ตอนที่ 456 เป็นพ่อแล้ว / ตอนที่ 457 ไม่ต้องคิดมาก

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 456 เป็นพ่อแล้ว 

 

 

           เหตุใดเขาจึงต้องปิดบังเธอด้วย? 

 

 

           ในใจเธอเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ทำให้เธอไม่อยากจะพูดอะไรอีก เธอเอ่ยกับเขาเสียงเย็นชา “ฉันไม่เชื่อสิ่งที่คุณพูดแม้แต่คำเดียว เพราะฉะนั้น ตอนนี้คุณหุบปากได้แล้ว” 

 

 

           สิบนาทีผ่านไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมจิ้นหยวนจึงไม่เตือนพวกเธอ 

 

 

           อินรุ่ยยิ้มบางๆ มองดูเธอหมุนตัวเดินจากไป 

 

 

           “อย่าลืมคำสัญญาของคุณล่ะ” ขณะที่เธอกำลังเปิดประตู จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น 

 

 

           เธอชะงักมือ ไร้คำตอบใดๆ 

 

 

           จิ้นหยวนยืนสง่าผ่าเผยอยู่นอกห้องและกำลังคุยอะไรบางอย่างกับลูกน้องอย่างใจเย็น 

 

 

           เห็นเธอเดินออกมาจากห้องจึงเดินเข้าไปหาเธอ เขามองสำรวจเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ จึงเอ่ยขึ้น “คุณออกมาแล้ว” 

 

 

           เธอตอบ “อืม” เบาๆ แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก 

 

 

           จิ้นหยวนเองก็ไม่ได้ถามว่าพวกเธอคุยอะไรกันบ้าง หากแต่จูงมือเธอเอาไว้ “เรากลับกันเถอะ คุณจะได้พักผ่อนด้วย” 

 

 

           น้ำเสียงเขาอ่อนโยนมาก เขาเอ่ยพลางจับจ้องหน้าท้องเธอพลาง 

 

 

           เธอเข้าใจทันทีว่าเขารู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์แล้ว เวลาเช่นนี้เธอควรจะส่งยิ้มหวานให้เขา แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอพยายามแล้วแต่กลับยิ้มไม่ออกเสียที คำพูดของอินรุ่ยยังหนักอึ้งอยู่ในอก จนเธอรู้สึกทรมานเหลือแสน 

 

 

           จิ้นหยวนยิ้มหน้าบานราวกับไม่เห็นสีหน้าสับสนของเธอ เขาพาเธอเดินลงบันได จากนั้นขึ้นรถที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว 

 

 

           เขาไม่ถามสักคำว่าเธอกับอินรุ่ยคุยอะไรกันในห้อง ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ 

 

 

           ท่าทางเช่นนั้นของเขา ทำให้เธอที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายพูดอะไรไม่ออกทันที 

 

 

           ขณะที่เธอกำลังสับสนลังเลอยู่นั้น เธอต้องสะดุ้งเฮือกเพราะจู่ๆ มือใหญ่ของเขาก็วางลงบนหน้าท้องเธอ เขาลูบหน้าท้องเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน “คุณเหนื่อยไหม? รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” 

 

 

           สายตาเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ เสี้ยววินาทีที่เขารับรู้ข่าวดีนี้ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ เธอที่ถูกหมอวินิจฉัยว่ามีลูกไม่ได้กลับท้องแล้ว นั่นเป็นลูกของเขา ลูกคนแรกของเขา! 

 

 

           เขาตื่นเต้นดีใจมากจนอกแทบระเบิด ลูบหน้าท้องเธอเบาๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ 

 

 

           ลูกของเขา ลูกของเขากำลังเจริญเติบโตอยู่ในนี้ อีกสิบเดือนก็จะเห็นหน้าลูกแล้ว! 

 

 

           นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดเลย! 

 

 

           ชั่วขณะนี้ เขารู้สึกว่าความทุกข์ต่างๆ หายวับไปกับตา เหลือเพียงความปีติยินดีเต็มแน่นในอก 

 

 

           แม้แต่เรื่องที่เฉียวซือมู่แสดงออกชัดเจนว่ามีเรื่องไม่สบายใจเขาก็ไม่เอามาใส่ใจ 

 

 

           เฉียวซือมู่มีเรื่องอยากจะพูดกับเขา แต่พอเห็นท่าทางดีใจมากของเขาแล้วกลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ เธอสังหรณ์ใจว่า หากเธอพูดมันออกมา จะทำให้บรรยากาศน่ายินดีเช่นนี้หายวับไปกับตา ดังนั้น หลังจากใคร่ครวญอย่างดีแล้ว จึงตัดสินใจไม่พูดดีกว่า 

 

 

           รถถูกจอดลงหน้าคฤหาสน์ จิ้นหยวนลงจากรถก่อน จากนั้นอุ้มเธอลงจากรถอย่างระแวดระวัง 

 

 

           เธออ้าปากจะขัดขืน แต่พอเห็นสีหน้าห้ามปฏิเสธของเขาแล้วจึงปิดปากเงียบ 

 

 

           เขาอุ้มเธอกลับขึ้นห้อง หลังจากเข้าไปในห้องแล้วเธอถึงกับตกอกตกใจยกใหญ่ ทำไมในห้องเธอถึงมีคนมากมายแบบนี้? 

 

 

           จิ้นหยวนวางเธอลงบนเตียงอย่างระแวดระวัง จากนั้นกวักมือเรียกคนที่ยืนอยู่ข้างตัว คนสองคนก้าวเข้าไปหาเขาทันที ในมือถืออุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้ 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 457 ไม่ต้องคิดมาก 

 

 

           เขาเอ่ยกับเธออย่างระมัดระวัง “นอนลงก่อน เดี๋ยวผมให้พวกเขาตรวจร่างกายคุณ กันไว้ดีกว่าแก้” 

 

 

           เธอกะพริบตาปริบๆ อย่างยินยอม เขาคลี่ยิ้มสวยแล้วถอยออกไป แพทย์จะได้ตรวจร่างกายเธอสะดวก 

 

 

           นี่เป็นแพทย์ที่ดีที่สุดที่เขาตั้งใจเชิญมาเพื่อตรวจอาการเธอ 

 

 

           หลังจากตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอเก็บอุปกรณ์แล้วเอ่ยกับเธอ “ถึงร่างกายคุณจะอ่อนล้าไปหน่อย แต่เด็กในท้องแข็งแรงดี สบายใจได้ ไม่มีปัญหาอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ” 

 

 

           เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก แม้ยังมีเรื่องของจิ้นหยวนที่ยังค้างคาใจอยู่ แต่เธอก็ให้ความสำคัญกับลูกในท้องมากกว่า เพราะลูกในท้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอเอง 

 

 

           จิ้นหยวนได้ยินแล้วสีหน้าผ่อนคลายขึ้น จากนั้นส่งคุณหมอทั้งสองออกจากห้อง 

 

 

           ในห้องเหลือเพียงสาวใช้สองคน ดูเหมือนพวกเธอจะได้รับคำสั่งพิเศษ เมื่อเห็นเธอขยับตัวจะลุกขึ้นนั่ง จึงรีบเข้าไปพยุงเธอเบาๆ จากนั้นวางหมอนเอาไว้ข้างหลังเธอ ทุกการกระทำอ่อนโยนราวกับกำลังดูแลคนท้องแก่เจ็ดแปดเดือนก็ไม่ปาน 

 

 

           เธอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ฉันไม่เป็นไร พวกเธอไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้” 

 

 

           สาวใช้หน้ากลมเอ่ยขึ้นอย่างเขินๆ “พ่อบ้านกำชับเป็นพิเศษว่าตอนนี้มีคุณคนเล็กอยู่ในท้องคุณนาย ห้ามทำให้คุณนายเหนื่อยเด็ดขาด เพราะฉะนั้น เราต้องดูแลคุณนายให้ดีที่สุดค่ะ” 

 

 

           “ฉันเป็นคนท้องนะ ไม่ใช่คนพิการ ไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้” 

 

 

           เธอส่ายศีรษะเบาๆ 

 

 

           สาวใช้อีกคนเห็นสีหน้าไม่ค่อยพอใจของเธอ จึงรีบไปรินน้ำอุ่นใส่แก้วแล้วยกมาให้เธอ 

 

 

           เธอรับแก้วน้ำมาดื่ม น้ำอุ่นไหลผ่านลำคอ ทำให้เธอรู้สึกสบายมาก 

 

 

           ก่อนหน้านี้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่ทำให้ร่างกายตึงเครียดไปหมด พอได้อยู่นิ่งๆ แล้วจึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

           เธอขยับกายเล็กน้อย “พวกเธอออกไปก่อนเถอะ” 

 

 

           “แต่ว่า…” สาวใช้หน้ากลมลังเลเล็กน้อย สาวใช้รูปร่างผอมบางอีกคนรีบดึงแขนเสื้อเธอเบาๆ 

 

 

           เฉียวซือมู่ยิ้มบางๆ ให้พวกเธอ แต่สีหน้ากลับเด็ดขาด 

 

 

           ในที่สุดสาวใช้ทั้งสองก็ต้องยอมแพ้ พวกเธอค่อยๆ เดินออกจากห้อง 

 

 

           เธอลุกขึ้นนั่ง บิดขี้เกียจ จากนั้นหยิบเสื้อผ้าเตรียมตัวอาบน้ำ 

 

 

           ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำนั้น จู่ๆ เสียงหนึ่งดังลอยมาจากทางด้านหลัง “คุณจะอาบน้ำเหรอ?” 

 

 

           เธอตกใจสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับไปมอง “คุณเดินให้สุ้มให้เสียงหน่อยไม่ได้หรือไง ทำฉันตกใจอีกแล้วนะ” 

 

 

           จิ้นหยวนมองเธอแวบหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจนี่นา” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่น้ำเสียงกลับฟังดูไม่รู้สึกผิดสักนิด 

 

 

           เธอครางเสียงฮึเบาๆ ในใจยังเต็มไปด้วยคำถามมากมาย รอให้อาบน้ำเสร็จก่อนแล้วค่อยถามก็ได้ 

 

 

           เขามองตามแผ่นหลังเธอที่หายลับเข้าไปหลังประตูห้องน้ำแล้วรอยยิ้มหายวับไปในบัดดล 

 

 

           เฉียวซือมู่อาบน้ำเสร็จแล้วรู้สึกสบายตัวมาก ชั่วขณะที่เธอเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ จู่ๆ ร่างกายเธอก็โงนเงนเพราะหน้ามืด 

 

 

           จิ้นหยวนรีบวิ่งเข้าไปรับตัวเธอเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี 

 

 

           เธอจับหน้าผากพลางมุ่นหัวคิ้วน้อยๆ “ฉันเหนื่อยนิดหน่อยน่ะค่ะ” 

 

 

           เขาวางตัวเธอลงบนเตียงอย่างเงียบๆ จากนั้นลูบหน้าผากเธอเบาๆ “ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อนเยอะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก” 

 

 

           เธอเหลือบมองเขา แอบคิดในใจ ไม่คิดมากไม่ได้หรอก 

 

 

           จิ้นหยวนดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาฝังจุมพิตลงบนหน้าผากเธอเบาๆ “โอเค ผมรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายที่อยากจะถามผม ผมจะตอบคำถามคุณทุกอย่าง โอเคไหม?” 

 

 

           เธอเม้มริมฝีปาก ลังลังชั่วครู่จึงเอ่ยขึ้น “เรื่องระหว่างคุณกับเจียงจื่อเสียน มันเป็นยังไงกันแน่?”