ดูเหมือนว่าเฝิงหยู่จะตั้งเป้าสูงเกินไป แต่เป้าหมายนี้ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเล้อฮ่าฮา ผู้นำตลาดปัจจุบันในตลาดเครื่องดื่มของจีนยังคงเป็นเจี้ยนลี่เป่า เล้อฮ่าฮาได้เอาชนะคู่แข่งอื่น ๆ เช่น โคโค่นัท ทรี, เล้อไป่ซื่อ เป็นต้น เรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับแบรนด์ต่างประเทศ เช่น โคคาโคล่า เป็นต้น ก็ยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศจีนมากนัก แม้ว่าพวกเขาจะยังทำกำไรอยู่ แต่รายได้ของพวกเขาก็ไม่สูงมาก แบรนด์ของพวกเขายังไม่เป็นที่รู้จักกันดี บริษัท ต่างประเทศไม่ได้พยายามเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของพวกเขาในประเทศจีนเพราะพวกเขารู้สึกว่าคนจีนไม่ได้มีเงินมาซื้อน้ำอัดลมดื่มทุกวันได้

 

บริษัทยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มจีนอื่นๆ เช่น เจียตัวเป่า (เจดีบี กรุ๊ป) และเฝินหวง จากในชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ยังไม่ปรากฏขึ้น ไรซิ่ง ซัน กรุ๊ปได้รับความนิยมในจังหวัดของตนเองเท่านั้น ฮุ่หยวนก็พอมีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่พวกเขามุ่งเน้นไปที่เขตซานตงและจิงจินเท่านั้น ยอดขายของพวกเขาก็ยังห่างไกลจากเล้อฮ่าฮาอยู่มาก

 

หากเล้อฮ่าฮาสามารถเอาชนะเจี้ยนลี่เป่าได้ พวกเขาจะเป็นผู้นำตลาด แต่สำหรับเล้อฮ่าฮา ขนาดพวกเขาเพิ่มยอดขายของอาหารเสริมสำหรับเด็กเข้าไปด้วยแล้ว ก็ยังห่างไกลจากเจี้ยนลี่เป่า และเป็นเพราะเจี้ยนลี่เป่านี่เองที่ทำให้โคคาโคล่าและ เป๊ปซี่ไม่สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจีนได้ เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มอัดลม ตัวเลือกยอดนิยมสูงสุดของจีนก็คือเจี้ยนลี่เป่า

 

เมื่อปีที่แล้ว เจี้ยนลี่เป่าได้จัดตั้งทีมฟุตบอลเยาวชนขึ้นและส่งพวกเขาไปบราซิลเพื่อฝึกซ้อม พวกเขาต้องการปลุกปั้นนักฟุตบอลชั้นแนวหน้ารุ่นต่อไป แต่ผู้เล่นหลายคนที่เข้ามาในทีมได้ก็เพราะว่าใช้เส้นสาย นี่คือเหตุผลที่มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนจากทีมที่กลายเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ การปลุกปั้นผู้เล่นอันดับต้นของรุ่นต่อไปเป็นเพียงแค่เรื่องตลกเท่านั้น

 

ปีนี้เจี้ยนลี่เป่าได้กลายเป็นผู้สนับสนุนเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชี่ยนเกมส์ ในอีก 4 ถึง 5 ปีข้างหน้า ยอดขายของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอีกและจะครองตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างมั่นคง ยอดขายต่อปีของเจี้ยนลี่เป่าตอนนี้สูงกว่า 1 พันล้านหยวนแล้วและยังคงเติบโตขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

 

แต่เฝิงหยู่จำได้ว่าเจี้ยนลี่เป่าจะเริ่มถดถอยลงหลังปี 1998 มีเหตุผลหลายประการสำหรับเรื่องนี้ ประการแรกคือการเกิดขึ้นของเครื่องดื่มหลายชนิดในตลาด และมีการทำตลาดเชิงรุกอย่างมาก รวมถึงมีนักธุรกิจรายใหม่พยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปให้ได้มากที่สุด เจี้ยนลี่เป่าเป็นผู้นำตลาดและดูถูกคู่แข่งรายใหม่พวกนี้ ท้ายที่สุด เจี้ยนลี่เป่าสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับพวกนั้นและอิทธิพลของแบรนด์ของพวกเขาก็ยังได้รับผลกระทบด้วย

 

เหตุผลข้อที่สองก็น่าสนใจ ตอนที่เจี้ยนลี่เป่าอยู่ในอันดับต้นๆ รัฐบาลท้องถิ่นของพวกเขาคอยเอากำไรออกไปและขอให้เจี้ยนลี่เป่าเพิ่มขนาดธุรกิจด้วย เจี้ยนลี่เป่าจะเพิ่มขนาดธุรกิจโดยที่ไม่มีรายได้ได้ยังไง? ก็ต้องใช้เงินกู้น่ะสิ พวกเขากู้เงินจากธนาคารและเข้าซื้อโรงงานขนาดเล็กกว่าในจังหวัดของพวกเขา วิธีนี้เพิ่มขนาดธุรกิจของเจี้ยนลี่เป่าได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ลืมปัญหาเรื่องเงินทุนไปเลย เมื่อยอดขายของพวกเขาลดลงและส่งผลกระทบต่อกำไร บริษัทเลยประสบปัญหากระแสเงินสด พวกเขาไม่มีเงินทุนในการดำเนินธุรกิจต่อ

 

เหตุผลข้อที่สามคือรูปแบบการขายของเจี้ยนลี่เป่า พวกเขายังคงใช้รูปแบบการขายดั้งเดิมและไม่ได้กำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง กว่าเจี้ยนลี่เป่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้และอยากจัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่าย มันก็สายเกินไปแล้ว พวกเขาไม่มีเงินทุนที่จะดำเนินการ

 

เหตุผลข้อที่สี่คือความล้มเหลวของการปกครองท้องถิ่น ถ้าเจี้ยนลี่เป่าใช้กำไรในการขยายและเติบโต ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด แต่รัฐบาลท้องถิ่นยังคงเอากำไรออกไปอยู่เรื่อยๆ และทำให้บริษัทขาดเงินทุน ผู้นำของเจี้ยนลี่เป่ารู้สึกว่ารัฐบาลท้องถิ่นแทรกแซงการตัดสินใจของบริษัทมากเกินไปและเอาผลกำไรมากเกินไปด้วย การแทรกแซงของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นสาเหตุการล่มสลายของบริษัท

 

มีสาเหตุหลายประการสำหรับการถดถอยครั้งนี้ เฝิงหยู่รู้เพียงว่าเจี้ยนลี่เป่าล้มเหลวในการรักษาความเป็นผู้นำเนื่องจากปัญหากระแสเงินสด การขาดการสร้างแบรนด์ และรูปแบบการขายที่ล้าสมัย เฝิงหยู่ไม่ได้คาดหวังสูงในทีมผู้บริหารของเจี้ยนลี่เป่าก็เพราะด้วยเหตุผลเหล่านี้

 

แน่นอนคนเดียวจากทีมผู้บริหารที่ถือว่าน่าประทับใจมากสุดก็คือผู้ก่อตั้งและประธาน หลี่จิงเหว่ย เขาก่อตั้ง เจี้ยนลี่เป่าและต่อมาก็ก่อตั้งบริษัทหลี่หนิงกับแชมป์โลกที่ชื่อว่า หลี่หนิง อย่างไรก็ตาม หลี่จิงเหว่ยถูกไล่ออกจากหลี่หนิงไม่นานหลังจากที่บริษัทได้จัดตั้งขึ้น แต่อย่างน้อยหลี่จิงเหว่ยก็มีวิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลที่ดีในยุคนี้

 

อีกเหตุผลที่เฝิงหยู่ไม่พยายามชวนหลี่จิงเหว่ยมาทำงานให้ได้นั้นก็เพราะว่าอายุของเขา เขาอยู่ในวัย 50 ปีแล้วและทำให้ตัดสินใจด้านการบริหารจัดการไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน

 

เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ หลี่จิงเหว่ยถูกจำคุกด้วยข้อหายักยอกเงินของเจี้ยนลี่เป่า เขายักยอกเงินหลายสิบล้านในระหว่างการปฏิรูป บริษัท คนๆ นี้ไว้ใจไม่ได้

 

หลี่จิงเหว่ยเริ่มสร้างแบรนด์ แต่ไม่รู้วิธีบริหารจัดการ เขาพึ่งแต่รัฐบาล แต่เนื่องจากรัฐวิสาหกิจทั้งหมดในประเทศจีนกำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูป ดังนั้นเขาจึงเลื่อนการปฏิรูปออกไปให้ช้ากว่าบริษัทอื่น ๆ ในระหว่างการปฏิรูป เขาก็ยักยอกเงินทุนของบริษัท และลงเอยด้วยการติดคุก

 

ถ้าหลี่จิงเหว่ยเก่งพอๆ กับฉู่ซื่อเจี้ยนจากบริษัทบุหรี่หงถ่าซัน เขาจะสามารถใช้ยักยอกเงินของบริษัทได้และยังได้รับการสนับสนุนจากคนงานของเขาด้วย ฉู่ซื่อเจี้ยนถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากการยักยอกทรัพย์สินของรัฐ แต่โทษจำคุกลดลงเพราะคำร้องเรียนจากคนงานของเขาต่อรัฐบาล แต่ในกรณีของหลี่จิงเหว่ย ไม่มีใครพยายามช่วยหลี่จิงเหว่ยหลังจากที่เขาถูกจับกุม

 

แน่นอนว่าฉู่ซื่อเจี้ยนได้รับการสนับสนุนจากคนงานของเขาเพราะว่าเขาสร้างผลกำไรหลายพันล้านให้แก่หงถ่าซัน ทำให้คนงานทั้งหมดของเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีได้ หลี่จิงเหว่ยช่วยทำให้เจี้ยนลี่เป่าได้กำไรสูงเหมือนกัน แต่คนงานของเขาไม่ได้รับประโยชน์จากความสำเร็จของบริษัท พอหลี่จิงเหว่ยตัดสินใจที่จะให้ผลประโยชน์แก่พนักงานของเขาบ้างในตอนสุดท้าย บริษัทก็ไม่มีเงินทุนที่จะทำแบบนั้นแล้ว เจี้ยนลี่เป่าอยู่ในช่วงถดถอยเรียบร้อยแล้ว

 

อีกเหตุผลที่เฝิงหยู่ไม่ได้พยายามที่จะเข้าซื้อกิจการของเจี้ยนลี่เป่าในตอนนี้ก็เพราะว่าเขาต้องจ่ายเงินอย่างน้อยหลายพันล้านเพื่อซื้อบริษัท ตอนนี้เฝิงหยู่ต้องรอให้ถึงช่วงแห่งความตกต่ำของเจี้ยนลี่เป่าเท่านั้น และเขาจะสามารถซื้อบริษัทนี้ได้ด้วยเงินแค่ไม่กี่ร้อยล้านหยวน

 

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไม่มีทางที่เล้อฮ่าฮาจะเอาชนะเจี้ยนลี่เป่าได้ในตอนนี้เว้นแต่ว่าเฝิงหยู่จะใช้วิธีการสกปรกบางอย่าง

 

มันง่ายสำหรับเฝิงหยู่ที่จะโกงเจี้ยนลี่เป่า แต่เขาก็ไม่ทำแบบนั้น เขาอยากรอให้ถึงช่วงแห่งความตกต่ำของเจี้ยนลี่เป่าแล้วค่อยเข้าซื้อกิจการของพวกนั้นมากกว่า

 

นอกจากนี้ ถ้าไม่ใช้วิธีการสกปรกพวกนั้น เฝิงหยู่ก็มั่นใจว่าเขาจะเอาชนะเจี้ยนลี่เป่าได้ภายใน 5 ปี!

 

ความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเจี้ยนลี่เป่าก็คือการที่ไม่รู้วิธีบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากแบรนด์ของตัวเองเพื่อเพิ่มผลกำไร หากเฝิงหยู่ต้องบริหารจัดการเจี้ยนลี่เป่า เขาจะเปิดตัวเครื่องดื่มเสริมพลังงานและเครื่องดื่มอัดลมทุกชนิด เช่น กระทิงแดง เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น เครื่องดื่มพวกนี้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์เจี้ยนลี่เป่า และจะช่วยให้บริษัทสามารถทำกำไรได้มากด้วย

 

แต่ เจี้ยนลี่เป่ามีเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่เปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติอื่นเลย และไม่พยายามทำการตลาดใดๆ ด้วย พวกเขาไม่รู้ถึงอิทธิพลของการโฆษณาทางโทรทัศน์

 

แต่ก็มีบางอย่างที่น่าสนใจในเจี้ยนลี่เป่าด้วยเช่นกัน ปัจจุบันนี้เจี้ยนลี่เป่าเป็นแบรนด์ที่หยุดการขยายตัวของโคคาโคล่าและเป๊ปซี่ในประเทศจีนได้ แต่เจี้ยนลี่เป่าขวดแรกก็ถูกผลิตโดยใช้สายการผลิตของเป๊ปซี่

 

นั่นหมายความว่าเมื่อก่อนเป๊ปซี่เคยช่วยเหลือเจี้ยนลี่เป่ามาก่อน แต่เจี้ยนลี่เป่ากลับหันหลังให้และยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการหยุดไม่ให้เป๊ปซี่ขยายตัวในประเทศจีน เป๊ปซี่ไม่พอใจอย่างมาก นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมตอนที่เจี้ยนลี่เป่าตกต่ำ เป๊ปซี่ก็ยังคงพุ่งเป้าไปที่พวกเขา

 

เล้อฮ่าฮาอยากเปิดตัวเครื่องดื่มอัดลมก็เพราะว่าอยากที่จะได้รับส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในระหว่างที่เจี้ยนลี่เป่ายังคงหยุดไม่ให้โคคาโคล่าและเป๊ปซี่ขยายตัวในประเทศจีน เล้อฮ่าฮาสามารถร่วมมือกับเจี้ยนลี่เป่าเพื่อโจมตีโคคาโคล่าและเป๊ปซี่ได้ในภายหลัง

 

เล้อฮ่าฮาจะกลายเป็นนักธุรกิจรายใหม่สำหรับวงการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอัดลม แต่สำหรับเครื่องดื่มโยเกิร์ต เล้อฮ่าฮาเป็นผู้นำตลาด เฝิงหยู่ต้องการให้เล้อฮ่าฮาเปิดตัวเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวในชาติที่แล้วของเขา นั่นก็คือนูทริ-เอ็กซ์เพรส!

 

นูทริ-เอ็กซ์เพรสเป็นเพียงเครื่องดื่มโยเกิร์ตที่ส่วนผสมของวิตามินอื่นๆ รวมเข้าไปด้วย ซึ่งไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่เล้อฮ่าฮาทำรายได้จากยอดขายสูงถึง 4 พันล้านต่อปีด้วยเครื่องดื่มนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น!

 

เครื่องดื่มโยเกิร์ตขวดใหญ่ขึ้นหรอ? จ้งชิ่งเซียนคิดหนักและพยักหน้า ใช่แล้ว ทำไมผมนึกไม่ถึงเรื่องนี้มาก่อน?  ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นที่ชอบเครื่องดื่มโยเกิร์ต แต่ผู้ใหญ่ก็ยังสามารถดื่มได้ด้วย สิ่งนี้จะเพิ่มผลกำไรของบริษัทมากขึ้นไปอีก!

 

เป็นไปได้ที่เราจะตามทันเจี้ยนลี่เป่าภายใน 5 ปี! แล้วแบบนี้ทำไมเล้อฮ่าฮาถึงจะไม่สามารถเป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของจีนได้ล่ะ?