ตอนที่ 783 ฝีมือใคร

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

”เป็นยังไง?”ฉางกวนหลงรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่จงไคเข้าทำการผ่าตัดอยู่
  ”เราสามารถช่วยได้แค่ชีวิตเขาแต่ไม่สามารถรักษาขาของเขาไว้ได้ครับ” หมอตอบพร้อมกับถอนหายใจอย่างกังวล
  ”ฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้น!”ฉางกวนหลงหงุดหงิดอย่างมาก “ตรงนั้นยังใช้การได้หรือเปล่า?”
  หมอค่อนข้างอายผ่านไปครู่หนึ่งหมอก็เอ่ยตอบ “ไม่ได้ครับ”
  ฉางกวนหลงรู้สึกมืดบอดขึ้นมาทันทีเขายืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก และหลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ออกคำสั่งขึ้นมา “เร็วเข้า! รีบติดต่อค่ายจินหยางเดี๋ยวนี้ เราไม่สามารถจัดการเรื่องนี้เองได้อีกต่อไป เราต้องรีบแจ้งให้จงคุยรู้เรื่องเร็วที่สุด มันอาจจะมีหนทางอื่น เราต้องไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า และคนทำผิดจะต้องเป็นเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายที่เป็นแขกของฉันแน่ๆ!”
  ”ใช่ครับตอนแรกก็สถาบันวิจัย แล้วจงไคก็ถูก…” มู๋หรงยู่เฉิงไม่กล้าพูดคำต่อไปต่อ และเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อไปแทน “นี้มันเห็นได้ชัดว่าคนร้ายจงใจสร้างเรื่องยั่วยุให้ค่ายหนานตู้กับค่ายจินหยางมีปัญหากันครับ!”
  ”คิดว่าเป็นฝีมือของใคร?”แววตาของฉางกวนหลงเป็นประกายวาว
  ”ชูฮันเป็นคนที่น่าสงสัยมากที่สุดครับ”มู๋หรงยู่เฉิงเงียบไปก่อนจะเอ่ยออกมานิ่งๆ หากแววตาของเขาวิบวับ
  ”ฉันเองก็รู้สึกว่าเขาน่าสงสัยเหมือนกันแต่โชคร้ายที่มันไม่มีทางเป็นไปได้” หัวของฉางกวนลงแทบจะระเบิด “พวกเราพึ่งแยกมาจากชูฮันก่อนหน้าเหตุการณ์สดๆเลย เราคือพยานที่ยืนยันที่อยู่ของเขาเองโดยตรง และในที่พักนั้นไม่มีใครหลบหนีออกไปแม้แต่คนเดียว ทหารของชูฮันอยู่ครบทุกคน นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับชูฮัน”
  ”นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในหัวเหมือนกันครับแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงมักคิดเสมอว่ายังไงมันก็เป็นฝีมือชูฮัน เป็นไปได้มั้ยครับว่าคนร้ายตัวจริงจงใจชักนำเราให้เข้าใจผิด?” มู๋หรงยู่เฉิงคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก
  ”และตอนที่พวกเราเดินจากมามันก็ไม่มีอะไรผิดปกติบนถนนเลย ทั้งๆที่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นใต้สายตาเราแท้ๆ” ฉางกวนหลงวิเคราะห์ต่อ “สรุปได้แค่ว่าคนร้ายลงมือภายในพริบตาเดียวและรวดเร็วมาก จงไคเองก็ไม่ได้เห็นหน้าตาคนร้ายกับตาตัวเอง และตอนที่พวกเราไปถึง เราก็ไม่เจอใครทั้งนั้น แม้แต่อาวุธของคนร้ายก็ไม่มี หรือว่ามันเป็นเรื่องลี้ลับจริงๆ?”
  ”เดี๋ยวก่อนครับท่าน”มู๋หรงยู่เฉิงชะงักเมื่อนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ “ท่านครับเราอาจจะเผลอมองข้ามบางจุดไปครับ”
  ฉางกวนหลงขมวดคิ้ว”อะไรล่ะ?”
  ”ถ้าความจริงแล้วคนร้ายไม่ได้ต้องการฆ่าจงไคแต่เป็นท่านละครับ?”มู๋หรงยู่เฉิงพูดอย่างตกใจกับความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวตัวเอง “ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างดูเป็นเรื่องที่ส่งผลร้ายต่อค่ายหนานตู้ทั้งนั้น และถนนเส้นที่จงไคถูกลอบฆ่าก็บังเอิญเป็นถนนเส้นเดียวกับที่เราใช้ ถ้าสมมติว่าจงไคบังเอิญมาอยู่ตรงนั้นในเวลานั้นก่อนท่านพลเอกที่พึ่งจะได้รับข่าวรายงานเรื่องการกระทำของราชานักล่า…”
  ”แสดงว่าคนจะถูกฆ่าก็จะเป็นฉันแทน?”ฉางกวนหลงเอ่ยออกมาเงียบๆ คิ้วยิ่งขมวดเข้าหากันด้วยความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
  ใครอยากจะฆ่าเขา?! novel-lucky
  มู๋หรงยู่เฉิงกลืนน้ำอย่างประหม่า”ท่านครับ เราจะเอาไงต่อดีครับ?”
  ”มีคนมากเกินไป”ฉางกวนหลงกระพริบตา “ยิ่งคนมากมายเท่าไหร่ ความวุ่นวายยิ่งมากเท่านั้น”
  มู๋หรงยู่เฉิงไม่กล้าจะพูดอะไรทั้งนั้นความคิดในหัวของเขาปักใจเชื่อกับทฤษฏีลอบสังหารไปหมดแล้ว เขาคิดแค่ว่าตอนนี้ค่ายหนานตู้กำลังย่ำแย่ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเต็มไปหมด
  ”กระจายคำสั่งฉันออกไป”หลังจากเงียบไปนาน ฉางกวนหลงก็เอ่ยขึ้น “ให้เหล่าทหารติดตามทั้งหลายกลับไปทันที”
  มู๋หรงยู่เฉิงประหลาดใจกับคำสั่งของฉางกวนหลง”แสดงว่าคนร้ายคือหนึ่งในคนพวกนั้นเหรอครับ?”
  ”ไม่ใช่คนพวกนั้นถ้าเป้าหมายคือทำลายฉัน มันน่าจะเป็นฝีมือคนของค่ายเราเอง”
  เพื่อผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้!
  มู๋หรงยู่เฉิงตาโต”ครับ แล้วชูฮันล่ะครับ?”
  ”ไปดูสิว่าเขาและทีมของเขายังอยู่รึเปล่า?”
  ”ครับ!”
  ในเวลาเดียวกันภายในพื้นที่ปิดกั้นVIP ชูฮันที่ยังไม่ได้รับการโยกย้ายไปยังที่พักใหม่สักที ก็ต้องอยู่แต่ในห้องเดิม เวลาที่ทีมกุ้งเสือดำต้องออกเดินทางก็ถูกเลื่อนช้าออกไป
  แตกต่างจากที่อื่นๆที่มีแต่ความตึงเครียดชูฮันกลับนิ่งสงบ ส่วนทีมกุ้งเสือดำก็กำลังเก็บเข้าข้าวเตรียมพร้อมออกเดินทาง
  ขณะที่ความเงียบสงบกำลังดำเนินอยู่ทันใดนั้นมันก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มู๋หรงยู่เฉิงเป็นคนมาด้วยตัวเอง “พลเอกชูฮันครับ ขอความกรุณาเชิญทหารของท่านกลับค่ายตอนนี้เลยครับ”
  ชูฮันเลิกคิ้วหันตัวไปมองลอดผ่านช่องหน้าต่างไปก็เห็นภาพเฮลิคอปเตอร์บางลำลอยขึ้นฟ้าและบินห่างออกไปเรื่อยๆทีละลำๆ ส่วนเหล่าทหารของค่ายที่มีฐานะด้อยกว่า ทหารของพวกเขาก็ต้องเดินเท้ากลับค่ายตัวเองไปโดยมีทหารของค่ายหนานตู้คุมตัวเดินนำออกไป ทุกอย่างมันรวดเร็วและเด็ดขาด เป็นการใช้กฏอัยการศึกอย่างเต็มรูปแบบจริงๆ
  ”ฉันจะเป็นแบบนั้นมั้ย?”ชูฮันชี้ไปที่กลุ่มทหารจากค่ายค่ายหนึ่งที่ถูกมัดและลากไปเพราะไม่ทำตามคำสั่ง
  น้ำเสียงของมู๋หรงยู่เฉิงแสดงถึงความเคารพ”ท่านไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยครับ และท่านก็ตำแหน่งระดับเดียวกับท่านพลเอกฉางกวนหลง ค่ายหนานตู้ไม่มีสิทธิที่จะจับกุมท่านครับ”
  ชูฮันยกยิ้มมุมปาก”นี่มันทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ ฉันคิดว่ามันมีเหตุการณ์มากมายเกิดวันภายในวันๆเดียว และสิ่งแรกที่ตาแก่นั่นต้องทำคือสงสัยฉันสิ”
  ”แม้ว่ามันดูจะเป็นแบบนั้นแต่เวลาและตำแหน่งที่อยู่มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ” มู๋หรงยู่เฉิงตอบอย่างให้เกียรติ
  ”งั้นก็โอเค” ชูฮันเหยียดแขนและลุกขึ้นยืน “ฉันอยากจะไปส่งทีมของฉัน ได้มั้ย? ตอนนี้เมืองใช้ระบบกฏอัยการศึกอยู่ ถ้าใครต้องการจะออกไปจากเมืองจะต้องขออนุญาตก่อน คนอื่นๆเขามีเฮลิคอปเตอร์กัน แต่คนของต้องเดิน ฉันอยากจะไปส่งพวกเขาที่ประตูเอง”
  ”ไม่มีปัญหาครับ”มู๋หรงยู่เฉิงพยักหน้า “ไม่แปลกใจเลยครับที่ทหารของท่านจงรักภักดีต่อท่านขนาดนี้ แต่ผมอยากจะรบกวนให้หลังจากท่านส่งทหารของท่านออกไปจากเมืองแล้ว เพื่อความปลอดภัยของท่านเองและเพื่อไม่สร้างความน่าสงสัยในตัวท่าน มันจะเป็นการดีกว่าท่านไม่เดินไปทั่ว เมื่อดูจากความวุ่นวายโกลากลที่เกิดภายในค่ายอยู่ตอนนี้”
  ”ได้สิ”ชูฮันยิ้ม จากนั้นก็เดินนำหน้าพวกทีมกุ้งเสือดำจากไป
  มู๋หรงยู่เฉิงนิ่วหน้าขณะมองตามหลังชูฮันอยู่พักหนึ่งและในที่สุดเขาก็สะบัดหัวเพื่อปัดความคิดไม่ดีทิ้ง ชื่อของชูฮันถูกยืนยันแล้วว่าตัดออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยและไร้ซึ่งแรงจูงใจ เพราะงั้นเขาต้องเลิกคิดอะไรแปลกๆได้แล้ว
  ขณะที่มู๋หรงยู่เฉิงพยายามดึงสติตัวเองกลับคืนมาชูฮันที่เดินอยู่ก็ยิ้มแปลกๆออกมา
  ”หัวหน้า”หลูปิงเซ่อที่เดินอยู่ไม่ห่างจากชูฮันก็เอ่ยขึ้น “พวกเขาไม่ได้สงสัยหัวหน้าเลย!”
  ชูฮันแตะปลายจมูก”ก็แค่ช่วยล้างแค้นให้เหมิงชีเหว่ยเอง เอาน่า”
  ”แต่ลวดเหล็กซึ่งบางเป็นเกลียวทำไมมันถึงได้คมแหลมยิ่งกว่าใบมีดได้ล่ะครับ?”หลูปิงเซ่อไม่สามารถทำความเข้าใจได้ “แล้วเสื้อเปื้อนเลือดไปไหแน้ลวครับ แล้วหัวหน้าเอาเสื้อผ้าชุดเดิมไปซ่อนไว้ไหนครับ? มันหายไปชั่วพริบตาได้ยังไงกัน”
  ”กลืนลงคอไปมั้ง”ชูฮันตอบติดตลก ความจริงก็คือมันถูกเก็บไว้ในประตูมิติของเขา และเขาไม่สามารถบอกใครรู้ความลับนี้ได้
  ชูฮันไม่ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้ด้วยซ้ำเขาแค่บังเอิญเจอเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้ที่ฉางกวนหลงออกคำส่ังให้เหล่านายพลทั้งหลายออกไปจากค่ายหนานตู้ ชูฮันก็เดาว่าจงไคจะต้องหมดความอดทน และต้องออกมาตามหาฉางกวนหลงเพื่อพูดคุยแน่ๆ
  ส่วนวิธีที่ชูฮันใช้ก็คือการใช้พลังของหลูปิงเซ่อมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่ามีสัตว์มากมายขนาดไหนซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆในค่าย นั่นทำให้ชูฮันมีหลักฐานยืนยันตัวตนเพราะเขาไม่ได้ทำอะไร เขาเพียงแค่ยืมมือเพื่อนตัวน้อยของหลูปิงเซ่อเท่านั้นเอง
  แต่ชูฮันเองก็ไม่ได้นึกภาพเลยว่าจงไคจะเป็นคนที่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ระวังตัวขนาดนี้
  ชูฮันไม่ได้ตั้งใจจริงๆและเพื่อนตัวน้อยของหลูปิงเซ่อก็ไม่ได้มีความคิดความอ่านเหมือนกับมนุษย์ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ? แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ตาย!
  แค่ไม่รู้ว่าตอนนี้เหมิงชีเหว่ยจะพอใจรึยัง?