“คุณฉันทัชรถล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” เสียงของโก๋เบามาก กลัวจะไปรบกวนการทำงานของเขา
“อื้ม…..” เขาตอบผ่านลำคอออกมา เหมือนจะคิดอะไรเลยเอ่ยปากถามว่า “ซื้อตะกร้าผลไม้ ไปเยี่ยมคุณยู่ยี่ที่โรงพยาบาล….”
อาคิระกะพริบตาปริบๆ “คุณไม่ไปเองหรอ?”
ฉันทัชกระดกคิ้วขึ้น ถามกลับอย่างนิ่งๆว่า “ทำไมผมต้องไปเอง?”
อาคิระ“…..”
——
ดูเหมือนว่าเขาจะถือหญิงมีครรภ์คนนั้นเป็นเพื่อนนะ เขาดื่มไวน์แดง รสชาติใช้ได้ เข้มข้น แต่จะว่าไปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณฉันทัชที่เคยได้เตรียมๆไว้ก็รสชาติใช้ได้ทั้งนั้น
……
หัสดินไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล แต่กลับอยู่อีกห้องนึงข้างนอกห้องผู้ป่วย ชฎารัตน์ให้เขาเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล
การจากไปของเด็ก ทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจจริงๆ แต่ยู่ยี่บอกว่าตัวการสำคัญเป็นเรนนี่ เขาจะเชื่อได้อย่างไง?
คืนนี้เขากับเรนนี่อยู่ด้วยกัน เขาไปซื้อเค้กให้เธอ ยังไม่ทันที่จะขับรถออกจากบ้านเข้าเขตเมืองก็ได้รับสายว่าเธอนั้นแท้ง
เดิมทีคิดว่าภาวะที่หยุดชะงักไปของคนทั้งสองจะค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นคืนดีกัน
ก็ไม่ใช่แค้นที่ฝังลึกอะไร ตอนนี้เธอให้อภัยไม่ได้ หนึ่งเดือน หนึ่งปีก็คงต้องมีสักวันที่เธอจะลืม เขาเฝ้ารอไปเรื่อยๆก็พอแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ได้แท้งเด็กไปแล้ว สำหรับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องหนักขึ้นไปอีก
เขาเกลียดแรงกดดัน ความอึดอัด การผูกมัด สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้
สำหรับเขาแล้ว เขารู้สึกว่าเรนนี่ยังคงไร้เดียงสา เหมือนอย่างแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
เธอจะใช้มือเขียนจดหมายส่งให้กับเขา เธอกลัวว่าจะเขียนได้น่าเกียจเลยค่อยๆเขียนมันทีละตัวแล้วติดกลีบดอกไม้ เธอเหมือนดอกลูกพุดที่ขาวบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเจือปน
เรนนี่ก็ได้ยินข่าวที่เธอแท้ง เธอซื้อตะกร้าผลไม้แล้วก็นมอีกสองลังไปโรงพยาบาล
“พี่ยู่ยี่ หนูรู้แล้วว่าแต่ก่อนหนูทำผิด ได้ยินข่าวว่าพี่แท้ง หนูก็เสียใจมากๆ ก็เลยมาเยี่ยมค่ะ…..”
ยู่ยี่ลุกขึ้นนั่งจากเตียง ยื่นมือไปดึงสายน้ำเกลือออก มองไปที่เธออย่างเยือกเย็น
สายตาอย่างนี้ทำให้เรนนี่รู้สึกหวาดกลัวหน่อยๆ เธอถอยหลัง แต่ยู่ยี่กลับไม่พูดว่าอะไร ชั่วเวลาสักครู่เดียวก็ดึงที่ผมของเธอ
เรนนี่ร้องออกมา ไม่ได้ขัดขืนและไม่ได้ต่อสู้
ยู่ยี่กำลังตบตีเรนนี่ สองมือสองเท้าถูกนำมาใช้ ทั้งเตะทั้งตบ ใช้แรงและกำลังที่มี
แม่บ้านที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงจึงเปิดประตูเข้ามา ได้เห็นภาพนั้นอยู่ตรงหน้าก็ให้ไปเรียกหัสดินที่อยู่ห้องข้างๆทันที
ตบตีเรนนี่เหมือนอย่างกับคนบ้า ตบตีเธอจนยืนแทบไม่อยู่ หัสดินขมวดคิ้วขึ้น “พอได้แล้ว!”
ยู่ยี่ไม่ได้ยินเสียงของเขา ยังคงลงไม้ลงมือต่อ
หัสดินรู้สึกโกรธ เดินเข้าไปจับคนทั้งสองแยกออกจากกัน เรนนี่ถูกตบตีจนดูไม่ได้ “นี่คุณทำอะไรกันแน่?”
“คุณไม่เห็นหรือไง? ว่าฉันกำลังตบมันอยู่….” ยู่ยี่มองเรนนี่อย่างเยือกเย็น
“นี่คุณตื่นสักทีจะได้ไหม คุณดูสารรูปตัวเองตอนนี้สิเป็นยังไง!” เสียงของหัสดินเยือกเย็น
เขารู้ว่าเธอมีความรังเกียจต่อเรนนี่มาก เขากับเรนนี่ก็ได้แยกกันอยู่แล้ว เรนนี่ขอโทษ ก็เลยอยากที่จะมาเยี่ยมเป็นครั้งสุดท้าย จะไม่ได้ไม่มีอะไรพัวพันกันอีก แล้วก็ไม่ต้องเจอกันอีกต่อไป แม้ว่าในใจจะทนเห็นเรนนี่ไม่ได้ แต่เธอมีความจำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนี้ไหม?
“ตอนนี้สารรูปฉันจะเป็นยังไงคุณไม่ต้องมายุ่ง ตอนที่มันก้าวเข้ามาในห้อง ฉันวางแผนที่จะตบมันไว้เรียบร้อยแล้ว!”
หัสดินรู้สึกขึ้นมาอีกครั้งว่า เธอทำเกินไปอย่างขีดสุด เหมือนคนบ้า!
เรนนี่ออเซาะกว่าปกติ ส่ายหน้าเบา “หนูไม่ควรมาเลย หนูออกไปดีกว่า….”
ความออเซาะนี้ทำให้ยู่ยี่รู้สึกไม่เข้าตาเอามากๆ คิดไปถึงเด็กที่ถูกแท้งไปเรียบร้อยแล้ว ความเจ็บปวดเหล่านั้นที่อยู่ภายในจิตใจก็เก็บไม่อยู่อีกต่อไป
เธอหยิบขวดน้ำเกลือที่ยังให้น้ำเกลือไม่หมดเขวี้ยงไปทางเรนนี่อย่างรุนแรง
เรนนี่หลบไม่ทัน ขวดแก้วนั้นโดนเข้ากับเท้าของเธอพอดี ขานั้นโก่ง เขาอ่อน เธอล้มลงไปที่พื้น เจ็บอยู่นานจนลุกขึ้นมาไม่ได้เลือดไหลออกมา ทำเอากระโปรงของเธอพลอยเปื้อนไปด้วย
หัสดินชะงักไปชั่วขณะ พอได้สติ เขายกมือขึ้นตบลงไปที่หน้าของยู่ยี่
แรงของเขามีมาก แก้มของยู่ยี่ที่ถูกเขาตบหันไปอีกข้าง หลังจากนั้นก็ปรากฏรอยขึ้นบนใบหน้า และเปลี่ยนเป็นบวมแดงมากยิ่งขึ้น
ในห้องผู้ป่วยนั้นเงียบ เงียบจริงๆ เงียบจนขนาดเส้นผมหล่นลงยังได้ยินชัดเจน
เรนนี่ก็ชะงักไปชั่วขณะ หลังจากที่ได้สติมุมปากของเธอก็แซะยิ้ม
ตรงข้างแก้มที่บวมขึ้นมาปวดแสบปวดร้อน แต่ยู่ยี่กลับไม่รู้สึกถึงมันสักนิด เสียง “เพี๊ยะ….” เธอตบหัสดินคืน เสียงดังกังวาล
เวลานี้ สิ่งที่ควรหายไปได้หายไปตลอดกาลแล้ว….
จากที่เริ่มรักกันในรั้วโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆ จนถึงการแต่งงานที่หอมหวาน เวลาเจ็ดปีแลกกลับมาเป็นผลลัพธ์นี้….
ฝ่ามือที่ตบนั้นรุนแรงมาก กลิ่นคาวเลือดอยู่ที่ปาก แต่กลับทำให้ยู่ยี่ได้ตื่นขึ้นมา
หัสดินก็ชะงักหยุดอยู่กับที่ เขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าตัวเองจะตบเธอ นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น
ถมเลือดที่อยู่ในปากออกมา ยู่ยี่มองไปที่หัสดิน “ใบหย่าถ้าเซ็นเรียบร้อยแล้วเอามาให้ฉัน!”
เขาก็ไม่ได้พูดว่าอะไร ก็ยืนจ้องมองเธอนิ่งๆอยู่อย่างนั้น
“อ่อ แล้วรู้ไหมว่าทำไมถึงแท้งเด็ก?”
คำพูดหยุดลง แล้วเธอจึงเอ่ยปากพูดต่อว่า
“ฉันเป็นคนตั้งใจที่จะให้แท้งเอง! ฉันอยากให้คุณรู้ถึงความเจ็บปวด ฉันอยากให้คุณชดใช้ในสิ่งที่คุณนอกใจฉัน ฉันต้องการให้คุณเจ็บปวดตลอดไป ฉันต้องการให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด! ให้คุณจำวันนี้ไว้ แล้วก็ต้องการให้คุณจำสิ่งที่คุณได้ทำ หัสดินคุณจำไว้ว่าคุณฆ่าเขาด้วยมือคุณเอง!”
หัสดินมองเธอเหมือนกำลังมองคนแปลกหน้า “คุณมันบ้า!”
เขาไม่รู้เลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแบบนี้ เพื่อลงโทษเขาเลยตั้งใจที่จะแท้งลูกตัวเองอย่างโหดเหี้ยม! เธอทำให้เขาเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย
เธอบอกว่าเป็นเพราะเรนนี่ถึงทำให้เธอแท้ง เขาไม่เชื่อ เธอบอกว่าเธอเป็นคนทำเอง เขากลับเชื่อ
นี่เป็นความต่างระหว่างไม่รักคนนึงกับได้รักอีกคนนึง แค่ได้รักใครสักคน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ทำอะไร เขาก็เชื่อทุกอย่าง….
เศร้ารันทดจริงๆ เศร้ารันทดอย่างที่สุด ยู่ยี่อยากขำก็กลับขำขึ้นมาจริงๆ “ฉันมันเป็นคนบ้า! ดังนั้นรีบเซ็นใบหย่ามา ไม่งั้นฉันจะไม่วันให้คุณได้อยู่สุขแน่ ฉันจะทำให้คุณขาดอากาศหายใจตาย! ทำไมใช้สายตาแปลกแบบนั้นมองฉันล่ะ?”
เรนนี่ยังคงยิ้ม ใบหน้ามองพื้นก็เลยไม่มีคนเห็น บางทีผู้หญิงต้องรู้จักทำตัวอ่อนแอบ้าง
ผู้หญิงที่ทำตัวอ่อนแอจะทำให้ผู้ชายรู้สึกถึงความสำเร็จและความรู้สึกเป็นวีรบุรุษ