บทที่ 442 คืนนี้มีมื้อดึก

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“โอ๊ย!”

วินาทีที่เย่เทียนจับข้อมือแซ่เจีย จู่ๆแซ่เจียก็ส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมา แล้วลบพับไปทางเย่เทียน

พลั่ก!

มีผู้หญิงผิวนุ่มนิ่มตัวหอมอยู่ในอ้อมแขน เย่เทียนไม่อยากคิดอะไรที่สกปรกโสมม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ

“ขะ ขอโทษด้วย ไม่ได้ตั้งใจ……”

แซ่เจียรีบขอโทษทันที พยายามหยัดตัวขึ้นนั่ง

“ไม่เป็นไรๆ ผมมันหนังหนา อย่าว่าแค่ครั้งเดียว ต่อให้คุณชนอีกหลายๆครั้งก็ไม่เป็นอะไร”

เย่เทียนยิ้มเยาะ ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบจิตสงบใจได้ ค่อยๆก้มลงไปมองแซ่เจีย

ใบหน้าสวยของแซ่เจียแดงขึ้นยิ่งกว่าเก่า ไม่กล้าสบสายตากับเย่เทียนแม้แต่น้อย รีบหันหน้าไปทางอื่นทันที

อากัปกิริยาของพวกเขาในตอนนี้ดูล่อแหลมมาก!

ร่างกายอันบอบบางของแซ่เจียพิงอยู่ในอ้อมแขนเย่เทียน บวกกับสีหน้าเขินอายของเธอ ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารขึ้นอีก ทำให้อดไม่ได้ที่จะเอ็นดู

อึก!

เย่เทียนลอบกลืนน้ำลาย กว่าจะสงบจิตสงบใจได้ จากนั้นจึงจับข้อมือขาวหยกของแซ่เจีย ตั้งใจจับชีพจรให้

“เอ๊ะ?!”

ภายในเวลาไม่กี่วินาที เย่เทียนกลับพบว่าแซ่เจียไม่ได้มีอาการเย็นอะไรแม้แต่น้อย!

“เย่เทียน! คุณนี่มันยังสันดานเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ!”

ขณะเย่เทียนกำลังจะพูดด้วยสีหน้าสงสัย เต็นท์ก็ถูกเปิดจากด้านนอก เฉินหวั่นชิงมองมาด้วยสายตาโกรธแค้น

แซ่เจียผลักเย่เทียนออกทันที ความเขินอายบนใบหน้านั้นหายวับไปทันใด แต่ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเย็นชา

“ทะ ที่รัก?!”

เย่เทียนอึ้งไปทันที รู้อย่างแจ่มแจ้งแดงชัด ว่าการคาดเดาของตัวเองในตอนแรกนั้นถูกต้อง เฉินหวั่นชิงจงใจส่งแซ่เจียมายั่วยวนตน

ไม่เสียแรงที่แซ่เจียเป็นถึงดาราดัง แสดงละครได้เก่งมาก!

ที่แซ่เจียจงใจแสดงการยั่วยวนเมื่อครู่ ผู้ชายที่ไหนก็ทนไม่ไหวหรอก?

“ที่รัก คุณฟังผมอธิบายก่อน ผม……”

เย่เทียนรู้สึกคับแค้นใจสุดๆแต่ไม่แสดงออกทางีหน้าแม้แต่น้อย พยายามจะรีบแก้ตัวอย่างลนลาน

“โอ๊ย! ช่วยด้วย!”

แต่เย่เทียนยังไม่ทันได้พูดจบ ก็มีเสียงร้องตกใจดังมาจากด้านนอกเต็นท์

เย่เทียนรีบสงบสติอารมณ์ แล้วรีบทดึงเฉินหวั่นชิงที่อยู่ด้านนอกเขามาในเต็นท์ จากนั้นกำชับ:“พวกคุณอยู่ในนี้ ผมจะออกไปดู!”

เย่เทียนพูดจบ ก็คลานออกจากเต็นท์ทันทีโดยไม่สนความน่าอาย ถือว่าหลีกหนีจากความน่าอึดอัดนี้ได้

ขณะเดียวกัน ภายในเต็นท์หลังที่อยู่ไม่ไกลจากทางด้านเย่เทียนและพวกเธอนัก มีผู้หญิงสองคนวิ่งออกมาพร้อมกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ ร่างกายอันบอบบางตกใจจนสั่นไปทั้งตัว

ตรงตำแหน่งที่สายตาของพวกเธอมองอยู่นั้น มีงูตัวยาวสีเขียวๆดำๆอยู่ตัวหนึ่ง กำลังส่งเสียงขู่ฟ่อๆ ค่อยๆเลื้อยเข้าไปในเต็นท์อย่างสบายใจ

และเมื่องูดำเข้ามาใกล้ งสองสาวในเต็นท์ก็กลัวจนไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ

ฟึบ!

และขณะนั้นเอง ก็มีเงาดำๆผ่านไป ส้อมบาร์บีคิวเสียงไปกลางลำตัวงูอย่างพอดิบพอดี กดมันลงกับพื้นแน่นไม่ขยับเขยื้อน

ล้อเล่น ถ้าไม่ใช่เพราะงูดำตัวนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะปลีกตัวจากเฉินหวั่นชิงที่กำลังเดือดอยู่ได้ยังไง แล้วจะฆ่ามันลงได้ยังไง?

ในช่วงเวลาที่วิกฤติเช่นนี้ เย่เทียนรีบออกมาได้อย่างท่วงที

“พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เย่เทียนรีบเดินไปหน้าเต็นท์ ออกแรงจับงูดำตัวนั้น แล้วโยนส้อมบาร์บีคิ้วออกไปไกลๆทันที จากนั้นหันมามองผู้หญิงสองคนนั้น

ผู้หญิงทั้งสองพยักหน้าหงึกๆด้วยสีหน้าหวาดกลัว

เห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร เย่เทียนจึงโล่งใจ แต่ยังขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนเดิม รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยปกติ

เมื่อครู่เขาตั้งใจมองเป็นพิเศษ งูสีดำตัวนั้นคือแบล็อกแมมบ้า โดยปกติจะไม่ค่อยเจอในประเทศจีน

“มีอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตกใจดังขึ้นจากทางด้านหลัง เย่เทียนหันไปมอง พบว่าเป็นเฉินหวั่นชิงกับแซ่เจียตามมาด้วยพนักงานของบริษัทแซ่เฉินรีบเดินมาจากไกลๆ

แม้เย่เทียนบอกให้พวกเธออยู่ในเต็นท์ แต่เฉินหวั่นชิงไม่วางใจ จึงตามเหล่าพนักงานของบริษัทแซ่เฉินมาด้วย เพื่ออยากมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“ที่รัก ไม่มีอะไรครับ แค่มีงูตัวหนึ่งเลื้อยมา”

เย่เทียนมองเฉินหวั่นชิงอย่างลนลาน แต่กรอบสายตากลับมองไปรอบๆด้วยความระแวดระวัง

“นะ นั่นอะไร?!”

ขณะนั้นเอง จู่ๆมีผู้ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงสั่นด้วยความตกใจจากบริเวณไม่ไกลนัก

เย่เทียนตกตะลึง เกิดความรู้สึกเห็นท่าไม่ดีขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ รีบหันไปมอง และทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนคุ้นเคย

ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกล มีงูตัวยาวๆเลื้อยออกมาจากหน้าผาที่สูงชัน ส่งเสียงขู่ฟ่อๆอย่างอวดดีท่ามกลางความมืด นัยน์ตาสีเหลืองคู่นั้นของงูช่างเย็นยะเยือกเสียจนน่าหวาดกลัว

เหมือนภาพตอนที่เย่เทียนฆ่างูหางกระดิ่งสีม่วง ความแตกต่างเดียวเลยคือจำนวนงูในตอนนี้มีน้อยกว่า

มีจำนวนประมาณ20กว่าตัว เกรงว่างูทุกตัวบนภูเขาเฟิ่งหวงคงมารวมตัวอยู่กันตรงนี้หมด

ปกติหากพนักงานของที่นี่เจอสิ่งมีชีวิตอะไรก็จะไล่ไปทันที เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะถึงยังไงภูเขาเฟิ่งหวงก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง แต่นี่ยังมีงูเป็น20กว่าตัว มันเป็นไปไม่ได้

“นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีงูเยอะขนาดนี้?”

“งูพวกนี้มันมาจากไหน?”

ผู้คนที่มาตั้งแคมป์ต่างตกใจไม่น้อย พากันถอยหลังห่างออกไป

โดยเฉพาะผู้หญิง แทบจะกระโดดขึ้นไปบนตัวพวกผู้ชายกันอยู่แล้ว

ทำเอาเหล่าพวกผู้ชายที่มาตั้งแคมป์ทั้งกลัวทั้งดีใจ ไม่รู้ว่าต้องขอบคุณงูพวกนี้หรือเปล่า

เย่เทียนค่อยมๆมีสีหน้าที่จริงจังขึ้น ยิ่งรู้สึกอยู่ไม่สุขเข้าไปทุกทีๆ

แต่ถึงยังไงเขาก็เคยเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันมาก่อน ถ้ามีแค่งูตัวเดียวถือเป็นความโชคร้าย สองตัวอาจจะฝืนๆเรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญ

แต่นี่มันตั้ง20กว่าตัว ไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว!

ในเมื่อไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ก็คงมีคนแอบจัดการในเงามืด!

เมื่อคิดเช่นนั้น เย่เทียนก็ยิ่งมั่นใจว่ามีคนจงใจทำแน่ๆ

ยังไงก็แค่ไล่งูไม่กี่ตัว ถ้าเขาตั้งใจเรียนรู้ ก็สามารถทำได้

เพียงแต่ว่าคนที่สามารถขับไล่สิงสาราสัตว์ได้นั้น ไม่ใช่คนธรรมดาๆ!

ดังคำกล่าวที่ว่า:ผู้มาไม่หวังดี ผู้หวังดีไม่มา(มาแบบศัตรูมากกว่ามิตร)

เย่เทียนรู้อยู่แก่ใจดี ตอนนี้จึงไม่คิดอะไรให้มากความ ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปโดยไม่ลังเล

“เย่เทียน คุณจะทำอะไร?”

คนเป็นประธานบริษัทอย่างเฉินหวั่นชิงก็กลัวงูเหมือนกัน เมื่อเห็นการกระทำของเย่เทียน ก็เอื้อมมือออกไปจับแขนเขาโดยอัตโนมัติ

“ทำอะไรงั้นเหรอ? คืนนี้ผมจะทำซุปงูเป็นมื้อดึกให้คุณกิน!”

เย่เทียนตบหลังมือหญิงสาวเบาๆ ยิ้มจนเห็นฟันขาว ภายใต้แสงแห่งราตรีมันมีเสน่ห์จนพูดไม่ออก……