บทที่ 449 ตัดสินผู้ชนะ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

หยุ่นหมัวเริ่มออกมาท่องยุทธจักรตั้งแต่อายุ23 จนถึงตอนนี้อายุ48แล้ว ผ่านการเข่นฆ่ามา25ปีเต็มๆ แต่ยังเป็นแค่ระดับดินชั้นกลาง

แม้เย่เทียนยั้งพลังไว้ แต่สามารถทำลายแนวตั้งรับของเขาได้ในชั่วพริบตา และทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อย หยุ่นหมัวคิดถึงความเป็นไปได้นี้อย่างเดียว!

“ระ หรือว่าแกเป็นระดับดินชั้นต่ำ?!”

หยุ่นหมัวเบิกตาโต สีหน้าเหลือเชื่อ

เย่เทียนอายุแค่เท่าไหร่เอง?คงไม่เกิน30? เขาฝึกตนยังไง? หรือมีพรรสววรค์?

อีกอย่างก่อนหมาป่าโลภตาย หยุ่นหมัวก็ไม่เคยได้ยินชื่อเย่เทียนมาก่อน เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมายได้ยังไง?

“ฉันบอกแกแล้ว ว่าแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!”

เย่เทียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

“แกมันปีศาจ……ไม่! ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่เชื่อ!”

ทันใดนั้นหยุ่นหมัวก็ตะโกนออกมาราวกับคนบ้า

แม้เย่เทียนไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด แต่คำตอบที่คลุมเครือนี้กลับทำให้หยุ่นหมัวยิ่งมั่นใจว่าเย่เทียนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินชั้นต่ำ!

แต่มีหรือที่หยุ่นหมัวจะยอมรับได้!

เขาพเนจรถึง25ปีเต็มๆ ผ่านความยากลำบากมานับไม่ถ้วน หลายครั้งต้องหนีเอาชีวิตรอด จึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

ความโกรธที่เรียกว่าริษยาก่อตัวขึ้นในใจหยุ่นหมัวทันที!

คิดเช่นนั้น หยุ่นหมัวมองเย่เทียนด้วยสายตาโกรธแค้นจนแทบจะพ่นไฟออกมา พยายามเก็บความเจ็บปวดที่มีบนร่างกายเอาไว้

เห็นเขาวาดแขนขึ้นสองข้าง จากนั้นมีก้อนน้ำแข็งขนาดเท่าตัวคนปรากฏขึ้นบริเวณพื้นที่ว่างตรงหน้า แหลมคมดั่งลูกศร พุ่งเข้าใส่เย่เทียนอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้

กำลังภายในที่มองเห็น! สัญลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งระดับดิน!

“เหอะ!”

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เย่เทียนไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อย ยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน แวบตัวหลบได้อย่างง่ายดาย

พลั่ก!

ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่กระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ตรงบริเวณที่เย่เทียนยืนอยู่เมื่อครู่ ภูเขาแทบจะสั่นไหวไปทั้งลูก

ทว่าเย่เทียนไม่ทันได้ระวังการเคลื่อนไหวด้านหลัง สัมผัสได้เพียงเสียงอากาศที่พัดมาจากด้านข้างอย่างกะทันหัน ไม่มีเวลามาสนใจอะไรแล้ว รีบกลิ้งหลบไปทันที

แต่เย่เทียนรู้ตัวได้เร็ว แต่ผมบนยอดศีรษะก็ขาดไปหลายเส้นอยู่ ค่อยๆปลิวตกลงไปบนพื้น

เย่เทียนกลิ้งติดต่อกันหลายตลบ หลบทิ้งห่างมาหลายเมตร จากนั้นจึงจะตั้งตัวยืนขึ้นได้

เมื่อถึงตอนนี้ เย่เทียนก็เห็นถึงสถานการณ์ของหยุ่นหมัวได้อย่างชัดเจนเสียที

เห็นหยุ่นหมัวถือดาบน้ำแข็งที่มีความแวววาวแปลก ๆข้างละเล่ม ปล่อยไอเย็นยะเยือกอันน่าสะพรึงกลัวไปทั่วร่างกายของเขา

เย่เทียนรู้ได้ในทันที ไม่แปลกใจที่หยุ่นหมัวใช้กำลังภายในอย่างไม่นึกเสียดาย สร้างก้อนน้ำแข็งออกมาขนาดใหญ่เช่นนี้ ความรู้สึกเป็นมิตรเป็นแค่การเสแสร้ง ความตั้งใจจริงคืออาศัยก้อนน้ำแข็งซ่อนรูปร่างจริงๆเอาไว้ คิดจะลอบโจมตี!

“ไปตายซะ! ไปตายซะ!”

แต่เย่เทียนยังไม่ทันได้ลงมืออีกรอบ หยุ่นหมัวกลับตะโกนออกมาด้วยความโกรธจัด วาดแขนขึ้นทั้งสองข้าง แล้วปล่อยก้อนน้ำแข็งขนาดเท่ากำปั้น ให้พุ่งไปยังเย่เทียนมืดฟ้ามัวดินอย่างกับพายุฝน ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเขาทั้งหมด

ทว่าเมื่อครู่เย่เทียนแค่รับมือไม่ทัน ตอนนี้เตรียมป้องกันได้แล้ว มีหรือจะสนใจลูกไม้ตื้นๆของหยุ่นหมัว?

“ท่ามังกรเก้า ท่าแรก……”

เย่เทียนไม่หลบแม่แต่น้อย เร่งคัมภีร์หวงจนถึงขั้นสุดเงาลวงตี้จวินขนาดใหญ่ค่อยปรากฏขึ้นด้านหลัง

“จุนหลินเทียนเชี่ย!”

เงาลวงตี้จวินขนาดใหญ่ด้านหลังลืมตาขึ้นทันทีที่เย่เทียนพูดเสียงขึ้นเบา ดาบใหญ่ในมือเขากวาดก่อนน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาจำนวนมากออกไปได้อย่างสบายๆ

“กะ แก……”

หยุ่นหมัวไม่โจมตีต่อ แต่กลับมองเงาลวงตี้จวินขนาดใหญ่ด้านหลังเย่เทียนด้วยความตกตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอผู้แข็งแกร่งระดับดินที่เหลือ แต่ไม่เคยเห็นใครที่มีพลังงานภายในมากขนาดนี้มาก่อน มันมีขนาดใหญ่เทียบเท่าตึก3ชั้น เกินจากที่เขารู้ไปมาก!

โชคดีที่บริเวณเป็นจุดชมวิวที่ไม่คน บวกกับเป็นเวลากลางดึก ไม่งั้นพรุ่งนี้กลายเป็นพาดหัวข่าวแน่

แม้หยุ่นหมัวอึ้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนจะหยุดแค่นี้

“ดึกมากแล้ว ฉันไม่มีอารมณ์เล่นกับแกต่อแล้ว!”

ดวงตาดำขลับของเย่เทียนยิ่งฉายความเย็นยะเยือกออกมา พลางยิ้มจนเห็นฟัน ปรับชี่ทิพย์ในร่างกายไปถึงจุดสูงสุด

“ท่ามังกรเก้า ท่าสาม จักรพรรดิจับกุมจตุสมุทร!”

เงาลวงตี้จวินขนาดใหญ่ค่อยๆเอื้อมแขนข้างซ้ายออกมา โค้งลำตัวเล็กน้อย แม้มือขนาดใหญ่ดูเหมือนช้า แต่ความเป็นจริงมันกดลงไปทางหยุ่นหมัวอย่างรวดเร็ว!

หยุ่นหมัวได้สติกลับมา รีบปรับกำลังภายในถึงขั้นสูงสุดจนเสื้อผ้าบนตัวพลิ้วไหวไปตามๆกัน แม้แต่ผมที่มีอยู่น้อยนิดก็ยังโดนลมพัดขึ้นไปด้วย

“ฉันไม่แพ้ให้แกแน่!”

หยุ่นหมัวตะโกนด้วยความเดือดจัดพลางวาดมือไปมา มี้ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แปลงร่างจากกำลังภายในปรากฏขึ้นตรงหน้า

ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้มีขนาด2ใน3ของขนาดฝ่ามือตี้จวิน มันพุ่งใส่ฝ่ามือตี้จวินจากด้านบน ภายใต้การกระตุ้นของหยุ่นหมัว

น่าเสียดาย แม้หยุ่นหมัวไม่ยั้งพลังไว้แม้แต่น้อย ใช้กำลังภายในจำนวนมากในการหลอมเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือตี้จวิน มันก็อ่อนแอเกินไปอยู่ดี

แซ่ๆ!

ทันทีที่ทั้งสองปะทะกัน ฝ่ามือตี้จวินก็ทุบก้อนน้ำแข็งลงไปอย่างไรปรานี จนมันกลายเป็นกองเกล็ดน้ำแข็ง และกลายเป็นชี่ทิพย์หลอมละลายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

แม้มือใหญ่ตี้จวินทำลายก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ไปแล้วดูว่างเปล่าขึ้นเยอะ แต่มันไม่ได้หายไปไหน ยังคงพุ่งเข้าหาหยุ่นหมัวอย่างไม่อาจยับยั้งได้

ฉึบๆ!

แม้เป็นโล่ทิพย์ป้องกันกายของหยุ่นหมัว แต่ก็ต้านทานไว้ได้แค่ไม่กี่วินาที จากนั้นก็เกิดเสียงเพล้งดังออกมา ระเบิดแตกกระจาย

ตูม!

เมื่อมือใหญ่ตี้จวินหายไปแล้ว ก็เกิดรอยมือขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้น!

แล้วเมื่อมองไปยังหยุ่นหมัวที่อยู่ตรงกลาง เขาหน้าซีดเผือด เสื้อผ้าขาดลุ่ยไปทั้งตัว เหมือนขอทานตกอับก็ไม่ปาน

“กะ แกชนะแล้ว”

หยุ่นหมัวค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองเย่เทียนด้วยสายตาขมขื่น พยายามพูดออกมาอย่างยากลำบาก

พูดจบหยุ่นหมัวก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว แข้งขาอ่อนแรงล้มพับลงไปกับพื้น ตกอยู่ในอาการสลบไม่ได้สติ

แน่นอนว่านี่เป็นผลจากการที่เย่เทียนดึงชี่ทิพย์กลับมาในวินาทีนาทีสุดท้าย

ไม่งั้นจุดจบของหยุ่นหมัวคงเหมือนกับฮวาอวี่เฟยก่อนหน้านี้ ด้วยกระบวนท่าเดียว เนื้อถูกบดละเอียดเละอยู่ที่ตรงนี้!

ไม่ว่ายังไงหยุ่นหมัวก็เป็นหัวหน้าของแก๊งS.P.L ต้องรู้เรื่องราวลับๆบนโลกนี้เยอะแน่ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เย่เทียนรู้ดีว่าแก๊งS.P.Lนี้ทำงานให้แก๊งกะโหลกสักลายอันลึกลับนั่น หยุ่นหมัวที่เป็นหัวหน้า คงรู้ข้อมูลของแก๊งกะโหลกสักลายอยู่บ้าง!

แม้มีเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อนมาโดยตลอด แต่เย่เทียนไม่ลืมว่าคนที่ทำให้บริษัทแซ่เฉินล้มลงในชาติก่อน คือแก๊งกะโหลกสักลายลึกลับนั่น เขาไม่ปล่อยอีกฝ่ายไว้แน่!