ดวงตาของกวนดุงหลิวนั้นกรอกไปมาขณะที่เขาหลังหลับตา

“ ข้าจะรู้สึกสงบใจได้อย่างไร … นางเป็นลูกสาวของสกุลเรา แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นกับนาง และหากสกุลของข้ามีพัลงอำนาจพอที่จะปกป้องนาง  ข้าคงจะพยายามไปแล้ว … แต่เมื่อสกุลของเราไม่สามารถปกป้องนางได้ การที่ต้องสละคนเหล่านั้นไปจึงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ! ”

“ ไร้สาระ ! เจ้ายังไม่แม้แต่จะลอง เจ้าไม่แม้แต่จะลองพยายาม แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเจ้าไม่สามารถทำได้ ? เจ้านั้นสังเวยความสุขของลูกสาว เจ้ายังเรียกตัวเองว่าผู้ชายได้อีกหรือ ? เจ้ามันขี้ขลาด ! ”

จวินโม่เซี่ยพูดย้อนไปอย่างโมโห

“ เจ้าเพียงแค่กลัวความแข็งแกร่งของศัตรูของเจ้า ลูกสาวของเจ้านั้นไม่แข็งแกร่งเท่ากับกองกำลังของสกุลของเจ้า แต่เจ้ายังใช้นางเพื่อเป็นเกราะป้องกัน ? เจ้าใช้นางเพื่อปกปิดความขี้ขลาดของเจ้า ! ”

สีหน้าของกวนดุงหลิวยังคงสงบนิ่ง

“ หากข้าจะต้องเสียสละใครในสกุลเพื่อผลประโยชน์กับสกุล และข้าถือว่ามันจะเป็นราคาที่เหมาะสม หากข้าสามารถสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องสกุลของข้า … ข้าก็หวังว่าจะให้มีวันนั้น แต่หากลี่จื้อเทียนไม่พยายามจะเอาตัวลูกสาวข้าไป และหากข้าเดิมพันโชคชะตาของทั้งสกุลไว้กับนาง … และข้าแพ้ แล้วมันจะมีความชอบธรรมอะไร ? สิ่งที่ข้าสามารถเลือกได้ คือการปกป้องสกุลของข้า และความสัมพันธ์ระหว่างสองสกุล และดังนั้นเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับความสัมพันธ์ และความปลอดภัยของสกุลจวิน ข้าขอให้เจ้าอย่าได้ใส่ใจ ! ”

ต้องยอมรับว่า กวนเซียงฮั่นนั้นเข้าใจข้อจำกัดของเขาป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าสกุลกวน และคนนับพันที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา และแม้แต่เขาต้องเผชิญกับสถาณการณ์ที่ยากลำบากนี้ เขาก็ยังยอมที่จะทิ้งความสัมพันธ์กับสกุลจวิน ซึ่งมีคุณค่าพอที่จะยกย่อง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกระทำของเขานั้นมีค่าพอที่จะยกย่องสรรค์เสริญ แต่การยอกย่องก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องในสถานการณ์นี้ !

“ หัวหน้าสกุลกวนกำลังพูดถึงโชคชะตาของลูกสาว โชคชะตาของพี่สะใภ้ข้า ! แต่ตอนนี้นางเป็นส่วนหนึ่งของสกุลจวิน นางมิใช่ลูกสาวของสกุลกวนอีกแล้ว ! และนางยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสกุลจวินจนถึงวันตาย แม้แต่วิญญาณของนางก็เป็นส่วนหนึ่งของสกุลจวิน ! นางเป็นคนที่แต่งงานแล้ว และไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับสกุลของเจ้าแล้วในตอนนี้ ! มันจึงไม่ถูกต้องที่เจ้าจะได้รับการตัดสินใจในโชคชตาของนาง ! ”

เสียงของจวินโม่เซี่ย ดังก้องไปทั่วทั้งห้อง

เขายิ้มอย่างจริงจัง ขณะที่ดูหมิ่นต่อไป

“ สำหรับสกุลของเจ้า สกุลของเจ้าไร้ประโยชน์ขนาดใหนกันถึงขนาดที่ไม่สามารถปกป้องหญิงสาวของพวกเจ้าได้ ? เจ้าควรจะเอามีดจ่อคอหอยนางและจบมันลงเสีย ! ”

กวนเซียงฮั่นเป็นที่ต้องการของเขตซื่นฮั่น และหากความต้องการของเขาไม่ได้รับการตอบสนอง พวกเขาจะทำลายสกุลจวินและสกุลกวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ! ไม่มีผู้ใดกล้าขัดคำสั่งของเขตซื่อฮั่น !

ดังนั้น การเลือกในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของกวนดุงหลิว และการไร้สิ้นหนทางนั้นเป็นอะไรมากกว่าการจะเข้าใจ !

ผู้ชายจำนวนมากเลือกตัวเลือกนี้เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงและพ่อแม่ของพวกนางนั้นเป็นดั่งเช่นในยุคนี้ หากทั้งสองสกุลนั้นสามารถอยู่รอดไปได้ด้วยการแลกกับความสุขของผู้หญิงแล้วละก็ คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกตัวเลือกเดียวกับกวนดุงหลิว หรืออย่างน้อยก็ไม่ปฏิเสธตัวเลือกของเขา

จากทั้งหมดนี้ นางก็เป็นผู้หญิง ! มันไม่สำคัญหากนางเป็นลูกสาวของพวกเขา ….

อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองมีชีวิตอยู่อย่างอับอาย !

หากผู้ชายในสกุลของข้าไม่แม้แต่จะสามารถปกป้องผู้หญิงได้ แล้วเราจะมีผู้ชายเช่นนั้นไปเพื่ออะไร ? อะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ด้วยความอับอาย ?

สำหรับจวินโม่เซี่ยนี่มิใช่คำถามที่มีต่อชื่อเสียง หรือการอยู่รอด หรือความซื่อสัตย์ของกวนดุงหลิว  นี่คือคำถามในหลักศีลธรรมในชีวิตของเขา !

บางทีการตัดสินใจนี้อาจจะโง่เขลา และบางครั้งการตัดสินใจนี้อาจจะนำพาสกุลกวนและสกุลจวินไปสู่ความพินาศ แต่สำหรับจวินโม่เซี่ย … เรื่องนี้ ไม่พื้นที่ให้แก่การประณีประนอม !

แม้ว่าการตัดสินใจนี้จะเป็นราคาของชีวิตของคนนับล้านในอาณาจักร จวินโม่เซี่ยก็จะไม่เปลี่ยนใจ !

อยู่หรือตาย ! มันจะมีความหมายอะไร ?

พวกเรายังหายใจ ดังนั้นบางคนก็สามารถจุดธูปที่อนุสรณ์สถานของเราได้ !

หากข้าแลกความไร้เดียงสาของหญิงสาวเพื่อความปลอดภัยของข้า ข้าก็อาจจะตาย ไม่ว่านางจะไร้เดียงสาหรือไม่ เรื่องนี้มันก็จะคือความอัปยศอย่างมาก !

และคนจริงจะต้องไม่ยืนอยู่ด้วยความอับอาย !

และตอนนี้ ทั้งหมดนี่ก็เกิดขึ้นต่อหน้าจวินโม่เซี่ย !

หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นต่อหน้าของเขา และจวินโม่เซี่ยรู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นที่ใหนสักแห่ง เขาก็จะไปทำการลงโทษ ผู้ที่กดขี่ผู้หญิงในสกุลที่อ่อนแอกว่าเพื่อให้แต่งงานกับลูกชายของเขา แต่ก่อนอื่นเขาจะทำลายสกุลของคนที่ส่งลูกสาวของพวกเขาไปก่อน !

คนเช่นนั้นไม่มีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ! อะไรคือความหมายของชีวิต หากผู้นั้นได้สูญเสียเกียรติไปแล้ว ? เจ้าไม่เห็นคุณค่าของเกียรติของชีวิตผู้อื่นเลยหรือ ? ถ้าอย่างนั้น ข้าจะทำลายเจ้า ! และจากนั้นข้าก็จะปล่อยให้เจ้าอยู่ต่อไป ! มีชีวิตอยู่อย่างอัปยศอดสู !

ความคิดของมือสังหารจวินนั้นแปลกประหลาดมากสำหรับคนอื่น และเห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างไปจากความคิดเห็นของโลกใบนี้ ดังนั้น มันจึงแตกต่างอย่างมากกับมุมมองของคนส่วนใหญ่ …

“ นายน้อยสาม เจ้าจะนำพามความพินาศมาสู่สกุลจวิน ! เจ้าเคยคิดไหมว่าเจ้าจะนำพาความหายนะที่ใหญ่หลวงขนาดใหนมาสู่สกุลจวิน ? และสกุลจวินก็เป็นสกุลของเจ้า ! ”

กวนดุงหลิวพูดออกมาอย่างจริงจังด้วยความโกรธ

“ ข้าเป็นทายาทเพียงคนเดียวของสกุลจวิน ! อนาคตของสกุลจวินอยู่ในมือของข้า หากการล่มสลายของสกุลจวินนั้นมาจากน้ำมือของข้า ข้าก็จะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น การตัดสินใจของข้าคือการตัดสินใจของสกุลจวิน ! ”

จวินโม่เซี่ยหรี่ตาเพ่งมองไปยังกวนดุงหลิวขณะที่เขาพูดแต่ละคำออกมาให้ช้ามากพอที่ชายผู้นั้นจะเข้าใจแต่ละคำอย่างชัดเจน

“ หัวหน้าสกุลกวน สกุลจวินไม่เห็นด้วยที่จะถอนการหมั้น ! สกุลของท่านนั้นไม่มีสิทธิ์ หรือความสัมพันกับกวนเซียงฮั่น ดังนั้นได้โปรดอย่ามาก้าวก่ายเรื่องนี้ ! ”

“ หากอำนาจของสกุลจวินไม่สามารถที่จะปกป้องนางได้ ดังนั้น ก่อนที่สกุลของข้าจะถูกทำลายไป ข้าก็จะสังหารนางด้วยตัวเอง ! ความตายนั้นดีกว่า การมีชีวิตอยู่ด้วยความอับอาย ! ”

คำพูดที่ดื้อรั้นและจริงจังของจวินโม่เซี่ยนั้นก่อให้เกิดอารมณ์มากมายขึ้นในใจของกวนเซียงฮั่น

เขาพร้อมที่จะให้คนเป็นพันเป็นหมื่นตายเพื่อคนคนเดียว ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร นางก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของสกุลจวินเสมอ !

นี่คือธรรมชาติของจวินโม่เซี่ย ไม่ว่าจะในชีวิตนี้ หรือชีวิตก่อนหน้า เขาก็จะทำเช่นเดียวกันนี้ ! แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวของกับกวนเซียงฮั่น เขาก็จะทำเช่นเดิม ! แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะทำเช่นเดิม !

น้ำตาหลั่งไหลลงมาจากดวงตาของกวนเซี่ยงฮั่น

นางพร้อมที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง ! เขตซือฮั่นเป็นหนึ่งในก๊กที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ แม้แต่กลุ่มที่มีฝีมือและมีผู้คนที่ทรงพลังก็ยังไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของพวกเขา ! กวนดุงหลิวยืนยันเช่นนั้น แม้แต่จวินวูอี้ก็ไม่สามารถที่จะหยุดเรื่องนี้ได้ จากทั้งหมดนี้ เซียงฮั่นเป็นลูกสาวของสกุลกวน และเมื่อการหมั่นได้รับการถอนออกไป สกุลจวินก็ไม่สามารถควบคุมชีวิตหรืออนาคตของนางได้ !

เซียงฮั่นตัดสินใจที่จะเสียสละเพื่อความอยู่รอดของสกุลของนาง และเตรียมฆ่าตัวตายเมื่อไปยังเขจซื่อฮั่น !

นางไม่เคยคาดคิดว่าจวินโม่เซี่ยจะยืนหยัดเพื่อนางในเวลานี้ ! นางจะดูถูกน้องเขยของเขาเสมอ และได้ทารุณเขาในหลายเดือนที่ผ่านมา … นางไม่เคยคิดว่า น้องเขยที่ไร้มารยาทของนางจะสามารถพูดอะไรเช่นนี้ได้ !

 เขายอมรับที่จะเป็นคนผิดหากสกุลทั้งสองของเราถูกทำลาย … แม้จะต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่น่าเศร้าเช่นนี้ ! เขาก็เต็มใจที่จะสละชีวิตตัวเอง และคนในสกุลทั้งหมด !

กวนเซียงฮั่นเห็นได้ชัดจากคำพูดของจวินโม่เซี่ย ว่าเขายอมเสียสละทุกสิ่งอย่างก่อนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้แก่ศัตรู !

เชียงฮั่นอยากจะร้องไห้ออกมาในตอนนี้ ! แม้แต่สกุลของนางเอง และพ่อของนางก็ละทิ้งนางในช่วงเวลาที่มืดมนและนางต้องการ แต่ชายผู้นี้กลับลุกขึ้นและยอมเสี่ยงทุกอย่างในช่วงเวลาที่นางสิ้นหวังที่สุด !

ร่างกายที่เพรียวบางของจวินโม่เซี่ย และไหล่ที่กว้างของเขา … กลายมาเป็นที่พึ่งพิงของนางได้ในทันที ! เขากลายมาเป็นคนที่ช่วยค้ำจุนนางในช่วงเวลาที่เจอกับพายุและลมกระหน่ำ เพียงคนเดียวที่นางสามารถยึดเกาะเอาไว้ได้ !

นางเข้าใจความรู้สึกของน้องชายอย่างมาก เมื่อเขาเลือกที่จะตัดสินใจเช่นนี้หากมันเป็นเรื่องของยี่เอ๋อ แต่มันก็ดูเหมือนกับนางในตอนนี้ … ราวกับว่าเขาไม่มีอะไรเทียบได้กับจวินโม่เซี่ย ! ก่อนหน้านี้ กวนเซียงยี่มายังเมืองเทียนเชียงเพื่อโน้มน้าวให้สกุลจิวนถอนหมั้นนาง และอณุญาติให้นางแต่งงานใหม่ อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยไม่ลังเลยเลย ในการที่เลือกจะปกป้องนางจากทุกสิ่งทุกอย่าง !

ชายคนหนึ่งได้ทรยศต่อความเชื่อใจของพี่สาวเพื่อทำให้ตัวเองปลอดภัย และพร้อมที่จะทำให้ชีวิตของนางหลุดลอยไปโดยไม่ตั้งใจ ชายผู้นี้ไม่สนใจเรื่องศีลธรรมและจรรยาเพื่อที่จะปกป้องหญิงผู้เลวทราม ! ในขณะที่อีกคนหนึ่งลุกขึ้นมาปกป้องนางในตอนที่นางต้องเผชิยหน้ากับความลำบาก !

แม้มันจะไม่ถูกต้องหากจะเปรียบเทียบเขาทั้งสองคน และทันใดนนั้นพวกเขาก็กลับกันอย่างสุดขั้วในสายตาของนาง … ราวกับสวรรค์และโลก เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถจะเปรียบเทียบกันได้ !

ใบหน้าของกวนเซียงฮั่นกลายเป็นสีแดงด้วยความเขิลอายในขณะที่ความคิดนี้เกิดขึ้นมาในหัวของนาง เนื่องจากความผิดที่นางได้กระทำไปก่อนหน้านี้ 

 หรือว่ามัน .. ก่อนหน้านี้ เขาเป็นเพียงแค่ … นี่คือตัวเขาจริงๆ ? เขาแกล้งทำเป็นคนอื่นอยู่ตลอดเวลา … ทำไมกัน … ?

มิฉะนั้น เหตุใดวันนี้เขาถึงแสดงออกด้วยอารมณ์ ? เขาไม่แม้แต่แสดงออกถึงความลังเลแม้แต่น้อย ! เขาพร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่างและต่อสู้กัลทุกคนในโลกเพื่อข้า ?

พระเจ้า เหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นความดีในตัวของเขา ?

ช่วงเวลาแห่งความกลัว ช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น และช่วงเวลาแห่งความรู้สึก … นางยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า ขณะที่อารมณ์อันรุนแรงยังคงพัดกระหน่ำอยู่ภายในหัวใจของนาง

นางไม่รู้เลยว่าจวินโม่เซี่ยไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของนาง แต่ทำเพื่อศีลธรรมของเขาเอง ! จวินโม่เซี่ยไม่เคยเปลี่ยนแปลงหลักศีลธรรมของตัวเอง เขาไม่เคยให้ผู้ใดมาทำลายความภาคภูมิใจของเขา !

เขาเต็มใจและคลั่งไคล้ที่จะออกไปก่อสงครามกับทั้งโลกเพื่อทำลายความชั่วช้าให้หมดไป !

ในใจของมือสังหารจวิน ชีวิตและความตายนั้นไม่มีอะไรไปมากกว่าเรื่องราวมหัศจรรย์ และมายา .. มีแค่เพียงแค่นี้ แต่หลักศีลธรรมและความภาคภูมิใจ พวกมันจะไม่มีวันตาย !

และเขาเองก็ไม่เคยผ่อนปรณเรื่องนี้กับตัวเอง !

คำพูดและทัศนคติที่รุนแรงของจวินโม่เซี่ยทำให้กวดุงหลิวหวาดกลัวในตอนนี้ แต่ทันใดนนั้นเขาก็คิดถึงการดำรงอยู่ของสกุลจวินเมื่อสิบปีที่ผ่านมานี้ และอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงมองไปยังจวินวูอี้

“ พี่จวิน นายน้อยจวินยังคงไร้เดียงสา และพูดแต่เรื่องความภาคภูมิใจ แต่อาจจะมิได้คิดถึงผลของการกระทำเหล่านั้น เนื่องจากพวกเขายังคงเป็นเด็กและอ่อนประสบการณ์ สกุลจวินนั้นแข็งแกร่งและทรงอำนาจมากกว่าข้า แต่เมื่อเทียบกับเขตซือฮั่นแล้ว …. ”

จวินวูอี้ยิ้มและตอบกลับอย่างนุ่มนวลด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง

“ โม่เซี่ยพูดถูก เซียงฮั่นนั้นเป็นลูกสะใภ้ของสกุลข้า ในฐานะหัวหน้าสกุลจวิน ข้าเห็นด้วยกับเขา การตัดสินใจของโม่เซี่ย คือการตัดสินใจของสกุล ! ”

แม้จวินวูอี้ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เลื่อนของเขา แต่น้ำเสียงที่แน่วแน่และความแข็งแกร่ง พร้อมกับช่วงไหล่ที่กว้างของเขา ก็รุนแรงมากพอที่จะสั่นสะเทือนไปถึงสวรงสวรรค์ !

จวินโม่เซี่ยอาจจะพูดคำพูดเหล่านั้นด้วยความไร้เดียงสา แต่จวินวูอี้ นั้นมีประสบการณ์ทางการทหารอย่างมากมายและรู้ถึงการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่สุดที่เขาจะต้องเผชิญกับอำนาจของเขตซือฮั่น !

กวนดุงหลิวเพ่งมองไปที่เขาอยู่นาน ทันใดนนั้นความรู้สึกผิดก็ก่อตัวขึ้นมาลึกลงไปในใจของเขา ! เขาได้ละทิ้งลูกสาว แต่กระนั้น ผู้อาวุโสและเด็กหนุ่มจากสกุลจวินก็ยังคงยืนหยัดเพื่อนางโดยไม่ลังเล !

เขาไม่เคยรู้ถึงการต่อสู้ระหว่างสกุลจวินและเมืองบัวหิมะขาว เขาไม่รู้ว่าทั้งสองสกุลนั้นเป็นศัตรูกันไปจาวันตาย ! และตอนนี้ คนผู้นี้ก็จะเผชิญหน้ากับเขตซื่อฮั่นเพื่อผลประโยชน์ของเซียงฮั่น !

กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินสองกองกำลัง กำลังต่อสู้กับสกุลจวินเพียงสกุลเดียว ! ศัตรูฝ่ายหนึ่งอยู่ทางด้านเหนือ และอีกฝ่ายอยู่ทางใต้ และสกุลจวินในตอนนี้อยู่ตรงกลาง !

แต่จวินโม่เซี่ยและจวินวูอี้ก็ยังคงยิ้ม ไม่สนใจมันเลยสักนิด และยังคงเงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้า !