ตอนที่ 1221 สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ / ตอนที่ 1222 เชิญเข้ามา!

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

ตอนที่ 1221 สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

 

 

แม้แต่ซูหลีเป็นคนที่มีการเตรียมใจเอาไว้ก่อน เมื่อได้ยินที่ชิงหรงเอ่ยออกมาดังนั้น สีหน้าก็ยังอดที่จะแปลกใจมิได้

 

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอู๋โยวหรานแล้ว!

 

 

ใบหน้าของอู๋โยวหรานแข็งกระด้าง นางจ้องชิงหรงผู้นั้นดวงตาเขม็งแล้วเอ่ยว่า “ชิงหรง เจ้ากำลังพูดอะไรออกมากัน เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเจ้ากับข้าไปพบ…”

 

 

“ชิงหรงไม่รู้ว่าคุณหนูพูดอะไร” ชิงหรงถือโอกาสฟุบหน้าลงบนพื้น ไม่แม้แต่จะมองอู๋โยวหรานสักปราด ท่าทีของนางนั้นเฉื่อยชาเป็นอย่างมาก

 

 

ใบหน้าของอู๋โยวหรานซีดเผือดแทบไม่มีสีเลือด อู๋โยวหรานปากสั่นระริกและมองไปทางชิงหรง ในเวลานี้นางไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี

 

 

“เช่นนี้ก็หมายความว่า นายของเจ้ามาที่นี่ มิใช่เป็นเพราะไทเฮา?” จู่ๆฉินเย่หานก็เอ่ยขึ้นภายใต้บรรยากาศที่กระอักกระอ่วน

 

 

น้ำเสียงของเขาดูเลือดเย็นอย่างบอกไม่ถูก และมีกลิ่นอายความไร้ข้อกังขา

 

 

ซูหลีเงยหน้ามองเขาอย่างอดมิได้ นับประสาอะไรกับท่าทางของฉินเย่หานในเวลานี้ ช่างเป็นท่าทางที่นางไม่คุ้นเคยโดยแท้

 

 

ทว่ากลับดูมีเสน่ห์อย่างร้ายแรง อย่างอื่นยังไม่ต้องพูดถึง เพียงแค่ท่าทางที่ลอบคิดอุบายวางแผนไว้นั้น ก็สามารถทำให้ผู้คนใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว!

 

 

“ทูลฝ่าบาท ก่อนที่คุณหนูจะมาที่นี่มิได้ไปเข้าเฝ้าไทเฮาเพคะ เพียงแต่ได้พบคนอีกผู้หนึ่งเพคะ” ชิงหรงได้ยินดังนั้นจึงคุกเข่าลงบนพื้น นางเอ่ยคำพูดนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แปรปรวนเลยแม้แต่น้อย

 

 

หลังจากอู๋โยวหรานได้ยินคำพูดของนางแล้ว ทั้งร่างก็มึนงงไปหมด และในชั่วขณะนั้นเองนางก็ทรุดตัวนั่งลงไปบนพื้น นางมองไปที่ชิงหรงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อแบบมึนงง

 

 

คล้ายกับเพิ่งรู้จักนางเป็นคราแรกมิปาน!

 

 

“ไปเจอใครกัน” จี้เหิงหรานหรี่ตาลงและรีบถามต่อ

 

 

“ตอบคำถามของใต้เท้าจี้ คุณหนูไปพบจิ้งหนานอ๋องซื่อจื่อ!” ทันทีที่ชิงหรงเอ่ยออกมาก็พูดชื่อของคนที่ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง!

 

 

แม้แต่ซูหลีก็ยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป!

 

 

พบฉินมู่ปิง!

 

 

นางช้อนสายตามองทางอู๋โยวหรานที่อยู่บนพื้นอย่างฉับพลัน หากชิงหรงผู้นี้ไม่พูดออกมา ซูหลีคงแทบจะลืมไปแล้วว่าอู๋โยวหราน นอกจากจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉินเย่หานแล้ว ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉินมู่ปิงอีก จะว่าไปแล้วฉินมู่ปิงจะต้องเรียกนางว่าน้า!

 

 

เดิมคำตอบที่อู๋โยวหรานตอบนั้น ซูหลีก็รู้สึกทะแม่งๆชอบกล

 

 

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่ท่าทีที่ไทเฮาทรงมีต่อฮ่องเต้นั้น ไทเฮาจะทรงส่งคนมาจับตามองการเคลื่อนไหวฮ่องเต้ทุกวินาทีหรือ เมื่อคิดได้แล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

 

นอกจากเรื่องนี้แล้ว ซูหลีก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น

 

 

ไม่ว่าอู๋โยวหรานผู้นี้จะเป็นอย่างไร นางก็แค่สตรีคนหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นสตรีที่ไม่มีทั้งตำแหน่งและอำนาจใดๆ นางอยู่ภายในราชวังน้ำพุร้อนแห่งนี้ ก็ถือว่าอยู่ในสายตาของฉินเย่หาน อย่างไรก็ไม่สามารถวางแผนเคลื่อนไหวอะไรได้

 

 

ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่า อู๋โยวหรานกับฉินมู่ปิงจะสามารถมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

 

 

เรื่องนี้พลันทำให้ซูหลีไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

 

 

นางฉุกคิดถึงยามที่อยู่ภายในหอหร่วนเซียง ไม่ว่าอย่างไรฉินเฮ่าก็จะมอบแม่นางยอดดอกเหมยกับฉินเย่หาน!

 

 

นี่คนหนึ่งยังไม่พอ กลับส่งอีกคนมาให้อีกหรือ

 

 

สตรีในหอโคมเขียวไม่เร้าใจพอ จึงหาสตรีที่มีฐานะค่อนข้างสูงอย่างอู๋โยวหรานให้หรือ

 

 

ซูหลีคิดได้ว่าอู๋โยวหรานกับจี้เหิงหรานก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แม้จะไม่ถือว่าสนิทสนมกันนัก แต่ก็ฉุกคิดได้ว่ามารดาของอู๋โยวหรานเป็นเพียงบุตรีของอนุคนหนึ่ง

 

 

ตั้งแต่อดีตกาลความสัมพันธ์ระหว่างบุตรของอนุและบุตรของภรรยาเอกนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก

 

 

คนที่มีอุปนิสัยเหมือนไทเฮานั้นจะสามารถปฏิบัติต่อน้องสาวต่างแม่ได้ดีถึงขนาดไหนกัน แต่กลับปฏิบัติต่ออู๋โยวหรานดีขนาดนี้

 

 

ซูหลีถึงกับอ้ำอึ้งไปทันที นางมองไปที่ฉินเย่หาน ราชวงศ์นี้ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างนางควรอยู่

 

 

แม้จะครุ่นคิดถึงเพียงใด ก็ช่างน่ากลัวโดยแท้!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1222 เชิญเข้ามา!

 

 

“เจ้า…เจ้าพูดจาส่งเดช!” อู๋โยวหรานชี้ไปที่ชิงหรงผู้นั้น แล้วเอ่ยด้วยเสียงสั่นคลอน

 

 

และในเวลานี้มิได้มีคนสนใจคำพูดของนางแล้ว

 

 

“หวงกงกง ขอถามสักหน่อย สาวใช้ผู้นี้ไยถึงได้คุ้นหน้านัก…” ทางจี้เหิงหรานหลังจากได้ยินคำพูดของชิงหรงแล้ว กลับมิได้เอ่ยอะไรออกมาในเวลาแรก เขากลับชี้ไปที่ชิงหรงแล้วเอ่ยถามหวงเผยซานด้วยเสียงแผ่วเบา

 

 

“ใต้เท้าจี้จำมิผิดขอรับ สาวใช้ผู้นี้เป็นผู้ติดตามข้างพระวรกายของไทเฮา หลังจากแม่นางอู๋เข้าวังมา ข้างกายมีผู้ติดตามน้อยลง ไทเฮาทรงรับสั่งให้นางคอยปรนนิบัติรับใช้แม่นางอู๋ขอรับ” หวงเผยซานก้มหน้าลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา

 

 

เขาเป็นผู้ดูแลฝ่ายในและนอก เรื่องของคนภายในวังหลวง โดยเฉพาะผู้ติดตามข้างพระวรกายของไทเฮากับฮ่องเต้ เขานั้นเป็นคนที่ทราบดีที่สุด

 

 

จี้เหิงหรานผงกศีรษะอย่างเข้าใจในทันที แล้วเอ่ยว่า “มิน่าการพูดการจาถึงได้ซื่อตรงขนาดนี้ ที่จริงก็คนข้างพระวรกายของไทเฮานี่เอง!”

 

 

คำพูดนี้น่าสนใจมาก ประการแรกก็คือการยืนยันตัวตนของชิงหรงผู้นี้ สาวใช้ในวังหลวงกระทำเรื่องภายในวังจักต้องมีประวัติใสสะอาดไร้มลทิน แน่นอนว่านางไม่มีทางที่จะนำเรื่องส่วนตัวมาใส่ร้ายอู๋โยวหราน

 

 

นี่ทำให้คำพูดของชิงหรงมีความน่าเชื่ออีกหลายส่วน นอกจากนี้ยังเป็นการพูดเสียดสีอู๋โยวหรานหนึ่งคำรบ

 

 

พอจะทราบได้ว่าจี้เหิงหรานและรวมถึงคนรุ่นจี้เก๋อเหล่านั้น มีความสัมพันธ์กับอู๋โยวหรานอย่างผิวเผิน

 

 

ในดวงตาของซูหลีเห็นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ใบหน้ากลับมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก

 

 

ในชั่วขณะนี้ทำให้นางฉุกคิดถึงเรื่องบางเรื่อง

 

 

ยามที่มีมือสังหารลอบฆ่าฉินเย่หานที่บ่อน้ำพุร้อนเมื่อครู่นี้

 

 

ไยฉินมู่ปิงถึงทราบเรื่องที่ฉินเย่หานถูกลอบสังหารรวดเร็วถึงขนาดนี้ ภายนอกเขาแสดงท่าทีเป็นคุณชายเจ้าสำราญที่ไม่แยแสต่อเรื่องใดมาโดยตลอด เรื่องที่ทำให้ผู้คนจับจ้องเช่นนี้ เขาคงจะไม่ทำกระมัง

 

 

หากเขากระทำเช่นนี้ เกรงว่าแผนการที่วางไว้อย่างแยบยลของเขานั้น คงจะต้องเปิดโปงออกมาแล้ว

 

 

นอกจากนี้แล้ว ก็มีเพียงแค่…

 

 

ซูหลีคิดได้ดังนั้น แววตาจึงเปลี่ยนไปอย่างห้ามมิได้ มีเพียงแค่หัวหน้าที่อยู่เบื้องหลังของมือสังหารเหล่านั้นที่จะทราบเรื่องนี้อย่างชัดเจน!

 

 

นางคิดค่อนข้างจะลึกซึ้ง โดยเฉพาะหลังจากได้รับคำตอบเช่นนี้จากชิงหรง นางก็อดเอนเอียงคิดไปทางเรื่องเหล่านี้มิได้

 

 

ซูหลีช้อนสายตาขึ้นมองฉินเย่หาน

 

 

ไม่รู้ว่าในใจของพ่อลูกจิ้งหนานอ๋องนั้นกำลังคิดสิ่งใดอยู่ ส่วนฉินเย่หานนั้นมองเรื่องที่สองพ่อลูกผู้นี้กระทำได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้วใช่หรือไม่

 

 

มิเช่นนั้นไยชิงหรงผู้นี้ถึงเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา

 

 

“ฝ่าบาทๆ! มิใช่เช่นนี้เพคะ นางพูดจาส่งเดช โยวหรานได้รับพระราชเสาวนีย์จริงๆเพคะ…”

 

 

“จริงรึ” ฉินเย่หานไม่รอให้นางพูดจบ ก็พูดขัดนางทันที

 

 

เป็นเพราะมือข้างหนึ่งของเขาได้รับบาดเจ็บ จึงมิได้ลุกขึ้นได้อย่างคล่องตัวขนาดนั้น ทว่ากลับมิได้ส่งผลกระทบต่อกลิ่นอายที่ดูแคลนทุกสิ่งในใต้หล้าของเขา

 

 

อู๋โยวหรานพลันสูญเสียความสามารถในการพูดอย่างฉับพลัน นางเพียงมองเขาอย่างตื่นตระหนก

 

 

“หวงเผยซานส่งนางกลับไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหากมิได้รับคำสั่ง ห้ามออกมาภายนอก หากขัดขืน…” ฉินเย่หานพูดถึงตรงนี้ พลันหยุดชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นตวัดสายตามองไปที่อู๋โยวหรานปราดหนึ่ง

 

 

สายตาที่เขามองมาเช่นนี้ทำให้อู๋โยวหรานรู้สึกเย็นชาไปทั่วทั้งร่างกาย ประหนึ่งทั้งร่างถูกแช่แข็งไว้มิปาน

 

 

“ให้ลงโทษตามโทษฐานที่หลอกลวงจักรพรรดิ!” ริมฝีปากที่เย็นดุจน้ำแข็งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

 

 

“พ่ะย่ะค่ะ” หวงเผยซานที่อยู่ด้านข้างขานรับ อู๋โยวหรานที่ถูกสายตาของฉินเย่หานทำให้ตกใจ หลังจากนางได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็มิได้ร่ำไห้หรือก่อความวุ่นวาย

 

 

“สั่งให้โจวเว่ยส่งคนไปเชิญฉินมู่ปิงเข้ามา!” คำพูดท้ายสุด ฉินเย่หานพูดเน้นทีละคำ ทว่ากลับทำให้ผู้คนรู้สึกไม่เป็นสุขบางอย่าง

 

 

ซูหลีได้ยินดังนั้น ดวงตาจึงวูบไหวอย่างรุนแรง เรื่องนี้ดำเนินไปเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก