กงรีมกเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำร้อน เพียงแค่ได้จุ่มตัวลงไป ความร้อนของน้ำที่อุ่นกำลังดีก็จะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ทั้งยังว่ากันว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่ามีข่าวลืออวดอ้างสรรพคุณมากแค่ไหน เพียงความจริงที่ว่าเมื่อลงไปแช่ในน้ำอุ่นก็จะทำให้ทั้งตัวรู้สึกผ่อนคลาย ก็ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์มากเกินพอ และในสถานที่ที่น้ำใสและดีที่สุดนั้นก็ได้กลายเป็นที่ตั้งตำหนักนอกของราชวงศ์ นอกจากจะเป็นตำหนักนอกแห่งเดียวที่มีบ่อน้ำร้อนแล้ว ที่นี่ยังใหญ่โตโอ่อ่า วิจิตรตระกาลตาเสียยิ่งกว่าตำหนักนอกแห่งไหน หรือจะเรียกว่าเป็นตำหนักนอกที่เหล่าเชื้อพระวงศ์โปรดปรานมากที่สุดก็ว่าได้ พอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนก็จะเดินทางเข้าไปที่ตำหนักนอก และมันจะได้รับความนิยมไปจนถึงก่อนที่หน้าร้อนจะมาถึง ในปีนี้แขกคนแรกที่มาถึงก็คือคู่ของฮวางแทจา
ตั้งแต่ออกจากพระราชวังมา กโยซึลก็ยังคงลบความกังวลออกจากสีหน้าไม่ได้ เกี้ยวถูกหามผ่านประตูตำหนักนอกแล้ววางลงบนพื้น บีพาอันที่ลงจากเกี้ยวไปก่อนยื่นมือมาให้กโยซึลพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันแข็งกระด้าง
“ถ้าเราต่างคนต่างอยู่คงจะดีทั้งต่อตัวเราและชายาใช่หรือไม่”
“เพคะ?”
“เช่นนั้นก็แยกที่พักกัน เราจะบอกข้ารับใช้ไว้เอง”
ในวันแรกที่ถึงตำหนักนอก บีพาอันพูดเช่นนั้นแล้วก็หันกลับไป แผ่นหลังนั้นคือภาพของแรกและภาพสุดท้ายที่กโยซึลได้เห็นบีพาอันในตำหนักแห่งนี้ แม้จะเคยอาศัยอยู่ด้วยกันในตำหนักดงชอนอยู่หลายวัน แต่ยามที่อยู่ที่ตำหนักนอกนั้นกลับให้ความรู้สึกประหม่าที่แตกต่าง โดยเฉพาะเมื่อบีพาอันไม่ปรากฏตัวมาให้เห็นเลยก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
แน่นอนว่าแม้จะอยู่ด้วยกันในตำหนักนอกแต่กโยซึลก็ไม่ได้มีเรื่องให้ต้องเจอกับบีพาอัน ในตอนแรกที่เขาบอกว่าจะแยกที่พักนั้น เขายังหมายถึงแยกกันทานอาหารไปเลยด้วย แม้จะมีเหล่าข้ารับใช้ที่ประจำอยู่ที่ตำหนักกงรีมก แต่เนื่องจากข้ารับใช้ที่ถูกพามาจากวังตะวันออกนั้นมีน้อย ทำให้พอเตรียมอาหารแยกสำหรับทั้งสอง ก็ยังเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากมากอยู่ดี เหล่าข้ารับใช้ของวังตะวันออกมาคอยปรนนิบัติบีพาอัน ทางกโยซึลเองก็มีข้ารับใช้ของตำหนักกงรีมกคอยรับใช้อยู่ แน่นอนว่าด้วยตำแหน่งพระชายาฮวางแทจานั้นทำให้ไม่มีใครกล้าละเลยนางได้
แต่ละวันในตำหนักนอกทั้งเหมือนและก็ทั้งแตกต่างกับที่ตำหนักดงบี แม้วันๆ จะไม่มีอะไรให้ทำเช่นกัน แต่ก็ปลอดโปร่งและมีเสรีภาพมากกว่าที่ตำหนักดงบีเป็นไหนๆ น่าจะเป็นเพราะเดิมทีที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้พักผ่อนและเสพสุขอรรถรสก็เป็นได้
ฟ้ามืดหรือฟ้าสว่าง ไม่ว่ายามไหนก็ยังคงสนุกได้ในบ่อน้ำร้อน ที่ตำหนักกงรีมกนั้นมีเครื่องอาบน้ำและน้ำชาที่ถูกเตรียมไว้มากมาย แค่แช่บ่อน้ำร้อนยังไม่พอ ยังสามารถอาบน้ำในน้ำที่ปนน้ำมันหอมให้ผ่อนคลายได้ แถมยังสามารถลิ้มรสชาและขนมของว่างอันหลากหลายได้ตลอด กโยซึลคิดว่าสรวงสวรรค์เป็นอย่างนี้นี่เอง อีกทั้งยังมีอาหารของทางใต้มากมายตระการตา ยิ่งอาหารล้วนมีรสจัดก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดความอยาก ทำให้กโยซึลมีความสุขในการรอรับประทานอาหารในทุกๆ มื้อ แม้จะผ่านไปหลายวันแล้วแต่อาหารที่ถูกเตรียมออกมายังไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้ง
“พระกายาหารสำหรับพระชายาฮวางแทจาเพคะ”
ข้ารับใช้ของตำหนักกงรีมกปรนนิบัติกโยซึลอย่างเอาใจใส่ แน่นอนว่ายังมีแม่นมคอยปรนนิบัติอยู่ใกล้ๆ แต่เนื่องจากสถานที่เปลี่ยน นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้สะดวกสบายเหมือนเคย
แม้จะมาที่นี่ได้โดยบังเอิญ ทว่าแต่ละวันที่ได้ใช้ในตำหนักกงรีมกกลับเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขที่สุดตั้งแต่ที่ได้มาอยู่มกกุก ก่อนอื่นก็แช่ตัวในบ่อน้ำร้อนให้กายและใจที่เหนื่อยอ่อนได้ผ่อนคลาย เป็นความรู้สึกแจ่มใสชนิดที่ไม่ว่าจะความหวาดกลัว ภาระ หรือความกังวลใดๆ ก็ถูกขจัดไปไม่มีหลงเหลือ ไม่ว่าจะน้ำหนักหรือตัวตนของกโยซึลต่างราวกับเหมือนไม่เคยมีอยู่ นางดำดิ่งอยู่ในช่วงเวลาอันแสนสบาย เป็นช่วงเวลาที่สำราญได้โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องใด และได้ปลอบประโลมหัวใจที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายจนถึงตอนนี้
จะเป็นไปได้หรือไม่ที่รูแฮจะคิดเผื่อถึงความรู้สึกนี้ของเรา เป็นไปได้ไหมว่าเขาอยากจะให้เราได้มาปลดปล่อยหัวใจที่หนักอึ้งให้ผ่อนคลายลงที่นี่
ไม่ว่านางจะลืมสิ้นทุกเรื่องแล้วเพลิดเพลินการพักผ่อนเพียงใด กโยซึลก็ยังไม่ลืมรูแฮ ยามที่ได้กินอาหารอร่อยหรือได้เอนตัวลงในบ่อน้ำร้อนอุ่นๆ ยามที่เสร็จจากการอาบน้ำร้อนแล้วได้ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มจนผืนผ้าสัมผัสกับผิวกายแล้วนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงรูแฮขึ้นมา
แม้การที่ได้มาตำหนักกงรีมกจะเป็นเรื่องดี แต่หากยังเป็นเช่นนี้เราจะส่งสัญญานบอกกับรูแฮได้อย่างไร
กโยซึลเดินทางมาเพื่อพบรูแฮแท้ๆ แต่เรื่องกลับไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง นางคิดไม่ถึงว่าบีพาอันจะตามมาด้วย และในเมื่อเป็นเช่นนี้การจะได้เจอกับรูแฮก็กลายเป็นเรื่องยากขึ้นเสียแล้ว
เราจะออกจากพระราชวังมาเสียเปล่าหรือไม่นะ
กโยซึลเปลี่ยนมาหม่นหมองในทันที ยามที่คิดถึงรูแฮ แม้จะมีความสุขอย่างหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ แต่ในบางทีก็น่าเศร้าใจเหมือนกัน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนๆ หนึ่งจะสามารถทำให้ความรู้สึกของคนอีกคนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างนี้ คิดแล้วก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์นัก
ทั้งอบอุ่นและมีความสุข ในเวลาเดียวก็ทั้งเศร้าและโหยหา
กโยซึลแช่ตัวในบ่อน้ำร้อน พยายามปล่อยทิ้งความรู้สึกอย่างหลัง นางอยากให้ความรู้สึกแย่ๆ ลอยไปกับน้ำ ให้เหลือไว้เพียงแค่ความรู้สึกดีๆ
ฝ่าพระบาทเองก็จะรู้สึกเช่นเดียวกับเราในตอนนี้หรือไม่นะ
อยู่ๆ ความคิดเกี่ยวกับบีพาอันก็ผุดขึ้นมา
ไม่ได้นึกเลยว่าเขาจะมาด้วย
การที่บีพาอันมาด้วยเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ทว่าคิดไปคิดมาการที่คู่สามีภรรยาที่ผ่านพิธีแต่งงานกันมาระยะหนึ่งแล้วแต่ยังแยกกันอยู่เช่นนี้ เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเสียยิ่งกว่า
ที่เขามาด้วยก็เพราะต้องการให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นคู่สามีภรรยาที่ดีก็แค่นั้น การตัดสินใจทุกอย่างของเขาล้วนแล้วเพื่อการขึ้นครองบัลลังก์ ดูจากการที่ต่างคนต่างอยู่เช่นนี้ก็รู้แล้ว
กโยซึลตระหนักขึ้นได้ว่าไม่ว่าจะอยู่กับบีพาอันหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“เพียงแต่ว่า…” กโยซึลคอตกบ่นพึมพำ
เสียงน้ำกระจายดังขึ้น กโยซึลตีผิวน้ำโดยไร้เหตุผล หยดน้ำร้อนที่กระเด็นไม่รู้ว่าเหตุใดยามโดนเข้ากับมือแล้วกลับรู้สึกว่ามันเย็นนัก
***
“พระชายา พระชายากโยซึลเพคะ”
เข้าสู่วันที่ห้าหลังจากมาที่ตำหนักนอก กโยซึลเสร็จจากการรับประทานอาหารเย็นก็รีบกลับมาที่ห้องเตรียมตัวเข้านอน แม่นมที่ออกไปเตรียมสำรับของว่างเพื่อให้กโยซึลได้เพลิดเพลินคู่กับน้ำชาก่อนนอนอยู่ๆ ก็ลุกรี้ลุกลนเดินเข้ามาใกล้
“พระชายา” แม่นมเสียงดังโวยวายเข้ามาในที่พัก ทั้งๆ ที่บอกว่าออกไปเตรียมของว่างแต่ตัวนางกลับเดินกลับมามือเปล่า
กโยซึลเงยหน้าขึ้นทันทีที่แม่นมเข้ามา เมื่อเห็นว่าในมือนางไม่ได้ถืออะไรอยู่ ก็เอียงคอสงสัย
“ไม่ได้เอาของว่างมาด้วยหรือ”
ทว่าแม่นมกลับเพิกเฉยต่อสิ่งนั้น แล้วไปนั่งลงที่ข้างๆ ปลายเท้าของกโยซึล