ตอนที่ 680 ขอต้อนรับกลับบ้าน
ฉู่เจียเสวียนตามเผยหนานเจวี๋ยอยู่ข้างหลัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุ้นเคยทำให้ร้อยพันอารมณ์วนเวียนอยู่ในใจของเธอ เมื่อเข้ามาในห้องโถง การจัดวางของที่นี่ก็เหมือนกับเมื่อสามปีก่อนโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
“พวกเรากินข้าวกันเถอะ คุณหิวแล้วหรือยัง ผมตั้งใจเตรียมดินเนอร์ใต้แสงเทียนให้คุณเป็นพิเศษเลยนะ” เผยหนานเจวี๋ยจูงมือฉู่เจียเสวียนแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร มีสเต็กสองจานวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยม
ฉู่เจียเสวียนหัวเราะออกมาเบาๆ “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าช่วงนี้กินอาหารตะวันตกบ่อยจังเลยนะ”
ตอนที่เผยหนานเจวี๋ยนัดเธอเมื่อเร็วๆ นี้ ก็กินอาหารตะวันตก เขาไม่เบื่อบ้างหรือไง
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของที่นี่ในคืนนี้อบอุ่นกว่าทุกครั้งในอดีต
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้วก็เดินเข้าไปหาเธอ ก้มหน้ามองเธอด้วยแววตาจริงจัง “ขอต้อนรับกลับบ้านนะ”
ประโยคนี้เคยเป็นสิ่งที่ฉู่เจียเสวียนต้องการได้ยินในความฝันของเธอ วันนี้ไม่คาดคิดว่าจะเธอจะได้ยินมันจริงๆ ไม่มีใครรู้ว่าเธอปรารถนาบ้านนี้มากแค่ไหน
เสียงเพลงสบายๆ ดังขึ้น จากนั้นเธอก็เห็นเผยหนานเจวี๋ยก้าวถอยหลัง ยื่นมือมาหาเธออย่างสุภาพบุรุษ “คุณผู้หญิงแสนสวย พวกเราจะขอเชิญคุณเต้นรำด้วยได้ไหมครับ”
ฉู่เจียเสวียนยื่นมือออกไปโดยไม่ลังเลและเต้นรำไปกับเขา เงาของคนสองคนกำลังพลิ้วไหวอยู่ในห้องอาหาร แสงไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสลัวทันที บรรยากาศก็ยิ่งอบอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ
จังหวะการเต้นแปรผันไปตามเพลง การเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้งทำให้สเต็ปการเต้นรำแตกต่างกัน อากัปกิริยาที่ต่อเนื่องเป็นชุดลื่นไหลเหมือนกับสายน้ำ ร่างของทั้งสองมีชีวิตชีวาราวกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ เข้ากันได้ดีอย่างไร้ที่ติ
เมื่อสิ้นเสียงโน้ตตัวสุดท้าย ฉู่เจียเสวียนและเผยหนานเจวี๋ยก็หยุดเต้นเช่นกัน ทั้งคู่ยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองกันอย่างลึกซึ้ง ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น ดวงตาของทั้งคู่มีเพียงภาพสะท้อนของกันและกัน
“ฉันหิวแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากทำลายความเงียบ การเต้นสิ้นเปลืองพลังงานเกินไป ทำงานมาทั้งวัน ตอนเที่ยงก็ไม่ได้กินข้าว เธอหิวตั้งนานแล้ว
“กินข้าวเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยลากเก้าอี้ให้ฉู่เจียเสวียนนั่งลง จากนั้นเขาก็เดินไปอีกทางและนั่งลง พร้อมจ้องมองเธอไม่คลาดสายตา
บรรยากาศการรับประทานอาหารอบอุ่นมาก ระหว่างนี้ก็ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีใครต้องการทำลายความสงบสุขที่หาได้ยากนี้
หลังจากมื้ออาหาร ฉู่เจียเสวียนและเผยหนานเจวี๋ยกอดกัน ต่างคนต่างมีไวน์แดงอยู่ในมือ
กริ๊ง แก้วทั้งสองชนกัน พวกเขาสบตากันแล้วยิ้ม จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นดื่มไวน์ในแก้วจนหมด
คืนนี้พวกเขาดื่มไวน์เยอะมาก ฉู่เจียเสวียนรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ใบหน้าที่มั่นคงและสมบูรณ์แบบของเขา รอยยิ้มสดใสราวสายลมฤดูใบไม้ผลิ คิ้วตางดงามดังบทกวี
อาจเป็นเพราะดื่มไวน์ ดังนั้นเธอจึงมีความกล้าหาญกว่าปกติมาก เธอยื่นมือออกมาเบาๆ สัมผัสใบหน้าล้ำลึกของเผยหนานเจวี๋ย วาดผ่านมันด้วยความระมัดระวังและจริงจังเป็นที่สุด
สัมผัสนั้นเหมือนในความทรงจำ ใบหน้ายังคงเย็นชาเย่อหยิ่ง และหนักแน่นเหลือเกิน
เผยหนานเจวี๋ยปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนมองสำรวจเขา ปล่อยให้ปลายนิ้วของเธอวิ่งผ่านใบหน้าของเขา เขาสนุกกับสัมผัสที่เธอทำให้เขา ความรู้สึกนุ่มนวลนั้นทำให้หัวใจของเขากรีดร้อง
เมื่อเห็นริมฝีปากแดงอันอวบอิ่มของเธอ เขาก็อดใจไม่ได้อีกต่อไป ก้มหน้าจูบเธอทันที เขาครุ่นคิดถึงปากเล็กๆ นั้นอยู่หลายวันหลายคืน ในที่สุดวันนี้เขาก็สามารถจูบได้แล้ว
จูบที่ร้อนแรงนั้นเจือปนความคิดถึงที่นับไม่ถ้วนของเขา มันกลืนกินเธอ พาเธอล่องลอยไปกับความงดงามทุกรูปแบบ
ฉู่เจียเสวียนก็ตอบสนองจูบของเขา พวกเขาจูบกันอย่างร้อนแรงเหมือนฟืนแห้งที่ลุกเป็นไฟ ควบคุมไว้ไม่อยู่
เผยหนานเจวี๋ยส่งเสียงต่ำออกมา อุ้มร่างฉู่เจียเสวียนแล้วเดินเข้าไปในห้อง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาอดกลั้นมานานแล้ว
ตอนที่ 681 ห้ามไม่รักฉัน
ตอนนี้คนที่อยู่ด้านล่างคือคนที่รัก เขาไม่จำเป็นต้องกลัวผลที่จะตามมาอีกต่อไป สามารถรักเธอได้อย่างกล้าหาญและสบายใจ
“ได้หรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้น ข่มแรงกระตุ้นเอาไว้พร้อมถามเธอ เขาต้องการให้เธอมอบให้เขาด้วยความเต็มใจ
ฉู่เจียเสวียนมองไปที่เขา อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่อ่อนต่อโลกอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ และเธอก็ยิ่งรู้ว่าประโยคที่ว่าได้หรือเปล่าของเขาหมายถึงอะไร
เอื้อมมือโอบคอของเผยหนานเจวี๋ย รุกจูบริมฝีปากที่เยือกเย็นของเขาแทนคำตอบ
หลังจากได้รับคำตอบของฉู่เจียเสวียนแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป แสดงความรักต่อเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความคิดถึงที่มีต่อเธอนับไม่ถ้วน
หลังจากเสร็จกิจแล้ว ทั้งคู่โอบกอดกัน ใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยมีความพึงพอใจ
ฉู่เจียเสวียนโอบรอบคอของเผยหนานเจวี๋ยแน่น เงยหน้าหรี่ตามองตรงไปที่เขา “ต่อไปห้ามคุณไม่รักฉัน”
คำพูดของฉู่เจียเสวียนทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยเบิกบาน เขารู้ว่าเธอกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
“ผมรักคุณ ต่อไปคุณอย่าจากผมไปไหนอีกนะ” เผยหนานเจวี๋ยประทับจูบลงบนหน้าผากของฉู่เจียเสวียน มือที่กอดเธอนั้นรัดแน่น
ฉู่เจียเสวียนยิ้มแล้ว ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย หลับตาลงช้าๆ
กลางคืนมืดมิดลงเรื่อยๆ ดวงดาวก็อยู่บนท้องฟ้าเนิ่นนานแล้ว ดวงจันทร์เปล่งแสงเย็นยะเยือก นำแสงสว่างมาสู่คืนที่มืดมิดนี้
เผยหนานเจวี๋ยเห็นท่าทางที่อ่อนล้าของฉู่เจียเสวียนก็อุ้มเธอเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำ หลังจากเปิดน้ำร้อนจนเต็มอ่างแล้ว เขาวางเธอลงไปแผ่วเบา เพื่อให้เธอได้บรรเทาความเมื่อยล้าของร่างกาย เขาไม่เคยอ่อนโยนต่อผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อนเลย เขาในตอนนี้เหมือนเป็นเด็กหนุ่มอย่างไรอย่างนั้น
ทำความสะอาดร่างกายของเธออย่างรวดเร็วแล้วก็อุ้มเธอขึ้นมา วางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ห่มผ้าให้ทั้งคู่อย่างดี รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
พวกเขาเคยทำผิดต่ออีกฝ่ายเนื่องจากความผิดพลาด ตอนนี้เธอกลับมาอยู่ข้างกายเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะต้องจูงมือของเธอและจะไม่ให้เธอได้รับความเจ็บปวดใดๆ อีก เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อชดเชยให้เธอ ให้เธอได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดบนโลกใบนี้
เผยหนานเจวี๋ยกอดฉู่เจียเสวียนเอาไว้ เขาไม่เคยรู้สึกตื้นตันเท่าตอนนี้มาก่อน นอกจากความสุขแล้วเขายังรู้สึกซาบซึ้งยิ่งกว่า
โชคดีที่ฉู่เจียเสวียนยังรักเขา โชคดีที่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถอยู่ด้วยกัน
นึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้ที่ไม่มีเธอ เขาเป็นเหมือนกับคนตายที่เดินได้ แต่เขาในตอนนี้รู้สึกว่าในที่สุดตัวเองก็ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง
ราตรีเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ลมหนาวพัดอยู่นอกบ้าน แต่ไม่อาจทำให้หัวใจของพวกเขาหนาวเหน็บได้ เมื่อหัวใจอบอุ่นสองดวงได้อยู่ด้วยกันก็ไม่กลัวคืนที่หนาวเย็นอีกต่อไป เพราะว่าพวกเขาสามารถให้ความอบอุ่นและคลอเคลียกันและกันได้
เช้าของวันต่อมา นกส่งเสียงร้องจิ๊บๆ อยู่บนกิ่งไม้ ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นวันที่ทุกอย่างได้เติบโตและเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ฉู่เจียเสวียนตื่นขึ้นมาช้าๆ สภาพแวดล้อมที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกตาปรากฏขึ้นสู่สายตา ภาพทุกอย่างของเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัว เธอหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว ยื่นมือคลำๆ ด้านข้าง ตอนนี้ที่นอนข้างกายเย็นชืดแล้ว
เปิดผ้าห่มออก ก็เห็นรอยเป็นจุดๆ จ้ำๆ บนตัว เธออดไม่ได้ที่จะโมโหเล็กน้อย เขาหิวกระหายมากแค่ไหนกันนะ
นอกหน้าต่างมีแสงแดดส่องสว่าง แสงอาทิตย์โอบกอดโลกใบนี้เอาไว้ และให้ความอบอุ่นแก่พวกเขาไม่รู้จบ
เธอลดสายตาลงก็เห็นโน้ตบนโต๊ะหัวเตียง เมื่อหยิบขึ้นมาดู ริมฝีปากแดงก็ยกยิ้ม อาหารเช้าพร้อมแล้ว ส่วนร้านชุดแต่งงานเขาก็ลาหยุดให้เธอแล้ว แต่เขายังมีงานที่บริษัทจึงต้องกลับไปจัดการก่อน
ความเอาใจใส่ของเผยหนานเจวี๋ยทำให้เธอยิ้มด้วยความสดใสเป็นอย่างยิ่ง ในใจมีความสุขมากเสียจนไม่อาจพร่ำบ่น เดินเข้าห้องอาบน้ำเพื่ออาบน้ำ น้ำอบอุ่นไหลผ่านร่างกาย เธอรู้สึกว่าทุกอย่างล้วนสวยงาม