ฉินเฮ่าได้แต่กำโทรศัพท์ไว้พร้อมหัวเราะ ได้อย่างไรกัน เขาอุตส่าห์ใช้แผนการทำให้จ่านป๋ายออกไป แน่นอนว่าจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดพ้นไปแน่ เขาไม่อยากจะให้ซีเหมินจินเหลียนใช้จ่านป๋ายมาเป็นโล่กำบังเพื่อประกาศต่อคนภายนอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอ
ถึงจะรู้แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่นี่ก็ทำให้เขาไม่สบายใจ
“แย่แล้วสิครับ” ฉินเฮ่าพูด “ตอนนี้ผมก็มาถึงประตูหน้าห้องโถงที่สุ่ยจงเซียนแล้วล่ะ…”
ซีเหมินจินเหลียนเกือบจะทำโทรศัพท์ตก เขาล้อเล่นอะไรกันเนี่ย? เวลานี้เขาจะมาร่วมงานที่นี่ทำไมกัน ถ้าเปลี่ยนเป็นงานทั่วไปไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ยังพอว่า เพราะไม่มีใครรู้จักเขา แต่นี่ไม่เพียงแต่หลิงซูฟางที่รู้จักเขา แถมเธอยังแอบรักเขาอีก มากไปกว่านั้นเธอก็ยังรู้ประวัติของเขา
ถ้าเขามาที่สุ่ยเซียนตอนนี้ อย่างนั้นเธอคงต้องเป็นศัตรูของทุกคนในงาน เธอยอมอยู่เงียบๆ ในมุมเล็กๆ ของตัวเองดีกว่าต้องมายืนให้ผู้คนในงานจดจ้อง
“จินเหลียน เป็นอะไรไป” จินอ้ายหัวถามด้วยความห่วงใย “ถ้าแฟนเธอจะมาก็ให้เขาเข้ามาเลย ไม่ต้องอายหรอก พวกเราก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น”
ซีเหมินจินเหลียนไม่ทันได้พูดอะไร ที่ประตูก็มีเสียงการเคาะดังขึ้นอย่างมีมารยาท จินอ้ายหัวส่ายหน้าแล้วแย้มยิ้มออกมา “ดูสิ อะไรจะขนาดนั้น ให้เขาเข้ามาก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี จึงได้แต่กระซิบกับเธอว่า “ฉันไปก่อนแล้วกัน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เข้ามาไม่ได้…” พูดพลางหยิบกระเป๋าและหันตัวเดินออกไปข้างนอก
“เฮ้…” จินอ้ายหัวไม่เข้าใจ “เธออย่าเป็นแบบนี้สิ…”
ซีเหมินจินเหลียนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและสะพายกระเป๋าจะเดินออกไปข้างนอก หลิงซูฟางได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงเดินมาขวางทางซีเหมินจินเหลียนไว้ “แฟนของเธอจะมาแล้วจะรีบไปทำไมกัน มานั่งด้วยกันก่อนสิ”
“ใช่ๆๆ!” เสี่ยวเป่าเป็นลูกรับ “จินเหลียน ถึงแฟนของเธอจะไม่ได้หล่อเหลาอะไรก็ไม่เป็นไรหรอก อายุขนาดนี้กันแล้วนอกจากดารา ใครๆ ก็หน้าตาเหมือนกันทั้งนั้นแหละ ขอแค่ดูแลใส่ใจเธอดีก็พอ ก็เหมือนแฟนของฉันที่คอยดูแลฉันอยู่ตอนนี้ไง”
ซีเหมินจินเหลียนได้แต่ฝืนยิ้ม เมื่อถูกหลิงซูฟางขัดไว้ ต่อให้เธออยากจะออกไปแค่ไหนก็ไปไม่ได้ ถ้ารู้อย่างนี้เธอน่าจะออกไปรับสายข้างนอก ไม่ใช่ยืนอยู่ที่นี่
เซียวเหอมีความเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมา เขาลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ ความจริงในใจของเขาก็รู้สึกสงสัยว่าแฟนของซีเหมินจินเหลียนจะเป็นใคร ผู้ชายคนที่สามารถทำให้ซีเหมินจินเหลียนใส่เครื่องประดับหยกได้ เขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ?
เมื่อประตูเปิดออก ฉินเฮ่าก็ถือดอกไม้ช่อใหญ่จำนวนร้อยดอกยืนอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นเซียวเหอก็ได้แต่ยิ้มให้ตามมารยาท
เพราะว่าตอนนั้นเซียวเหอกำลังรอคนอื่น เขาเลยไม่ได้ไปรุมดูรูปที่หน้าจอของหลิงซูฟาง เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่รู้จักฉินเฮ่า ได้แต่เดินถอยหลังและเปิดทางให้เขาเข้ามา “สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ” ฉินเฮ่าพยักหน้าให้เขา
สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่หน้าประตูอย่างไม่ละสายตา ส่วนหลิงซูฟางเดิมทีที่มือวางไว้บนบ่าของซีเหมินจินเหลียนนั้น ตอนนี้กลับไร้เรี่ยวแรงอย่างไม่รู้ตัว เขา? เป็นเขาได้อย่างไรกัน?
คนที่ดูรูปจากในโน้ตบุ๊คของหลิงซูฟางย่อมดูออกว่าเขาคือฉินเฮ่า แต่ฉินเฮ่ากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพียงแค่รู้สึกสงสัยว่าทำไมผู้คนถึงมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ขนาดนั้น หรือว่าหน้าตาของเขาจะเหมือนดอกไม้? ไม่ใช่สิ! ฉินเฮ่ารู้ว่าหน้าตาของตัวเองจัดอยู่ในเซฟโซน สถานการณ์ทั่วไปไม่น่าจะสร้างเรื่องให้ผู้หญิงทะเลาะกันได้ แต่แน่นอนว่านั่นยกเว้นคนที่รู้ฐานะของเขา
สายตาของผู้คนหันมามองเขาด้วยสายตาเดียวกัน มันทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชิน แต่เขาก็เป็นคนพบปะคนนอกอยู่ตลอด เลยได้แต่เดินไปที่ข้างหน้าของซีเหมินจินเหลียนแล้วยิ้มให้ “จินเหลียน นี่สำหรับคุณครับ”
“ขอบคุณค่ะ” จินเหลียนถอนหายใจออกมาแล้วโอบรับดอกไม้ช่อใหญ่นั่นไป
“เห็นจ่านป๋ายบอกว่าสามารถพาแฟนมาได้ เพราะอย่างนั้นผมเลยเชิญตัวเองมา” เขาคุ้นชินกับการควงแขนของซีเหมินจินเหลียน
วันนี้คนที่จะมารับบทบาทเป็นแฟนของเธอ ก็แค่เปลี่ยนคนเท่านั้น
“คุณคือ…ฉินเฮ่า?” ในที่สุดหลิงซูฟางก็เรียกสติกลับคืนมาได้ ได้แต่กัดฟันปั้นสีหน้าไว้ เวลานี้ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรดี เลยได้แต่พูดจาติดๆ ขัดๆ
“ใช่ครับ คุณผู้หญิงรู้จักผมด้วยเหรอ หรือได้ยินมาจากจินเหลียน?” ฉินเฮ่ายิ้มอย่างสุภาพอ่อนโยน
“ไม่ใช่ค่ะ” หลิงซูฟางหันไปมองซีเหมินจินเหลียนอีกครั้ง ไม่น่าล่ะที่เธอไม่ยอมให้แฟนเข้ามา เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง “ฉันทำงานอยู่ที่จินโอวกรุ๊ป เคยเห็นประธานฉินอยู่ครั้งหนึ่ง” เธอไม่ได้บอกกับเขาไปว่าตัวเองแอบรักเขามานาน ถ้าหากไม่มีคนอื่นอยู่ในงาน บางทีเธออาจจะยอมหน้าหนาใช้ความกล้าสักครั้งเพื่อที่จะสารภาพรักกับเขาอย่างสุดซึ้ง แต่กลัวว่าจะเหมือนที่เถียนเถียนและเสียวเป่าพูดไว้ เสน่ห์ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร
แต่ในเมื่อเขามีแฟนแล้ว อีกทั้งแฟนของเขาก็ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นซีเหมินจินเหลียน ในบรรยากาศแบบนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“อย่างนั้นเหรอครับ?” ฉินเฮ่ายังคงพิมพ์รอยยิ้มไว้อยู่ที่หน้า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นผมแนะนำให้รู้จักเลยแล้วกัน นี่แฟนของผมครับ ซีเหมินจินเหลียน”
“จินเหลียน คุณจะไม่แนะนำเพื่อนๆ ของคุณให้ผมรู้จักหน่อยเหรอ?” ฉินเฮ่าหันไปทางซีเหมินจินเหลียนแล้วถามขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนเห็นสายตาของคนในงานเต็มไปด้วยความแปลกใจ จึงได้แต่พูดแนะนำไป “นี่คือจินอ้ายหัว คุณคงรู้จักแล้ว ส่วนนี่ก็คือเถียนเถียน ครั้งที่แล้วคุณเคยเจอ ส่วนหลิงซูฟางฉันคงไม่ต้องแนะนำแล้วใช่ไหมคะ ส่วนนี่เป่าเอ๋อร์…” ซีเหมินจินเหลียนแนะนำเพื่อนที่เมื่อสักครู่เกือบลืมแม้กระทั่งชื่อมาแนะนำทีละคนอีกรอบ
จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “แต่ว่าฉันอยากจะพูดให้ชัดเจนสักหน่อย คุณไม่ใช่แฟนของฉันนะ” เธอพูดพลางหันไปมองเขา
เพียงแต่ดวงตากลมวาวที่สดใสกลับไม่ได้มีพลังในการทำให้ใครกลัวได้เลย ฉินเฮ่าเลยไม่ได้สนใจอะไร ปั้นหน้าพูดต่อไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมก็กำลังตามจีบคุณอยู่นี่ไง? รับจ้างเป็นแฟนกับประธานสักหน่อย!”
เป่าเอ๋อร์และเถียนเถียนไม่ได้ยิ้มออกมา แต่จินอ้ายหัวกับหลิงซูฟางได้แต่หัวเราะแผ่วเบา แฟนที่อยู่ด้วยกันสามารถมารับจ้างเป็นแฟน? ถ้าทุกคนไม่รู้ถึงประวัติของเขาคงคิดว่าเขาตามตื้อจีบซีเหมินจินเหลียนแน่
“จินเหลียน คุณฉินเฮ่าก็ดูไม่เลวเลย ทำไมเธอถึงไม่พิจารณาเขาสักหน่อยล่ะ?” เป่าเอ๋อร์ยิ้ม
เถียนเถียนเคยเห็นจ่านป๋ายมาก่อน แต่ครั้งนั้นเธอแนะนำว่าจ่านป๋ายเป็นแฟนของเธอ ในใจก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะเสียดายแทนซีเหมินจินเหลียน แต่นี่ประวัติของฉินเฮ่าไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าพลาดโอกาสนี้ในชีวิตไปก็กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับชีวิตอันหรูหรามีอนาคตแล้ว อีกทั้งฉินเฮ่าก็ยังยอมที่จะมาร่วมงานเลี้ยงรุ่นกับเธอ อีกทั้งยังยอมรับฐานะของเธอได้ ยิ่งเป็นโอกาสที่ต้องไขว่คว้าไม่ให้หลุดมือ
ได้ยินว่าคุณชายของลูกมหาเศรษฐีชอบพูดจาไม่น่าฟังเท่าไหร่ เหมือนกับอยู่บนโลกอีกใบ แถมยังชอบดูถูกผู้หญิงที่ไม่มีเงิน มักคิดแต่ใช้เงินซื้อผู้หญิงมาเลี้ยง มาเล่นแล้วค่อยเขี่ยทิ้ง แต่ถ้าเขาตามจีบซีเหมินจินเหลียนขนาดนี้ก็ถือว่าซื้อใจได้อย่างมาก
“จินเหลียน ความสุขอยู่รอบตัวเธอแต่กลับไม่รู้ได้ยังไงกัน” หลิงซูฟางพูดพลางหันไปสบสายตาที่ฉินเฮ่า พร้อมใช้สายตาเย้ายวนมองไปที่เขาอย่างไม่ลดละ
แม้กระทั่งซีเหมินจินเหลียนยังอดไม่ได้ที่เผลอใจไปกับเธอ เสน่ห์ของผู้หญิงช่างมีพลังทำลายล้างคนได้เสียจริง
ไม่นานนักพนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟอาหาร ฉินเฮ่าหน้าตายิ้มแย้มนิสัยร่าเริง ไม่นานก็กลมกลืนกับคนในงานได้อย่างสบาย พูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน แถมยังสร้างบรรยากาศให้ครื้นเครง ราวกับเป็นเจ้าของงานที่คอยต้อนรับแขก ซื้อใจพวกผู้หญิงในงานไปทั้งหมด ทำให้พวกเธอลืมเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น เริ่มจัดการเครื่องเสียงที่ตู้คาราโอเกะพร้อมเตรียมตัวร้องเพลงกัน…
หลิงซูฟางดื่มไวน์ไปหลายแก้ว ใบหน้าของเธอราวกับถูกปัดด้วยบลัชออน สายตาพร่าเลือนเหมือนอยู่ในเมฆหมอก ท่าทางจะโดนฤทธิ์เหล้ากำเริบ เธอไม่ได้สนใจว่าซีเหมินจินเหลียนจะอยู่ในงานด้วย เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ลากฉินเฮ่ามาร้องเพลงรักคู่กัน
ฉินเฮ่าปฏิเสธอย่างทันท่วงที ถ้าหากเป็นซีเหมินจินเหลียนเขาคงไม่สนใจที่จะโชว์ลูกคอ ร้องเพลงรักด้วยกันอย่างเบิกบานไปแล้ว แต่เธอคือคนที่รู้ว่าฐานะเขาเป็นอย่างไร แถมยังเป็นพนักงานในจินโอวกรุ๊ป ถึงเขาจะมีความสนใจแต่ก็ไม่เอาดีกว่า
เมื่อหลิงซูฟางทำตามแผนไม่สำเร็จ เพื่อที่จะชะล้างความสนใจ เธอเลยไปหาประธานนักเรียนอย่างเซียวเหอให้มาร้องเพลงคู่กับเธอ เพื่อช่วยแก้หน้าให้
“จินเหลียน ผมเชิญคุณให้ไปร้องเพลงด้วยกันได้ไหมครับ” ฉินเฮ่ามองผู้คนที่กำลังสนุกสนานเลยกระซิบไปทางซีเหมินจินเหลียน
“อย่าดีกว่าค่ะ!” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหัว “ถ้าให้ฉันร้องเพลงตอนกลางดึกแบบนี้ ผู้คนคงต้องรีบโกยฝีเท้าวิ่งออกจากงานแทบไม่ทันแน่”
“หมายความว่ายังไงครับ?” ฉินเฮ่าไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่าฉันร้องได้แย่มากน่ะสิคะ แย่จนผียังกลัวฉันเลย” ซีเหมินจินเหลียนหัวเราะ ไม่ว่าเธอจะร้องเพลงอะไรก็ผิดคีย์ไปหมด เธอเลยมีความสามารถพิเศษทำให้โน้ตเพลงผิดคีย์ได้ พรสวรรค์นี้ไม่มีใครสู้เธอได้แน่