อยากใช้อีกครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่กับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น

 

 

แม่เหยียนปรึกษาวันที่เหมาะสมกับพ่อเหยียน โดยมีเหยียนเฟิงคอยแทรกอยู่เป็นระยะ “ผมว่าวันนี้ก็ดีนะครับ ให้พวกเขาหมั้นกันช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปลายเดือนมีนาคมก็แต่งงานกำลังดีเลย อิ๋งอิ๋งตกลงแล้ว แต่เหยียนเค่อ…” แม่เหยียนกำลังจะส่งวันที่เลือกไปให้เหยียนเค่อกับสวีอิ๋งอิ๋งดู แต่จู่ๆเหยียนเค่อก็ลุกขึ้นยืน

 

 

“ผมไม่เห็นด้วย” ตอนที่เหยียนเค่อพูดประโยคนี้เสียงไม่ดังไม่เบานัก ด้วยน้ำเสียงปกติแต่ก็ทำให้คนที่อยู่รอบๆได้ยินกันชัดเจนหมดทุกคนว่าเขากำลังพูดอะไร เขายกยิ้มเย็นๆที่มุมปากใครเห็นก็รู้สึกกลัว

 

 

พูดจบก็เดินออกไปทันที

 

 

แม่เหยียนตะลึงอยู่ตรงนั้น มือยังอยู่ในท่าที่กำลังจะยื่นของให้เหยียนเค่อ

 

 

พ่อเหยียนได้สติก่อน พูดขึ้นอย่างโมโห “แกกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”

 

 

ผู้เฒ่าเหยียนจ้องไปที่ลูกชาย “แกตะคอกใคร!”

 

 

ฉินซื่อหลานแอบลอบส่งสายตาให้สวีอันหราน “ฉันพนันว่ามันจะไปหาซย่าเสี่ยวมั่ว”

 

 

สวีอันหรานมองเพื่อนแวบหนึ่ง “ถ้านายพนันว่ามันไม่ไปหา ฉันจะพนันตาม”

 

 

ฉินซื่อหลานหลานเบ้ปาก คนคนนี้พอแต่งงานแล้วมีความอ่อนโยนสักนิด แต่ก่อนจะเล่นกับเขาตลอด

 

 

ฉินซื่อหลานหมดคำพูด ไอ้เรื่องที่รู้ๆ กันอยู่แบบนี้มีอะไรให้น่าเอามาพนันนะ