ตอนที่ 454 อยากจะพูดอะไรกันแน่ / ตอนที่ 455 เขารักคุณจริงหรือเปล่า

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 454 อยากจะพูดอะไรกันแน่ 

 

 

           “แต่ตอนที่ฉันอยู่กับเขา เขาไม่ได้ทำร้ายฉันนะคะ” เธอเอ่ยเสียงอ่อย 

 

 

           ความจริงใช่ว่าเขาไม่ได้ทำร้ายเธอ เพียงแต่เธอขัดขืนเขาสุดฤทธิ์ อีกทั้งจิ้นหยวนมาช่วยเธอเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี ทำให้เขาไม่มีโอกาสทำร้ายเธอต่างหาก 

 

 

           และเธอเชื่อว่าในสถานการณ์เช่นนี้ อินรุ่ยน่าจะไม่มีปัญญาอะไรทำร้ายเธอได้ 

 

 

           จิ้นหยวนจ้องเธอนิ่ง ไม่คิดจะเปิดโปงคำโกหกของอินรุ่ย “คุณแน่ใจนะ?”        

 

 

           เธอพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันยังมีคำถามอีกตั้งมากมายที่อยากจะได้คำตอบ ถ้าไม่รู้ความจริง ต่อไปฉันคงนอนไม่หลับแน่” 

 

 

           สีหน้าจิ้นหยวนค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นปลงอนิจจัง “ก็ได้” 

 

 

           เสี้ยววินาทีที่เขาตอบอนุญาต ดูเหมือนเธอจะเห็นแววตาที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไป ทั้งลึกล้ำ ทั้งเหนื่อยหน่าย ราวกับต้องยอมรับชะตากรรมอย่างเสียไม่ได้ 

 

 

           เธอชักสงสัย ขณะที่กำลังจะอ้าปากถามนั้น แววตาซับซ้อนกลับหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยและรวดเร็ว ราวกับสิ่งที่เธอเพิ่งเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น 

 

 

           เธอลังเลเล็กน้อย จากนั้นโยนความสงสัยเอาไว้เบื้องหลัง 

 

 

           เธอตอบขอบคุณเสียงเบา พอเงยหน้าหันไปมอง กลับเห็นอินรุ่ยนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว เขาดึงกรรไกรที่ปักอยู่ตรงต้นขาออก เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมา เธอรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนจนต้องรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน 

 

 

           สถานการณ์ก่อนหน้านี้เธอถูกคนจับตัวแน่นจนใช้แรงเยอะไม่ได้ เธอจึงแทงกรรไกรลงบนต้นขาเขาไม่ลึกนัก แต่ตอนหลังเธอเตะซ้ำจนกรรไกรฝังลึก 

 

 

           กระนั้นเขาก็ไม่ร้องสักแอะ อดทนจนกระทั่งตอนนี้ถึงนึกจัดการแผลของตนเอง จนทำให้เธอรู้สึกนับถือความอดทนของเขาเป็นอย่างมาก 

 

 

           เพราะจิ้นหยวนรับปากสิ่งที่อินรุ่ยเรียกร้องแล้ว จึงไม่มีใครขัดขวางการกระทำของเขาอีก เพียงแค่ยืนมองเฉยๆ เท่านั้น 

 

 

           อินรุ่ยดึงกรรไกรออกแล้วเช็ดเลือดออกจนหมดอย่างใจเย็น จากนั้นวางกรรไกรลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น 

 

 

           เขาลุกขึ้นเดินหาผ้าพันแผล จากนั้นเริ่มลงมือพันแผลที่ต้นขาให้ตัวเอง 

 

 

           ลูกน้องเขาเห็นแล้วรีบหยิบขวดยาออกมาให้เขา 

 

 

           ลูกน้องสาละวนทำแผลให้เขา จิ้นหยวนยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเฉยชา 

 

 

           อินรุ่ยทำแผลเสร็จแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองพวกเขา “ตัดสินใจได้หรือยัง?” 

 

 

           จิ้นหยวนค่อยๆ วางเธอลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างตัว จากนั้นส่งสายตาให้ลูกน้องตน 

 

 

           ลูกน้องจิ้นหยวนเดินหน้าเข้าไปใกล้ จากนั้นมัดตัวอินรุ่ยกับเก้าอี้ราวกับข้าวต้มมัดชิ้นหนึ่ง 

 

 

           เธอมองจิ้นหยวนด้วยความประหลาดใจ เขาลูบศีรษะเธอเบาๆ “ระวังตัวด้วย” 

 

 

           เอ่ยจบแล้วพาลูกน้องเดินออกจากห้อง รวมทั้งลูกน้องของอินรุ่ยที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ด้วย 

 

 

           เพียงชั่วครู่ ในห้องก็เหลือเพียงเธอกับอินรุ่ยสองคนเท่านั้น 

 

 

           อินรุ่ยยิ้มแปลกๆ “ดูเหมือนเขาจะดีกับคุณมากเลยนะ ทั้งๆ ที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขของผมแท้ๆ แต่พอคุณพูดแค่ไม่กี่คำ เขาก็ยอมแล้ว” 

 

 

           “ไม่ต้องพูดมาก แล้วเรื่องที่คุณรับปากฉันล่ะ?” เธอมองเขาอย่างเย็นชา 

 

 

           เขาหัวเราะเบาๆ ถูกจับมัดจนขยับเขยื้อนไม่ได้แล้วเขาก็ยังอุตส่าห์ทำตัวตามสบายจนเธออดนับถือสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งของเขาไม่ได้ 

 

 

           “อย่าใจร้อนสิ ผมถูกเขาทำขนาดนี้แล้ว อย่าว่าแต่ทำร้ายคุณเลย แค่จะขยับตัวยังทำไม่ได้เลย เฮอะ เขานี่ใช้ได้เลยนะ มิน่า คุณถึงไม่ยอมไปกับผม” เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ น้ำเสียงฟังดูเสียดาย แต่ก็เหมือนจะแฝงความหมายอื่นเอาไว้ด้วย 

 

 

           เธอชักหมดความอดทน จึงเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่? ถ้ายังพูดแต่เรื่องไร้สาระพวกนี้อยู่อีกล่ะก็ ฉันไปแน่” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 455 เขารักคุณจริงหรือเปล่า 

 

 

           เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าเขารักคุณจริงเหรอ? เขาไม่เคยโกหกหลอกลวงคุณเลยอย่างนั้นเหรอ?” 

 

 

           “ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง? อยากจะยุให้เราแตกคอกันละสิ? วิธีนี้เด็กไปหน่อยมั้ง ฉันไม่หลงกลคุณหรอก!” เธอจ้องเขาตาเขม็ง 

 

 

           “จริงเหรอ? คุณไม่สนใจจริงๆ เหรอ? แล้วถ้าผมมีหลักฐานว่าเขามีเรื่องเยอะแยะที่กำลังปิดบังคุณอยู่ล่ะ?” 

 

 

           “ฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี!” เธอลุกขึ้นพรวด “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ที่แท้คุณก็หลอกฉันเหมือนเดิม ความจริงคุณก็แค่อยากจะยุแยงตะแคงรั่ว คุณชักจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ”  

 

 

           เธอสาวเท้าเดินไปยังไปประตูห้อง ขณะที่กำลังจะเปิดประตูนั้น จู่ๆ เสียงเนิบนาบของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ผมรู้ว่าจิ้นหยวนรออยู่นอกประตู แค่คุณเอ่ยปากเขาก็จะเข้ามาพาตัวคุณออกไปทันที แต่ว่า… คุณไม่อยากรู้จริงๆ เหรอว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดเรื่องอะไรกับเขาบ้าง? ไม่อยากรู้จริงๆ เหรอว่าพ่อคุณอยู่ที่ไหน?” 

 

 

           เธอชะงักมือ หยุดการกระทำทุกอย่าง 

 

 

           “คุณเชื่อใจเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ? เชื่อว่าเขาบอกคุณทุกเรื่อง? ไม่หรอกมั้ง? อย่างเช่น เรื่องเขากับผู้หญิงคนนั้น ผมพูดถูกไหมล่ะ?” 

 

 

           เธอสูดหายใจลึก หมุนตัวกลับ “คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่?” 

 

 

           อินรุ่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้ แสงและเงาตกกระทบลงบนใบหน้างดงามนั้น จนความงดงามสดใสเลือนหาย แปรเปลี่ยนเป็นความอึมครึมและยากจะคาดเดาแทนที่ 

 

 

           เขาชายตามองเธอนิ่ง “จิ้นหยวนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพ่อคุณอยู่ไหน แต่เขากลับไม่เคยบอกคุณเลย” 

 

 

           “เป็นไปไม่ได้ คุณโกหก!” 

 

 

           เธอจ้องเขาตาเขม็งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “สิ่งที่คุณพูดมันไม่จริง!” 

 

 

           อินรุ่ยยังคงเอ่ยเนิบนาบสีหน้าไม่เปลี่ยน “ถ้าคุณไม่เชื่อ เดี๋ยวคุณก็ลองถามเขาดูสิ ดูซิว่าเขาจะตอบว่ายังไง” 

 

 

           “คุณโกหก มันไม่จริง” เธอมองหน้าเขาแล้วเริ่มจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ร่างกายโงนเงนแทบล้มทั้งยืน 

 

 

           ทำไมจิ้นหยวนถึงไม่เคยบอกเธอเรื่องคุณพ่อ? หรือว่า… 

 

 

           “ความจริงพ่อคุณตายแล้ว และคนสุดท้ายที่พบเขาก็คือจิ้นหยวน ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองถามเขาดูสิ” เขาขยับกายเล็กน้อย สภาพเขาในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวมาก “ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง รู้แต่ว่าเขาตายหลังจากจิ้นหยวนจากไปแล้ว และผมเป็นคนฝังเขาเองกับมือ” 

 

 

           “เป็นไปไม่ได้! ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริง แล้วทำไมเขาถึงไม่เคยบอกฉันสักคำ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” 

 

 

           “ผมบอกแล้วไง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปถามเขาดู เขาต้องมีคำตอบให้คุณแน่ แต่ผมไม่รู้นะว่าจะเป็นคำตอบที่ทำให้คุณพอใจหรือเปล่า” เขายักไหล่ “เรื่องนี้คงเก็บอยู่ในใจเขานานมากแล้ว ผมล่ะอยากจะเห็นจริงๆ ว่าเขาจะทำหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าเรื่องนี้ถูกเปิดโปงแล้ว แต่น่าเสียดายที่ผมคงไม่มีโอกาสได้เห็น” 

 

 

           เขาถอนหายใจ แต่สายตากลับจับจ้องเธอไม่วางตาแม้แต่วินาทีเดียว เห็นสีหน้าซีดเผือดของเธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยความสงสาร “ใครใช้ให้คุณคบกับเขาล่ะ เขาหลอกคุณขนาดนี้แล้วคุณก็ยังเต็มใจให้เขาหลอกอยู่อีก ผู้หญิงหนอผู้หญิง ไม่เคยเห็นค่าของผู้ชายที่ทำดีกับตัวเองจริงๆ” 

 

 

           เขาส่ายศีรษะพลางทอดถอนใจ 

 

 

           ปกติเฉียวซือมู่ไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเขาอยู่แล้ว คราวนี้เธอยังคงไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของเขาสักเท่าไหร่ แต่เห็นสีหน้าท่าทางจริงจังของเขาแล้วกลับเริ่มเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งขึ้นมาอีก 

 

 

           ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุณพ่อไม่ค่อยดีนัก จิ้นหยวนรู้เรื่องนี้ดี ถ้าสิ่งที่อินรุ่ยพูดเป็นความจริง จิ้นหยวนพบคุณพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วเหตุใดเขาจึงไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอสักคำ?