บทที่ 2005+2006

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2005 แขกไม่ได้รับเชิญ

มือที่อยู่ตรงสาบเสื้อของหลงซือเย่ชะงักไปทันที เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณชายฝูอีผู้นี้มาก่อน ถึงขั้นที่คิดจะหาโอกาสไปทำความรู้จักคบหาดู แต่เขาไม่รู้เลยว่าคุณชายฝูอีก็คือเสินเนี่ยนโม่…

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เข้านอนกัน คุณชายผู้นี้มาทำอะไรในยามนี้?

หากว่าเป็นในยามปกติ แขกสูงศักดิ์เช่นนี้มาเยือน ไม่ว่าจะยามไหนหลงซือเย่ล้วนต้องรีบไปต้อนรับขับสู้ทันที

แต่ตอนนี้กู้ซีจิ่วยังคงรอคอยให้เขาไปร่ายเคล็ดช่วยชีวิตอยู่ เขาไม่มีเวลามาพบปะผู้ใด จึงสั่งการข้ารับใช้ที่อยู่ด้านนอกว่า “ข้าผู้เป็นแม่ทัพยังไม่มีเวลา ขอให้เขากลับมาอีกครั้งในอีกสามวันให้หลังแล้วกัน”

ข้ารับใช้ตอบรับแล้วจากไป แต่ผ่านไปครู่หนึ่งก็กลับมาอีกครั้ง “เรียนท่านแม่ทัพ เขาบอกว่าเขาก็มีเรื่องด่วนเช่นกัน จะต้องพบท่านแม่ทัพเดี๋ยวนี้!”

หลงซือเย่โมโหแล้ว “ไม่พบ! ไสหัวไป!” ยามนี้ต่อให้เป็นจักรพรรดิเซียนมาก็ไม่พบ!

ข้ารับใช้คนนั้นหดคอแวบหนึ่ง หันหลังเผ่นแน่บไป!

เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นนายท่านของตนอารมณ์ร้ายถึงเพียงนี้

เพียงแต่เขาเพิ่งจะหันหลังไปก็หวิดก็ชนเข้ากับร่างของคนผู้หนึ่ง รีบถอยหลังไปสองสามก้าวทันที “ฝูอี…คุณชายฝูอี…”

คุณชายฝูอีผู้นี้ยิ้มบางๆ แวบหนึ่ง แขนเสื้อตบลงบนไหล่เขาคราหนึ่ง “ถอยไปเถอะ”

ด้วยเหตุนี้ช้ารับใช้คนนี้จึงถอยไปด้วยสีหน้าเลื่อนลอย

หลงซือเย่ก็ได้ยินความเคลื่อนไหวจากด้านนอกเช่นกัน พลันขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ทำอะไร ประตูก็ถูกผลักให้เปิดแล้ว คนชุดม่วงผู้หนึ่งเยื้องย่างเข้ามา “เหตุใดแม่ทัพหลงจึงปฏิเสธผู้ที่มาไกลนับพันลี้? หากว่ามีการทัพเร่งด่วนจะทำอย่างไร?”

มุกราตรีภายในห้องส่องสว่าง เมื่อหลงซือเย่มองเห็น ‘คุณชายฝูอี’ ผู้นี้ก็ผงะไปแวบหนึ่ง!

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขาเพิ่งเคยพบคุณชายฝูอีผู้นี้เป็นครั้งแรก แต่กลับรู้สึกอยู่ตลอดว่าอีกฝ่ายช่างคุ้นตานัก ที่น่าประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายก็มีความระแวดระวังตามสัญชาตญาณและความรู้สึกเป็นอริที่ไม่อาจอธิบายได้ปรากฏขึ้นมา…

เห็นได้ชัดว่าวารยุทธ์ของคุณชายฝูอีผู้นี้ไม่ต่ำต้อยเลย อย่างน้อยก็เป็นขั้นจินเซียนขึ้นไป อำนาจก็กล้าแกร่งยิ่งนัก ทำให้สัญชาตญาณของหลงซือเย่สัมผัสถึงอันตรายได้!

“ท่านผู้สูงศักดิ์มาเยือนในยามวิกาลมีธุระอันใด? ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ ไม่มีเวลามารับรองท่านผู้สูงศักดิ์จริงๆ…” หลงซือเย่ตั้งสติ เอ่ยขึ้นมา

หากมิใช่เพราะคำนึงถึงว่าพลังวิญญาณของอีกฝ่ายสูงกว่าตนมากนัก หลงซือเย่คงเตะโด่งอีกฝ่ายออกไปนานแล้ว!

“เรื่องที่ท่านต้องจัดการใช่การเยียวยารักษาผู้อื่นหรือไม่?” ตี้ฝูอีถาม

หลงซือเย่แข็งทื่อไปเล็กน้อย เขาไม่กระจ่างในจุดประสงค์การมาของคุณชายฝูอีผู้นี้ และไม่ทราบฐานะตัวตนของอีกฝ่าย ย่อมไม่นำเรื่องของกู้ซีจิ่วออกมาพูด

หากว่าคุณชายฝูอีผู้นี้ก็เป็นอริของกู้ซีจิ่วเหมือนกันเล่า? จะเป็นพวกเดียวกับพวกเฒ่าหงำเหงือกสิบคนนั้นหรือเปล่า?!

หลงซือเย่ระแวงขึ้นมาทันที!

กู้ซีจิ่วก็อยู่ในห้องเหมือนกัน ห่างจากตรงนี้ด้วยระยะทางหนึ่งบานประตูกั้นเท่านั้น อีกฝ่ายพบตัวนางได้ง่ายยิ่งนัก…

หลงซือเย่สูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง “พวกเราออกไปคุยกันข้างนอก!”

เขาจะต้องล่ออีกฝ่ายให้ออกห่างจากที่นี่!

สายตาของตี้ฝูอีร่อนลงบนอ่างไม้ใบใหญ่นั้น ยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “แม่ทัพหลงช่างมีอารมณ์สุนทรีย์นัก ดึกดื่นค่อนคืนแล้วยังแช่น้ำสมุนไพรอีกหรือ? ”

“นี่เป็นวิธีฝึกฝนอย่างหนึ่งของข้า ทำให้คุณชายฝูอีขบขันเสียแล้ว ที่นี่ไม่เหมาะจะสนทนากัน พวกเราออกไปคุยข้างนอกเถิด” หลงซือเย่ขวางอยู่หน้าประตูเข้าสู่ห้องชั้นในอย่างคล้ายตั้งใจและมิได้ตั้งใจ

“ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกหรอก คุณชายอย่างข้ามาเพื่อถามหาคนผู้หนึ่งจากแม่ทัพหลง”

สายตาของตี้ฝูอีร่อนลงบนบานประตูที่ปิดสนิทอยู่ด้านหลังของหลงซือเย่อย่างเจตนามิเชิงเจตนา ในห้องคล้ายจะมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีคนในครอบครัวที่เป็นหญิงอยู่ด้านใน…

แม่ทัพหลงผู้นี้จะร่วมอ่างเคล้าคลอกับสตรีหรือ?

ไม่ถูกสิ! ตามที่เขาทราบมาแม่ทัพหลงผู้นี้เข้มงวดกับตนเองยิ่งนัก ยังไม่ได้แต่งภรรยาและไม่มีนางบำเรอ แม้แต่สาวใช้ห้องข้างสักคนก็ยังไม่มี เช่นนั้นสตรีที่อยู่ในก็คือ…

ในใจของหลงซือเย่รู้สึกกระสับกระส่ายยิ่งนัก รีบเอ่ยทันที

——————————————————————————

บทที่ 2006 แขกไม่ได้รับเชิญ 2

“คุณชายฝูอีต้องการถามหาผู้ใด? คนในจวนข้ามีจำนวนจำกัด ท่านตามข้าออกไปข้างนอก ข้าจะเรียกพวกเขามาพร้อมกัน ให้คุณชายฝูอีได้เลือกสรร…”

“ไม่ต้องแล้ว! นางสมควรจะอยู่ด้านใน” หลงซือเย่รู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้าพลันพร่าเลือน เงาร่างสีม่วงวูบไหว บานประตูด้านหลังถูกคนผลักเปิด!

สถานการณ์ด้านในบานประตูทำให้คนนอกประตูมองเห็นทุกอย่างได้ในแวบเดียว…

หลงซือเย่หันหน้าออกด้านนอก ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นสถานการณ์ด้านในประตู ส่วนตี้ฝูอียืนตรงข้ามเขา หันหน้าเข้าหาประตูพอดี ดังนั้นเขาจึงมองเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง…

หลงซือเย่คิดจะหันไปมองตามสัญชาตญาณ ทว่าตี้ฝูอีที่อยู่ด้านหน้ากลับหน้าเปลี่ยนสีทันที เรือนกายไหววูบ พุ่งผ่านไปอยู่ด้านหลังหลงซือเย่ จากนั้นผลักเขาไปด้านหน้าอย่างรุนแรง

การเคลื่อนไหวของตี้ฝูอีรวดเร็วเกินไป หลงซือเย่ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ลงมือว่องไวที่สุดในกองทัพเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับตี้ฝูอีแล้วยังคงห่างชั้นกันอยู่

เขาถูกอีกฝ่ายผลักจนโซซัดโซเซ หวิดจะชนใส่เสาแล้ว

ต่อให้หลงซือเย่จะสุขุมเยือกเย็นสักเพียงใด ยามนี้ก็โกรธขึ้นมาแล้ว!

ด้านหลังเกิดเสียงดัง ‘ปัง’ หลงซือเย่หันกลับไปทันที พบว่าบานประตูที่เดิมทียังเปิดอ้าอยู่ถูกตี้ฝูอีปิดอย่างแรงอีกครั้ง

ส่วนตี้ฝูอีก็ยืนขวางอยู่หน้าประตู แววตาแปรปรวน “เจ้าสำนักหลงคิดจะทำอันใด?!”

เมื่อครู่เขามองเห็นอย่างชัดเจน กู้ซีจิ่วถูกสาวใช้สองคนเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง…

เนื่องจากภาพนั้นน่าตื่นตระหนกเกินไป ตี้ฝูอีจึงไม่กล้ามองมากนักเช่นกัน รีบละสายตาทันที ปิดประตูห้องด้วยความรวดเร็ว กันไม่ให้หลงซือเย่ได้เห็น

ตี้ฝูอียังคงเป็นเด็กหนุ่มที่เฉียบแหลมผู้หนึ่ง ถึงแม้เขาจะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ทันทีที่มองเห็นนาง แรงกระตุ้นเช่นนั้นก็ยังคงมหาศาลนัก ทำให้หัวใจเขาเต้นกระหน่ำจนผิดจังหวะ

ถึงแม้จะเหลือบมองเพียงแวบเดียว แต่เขาก็มองออกว่าสีหน้าของกู้ซีจิ่วซีดเซียวอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัส เพียงแต่ยังคงมีสติอยู่

เมื่อครู่ยามที่เขาซัดฝ่ามือใส่บานประตู นางยังคิดจะดึงผ้าห่มที่อยู่ด้านข้างมาบดบังตามสัญชาตญาณอยู่เลย จนปัญญาที่เรี่ยวแรงนางไม่เป็นใจ แต่นางมองเห็นเขาแล้ว สายตาของทั้งสองคนประสานกันกลางอากาศ…

ภายในห้องยังมีอ่างไม้ใบใหญ่ที่มีควันกรุ่นใบหนึ่ง ลักษณะส่วนใหญ่เหมือนกับอ่างใบที่อยู่ด้านนอก…

โดยเฉพาะของเหลวที่อยู่ด้านใน ล้วนเป็นสีเขียวเข้มเช่นกัน…

ตี้ฝูอีลอบตรวจสอบหลงซือเย่มาแล้ว ทราบว่าคนผู้นี้มิใช่คนเลวทรามต่ำช้าอันใด กู้ซีจิ่วอยู่ในสภาพนี้ หลงซือเย่กระทำเรื่องเหล่านี้เห็นได้ชัดว่ามิใช่เพื่อร่วมอ่างเคล้าคลอ…

น่าจะเป็นวิธีรักษาอย่างหนึ่ง…

ตี้ฝูอีเฉลียวฉลาด แทบจะคาดเดาเรื่องราวส่วนใหญ่ออกในทันที แต่ว่าในใจของเขายังคงรู้สึกอึดอัดอยู่…

ถึงแม้ในใจของเขาคิดจะเลี้ยงดูให้กู้ซีจิ่วกลายมาเป็นศรีภรรยา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคงเป็นเด็กชายตัวน้อยผู้ใสซื่อ ได้เห็นนางในสภาพนั้นเป็นครั้งแรก เขารู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยแทบจะรับไม่ไหวแล้ว…

สีหน้าหลงซือเย่เขียวคล้ำ!

ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นสถานการณ์ด้านใน แต่เขาก็สามารถอนุมานตามหลักเหตุผลได้อย่างใกล้เคียง เกรงว่ากู้ซีจิ่วคงจะเปลือยเปล่า ทว่าถูกคุณชายฝูอีที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนผู้นี้เห็นเข้าแล้ว!

น่าชังนัก! เขามีฐานะเป็นสหายสนิทของซีจิ่วยังไม่เคยได้เห็นเลย!

ต่อให้เมื่อก่อนเขาเคยคิดจะสานสัมพันธ์กับคุณชายฝูอีผู้นี้ ยามนี้ก็ไม่คิดอีกแล้ว เขาอยากจะซัดอีกฝ่ายให้ตายแทน!

“ท่านผู้สูงศักดิ์บุกรุกจวนแม่ทัพของข้า ซ้ำยังใช้กำลังบังคับเปิดประตูในห้องของข้า ตอนนี้ยังมาย้อนถามอีกว่าข้าจะทำอันใดงั้นหรือ?!”

หลงซือเย่งอนิ้วเล็กน้อย คิดจะสู้ตายกับตี้ฝูอีอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว!

แต่ประโยคหนึ่งของตี้ฝูอีกลับทำให้เขาแข็งทื่อไป “ข้าผู้เป็นคุณชายคือคู่หมายของนาง บุกมาในยามวิกาลก็เพื่อตามหานาง!”

หลงซือเย่มองเขาเสมือนมองผู้ป่วยโรคประสาท “พูดเหลวไหล! แม่ทัพอย่างข้าคบหากับนางมาหลายปี ไม่เคยได้ยินเลยว่านางมีคู่หมั้นคู่หมายอันใด!”

——————————————