ตอนที่ 462 ขอร้อง / ตอนที่ 463 หลบเลี่ยงได้อย่างหมดจด

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 462 ขอร้อง

 

 

“ฉันคือฉินอวิ๋น รบกวนคุณไปแจ้งให้หน่อย” ผู้ที่มาขอร้องคนอื่นก็ควรปฏิบัติตัวอย่างผู้ที่มาขอร้องคนอื่น การที่ฉินอวิ๋นพยายามเตรียมใจอยู่เนิ่นนานนั้นก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์เสียทีเดียว ตอนนี้ท่าทางที่เธอมีต่อแม่บ้านตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็ยังสามารถพูดด้วยน้ำเสียงดีๆ ด้วยได้

 

 

ป้าหลิวเคยได้ยินชื่อของฉินอวิ๋นมาก่อน ต้องรู้ว่าเธอเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็น ครั้งก่อนบังเอิญได้ยินถังโจวโจวพูดชื่อนี้ขึ้นหลังจากที่เมิ่งไหวเซินมา ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ที่ไหนได้วันนี้กลับได้เจอตัวเป็นๆ เข้า

 

 

“คุณคือคุณผู้หญิงของตระกูลเมิ่งใช่ไหมคะ เข้ามาเลยค่ะ คุณผู้หญิงสั่งไว้นานแล้ว” ป้าหลิวรับคำสั่งจากถังโจวโจวว่าถ้าฉินอวิ๋นมาก็ให้เธอเข้าไปได้

 

 

ฉินอวิ๋นยังคิดว่าต้องรออยู่หน้าประตูอีกนาน ที่ไหนได้คนคนนี้กลับรู้จักเธอนานแล้ว “เธอรู้จักฉันได้ยังไง” ฉินอวิ๋นถามพลางเดินตามป้าหลิวไป

 

 

ต้องรู้ว่าเธอมาที่นี่ครั้งแรก สำหรับป้าหลิวก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน ป้าหลิวจะรู้จักเธอได้ยังไง นี่ยังทำให้ฉินอวิ๋นแปลกใจ

 

 

อีกคนคือถังโจวโจว หล่อนรู้ได้ยังไงว่าเธอจะมา แถมยังสั่งคนเอาไว้แล้วด้วย สมองของฉินอวิ๋นเต็มไปด้วยความสงสัย เพียงแต่ก็ยังปฏิบัติตนเช่นเดิมเพื่อให้สมกับตำแหน่งคุณผู้หญิงตระกูลเมิ่ง

 

 

หากเป็นคำถามที่ตอบได้ปกติแล้วป้าหลิวจะพยายามตอบคำถามอย่างเต็มที่ แต่มีบางอย่างที่เธอเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ดังนั้นมีบางครั้ง เธอจึงเลือกจะปิดปากเงียบ ฉินอวิ๋นเองก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เธอไม่ควรถามมาก

 

 

ป้าหลิวพาฉินอวิ๋นไปถึงห้องรับแขก วันนี้ฉินอวิ๋นสวมชุดค่อนข้างจะเป็นทางการ เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีม่วง เพียงแต่เธอที่มีความอ่อนแออยู่จึงไม่สามารถดึงเอาความทระนงและสูงศักดิ์ของสีม่วงออกมาได้เต็มที่กลับทำให้รู้สึกไม่ค่อยเหมาะกับสีนี้สักเท่าไหร่

 

 

รอจนเมื่อป้าหลิวยกน้ำชามาให้ ถังโจวโจวก็ลงมาที่ชั้นล่างแล้ว ดูเหมือนเธอจะรู้นานแล้วว่าวันนี้ฉินอวิ๋นจะมา ถังโจวโจวกำชับให้เสิ่นหลานอีดูแลเสี่ยวอวี่อยู่ที่ชั้นบน โอวหยางเลี่ยเองก็ย่อมอยู่ด้วยแน่นอน

 

 

“คุณผู้หญิงเมิ่งวันนี้มาเยี่ยมมีอะไรเหรอคะ” ถังโจวโจวเปิดประเด็นถามตรงๆ เธอไม่ได้เรียนการตีสองหน้ามา อยู่ที่นี่มีเรื่องอะไรก็พูดมาตามตรง ถึงแม้เธอจะรู้จุดประสงค์การมาของฉินอวิ๋นเพราะลั่วเซ่าเชินบอกเธอหมดแล้วก็ตามที

 

 

“โจวโจว ก่อนหน้านี้ป้าไม่ดีเอง เธออย่าถือสาเลยนะ วันนี้ที่ป้ามาก็ไม่ได้เพราะเรื่องอื่น แค่อยากมาขอร้องเซ่าเซิน ชิงซีอยู่ข้างในได้รับความลำบากมาก ป้ารู้ว่าตอนแรกที่ชิงซีทำร้ายเธอทำให้เธอต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอก็ได้รับการลงโทษแล้ว ขอร้องให้พวกเธอช่วยปล่อยชิงซีไปได้ไหม”

 

 

ฉินอวิ๋นไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ต้องรู้ว่าตัวตนของถังโจวโจวนั้นเธอก็รู้ดี นี่ทำให้เธอต้องมาขอร้องคนที่ลูกสาวเธอเกลียดชัง มันก็เหมือนกับการใช้เท้าเหยียบลงไปในจิตใจที่เปราะบางของเธอนั่นแหละ

 

 

“คุณผู้หญิงเมิ่ง คุณทำอะไรคะ ชิงซีเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”

 

 

ท่าทางไม่เข้าใจของถังโจวโจวทำให้ฉินอวิ๋นยิ่งหดหู่ใจ เธอขอร้องอยู่นาน คนอื่นกลับยังไม่รู้ว่าเธอมาขอร้องเพราะเรื่องอะไร ถ้าอย่างนั้นคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ก็ไม่เท่ากับเปล่าประโยชน์เหรอ

 

 

“เธอไม่รู้จริงๆ เหรอ” ฉินอวิ๋นไม่เชื่อ ลั่วเซ่าเชินรักเธอขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอกเธอ หรือถังโจวโจวจะไม่รู้จริงๆ อาจจะเพราะลั่วเซ่าเชินไม่อยากให้เรื่องนี้ต้องกระทบจิตใจเธอหรือเปล่า แต่เรื่องนี้ฉินอวิ๋นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

 

ถังโจวโจวพยักหน้า เธอรู้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น สำหรับเรื่องที่เมิ่งชิงซีอยู่ในคุก เธอไม่เคยรู้เลย แค่มีโอกาสได้ยินลั่วเซ่าเชินพูดอยู่คำสองคำ ดังนั้นจะบอกว่ารู้แค่ครึ่งเดียวก็ไม่ผิด

 

 

เรื่องนี้น่าอึดอัดใจมาก แท้จริงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินอวิ๋นจึงทำได้แค่เอาเรื่องที่เมิ่งชิงซิได้รับความลำบากมาเล่าให้ถังโจวโจวฟัง แน่นอนว่าสำหรับความเสียใจของเมิ่งชิงซีที่แสดงออกมานั้น ถังโจวโจวก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับไป

 

 

ฉินอวิ๋นพูดอยู่นาน คำปลอบใจแม้แต่คำเดียวถังโจวโจวก็ไม่เอ่ยออกมา นี่ทำให้ใบหน้าของเธอจากแดงกลายเป็นขาว ขาวแล้วก็กลายเป็นแดง อาจเพราะในใจเธอกำลังโกรธตัวเองทำเรื่องแบบนี้

 

 

“โจวโจว เธอจะไม่ให้อภัยชิงซีจริงๆ ใช่ไหม เธอไม่ยอมก็พูดออกมาเลย สงสารแต่ชิงซี อายุยังน้อยก็ต้องไปอยู่ในคุก ต่อไปจะทำยังไง” ฉินอวิ๋นปิดหน้า น้ำตาก็ไหลออกมา อย่างไรนั่นก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอนะ

 

 

 

 

 

  ตอนที่ 463 หลบเลี่ยงได้อย่างหมดจด

 

 

“คุณนายเมิ่งคะ เรื่องนี้ฉันคงออกหน้าไม่ได้หรอกค่ะ” เรื่องทั้งหมดนี้ลั่วเซ่าเชินกับโอวหยางหงเป็นคนเล่นแง่ ตอนนี้กลับดีนัก สองคนนั้นหลบเลี่ยงได้อย่างหมดจด กลับเป็นเธอที่ต้องมานั่งฟังคุณนายเมิ่งพร่ำพูด

 

 

“โจวโจว ทำไมล่ะ ความสัมพันธ์ของเธอกับเซ่าเชินดีขนาดนี้ เรื่องก่อนหน้านี้ที่ชิงซีทำผิดไป ตอนนี้เธอก็เมตตาให้อภัยเขาสักครั้งเถอะนะ”

 

 

ฉินอวิ๋นละเรื่องที่เมิ่งชิงซีเคยจะเอาชีวิตถังโจวโจวไว้ พูดแค่ว่าเมิ่งชิงซีสำนึกผิดแล้ว ส่วนจะสำนึกผิดขนาดไหนนั้น ตัวคนก็ไม่ได้มาอยู่ตรงหน้า ใครจะรู้ได้

 

 

“คุณนายเมิ่งครับ คุณกลับไปเถอะครับ เรื่องในตอนนี้ของชิงซีล้วนเป็นสิ่งที่เธอกระทำและเป็นสิ่งที่เธอจะต้องยอมรับมัน” คำพูดไร้ความปรานีนี้ของลั่วเซ่าเชินดังมาจากบนบันได

 

 

ฉินวิ๋นเลือกวันมาได้ดีจริงๆ วันนี้ทุกคนล้วนอยู่บ้านกันหมด เดิมทีก็อยากจะพาเสิ่นหลานอีกและคนอื่นๆ ออกไปเดินเล่นด้วยกัน เพียงแต่ฉินอวิ๋นมาที่หน้าประตูพอดี ถังโจวโจวเลยทำได้แค่ให้เสิ่นหลานอีช่วยเลี้ยงเสี่ยวอวี่ให้ก่อน ช่วงเวลานี้เธอยังไม่ควรเจอกับฉินอวิ๋น

 

 

“เซ่าเซิน ทำไมเธอถึงพูดอย่างนี้ ชิงซีของพวกเรามีความรู้สึกดีๆ ให้เธอขนาดนี้ ตอนนี้เธอกลับพูดอย่างนี้” พอเห็นลั่วเซ่าเชิน ฉินอวิ๋นชั่วขณะหนึ่งก็หวั่นไหวขึ้นมา ที่ลูกสาวเธอวันนี้ต้องเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะลั่วเซ่าเชินเป็นคนทำ

 

 

เห็นอยู่ว่าเขาหมั้นหมายกับชิงซีตั้งแต่ยังเล็ก ชิงซีมีใจให้เขาคนเดียว ใครจะรู้ว่าพอถึงเวลาลั่วเซ่าเซินกลับกลับคำ เรื่องนี้จะไม่ให้เมิ่งชิงซีโกรธได้อย่างไร เรื่องนี้จะให้เธอปล่อยวางได้ยังไง ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับฉินอวิ๋น เธอก็คงไม่สามารถปล่อยวางได้อย่างง่ายดายเหมือนกัน

 

 

“คุณนายเมิ่งครับ เรื่องนี้ไม่ควรพูดออกมามั่วๆ นะครับ เรื่องที่ต้องยกเลิกงานหมั้นกับเมิ่งชิงซีเรื่องนี้ผมเองเป็นคนผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะมาทำร้ายโจวโจวได้ โจวโจวไม่เกี่ยวอะไรด้วย แต่ลูกสาวคุณทำอะไรลงไป ทำร้ายเธอครั้งแรกยังไม่พอยังมีครั้งที่สองอีก คิดว่าพวกเราโง่เหรอครับ”

 

 

เมื่อลั่วเซ่าเชินพูดถึงเมิ่งชิงซีก็รู้สึกโกรธขึ้นมา สมองของคนคนนี้ไม่รู้ว่าโตมาได้ยังไง ตอนแรกเรื่องราวทั้งหมดก็คุยกับเธอรู้เรื่องแล้ว แต่เธอยังไม่ยอมวางมือ ถ้าเธอสามารถหาคู่รักใหม่ได้เร็วๆ ก็คงไม่เป็นเหมือนกับตอนนี้ เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เธอสร้างมันขึ้นมาเองทั้งนั้น

 

 

ถังโจวโจวรู้ว่าฉินอวิ๋นมีหัวใจของคนเป็นแม่ อย่างไรก็ตามแม่คนหนึ่งคงไม่สามารถปล่อยให้ลูกของตัวเองต้องทนทุกข์ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าฉินอวิ๋นสั่งสอนลูกสาวตนได้ไม่เข้มงวดพอ เมิ่งชิงซีแทบจะไม่ได้รับการสั่งสอนอะไรจากเธอเลย

 

 

ฉินอวิ๋นเห็นถังโจวโจวมองไปด้านข้างอย่างเงียบๆ และสีหน้าของลั่วเซ่าเชินก็ทำเหมือนกับว่าฉินอวิ๋นติดหนี้เขาเป็นล้านอย่างนั้น อีกนิดเดียวฉินอวิ๋นเกือบจะคุกเข่าลงไปแล้ว เพียงแต่จะให้เธอเป็นที่ผู้ใหญ่คุกเข่าให้ผู้น้อย ทำอย่างไรเธอก็ทำไม่ได้จริงๆ

 

 

“เซ่าเซิน เธอจะไม่ช่วยป้าจริงๆ เหรอ” ฉินอวิ๋นยังคงดึงดัน

 

 

“คุณนายเมิ่งครับ ต้องขอโทษจริงๆ เรื่องนี้ผมคงช่วยไม่ได้จริงๆ” ลั่วเซ่าเชินปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย ฉินอวิ๋นคิดอยากจะอ้อนวอนเขาอีกครั้ง แต่ก็กลัวว่าจะเสียหน้าจึงทำได้ดีที่สุดแค่ขอตัวบอกลากลับ

 

 

ตอนแรกฉินอวิ๋นคิดว่า เมิ่งชิงซีทำผิดไปก็จริง แต่ตอนนี้ถังโจวโจวก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกลั่วเซ่าเชินถึงปล่อยเธอไปสักครั้งไม่ได้ ฉินอวิ๋นจึงต้องกลับไปพร้อมความล้มเหลว

 

 

หลังจากทำให้ฉินอวิ๋นกลับไปได้สำเร็จ ถังโจวโจวรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น “ทำกับฉันไว้ขนาดนั้นแต่คุณนายเมิ่งคนนี้ก็ยังมีหน้ามาขอความช่วยเหลือจากพวกเราอีกเหรอ”

 

 

ถังโจวโจวแค่โกรธตัวเองที่เธอไม่ได้หน้าหนา ก่อนหน้านี้ทำกับเธอแบบนั้น ตอนนี้ยังมีหน้ามาขอร้องให้เธอปล่อยเมิ่งชิงซีไป ต้องบอกก่อนว่าเรื่องของเมิ่งชิงซีเธอไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ถึงแม้ว่าอำนาจจะอยู่ในมือเธอแต่เธอก็ไม่อาจใจอ่อนกับเรื่องครั้งนี้ได้

 

 

“แน่นอนว่าต้องหน้าด้านเข้าไว้สิ นั่นเป็นลูกสาวคนเดียวของเธอเลยนะ คุณแม่อยู่บนห้องเหรอ” ลั่วเซ่าเชินเพิ่งจะรู้ว่าฉินอวิ๋นมา เมิ่งไหวเซินไม่ช่วยเธอ บ้านตระกูลเสิ่นเองก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ เธอถึงได้มาที่นี่

 

 

ลั่วเซ่าเชินและโอวหยางหงแสดงออกว่าครั้งนี้จะปล่อยเมิ่งชิงซีไปไม่ได้ ทำให้เธออยู่ในนั้นได้หลายปีก็ยิ่งดี

 

 

“อ้อ ฉันให้ช่วยเลี้ยงเสี่ยวอวี่อยู่ ไม่อยากให้ท่านต้องมาเจอเข้ากับฉินอวิ๋นน่ะ” ถังโจวโจวกลัวว่าถ้าเสิ่นหลานอีเห็นฉินอวิ๋นจะทำให้เธออารมณ์เสีย ต้องรู้ว่าทั้งสองคนก็เปรียบเหมือนเป็นศัตรูกัน ถ้าไม่เจอกันได้ก็จะดีกว่า

 

 

“อย่างนี้ก็ดี จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอื่นขึ้นอีก” ลั่วเซ่าเชินพยักหน้า ควรจะเป็นอย่างนี้ ป้องกันไม่ให้โอวหยางเลี่ยหึงหวงด้วย