“คืนนี้ผมจะเพิ่มมื้อดึกให้คุณ รับรองว่าหลังกินเสร็จน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็นกิโลเลย”
เมื่อเห็นความตื่นตระหนกของเฉินหวั่นชิง เย่เทียนจึงตบหลังมือเธอเบาๆ ยิ้มจนเห็นฟันขาว ภายใต้แสงแห่งราตรีมันมีเสน่ห์จนพูดไม่ออก
“งะ งั้นพวกเราต้องกินซุปงูงั้นเหรอ?”
แซ่เจียตอบกลับไปโดยอัตโนมัติ
เป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆ แต่ในตอนนี้กลับทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้รู้สึกเย็นยะเยือกจากปลายเท้า
อย่างน้อยก็มีงูกว่า20ตัว ถ้าไม่ระวังต้องถูกกัดแน่ๆ
ยังไม่พูดถึงว่ามันมีพิษหรือไม่ แค่ถูกกัดก็รู้สึกเจ็บไม่ใช่เหรอ?
“คุณชายเย่ จู่ๆก็มีงูโผล่มา นี่มันผิดปกตินะ!”
เมื่อเห็นว่าเย่เทียนกำลังจะออกไป ตี๋ต้าจื้อก็ยืนขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ให้ผมไปช่วยคุณด้วยดีกว่า?”
“ไม่เป็นไร คุณดูแลพวกเขาแทนผมก็พอ”
เย่เทียนส่ายหน้าไปมา กังวลว่าจะมีคนอาศัยจังหวะนี้ในการลงมือ
ตี๋ต้าจื้อได้ยินเช่นนั้น ก็เข้าใจความหมายที่เย่เทียนจะสื่อทันที จึงพยักหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไรต่อ
“เย่เทียน คุณ……”
เฉินหวั่นชิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆแซ่เจียที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็เอื้อมมือมาดึงแขนหญิงสาวไว้ พลางส่ายหน้าเบาๆ
จากนั้นเย่เทียนก็หยิบส้อมบาร์บีคิวแล้วเดินออกมาจากกลุ่มคนโดยไม่ลังเล
“ฟ่อๆ!”
งูพวกนี้ราวกับความนึกคิดมีอย่างไรอย่างนั้น ส่งเสียงขู่ฟ่อๆพลางเลื้อยเขามาหาเย่เทียน
พวกมันรวดเร็วมาก แต่ถึงจะเร็วแค่ไหนมีเหรอที่จะเร็วกว่าเย่เทียน?
ได้ยินแค่เสียงฟ่อ เจ้างูก็ถูกเย่เทียนเสียบด้วยส้อมบาร์บีคิวทะลุลงไปถึง7นิ้ว ไม่มีโอกาสได้โดนตัวเย่เทียนเลยแม้แต่น้อย
ผู้คนที่เห็นการกระทำอย่างง่ายดายยของเย่เทียน รู้สึกตกตะลึงถึงขั้นสุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“โห! ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เสียบโดนด้วย?”
“คนคนเดียวสู้กับงูเป็นฝูง? เทพ! เทพมากจริงๆ!”
“ไม่ได้ๆ ภาพแบบนี้ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ฉันต้องถ่ายแล้วโพสต์ลงวีแชท”
ทว่าท่าทีที่เย่เทียนแสดงออกมาทำให้ทุกคนที่ตกตะลึงอยู่สงบลงได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย คนที่ไม่กลัวบางคนถึงกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เย่เทียนองอาจห้าวหาญขนานั้นล่ะ?
ถูกงูล้อมรอบนับสิบตัว แต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแม้แต่น้อย ทำให้ทุกคนสงบลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย จะกำจัดงูพวกนี้แค่ต้องใช้เวลาก็เท่านั้น
……
ขณะเดียวกัน ตรงไหล่เขาของภูเขาเฟิ่งหวง มีร่างเงาผอมๆนั่งอยู่บนยอดต้นไม้ ตาหลับสนิท แขนทั้งสองข้างโบกไปมาด้วยท่าทางแปลกๆ
ส่วนใต้ต้นไม้ยังมีคนร่างบางกำลังนั่งเฝ้าดูรอบๆบริเวณอย่างระแวดระวัง รูปร่างหน้าตาคล้ายกับคนที่นั่งอยู่บนยอดต้นไม้ถึง70%
ถ้าเย่เทียนอยู่ตรงนี้คงจำได้ตั้งแต่วินาทีแรก สองคนนี้คือทหารกล้าตาย หนึ่งในสามหัวหน้าใหญ่ของแก๊งS.P.Lที่เหลืออยู่!
ใช่! มันคือหนึ่งในความลับสุดยอดในวงในของแก๊งS.P.L ทหารกล้าตายผู้นี้ไม่ได้มีแค่คนเดียวแต่เป็นพี่น้องฝาแฝดสองพี่น้องหยวนซือ!
สามหัวหน้าใหญ่แก๊งS.P.Lนั้นมีชื่อเรียกเฉพาะ คนทั่วไปคิดว่าทหารกล้าตายมีแค่คนเดียว แต่ไม่รู้เลยว่าทหารกล้าตายนั้นมีถึงสองคน จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่านี่เป็นประโยชน์ต่อสองพี่น้องหยวนซือได้มากแค่ไหน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดพี่หยวนผู้เป็นพี่ที่อยู่บนยอดไม้ก็ลืมตาเสียที เขาขมวดคิ้วเป็นปม เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องไม่ค่อยพอใจ
“พี่ เป็นอะไรไป?”
เมื่อน้องหยวนผู้มีหน้าที่เฝ้าระวังอยู่ใต้ต้นไม้เห็นเช่นนั้น จึงรีบถามขึ้นทันที
“เจ้าหมอนั่นฆ่างูพิษที่ฉันส่งไปจนหมด”
พี่หยวนส่ายหน้าไปมา พลางพูดเย้ยหยัน:“มิน่าล่ะถึงฆ่าหมาป่าโลภกับเจ็ดสังหารได้ มีฝีมือจริงๆ”
ขณะพูดก็มีงูโปร่งแสงสีขาวตัวหนึ่งทะลวงออกมาจากหน้าอกของพี่หยวน!
งูขาวตัวนี้ยาวประมาณ2เมตร ก่อนหน้านี้ซ่อนตัวอยู่ในร่างกายพี่หยวนมาโดยตลอด ทว่าตอนนี้กลับโผล่ออกมาจากร่างกายของพี่หยวน ค่อยๆเลื้อยไปบนกิ่งไม้ข้างๆ จากนั้นก็มีแสงอันน่าสะพรึงกลัวส่องออกมาจากนัยต์ตาสีเหลืองของงู
“ฆ่าจนหมดเลย? เพิ่งใช้เวลาไปไม่นานเอง?”
น้องหยวนพยักหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่สีหน้ายังเหมือนเดิม “พี่ ดูท่าแล้วอีกฝ่ายมีฝีมือพอสมควร!”
อันที่จริงสองพี่น้องคู่นี้ก็ไม่เคยคิดหรอกว่าจะจัดการกับเย่เทียนได้ง่ายๆ อย่างมากงูมีพิษพวกนั้นกัดคนตายได้แค่ไม่กี่คน
แต่หากจะใช้งูมีพิษพวกนี้มารับมือกับนักบู๊ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
“ดูเหมือนเราต้องไปปลิดชีพเขาด้วยตัวเอง แก้แค้นให้กับเจ้าโง่หมาป่าโลภและเจ็ดสังหาร”
พี่หยวนยิ้มเยาะอย่างร้ายกาจ พลางกระโดดลงมาจากยอดไม้ โรยตัวลงพื้นได้อย่างเสียงเบาและมั่นคง
“เจ้าโง่สองคนนั้นตายก็คือตาย ถ้าไม่ใช่เพราะกังวลว่าจะทำลายชื่อเสียงแก๊งS.P.Lของเรา ใครจะไปแก้แค้นให้พวกมัน”
น้องหยวนเบ้ปาก ถามขึ้นด้วยความสงสัย:“พี่ พี่ว่าที่ครั้งนี้ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งว่างถึงสองตำแหน่ง หัวหน้าจะแยกพวกเราออกจากกันหรือเปล่า?”
“เรื่องตอนนี้สำคัญกว่า ไปจัดการหมอนั่นก่อน ส่วนเรื่องพวกนี้กลับไปแล้วค่อยว่ากัน”
พี่หยวนมองน้องชายตัวเองอย่างมีความหมายลึกซึ้ง เตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังยอดเขาภูเขาเฟิ่งหวง
“พวกคุณสองคนกำลังตามหาผมอยู่หรือเปล่า?”
ทว่าพวกเขายังไม่ทันได้ย่างเท้าออกไป ก็มีเสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดดังมาจากทางด้านหลังพวกเขาอย่างผิดจังหวะ
สองพี่น้องหยวนซือรีบหันไปมองด้วยความตกตะลึง เห็นเงาคนที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ห่างจากด้านหลังพวกเขาไปราวๆ7เมตร!
“แก……”
พี่หยวนลนลานไปหมด ไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเข้าใกล้พวกเขาได้โดยที่ไม่รู้ตัว
ฝีมือของพวกเขาสองพี่น้องเก่งกาจกว่าเจ็ดสังหารกับหมาป่าโลภ ไปถึงแดนระดับดำชั้นต่ำ แค่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยภายในรัศมี100เมตร พวกเขาล้วนได้ยินหมด
แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับเข้าใกล้พวกเขาภายในรัศมี10เมตรได้โดยไม่รู้ตัว จะไม่ให้พวกเขาตกตะลึงได้ยังไง
หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นหน้าค่าตาของผู้มาใหม่ชัดๆ ความประหม่าของทั้งสองก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ก่อนมาที่นี่พวกเขาได้ศึกษาฝีมือของเย่เทียนมาก่อน อย่างแย่ที่สุดคือระดับดำชั้นต่ำ อีกทั้งมีความเป็นได้สูงว่าจะเป็นระดับดินชั้นสูง
แม้ฝีมือของสองพี่น้องหยวนซือล้วนอยู่ระดับดำชั้นต่ำ แต่ยังไงพวกเขาก็เป็นพี่น้องฝาแฝด นิสัยใจคอคล้ายคลึงกันไม่มากก็น้อย และบวกกับส่วนประกอบอื่นที่คล้ายๆกัน แม้อยู่ในระดับดินชั้นสูงก็ใช่ว่าพวกเขาจะสู้ไม่ได้
นี่ไม่ใช่หลักทฤษฎีอะไร แต่พวกเขาเคยฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับดินชั้นสูงมาก่อน!
“เย่เทียน? ไม่คิดว่าแกจะมารนหาที่ตายถึงที่ งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้ว!”
สำหรับเย่เทียนที่เป็นบุคคลในเป้าหมาย แน่นอนว่าสองพี่น้องหยวนซือต้องเคยเห็นรูปเขามาก่อนอยู่แล้ว
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเย่เทียนกล้ามาหาเอง พวกเขาสองพี่น้องก็ยิ้มเยาะ ดวงตาปล่อยรังสีอำมหิตอันน่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างไม่ปิดบัง จ้องเขม็งไปที่เย่เทียนทันที
ตอนฆ่าตัดหัวงูพิษบนยอดเขา เย่เทียนก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงจงใจขว้างงูออกไป2-3ตัว จากนั้นตามไปติดๆ
เป็นอย่างที่คิดไว้ มันทำให้เขาเจอผู้ที่อยู่เบื้องหลังเข้าจริงๆ!