ตอนที่ 604 เริ่มต่อสู้เป็นกลุ่ม

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่าทีที่น่าสงสารเช่นนี้ หากเป็นชายหนุ่ม เกรงว่าจะมิอาจควบคุมตนเองได้

ทว่า วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับมู่เฉียนซี นางกล่าว “ข้าไม่ใคร่ชอบผู้หญิง เพราะฉะนั้น เจ้าอย่าได้เสียเวลาเลย”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินตั่วเอ๋อร์แข็งทื่อไป ต่อให้ไม่ใช่ผู้ชาย แต่การโจมตีด้วยทักษะเสน่ห์ของนางก็ได้ผลมาโดยตลอด เหตุใดนางถึงไม่รู้สึกอะไรเลย

“ศิษย์พี่ ควรจบเกมได้แล้ว!”

“มังกรวารีพิฆาต!”

มังกรลำตัวยาวสีฟ้าพุ่งทะยานไปโจมตีฉินตั่วเอ๋อร์ที่ยังไม่ได้สติกลับมาตกไปจากลานประลอง

ทักษะเสน่ห์ของฉินตั่วเอ๋อร์นี้มีการโจมตีทางพลังจิต แต่เห็นได้ชัดว่านางยังไม่ได้ฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุด กลับหลงระเริงใจในตัวเองมากถึงเพียงนี้

หากนางได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่มีพลังจิตธรรมดาทั่วไปก็นับว่าเป็นโชคดีของนาง ทว่า นี่นางมาเจอกับมู่เฉียนซีผู้เป็นนักปรุงยา แน่นอนว่าทักษะนี้ใช้ไม่ได้ผลกับนางแม้แต่น้อย

เนื่องจากเป็นการประลองแบบมิตรภาพ มู่เฉียนซีก็ไม่ได้แว้งกัดนางแต่อย่างใด เพียงแค่ทำให้นางตกออกไปจากลานประลองก็เท่านั้น

ตอนนี้จำนวนผู้ที่พ่ายไปคือสี่ต่อสาม

นักเรียนเก่าก็ใช่ว่าจะธรรมดา พวกเขาแสดงอำนาจบารมีเตะคู่ต่อสู้ออกไปถึงสองคน และจำนวนคนบนลานประลองก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

ตอนนี้จำนวนผู้ที่พ่ายแพ้ไปสี่ต่อห้า ฝ่ายนักเรียนใหม่ตามหลังอีกครั้ง

อาจารย์ผู้คุมสอบเห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ก็ยิ้มขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสถานการณ์ในการต่อสู้ของนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่เช่นนี้ โดยปกติแล้วจะเห็นนักเรียนใหม่ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ส่วนนักเรียนเก่าไม่มีผู้ใดตกจากลานประลองเลย

ตอนนี้สองคนได้รุมล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้ พวกเขาก็ได้รู้ถึงความร้ายกาจของมู่เฉียนซีแล้ว แต่สองรุมหนึ่งเช่นนี้ พวกเขาไม่เชื่อว่าจะจัดการกับนางคนเดียวไม่ได้

คนหนึ่งเป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสาม อีกคนหนึ่งระดับสอง สถานการณ์เช่นนี้รับมือได้ยากยิ่งนัก

มู่เฉียนซีกับโม่ซางคงหันมองหน้ากัน ทั้งคู่มีแผนการแล้ว!

ทำให้พวกเขาสิ้นเปลืองพลังต่อไป!

มู่เฉียนซีรั้งสองคนตรงหน้าไว้ ระดับของนางนั้นไม่สูง แต่นางมีความเร็วที่เร็วมาก การที่พวกเขาสองคนคิดจะทำให้นางกระเด็นออกไปจากลานประลองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ตูม ตูม ตูม! มู่เฉียนซีกับพวกเขาทั้งสองใช้พลังวิญญาณโจมตีใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้จะไม่ได้ผล แต่การโจมตีนี้ค่อนข้างดุเดือดมาก

และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ใช้ยาวิญญาณมาแข่งกันแล้ว นักเรียนเก่าคิดว่าพวกเขาเพิ่งเข้าไปทดสอบในหอร้อยหลอมมา ยังจะมียาวิญญาณมาจากไหนอีกเล่า ? หากมี ก็คงจะใช้ไปในตอนที่อยู่ในหอร้อยหลอมหมดแล้ว

อาจารย์ผู้คุมสอบก็กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้ไม่ถูกต้อง การแข่งด้วยยาวิญญาณ จะแข่งกับนักเรียนเก่าได้เช่นไร ยาวิญญาณของสำนักศึกษาล้วนแต่ขายให้นักเรียนในราคาพิเศษ ราคาถูกมาก ยาวิญญาณในมือพวกเขาก็มีอยู่มาก!”

ทว่า ยาวิญญาณของสำนักศึกษายิ่งถูกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องซื้อไว้ แต่หากจะแข่งขันจำนวนยาวิญญาณกับนักปรุงยาแล้วล่ะก็ นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย

เมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉียนซีกินยาวิญญาณไปทีละขวด ๆ ก็แทบจะกระอักเลือด เคยเห็นผู้ใดกินยาวิญญาณเช่นนี้บ้าง ?

“เหตุใดนางถึงยังเหลือยาวิญญาณมากมายถึงเพียงนี้!” คู่ต่อสู้สองคนตรงหน้ากับอาจารย์ผู้คุมสอบต่างก็งุนงง

นึกไม่ถึงเลยว่าหอร้อยหลอมจะไม่ได้ทำให้นางสิ้นเปลืองพลังและใช้ยาวิญญาณหมด!

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ยังมีอีกมาก เรามาแข่งกันเถอะ!”

ในที่สุดกลับเป็นนักเรียนเก่าที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ชั่วครู่หนึ่งพวกเขาก็กระอักเลือดคำโตออกมา

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ควรจะจบได้แล้วหล่ะ!”

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม ตูม ตูม! พลังวิญญาณที่อ่อนแรงและเหนื่อยล้าเช่นนี้ ไฉนเลยจะต้านทานการโจมตีอันทรงพลังนี้ได้ สุดท้ายก็ถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนออกจากลานประลองไป

ตอนนี้จำนวนผู้ที่พ่ายแพ้ไปกลับมาสูสีกันอีกครั้ง หกต่อห้า

นักเรียนเก่าที่เหลืออยู่บนลานประลองตอนนี้มีแค่สี่คน ส่วนนักเรียนใหม่ยังเหลืออีกห้าคน

นอกจากมู่เฉียนซีกับโม่ซางคงแล้ว อีกสามคนก็คือผู้ที่มีคะแนนเป็นอันดับสอง อันดับสาม และอันดับสี่ของอันดับนักเรียนใหม่

สามารถได้คะแนนที่สูงเช่นนั้นมา แน่นอนว่าคุณสมบัติของพวกเขานั้นไม่เลวเลย อีกทั้งยังมียาวิญญาณที่เพียงพอ ดังนั้น……

นักเรียนเก่าจึงได้พบกับโศกนาฏกรรมเข้าแล้ว!

มู่เฉียนซีหันไปถามอาจารย์คุมสอบว่า “ท่านอาจารย์ การประลองนี้ใช้อาวุธลับได้หรือไม่ ?”

โม่ซางคงที่รับมืออยู่กับไป๋เหยียนได้เสียพลังไปมาก และตอนนี้ก็มีโอกาสที่จะถูกโจมตีให้ออกไปจากลานประลอง

ทว่า หากร่างอันเพรียวบางได้จัดการอัจฉริยะนักเรียนเก่าสามคนตรงหน้าไป เช่นนั้นพวกเขาทั้งห้าก็สามารถห้อมล้อมไป๋เหยียนได้อย่างไร้กังวล ถึงตอนนั้นโอกาสที่ไป๋เหยียนจะชนะก็มีน้อยมาก

อาจารย์ผู้คุมสอบกล่าว “อาวุธลับ อนุญาตให้ใช้ได้!”

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม! เข้าใจแล้ว!”

ทันทีที่ปลายนิ้วขยับ เข็มยาเข็มหนึ่งก็พุ่งออกไปทันที

ผู้ที่ตกเป็นเป้ารับรู้ได้ถึงอันตราย จึงรีบใช้พลังวิญญาณมาสกัดกั้นเอาไว้!

ทว่า เข็มยานั้นเล็กและบางมาก พุ่งตรงไปปักเข้าที่แขนของเขา ชั่วครู่หนึ่งเขาก็รู้สึกชา และไม่สามารถขยับตัวได้!

“นี่เจ้าวางยาพิษข้า ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านอาจารย์เป็นคนบอกเองว่าใช้อาวุธลับได้ อาวุธลับมีพิษก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว!”

ปัง! มู่เฉียนซีถีบเขาออกไปจากลานประลอง และนักเรียนใหม่ที่ไร้คู่ต่อสู้ตอนนี้ก็ไปสนับสนุนโม่ซางคง

อีกสองคนที่เหลืออยู่นี้จัดการได้ง่าย พวกเขารับมือกับคู่ต่อสู้ตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง คิดจะป้องกันการโจมตีจากอาวุธลับของมู่เฉียนซีนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

และสุดท้ายทั้งสองก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว

มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าวว่า “เรียบร้อย! พวกเรา ไปรุมศิษย์พี่กันเถอะ!”

คนอื่น ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ในตอนแรกศิษย์พี่เหล่านี้ยืนกรานบอกว่าพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และทำให้พวกเขากลัดกลุ้มใจมาโดยตลอด ในที่สุดตอนนี้ก็ได้หายจากการคับอกคับใจนั้นแล้ว

ไป๋เหยียนถูกห้อมล้อมเอาไว้แล้ว สีหน้าของเขาแข็งทื่อไปในทันที

เมื่อก่อนจะเป็นพวกเขาที่จัดการกับนักเรียนใหม่ไปทีละคน ๆ จากนั้นก็ห้อมล้อมคนสุดท้ายไว้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

มาตอนนี้นักเรียนเก่าอย่างพวกเขาถูกนักเรียนใหม่จัดการไปทีละคน ๆ จนสุดท้ายเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว หากพ่ายแพ้ไปจริง ๆ แล้วล่ะก็ มีหวังคงต้องโดนนักเรียนด้วยกันหัวเราะเยาะเป็นแน่

ไป๋เหยียนกำหมัดแน่น เขายอมเทหมดหน้าตักแล้ว!

มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าทั้งสี่คุ้มกันข้าไว้!”

ไป๋เหยียนไม่อยากให้นางเข้าใกล้เขา ดังนั้นนางจึงยิ่งอยากเข้าใกล้เขา ขอเพียงแค่ได้เข้าใกล้เขา นางก็มีโอกาสที่จะเอาชนะเขาได้

ถูกสี่คนพัวพันเช่นนี้ ไป๋เหยียนก็คลั่งขึ้นมามากเช่นกัน

ตูม!

ในขณะที่เขาโจมตีคนหนึ่งออกไปจากลานประลอง ร่างสีม่วงกลับปรากฏขึ้นอยู่เหนือศีรษะเขาแล้ว

คำสี่คำพ่นออกมาจากปากของมู่เฉียนซี “ทักษะเทียนซวน!”

ตูม!

พลังแห่งการทำลายล้างตกลงมาจากอากาศ ทั่วทั้งลานประลองก็ได้ยุบลงไป

พรวด! ไป๋เหยียนกระอักเลือดคำโตออกมา และล้มลงไปกับพื้น

กระบวนท่าเดียวได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ไม่สามารถต่อสู้ต่อได้แล้ว

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ท่านอาจารย์ ท่านจะประกาศผลได้หรือยัง ?”

อาจารย์ผู้คุมสอบกล่าว “ได้แล้ว ได้แน่นอน!”

“การทดสอบเพิ่มเติมนี้ ฝ่ายนักเรียนใหม่เป็นฝ่ายชนะ!”

“พวกเราจะได้พักที่พักส่วนตัวแล้ว”

“พลังวิญญาณสิบเท่า ความเร็วในการฝึกฝนสิบเท่า!”

พวกเขาดีอกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ทางด้านของฝ่ายนักเรียนเก่าตอนนี้สีหน้ากลับซีดขาวราวกระดาษ

มู่เฉียนซียื่นยาวิญญาณให้กับไป๋เหยียนก่อนจะกล่าวว่า “ลงมือหนักไปหน่อย ศิษย์พี่รีบรักษาตัวเถอะ!”

ยังมียาวิญญาณอีก! ไป๋เหยียนมองไปที่ยาวิญญาณนั้นอย่างเจ็บใจ

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องกินมัน หลังจากที่กินยาวิญญาณนั้นแล้วเขาก็ได้เข้าใจว่าการที่พวกเขาแพ้นั้นไม่ได้ถูกเอาเปรียบ ประสิทธิภาพของยาวิญญาณนี้ช่างดียิ่งนัก เจอผีเข้าแล้ว!

หากเปรียบเทียบกับยาวิญญาณเหล่านี้แล้ว ยาวิญญาณเหล่านั้นของพวกเขานั้นไม่ต่างอะไรกับขยะเลย!

“ศิษย์น้อง ยาวิญญาณนี้เจ้าได้มาจากที่ใดกัน!”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “แน่นอนว่าเป็นหอหมอปีศาจ!” มู่เฉียนซีทำโฆษณาให้หมอปีศาจอีกครั้ง

อาจารย์ผู้คุมสอบกล่าว “จบการประลอง พวกเจ้าทั้งหลายไปพักผ่อนเถอะ! อาจารย์จะพานักเรียนใหม่ไปลงทะเบียนเรียนก่อน!”

ขั้นตอนทั้งหมดได้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็ได้แยกย้ายไปที่พักแล้ว

ที่พักส่วนตัว เป็นที่พักขนาดเล็กและมีความสวยงามและประณีต ทันทีที่เข้าไปมู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณที่เข้มข้น มุมปากของนางกระตุกขึ้น “มันช่างเป็นที่ที่ดีจริง ๆ!”

ทดสอบมาสามด่าน และด่านทดสอบเพิ่มเติมอีกหนึ่งด่าน โชคดีที่มีพลังจิตอันแข็งแกร่งคอยสนับสนุนอยู่เช่นนี้ อันที่จริงมู่เฉียนซีก็เหนื่อยล้ามามากแล้ว

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เอนตัวนอนบนเตียงก็ผล็อยหลับไป และหลังจากที่นางหลับไป ทันใดนั้นหัวใจของนางก็เปล่งประกายแสงสีฟ้าอ่อนออกมา