ตอนที่ 461 ชมละคร

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 461

ชมละคร

“ยินดีต้อนรับขอรับ”ทันทีที่เดินออกมาจากรถไฟ เหล่าพนักงานของสถานีก็เข้ามาต้อนรับทันที เพราะขบวนรถไฟที่พวกจิ้งจอกเหมันต์และจูล่งเดินทางมานั้นเป็นรถไฟขบวนพิเศษที่มีแต่คนใหญ่คนโตนั่งมานั่นเอง แถมพอมาถึงสถานีปลายทางแบบนี้ก็เหลือไม่กี่คนเท่านั้นทำให้พนักงานเข้ามาต้อนรับพวกจิ้งจอกเหมันต์เยอะกว่าปกติอีกต่างหาก

“คุณชาย คุณหนูตรงนั้น ไม่ทราบว่าพวกท่านพึ่งออกมาจากขบวนรถไฟใช่หรือไม่”ทันทีที่จิ้งจอกเหมันต์เดินผละออกมาจากพวกพนักงาน ที่หน้าสถานีก็ปรากฏชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาจิ้งจอกเหมันต์และจูล่งในทันที

“เจ้าต้องการอะไร”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองชายตรงหน้าด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ ชายคนนี้มองนางมาตั้งแต่ออกจากสถานีรถไฟแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าจ้องจะเข้ามาพบนางกับจูล่งเพราะเห็นว่าพวกตนลงมาจากขบวนรถพิเศษเป็นแน่

“พวกท่านพึ่งมาถึงเมืองนี้ใช่หรือไม่ขอรับ ไม่ทราบพวกท่านจะเดินทางต่อหรือเปล่า”ชายตรงหน้าถามพลางยิ้มกว้างออกมา

“เจ้าก็น่าจะเห็นว่าพวกเราพึ่งออกมาจากสถานีรถไฟ ยังจะถามคำถามเช่นนี้อีกงั้นหรือ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางถอนหายใจออกมา เมื่อวานนางพึ่งเจอเรื่องทำร้ายจิตใจมาทำเอานางอารมณ์ไม่ดีมากทีเดียว

“ละ แล้วคุณหนูจะเดินทางต่อไปที่อื่นหรือเปล่าขอรับ”ได้ยินอีกฝ่ายยังเรียกตนว่าคุณหนูจิ้งจอกเหมันต์ก็พอจะใจเย็นลงบ้าง นับว่าอีกฝ่ายยังเลือกใช้คำพูดได้ไม่เลว

“ถูกแล้ว พวกเราจะเดินทางต่อไปทางตะวันตก เจ้ามีอะไรงั้นหรือ”จิ้งจอกเหมันต์ถามออกไปเพราะอีกฝ่ายอ้ำอึ้งไม่ยอมบอกสาเหตุที่รั้งพวกตนเอาไว้อยู่

“เช่นนั้นคุณหนูสนใจจะจ้างข้าเอาไว้คุ้มกันดีหรือไม่ขอรับ เส้นทางข้างหน้าอาจจะเจอโจรหรืออสูรเข้ามาทำร้ายก็ได้ ให้ข้าผู้นี้คอยป้องกันพวกท่านจากอสูรและโจรร้ายดีกว่าขอรับ”ชายตรงหน้าเสนอพลางยิ้มกว้างออกมา จิ้งจอกเหมันต์ไม่ทราบหรอกว่าพลังวิญญาณของมันอยู่ระดับไหน แต่คิดจะคุ้มกันนางกับจูล่งงั้นหรือ ไม่ทราบมันกินดีหมีมาหรืออย่างไรถึงได้กล้าคิดว่าจะคุ้มกันพวกตนได้

“พวกเราเดินทางกันเองได้”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางบอกให้จูล่งเดินตามตนเองมา หมู่บ้านของพวกนางอยู่ห่างจากที่นี่มากทีเดียว ขืนให้คนอื่นคุ้มกันพวกนางก็ใช้ตงฟางบินไปไม่ได้ แบบนั้นไม่เท่ากับเสียเวลาหรือ

“ไม่ได้นะขอรับ ขืนคุณหนูอ่อนต่อโลกเช่นท่านเดินทางตามลำพังกับน้องชายอาจจะเจออันตรายได้นะขอรับ”ได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนั้นออกมา จิ้งจอกเหมันต์ก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังเสียแล้ว คุณหนูอ่อนต่อโลกงั้นหรือ ช่างน่าขำยิ่งนัก

“ทำไมมันเรียกท่านน้าแบบนั้นล่ะขอรับ”จูล่งถามพลางเอียงคอสงสัย ไม่ว่าจูล่งจะซื่อเพียงไรก็ไม่อาจโยงท่านน้าของตนเข้ากับเด็กสาวอ่อนต่อโลกได้เลย แถมมันก็ไม่ใช่น้องชายของน้าจิ้งจอกด้วยแต่เป็นหลานต่างหาก

“เจ้ามีรถม้าหรือไม่”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองไปทางชายที่พยายามเสนอตัวเป็นผู้คุ้มกันให้

“มะ มีขอรับ มีแน่นอนขอรับ”ชายคนนั้นมีท่าทีดีใจอย่างมากเมื่อเห็นจิ้งจอกเหมันต์ถามเช่นนั้น

“งั้นข้ากับน้องชายจะจ้างเจ้าก็แล้วกัน”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางยิ้มออกมาบางๆ ไม่ใช่ว่านางดีใจที่อีกฝ่ายเห็นนางเป็นหญิงสาวท่าทางอ่อนต่อโลกหรอกนะ แต่นางจะมอบรางวัลให้มันเพราะมันทำให้นางขำได้ต่างหาก อย่างน้อยก็ช่วยให้นางได้ระบายความอัดอั้นเมื่อวันก่อนได้นิดหน่อย

“ขอรับ งั้นข้าจะไปเอารถม้ามานะขอรับ”ชายหนุ่มว่าพลางวิ่งไปเอารถม้าที่จอดเอาไว้ข้างๆสถานีรถไฟออกมาด้วยท่าทีรีบร้อน มันรอจังหวะให้คนที่นั่งขบวนรถพิเศษมาตลอด แต่คนพวกนั้นส่วนใหญ่ก็มีผู้คุ้มกันอยู่แล้ว มันเลยแห้วงานมาพักใหญ่แล้ว ในจังหวะก่อนจะที่ถอดใจกลับได้จิ้งจอกเหมันต์ช่วยจ้างเอาไว้นับว่าต่อชีวิตไปได้อีกสักพัก

“คุณหนู คุณชาย เชิญขอรับ”ชายคนนั้นว่าพลางเอารถม้ามารับจูล่งกับจิ้งจอกเหมันต์ แต่พอเห็นรถม้าแล้วจิ้งจอกเหมันต์ก็ต้องถอนหายใจออกมา รถม้าของมันเป็นรถม้าธรรมดาที่ชาวบ้านนั่งกัน ไม่แปลกเลยที่จะไม่มีคนจ้างพวกมัน แถมพวกมันยังเล็กคนที่พึ่งลงจากรถไฟขบวนพิเศษอีกด้วย

“ก่อนจะไปข้าขอถามเจ้าก่อนว่าค่าจ้างของเจ้าราคาเท่าไหร่”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางกอดอกนิ่ง มันเล็งพวกมีเงินจากขบวนรถไฟชั้นพิเศษ มันต้องกะหวังฟันเงินแน่ๆ หากแพงเกินไปเกรงว่ามันจะทำให้นางหัวเราะอีกสักสิบรอบก็คงไม่พอ

“50 เหรียญเงินขอรับ”พอได้ยินราคา จิ้งจอกเหมันต์ก็ขมวดคิ้วออกมาด้วยท่าทีประหลาดใจ

“แล้วมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือเปล่า”จิ้งจอกเหมันต์ถาม นางไม่คิดว่าเจ้าหมอนี่จะมาดักรอคนจากรถไฟขบวนพิเศษด้วยราคาค่าจ้างแค่นี้หรอก

“กรณีที่โดนโจรหรืออสูรโจมตี ข้าจะขอคิดเงินเพิ่มครั้งละ 15 เหรียญทองขอรับ แน่นอนว่าถ้าข้าปกป้องพวกท่านไม่ได้ข้าจะไม่คิดเงินเช่นกัน”ชายคนนั้นตอบออกมา ทำให้จิ้งจอกเหมันต์หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ได้สิ จูล่งไปกันเถอะ”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มบางๆออกมาก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถม้าช้าๆ ทำให้จูล่งได้แต่เดินตามขึ้นไปอย่างช่วยไม่ได้

“จูล่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าจงมองสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดี และคิดให้มาก เจ้าจำสิ่งที่ข้าสอนเจ้าเอาไว้ให้ดี”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางยิ้มออกมา

“ขอรับ….”จูล่งกะพริบตาปริบๆ พลางปล่อยให้รถม้าเดินทางออกจากเมืองไปช้าๆ

.

.

“โชคดีจริงๆนะขอรับที่คุณหนูเลือกใช้งานข้าน้อย ช่วงที่รอบๆเมืองมีโจรชุกชุมทีเดียว”ทันทีที่เดินทางออกจากเมือง ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ควบคุมรถม้าอยู่ก็เริ่มพูดออกมาด้วยท่าทีเหมือนจะอยากเล่าเรื่องเสียเต็มที่

“งั้นหรือ ข้านึกว่าโจรเริ่มน้อยลงแล้วเสียอีก”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางมองไปทางชายหนุ่มด้วยท่าทียิ้มๆ

“ไม่หรอกขอรับ ช่วงนี้มีโจรชื่อดังผู้หนึ่งกำลังออกอาละวาด ได้ข่าวว่ามันฆ่าคนไปไม่ต่ำกว่า 7 คนแล้วนะขอรับ”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงน่าขนลุก แต่ทั้งจูล่งทั้งจิ้งจอกเหมันต์กลับกะพริบตาปริบๆเหมือนไม่ได้หวาดกลัวอะไรมากมาย

“ข้าได้ข่าวว่ามันใช้ค้อนขนาดใหญ่เป็นอาวุธ ว่ากันว่าค้อนของมันเป็นอาวุธวิเศษที่ทุบภูเขาทั้งลูกถล่มได้เลยนะขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นจูล่งกลับเอียงคอด้วยความสงสัย

“ถ้าถล่มภูเขาละก็ ข้า…” จูล่งที่กำลังจะพูดโดนจิ้งจอกเหมันต์ใช้มือปิดปากเอาไว้เสียก่อน

“ล่งเอ๋อ พูดแทรกคนอื่นไม่ได้นะ”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มพลางนั่งฟังเรื่องเล่าตำนานมหาโจรอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มตั้งราคาค่าปกป้องพวกตนด้วยราคาสูงกว่าราคาจ้างธรรมดาหลายเท่าแล้ว จิ้งจอกเหมันต์ก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงเตรียมคนมาโจมตีเอาไว้แล้ว แน่นอนว่ามันไม่คิดจะทำร้ายพวกตนหรอก เพียงแต่จะแกล้งทำเป็นปกป้องพวกตนเอาวแล้วคิดค่าจ้างที่เพิ่มเข้ามาต่างหาก

ตูม!! ชายหนุ่มเล่าเรื่องยังไม่ทันไร อยู่ๆก็มีค้อนพุ่งเข้ามากระแทกพื้นเสียงดังสนั่น ดูจากกำลังที่ปาค้อนมาแล้วจิ้งจอกเหมันต์ก็พอจะเดาพลังฝีมือของอีกฝ่ายได้ เกรงว่าจะอยู่ระดับชำระกระดูกกระมัง

“หยุด นี่คือการปล้น”ชายร่างอ้วนคนหนึ่งพูดพลางเดินเข้ามาหยิบค้อนของตนเอาไว้

“เจ้า หรือว่าจะเป็นโจรที่ร่ำลือกัน”คนคุ้มกันของจิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางลุกขึ้นยืนทันที ตัวมันมีพลังวิญญาณพอๆกับอีกฝ่าย ทำให้ยังไม่สามารถเปิดช่องมิติส่วนตัวได้ แถมฐานะการเงินก็ไม่ดีไม่สามารถหาซื้อแหวนมิติได้ มันเลยเอาดาบที่แขวนเอาไว้ข้างรถม้าออกมาเตรียมต่อสู้แทน เพียงแต่….

วูบ…จูล่งที่อยู่ด้านหลังเรียกเอาทวนประจำตัวออกมา

หมับ! จิ้งจอกเหมันต์จับมือจูล่งเอาไว้ก่อนจะดึงมันลงมานั่งที่เช่นเดิม

“จูล่ง เจ้าคิดว่าตรงหน้าเรากำลังเกิดอะไรขึ้น”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางบอกให้จูล่งดูสถานการณ์ตรงหน้าดีๆ

“โจรกำลังปล้นพวกเราขอรับ”จูล่งตอบพลางกะพริบตาปริบๆ

“เฮ้อ….ต้องให้ข้าสอนเจ้าอีกกี่รอบ บอกแล้วว่าอย่าเชื่อทุกสิ่งที่คนอื่นพูด”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางบอกให้จูล่งเก็บทวนไป

“ตรงหน้าเราตอนนี้คือการแสดง เจ้าอ้วนนั่นกำลังแสดงเป็นโจรเพื่อให้เจ้าหนุ่มนั่นได้แสดงบทผู้คุ้มกันของเราต่างหาก”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางมองภาพตรงหน้านิ่ง

“อย่าหวังเลย วันนี้ข้าคือผู้คุ้มกันของคุณหนูและคุณชาย ไม่มีวันปล่อยให้โจรอย่างเจ้าทำร้ายพวกท่านได้หรอก”ชายหนุ่มว่าพลางชี้ดาบไปที่เจ้าอ้วนนิ่ง

“ฮ้าๆ วันนี้ข้าจะจับพวกมันไปเรียกค่าไถ่ให้หมด”ชายร่างอ้วนว่าพลางยกค้อนทุบลงไปบนก้อนหินข้างๆ ทำเอาก้อนหินข้างๆแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี ไหนว่าบดทั้งภูเขาได้ไง นี่แค่ทุบก้อนหินข้างทางทิ้งเองไม่ใช่หรือ แบบนั้นมีพลังระดับหนึ่งใครก็ทำได้ไม่ใช่หรือยังไงกัน

“อย่าหวังเลย”ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่คุ้มกันพูดพลางพุ่งเข้าไปโจมตีชายร่างอ้วนทันที กระบวนท่าของพวกมันรวดเร็วและสอดคร้องราวกับซ้อมกันมาเป็นอย่างดี ทำเอาจิ้งจอกเหมันต์แทบจะหาอะไรมานั่งกินระหว่างชมงิ้วตรงหน้าเสียให้ได้

เคร๊ง! ในที่สุดผู้คุ้มกันของพวกนางก็ชนะจนได้ ค้อนของชายร่างอ้วนตกลงพื้นและชายหนุ่มก็เอาดาบจ่อที่คอของมันเอาไว้ได้อย่างพอดิบพอดี

“ฝากไว้ก่อนเถอะ”ชายร่างอ้วนว่าพลางทำท่าจะปัดดาบของชายหนุ่มออกแล้วทำท่าจะหนี….

โครม!! อยู่ๆชายร่างอ้วนก็ลื่นล้มเสียอย่างนั้น แน่นอว่าคนที่ทำให้มันล้มก็คือจิ้งจอกเหมันต์นั่นเอง

“รออะไรล่ะเจ้าคะ มันเป็นโจรร้ายที่ฆ่าคนมาตั้งมากมายไม่ใช่หรือ ท่านรีบจัดการมันเถอะ”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มพลางบอกให้ชายหนุ่มรีบจัดการเสียให้จบ ตอนนี้มันโดนน้ำแข็งของนางยึดร่างติดกับพื้นเอาไว้แล้ว ทำอะไรไม่ได้หรอก

“ขะ ข้า….”ชายหนุ่มชะงักค้างไปก่อนจะเดินเข้าไปหาชายอ้วนช้าๆ ตามแผนมันไม่ใช่แบบนี้นี่นา ชายอ้วนจะต้องหนีไปแล้วมันเดินทางต่อไม่ใช่หรือยังไง

“ท่านจะปล่อยมันไปไม่ได้นะ หากคนอื่นต้องมาเจอโจรร้ายแบบนี้ต้องแย่แน่ๆ”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มพลางมองชายหนุ่มที่กำลังเดินชี้ดาบไปที่ชายร่างอ้วนนิ่ง

ฟุบ….อยู่ๆชายหนุ่มก็ก้มลมเอาเชือกมัดร่างของชายร่างอ้วนเอาไว้แทนเสียอย่างนั้น

“โจรพวกนี้ต้องมีรางวัลนำจับแน่ขอรับ ข้าว่าจับมันเอาไว้แล้วพาไปส่งที่เมืองต่อไปดีกว่า”ได้ยินชายหนุ่มตอบมาเช่นนั้นจิ้งจอกเหมันต์ก็ยิ้มออกมาบางๆ นับว่ายังโชคดีที่ชายหนุ่มยังพอหาทางเอาตัวรอดได้

.

.

“คุณหนู ตั้งแต่ตรงนี้ไปจะมีอสูรชุกชุมทีเดียว ท่านต้องระวังให้ดีๆนะขอรับ”หลังจากมัดชายอ้วนเอาไว้ที่หลังรถแล้วออกเดินทางต่อมาได้ไม่เท่าไหร่ อยู่ๆชายหนุ่มก็เริ่มเล่าเรื่องอสูรขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ท่านน้าหรือว่าอสูรเองก็เล่นละครด้วยหรือขอรับ”จูล่งถามพลางมองไปทางจิ้งจอกเหมันต์ด้วยท่าทีสนใจ

“อืม แม้จะน้อยแต่คนแถวนี้ก็เริ่มอยู่ร่วมกับอสูรแล้ว ก็มีโอกาสเป็นไปได้นั่นล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางจับสัมผัสพลังอสูรรอบๆ

“กรรรร”แทบจะทันทีที่จับสัมผัสได้ ร่างของจิ้งจอกสีขาวตนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้ารถของพวกจิ้งจอกเหมันต์อย่างรวดเร็ว

“แย่แล้วคุณหนู มีอสูรเข้ามาโจมตีพวกเรา ท่านระวังตัวด้วยนะ”ทันทีที่เห็นจิ้งจอกเข้ามาโจมตีชายหนุ่มก็ชักดาบออกมาเตรียมจะเข้าไปต่อสู้กับจิ้งจอกตรงหน้าทันที

“กะ……..”จิ้งจอกสีขาวตรงหน้าทำท่าจะขู่ อีกรอบ แต่อยู่ๆก็เหมือนพึ่งจะสัมผัสพลังอสูรของจิ้งจอกเหมันต์ได้ น่าเสียดายที่จิ้งจอกเหมันต์ปกปิดพลังแบบจูล่งไม่ได้ ระดับพลังของนางก็เลยแผ่เข้าหาจิ้งจอกน้อยตรงหน้าทันที

“เจ้า…น่ารักดีนี่นา”จิ้งจอกเหมันต์ยิ้มพลางมองจิ้งจอกสีขาวตรงหน้าด้วยท่าทีเอ็นดู สำหรับจิ้งจอกเก้าหางอย่างนางแล้ว อสูรจิ้งจอกหางเดียวก็เหมือนลูกๆหลานๆนั่นละ เจ้าหนูนี่ท่าทางจะอายุไม่ถึงร้อยปีเสียด้วยซ้ำเลยกระมัง

“ขะ ข้า….”จิ้งจอกตรงหน้าตัวสั่นพลางก้มตัวลงแนบพื้นทันที

“ข้าผิดไปแล้วขอรับ นายหญิงโปรดอย่าถือสาเลยขอรับ”จิ้งจอกสีขาวพูดด้วยท่าทีสั่นเทาและหวาดกลัวอย่างมาก ทำเอาจิ้งจอกเหมันต์ได้แต่ยอมแพ้และเลิกเล่นแต่เพียงเท่านี้