ตอนที่ 460 ปรากฏตัวขึ้นหลังจากวิงวอนเป็นพันครั้ง / ตอนที่ 461 ความทรมาน

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 460 ปรากฏตัวขึ้นหลังจากวิงวอนเป็นพันครั้ง

 

 

ถังโจวโจวปรากฎตัวขึ้น เธออุ้มเสี่ยวอวี่เอาไว้ วันนี้เธอสวมชุดกระโปรงสีฟ้ายาวถึงเข่า เสี่ยวอวี่ใส่ชุดสนูปปี้กางเกงขาสั้น ช่างน่ารักเสียจนทำให้ทุกคนอยากหยิกด้วยความหมั่นเขี้ยว

 

 

เมื่อถังโจวโจวมาถึงห้องรับแขกก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ก่อนหน้านี้ป้าหลิวได้ขึ้นไปบอกเธอแล้ว ตอนนั้นเธอยังไม่ตื่น หลังจากได้ยินก็รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วและพบว่าเสี่ยวอวี่เองก็ตื่นอยู่แล้ว เล่นกับเขาอยู่ครู่หนึ่งก็อุ้มเขาลงมาชั้นล่าง

 

 

ลั่วเซ่าเชินตามหลังเธอลงมา เมื่อเห็นคุณปู่เมิ่งก็พาภรรยาและของตัวเองเดินไปที่ข้างกายเขา “คุณปู่เมิ่งครับ ทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะครับ”

 

 

“คุณปู่เมิ่งสวัสดีค่ะ” ถังโจวโจวเรียกตามลั่วเซ่าเชิน ถึงแม้เธอจะรู้ตัวตนของเมิ่งซงอวิ๋นแล้ว แต่ครอบครัวตัวเองก็ยังไม่ได้ออกปาก ถ้าเธอจะพูดอะไรออกไปคงดูไม่ดีเท่าไหร่

 

 

“อืม เซ่าเซิน ไม่เจอกันนานเลย นับวันยิ่งดูดีขึ้นนะ นี่โจวโจวใช่ไหม” สายตาของเมิ่งซงอวิ๋นมองไปที่ถังโจวโจว และเสี่ยวอวี่ที่ถูกอุ้มอยู่

 

 

ดวงตาของผู้ชราเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอ เด็กคนนี้โตขึ้นแล้วจริงๆ ต้องรู้ว่าตอนเธอยังเด็กเคยถูกเขาอุ้มเอาไว้ ตอนนั้นเธอยังเล็กเหมือนก้อนนุ่มนิ่มก้อนหนึ่ง ตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เขาเองก็แก่แล้ว

 

 

“ใช่ค่ะ คุณปู่เมิ่ง หนูโจวโจวค่ะ” ถังโจวโจวเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นคุณปู่เมิ่งที่มีผมหงออกเต็มหัว แล้ว ชั่วขณะหนึ่งก็รู้สึกทนไม่ได้ ก่อนหน้านี้เธอเคยต่อต้านตระกูลเมิ่ง แต่ตั้งแต่ชายชราคนนี้ปรากฏตัวความรู้สึกนั้นก็จางหายไป

 

 

“โจวโจว เธอไม่เรียกแซ่ฉันได้ไหม ฉันรู้ว่าเธอเองก็รู้แล้วว่าฉันเป็นใคร และไม่รู้ว่าชีวิตนี้ฉันจะยังได้ยินเธอเรียกฉันอีกหรือเปล่า”

 

 

ถังโจวโจวเห็นดวงตาของชายชราค่อยๆ มีน้ำตาไหลออกมาก็พูดออกมาสองคำ “คุณปู่”

 

 

“อื้ม ดีมาก เด็กดี เด็กดี” เมื่อเมิ่งซงอวิ๋นได้รับคำๆ นี้ก็พึงพอใจมาก เหมือนบรรยากาศถูกเปิดออก และเมิ่งซงอวิ๋นก็ถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ตลอดหลายปีมานี้ของเสิ่นหลานอีและถังโจวโจว

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นถามอยู่อย่างนี้ ข้าวเช้าก็ไม่ทาน สองแม่ลูกเองก็เล่าความเป็นอยู่ของช่วงหลายปีนี้ออกมา เมิ่งซงอวิ๋นถึงได้เข้าใจถึงชีวิตความเป็นอยู่ของหลานสาวตัวเองแล้ว

 

 

ความทรงจำในวัยเด็กหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เดิมทีเธอคิดว่าเธอคือลูกแท้ๆ ของคุณพ่อถังคุณแม่ถัง ไม่เคยได้รู้ว่าตัวเองคือเด็กที่ถูกคุณพ่อถังคุณแม่ถังอุปการะมาเลี้ยง เมื่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกครั้งความทรงจำเดิมถึงกลับมา ตอนนี้เธอกับลั่วเซ่าเชินมีลูกกันแล้วหนึ่งคน

 

 

“คุณปู่คะ คุณปู่อยากอุ้มเสี่ยวอวี่ไหม เขาจะได้เรียกคุณปู่ว่าคุณทวด” ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ไปด้านหน้า เมิ่งซงอวิ๋นสนใจเด็กน้อยมาก

 

 

ไม่คิดว่าจะมีวันได้เจอหน้าทายาทรุ่นที่สี่ เมิ่งซงอวิ๋นมีความสุขเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ “ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองอุ้มดู”

 

 

บรรยากาศแห่งความสุขพลันบังเกิดขึ้นมาทันที แต่จู่ๆ คำถามของเมิ่งซงอวิ๋นกลับทำให้ใบหน้ายิ้มแย้มของหลายๆ คนค่อยๆ จางหายไป “โจวโจว หลานยินดีจะกลับไปกระกูลเมิ่งไหม”

 

 

ในความทรงจำของเมิ่ซงอวิ๋นนั้นมีเพียงเมิ่งชิงหลาน ยังไม่คุ้นชินกับการเรียกชื่อถังโจวโจว เพียงแต่ตอนนี้ถังโจวโจวเป็นลูกของตระกูลถังแล้วยังไม่ได้กลับไปเป็นตระกูลเมิ่ง หากเขาจะเรียกเธอว่าเมิ่งชิงหลาน ก็กลัวว่าคนอื่นจะไม่เห็นด้วย

 

 

ถังโจวโจวมองเสิ่นหลานอี เห็นว่าเธอพยักหน้าก็มองไปที่ลั่วเซ่าเชินอีก พบว่าเขามองเธอนิ่งๆ ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังให้กำลังใจหรือต่อต้านเธอ

 

 

“คุณปู่คะ ขอให้หนูคิดดูอีกหน่อยได้ไหมคะ พูดตามตรง ตอนนี้ชีวิตหนูก็สุขสบายดี ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะกลับไปที่บ้านตระกูลเมิ่งเลย”

 

 

ถังโจวโจวพอใจมาก เธอพอใจกับสภาพความเป็นอยู่ของตัวเองตอนนี้มาก และอำนาจ ฐานะทั้งหมดของตระกูลเมิ่งเธอเองก็ไม่คิดที่จะสนใจ ไม่คิดอิจฉา เธอพอใจในสิ่งที่เธอมี

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นรับรู้ได้ว่าเมื่อเทียบกับเมิ่งชิงซีแล้ว เห็นได้ชัดว่าถังโจวโจวมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ใช่ว่าจะต้องมีประโยชน์ถึงจะสนใจครอบครัวของตัวเอง

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นตรวจสอบพวกของเสิ่นหลานอีแล้ว ไม่คิดว่ายังตรวจพบเรื่องของเมิ่งชิงซีว่าเร็วๆ นี้หล่อนก่อเรื่องอะไรลงไปด้วย ความรู้สึกที่มีต่อหลานสาวคนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป

 

 

ก่อนหน้านี้เมิ่งซงอวิ๋นรู้สึกว่าเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ควรไปถือสาเด็ก ดังนั้นจึงไม่เคยเลือกปฏิบัติกับเมิ่งชิงซี บางครั้งเห็นเธอตอนเล็กๆ ก็ยังรู้สึกว่าน่ารักมากทีเดียว

 

 

 

 

 

  ตอนที่ 461 ความทรมาน

 

 

เพียงแต่เมื่อมิ่งชิงซียิ่งโตขึ้น เมิ่งซงอวิ๋นก็รู้สึกว่าหลานสาวคนนี้นับวันยิ่งเหมือนฉินอวิ๋น และแน่นอนว่าไม่ได้รักเธอมากเหมือนเมื่อก่อน แต่นี่ก็เป็นแค่ความคิดในใจเขา ภายนอกยังไม่ได้แสดงอะไรออกมา

 

 

“ปู่รู้ว่าก่อนหน้านี้พ่อของหลานและชิงซีทำไม่ดีต่อหลานไว้มาก เพียงแต่การกลับไปที่ตระกูลเมิ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา ต้องรู้ว่าตอนนี้หลานมีครอบครัวแล้ว พวกเธอก็ไม่สามารถมาควบคุมชีวิตของหลานได้ ปู่แค่อยากให้หลานยอมรับในตระกูลเมิ่งเท่านั้นเอง”

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นพูดกับเธอด้วยความจริงใจทำให้ถังโจวโจวใจอ่อนไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว “คุณปู่คะ หนูขอเวลาคิดให้ดีอีกนิด แต่จะไม่ทำให้คุณปู่ผิดหวังค่ะ”

 

 

ถังโจวโจวเห็นชายชราอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังต้องมาออกหน้าแบกรับความผิดของเมิ่งไหวเซิน ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ดีต่อพ่อคนนี้เข้าไปใหญ่

 

 

ถังโจวโจวไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นคุณปู่เมิ่งก็รู้สึกผูกพันขึ้นมา อาจเพราะก่อนหน้านี้ที่บ้านไม่มีคนแก่ ดังนั้นเมื่อเธอได้เจอคุณปู่คนนี้จึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกขึ้นมากมาย

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นได้รับคำตอบที่ค่อนไปทางกลางๆ ของถังโจวโจวในใจก็รู้สึกพอใจมากแล้ว หลานสาวคนนี้ของเขาได้รับความลำบากมามากมาย ตอนนี้เขาคงไม่สามารถขอให้เธอทำตามได้อย่างใจ

 

 

“เอาล่ะ วันนี้คนแก่อย่างฉันก็รบกวนมามากแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”

 

 

“คุณพ่อคะ คุณพ่อจะไปไหนเหรอคะ” เสิ่นหลานอีรู้ว่าเมิ่งซงอวิ๋นมาจากเมืองแซตแต่เช้า และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่จะกลับไปหมายความว่าอะไร จะอยู่ที่เมืองเอสต่อหรือกลับไปเมืองแซต

 

 

“ก็กลับบ้านสิ คนก็ได้เจอแล้ว ฉันไม่อยากรบกวนพวกเธอแล้วล่ะ โจวโจว ถ้าถึงเวลาที่คิดดีแล้วก็โทรไปที่บ้านได้นะ แม่เธอรู้ว่าที่บ้านเบอร์อะไร ถามเธอก็จะรู้เอง ขอแค่หลานอยากมา ปู่ยินดีต้อนรับเสมอ”

 

 

เมิ่งซงอวิ๋นพยุงตัวขึ้นกับไม้เท้า ร่างกายที่ผ่านกาลเวลาค่อยๆ ปรากฏความร่วงโรยออกมา เพียงแต่ประสบการทางการทหารของเขาหลายปีทำให้เขาสามารถยืนหลังตรงได้ตลอด เขาแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งในหมู่ผู้คนธรรมดาทั่วไป

 

 

บอดี้การ์ดรออยู่ด้านนอกแล้ว รถก็เตรียมพร้อมแล้ว ถังโจวโจวและทุกคนพาคุณปู่เมิ่งมาส่งที่รถ ก่อนที่เขาจะกลับไปยังบอกกับถังโจวโจวว่าไม่ต้องบอกเรื่องที่เขามาที่นี้วันนี้ให้เมิ่งไหวเซินรู้

 

 

พวกถังโจวโจวต่างก็พยักหน้า รับรองซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเรื่องนี้จะไม่เปิดเผยออกไปแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกัน ฉินอวิ๋นก็มาเยี่ยมเมิ่งชิงซีที่อยู่ในคุก

 

 

ไม่เจอกันหลายวัน ใบหน้าของเมิ่งชิงซีซูบผอมลงไปมาก ค่อนข้างหมดอาลัยตายอยาก ดูไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ข้างนอก ฉินอวิ๋นเห็นเธอใส่ชุดนักโทษหม่นๆ ใบหน้าที่ดูโศกเศร้าก็รู้ว่าลูกสาวของตัวเองต้องได้รับความยากลำบากแล้ว

 

 

 

 

เธอทำได้แค่พูดปลอบ “ชิงซี รออีกหน่อยนะ แม่จะรีบช่วยลูกออกมา”

 

 

ฉินอวิ๋นลองมาทุกวิธี ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเมิ่งชิงซีออกมาได้ เห็นศาลทบอกว่าชิงซีนั้นโดนข้อหาพยายามฆ่า ฉินอวิ๋นก็ยิ่งร้อนรนขึ้นมา ดูเหมือนว่าเธอจะเหลือแค่วิธีเดียวแล้ว

 

 

เดิมทีฉินอวิ๋นยังลังเลอยู่ ถึงแม้จะบอกว่าร้อนใจ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าเข้าจริงๆ เธอก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ต้องรู้ว่าเธอและถังโจวโจวเคยปะทะกันมาก่อน ตอนนี้จู่ๆ ไปขอร้องหล่อน ไม่ร้ว่าหล่อนจะรับฟังเธอไหม

 

 

เรื่องนี้ทำให้ฉินอวิ๋นไม่ทำอะไรมาเป็นครึ่งวันแล้ว วันนี้เมื่อได้เห็นสภาพของลูกสาวที่ซูบผอม ในที่สุดฉินอวิ๋นถึงเข้าใจว่าไม่ควรยื้อเวลาต่อไปอีก ถ้าไม่อย่างนั้นลูกสาวเธออาจจะต้องตายอยู่ในนี้

 

 

ครั้งนี้เมิ่งชิงซีเองก็ไม่ได้โหวกเหวกโวยวายแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอไม่เชื่อฉินอวิ๋นแล้วรึเปล่า หรือเพราะว่าอยู่ในคุกแล้วต้องประสบกับเรื่องเลวร้ายอะไร อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดนั้นก็มีแค่ตัวเธอเท่านั้นที่รู้

 

 

ฉินอวิ๋นตั้งใจแน่วแน่ ครั้งนี้เธอจะไม่ลังเลอีก เธอเตรียมของขวัญอย่างดีเพื่อไปขอร้องถังโจวโจวให้ปล่อยลูกสาวเธอไป

 

 

เมื่อฉินอวิ๋นลงจากรถก็มองเห็นคฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้า นี่เป็นที่อยู่ของลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจว คนขับรถถือของขวัญที่ฉินอวิ๋นเตรียมมายืนอยู่ข้างๆ ฉินอวิ๋นกดกริ่ง

 

 

รอไม่นานก็เห็นผู้หญิงดูมีอายุ ใส่ผ้ากับเปื้อนออกมาเปิดประตู “ไม่ทราบว่าคุณคือใครคะ”