ตอนที่ 702 เจ้ายังคิดจะทำอะไรอีก
ได้ยินเสียง มู่หรงเซียงหนานก็เงยหน้าขึ้น แววตายังคงเหม่อลอย หลิงอวี้จื้อยื่นมือออกไปลูบหัวมู่หรงเซียงหนาน เพียงแต่มู่หรงเซียงหนานดูเหมือนจะกลัวการสัมผัสจากคนอื่น รีบหดตัวทันที ผ้าพันแผลที่อยู่บนหัวเตะตามาก
“เซียงหนาน ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้า เจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ พวกเรากลับบ้านกันดีหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อทำเสียงอ่อนโยนที่สุด เพียงแต่มู่หรงเซียงหนานตั้งกำแพงตลอดเวลา เอาแต่หดตัวอย่างเดียว ไม่พูดแม้แต่คำเดียว ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ผอมจนหน้าตอบไปหมด
หลิงอวี้จื้อยิ่งปวดใจมากขึ้น เด็กดี ๆ กลายเป็นเช่นนี้ มู่หรงกวานเย่ว์ทำอะไรเขากันแน่ จะต้องใจเหี้ยมโหดขนาดไหนถึงได้ทรมานเด็กที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองได้ลงคอ
หลิงอวี้จื้อคอยปลอบประโลมด้วยความอดทนอยู่เนิ่นนาน มู่หรงเซียงหนานก็ยังคงไม่พูดอะไร กลัวการสื่อสารกับคนอื่นอย่างยิ่ง
หลิงอวี้จื้อได้แต่ออกจากห้องไปอย่างเสียมิได้ เพิ่งเดินออกมานอกห้องก็พบมู่หรงวานเย่ว์ หากที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตของมู่หรงกวานเย่ว์ เธอก็คงทุบมู่หรงกวานเย่ว์ไปแล้ว แบบนี้มันไม่ใช่คนแล้ว
“เจอเซียงหนานแล้วหรือ”
มู่หรงกวานเย่ว์ถามอย่างสงบนิ่งมาก
หลิงอวี้จื้อทำสีหน้าเย็นชา จ้องมู่หรงกวานเย่ว์เขม็ง ด่าว่า
“เจ้ายังเป็นคนหรือไม่ เซียงหนานยังเป็นเด็กไม่ถึงห้าขวบ ทำเช่นนี้กับเซียงหนาน จะส่งผลกระทบต่อเขาไปทั้งชีวิต เป็นการทำลายเขา เมื่อก่อนเซียงหนานร่าเริงขนาดไหน ตอนนี้แม้แต่จะพูดก็ไม่พูดแล้ว เจ้าทำอะไรกับเขากันแน่ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของนี่อวิ๋นนะ หากวิญญาณบนสวรรค์ของนี่อวิ๋นเห็นเซียงหนานเป็นเช่นนี้ เจ้า…”
หลิงอวี้จื้อโมโหจนพูดไม่ออกแล้ว ผลกระทบในวัยเด็กจะทำให้จำไปไม่รู้ลืม นี่เป็นเรื่องที่จะส่งผลกระทบไปทั้งชีวิต เซียงหนานอาจจะมีจิตใจผิดปกติเพราะเรื่องนี้ สำหรับมู่หรงเซียงหนาน นี่จะเป็นบาดแผลทางจิตใจที่ไม่มีวันหวนคืน
เพราะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี้จื้อถึงได้โมโหและเจ็บใจมาก เด็กที่ใคร ๆ ก็หลงรัก กลับถูกป้าของตัวเองทรมานจนกลายเป็นเช่นนี้ต่อหน้าต่อตา แถมยังเป็นป้าที่รักใคร่เอ็นดูตนเองมากด้วย นี่เป็นการทำร้ายมู่หรงเซียงหนานเพียงใดคิดดูก็รู้
เธอไม่รู้ว่าผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ต่อไปมู่หรงเซียงหนานจะเป็นอย่างไร เธอเป็นห่วงมู่หรงเซียงหนานมาก
“รีบเขียนจดหมายถึงเซียวเหยี่ยนเสีย ให้เขามาฮุ่ยโจวตามลำพัง มิเช่นนั้นคำว่าทำลายที่เจ้าพูดมา จะดำเนินต่อไป”
“เจ้า…เจ้ามันเป็นสัตว์เดรัจฉาน”
หลิงอวี้จื้อขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คิดไม่ถึงว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะข่มขู่ตนเช่นนี้ เธอย่อมไม่ให้เซียวเหยี่ยนมาที่นี่ นี่เป็นหนทางตาย ตอนนี้เซียวเหยี่ยนมาไม่ได้เด็ดขาด เมื่อใดที่มาจะต้องกระทบต่อกำลังใจทหาร ลูกไม้นี้ของมู่หรงกวานเย่ว์ช่างร้ายกาจนัก
มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้ถือสาอะไรหลิงอวี้จื้อ
“เจ้าจะเขียนจดหมายหรือไม่เขียน ก็คิดเอาเองแล้วกัน หากเจ้าไม่เขียน คนที่น่าสงสารก็คือเซียงหนาน ทันทีที่เจ้าเขียนจดหมาย เราก็จะส่งเซียงหนานกลับไปทันที”
“เจ้าคิดจะทำอะไรกับเซียงหนานอีก”
“ข้าอยากทำอีกตั้งหลายอย่าง เจ้าพูดถูก เซียงหนานเป็นหลานชายแท้ ๆ ของเราจริง ขอเพียงได้ปกป้องราชวงศ์เว่ยตะวันตกเอาไว้ได้ เราจะเสียสละใครก็ได้ ในนั้นรวมถึงหลานชายของเราด้วย”
มู่หรงกวานเย่ว์พูดเน้นทีละพยางค์ น้ำเสียงเย็นชามาก ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
หลิงอวี้จื้อแอบกำมือแน่น ผู้หญิงใจชั่ว เธอต้องช่วยเซียงหนานให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้เซียวเหยี่ยนตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เธอไม่สามารถทำอะไรกระทบเซียวเหยี่ยนได้ ทันทีที่เซียวเหยี่ยนแพ้ เซียวเหยี่ยนก็จะตาย เหล่าเพื่อนพ้องพี่น้องที่อยู่เบื้องหลังร่วมเป็นร่วมตายไปกับเขาก็จะตายไปด้วย
ตอนที่ 703 ข้าจะปกป้องเจ้า
หลิงอวี้จื้อกลับห้องที่มู่หรงกวานเย่ว์เตรียมไว้ให้เธอโดยไม่พูดอะไร จดหมายที่เธอเขียนให้มู่หรงหง ตามหลักเขาควรจะได้รับตั้งนานแล้ว หากรีบตามมา สองสามวันนี้ก็คงจะถึงแล้ว
มู่หรงหงเป็นพ่อแท้ ๆ ของมู่หรงกวานเย่ว์ ไม่รู้ว่าเขาจะห้ามมู่หรงกวานเย่ว์ได้หรือไม่ หากแม้แต่เขาก็ห้ามไม่อยู่ เช่นนั้นในใต้หล้านี้ก็มีเพียงคนเดียวที่ห้ามมู่หรงกวานเย่ว์ได้
มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้บังคับให้หลิงอวี้จื้อเขียนจดหมายทันที อย่างไรเธอก็อยู่ในกำมือนางแล้ว ที่นี่คือฮุ่ยโจว ไม่กลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะเล่นลูกไม้ นางปล่อยให้เธอค่อย ๆ คิดได้
ในเมื่อหลิงอวี้จื้อเป็นห่วงมู่หรงเซียงหนานเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้หลิงอวี้จื้อดูให้ชัด ๆ ว่าแต่ละวันของเซียงหนานอ้างว้างเพียงใด ต้องทำเช่นนี้เท่านั้นถึงจะบีบให้หลิงอวี้จื้อรีบตัดสินใจเร็วขึ้น
มู่หรงกวานเย่ว์กำลังจะกลับห้องตนเอง เพิ่งจะก้าวขา จู่ ๆ จื่ออีที่ตามอยู่ข้างหลังก็รายงานว่า
“ไทเฮาเพคะ วันนี้ตอนที่บ่าวไปหาหลิงอวี้จื้อที่โรงเตี๊ยมก็เห็นคน ๆ หนึ่ง”
“ใคร”
“ผู้หญิงที่มีใบหน้าคล้ายไทเฮาเพคะ”
มู่หรงกวานเย่ว์นึกถึงผู้หญิงที่จื่ออีพูดถึงได้อย่างรวดเร็ว
“ผู้หญิงคนนั้นมิใช่ถูกเว่ยอ๋องไล่ออกไปแล้วหรือ”
“เดิมเป็นเช่นนั้นเพคะ ตอนนี้นางเป็นเถ้าแก่เนี้ยที่โรงเตี๊ยมแล้วเพคะ”
“เฉินเสี้ยวหรูตายแล้ว แต่นางกลับได้ออกเรือนมีชีวิตใหม่”
มู่หรงหวานเย่ว์ยิ้มเยือกเย็น
“นางเป็นคนที่เฉินเสี้ยวหรูอบรมบ่มเพาะมา เมื่อก่อนเทียวไปเทียวมาระหว่างจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์กับจวนเว่ยอ๋อง ถือว่ามีความสามารถทีเดียว ในเมื่อถูกพวกเราพบเข้าแล้ว เช่นนั้นก็อย่าพลาดโอกาสนี้เลย”
“บ่าวเข้าใจแล้วเพคะ เพียงแต่ว่าคนผู้นี้พึ่งได้หรือเพคะ”
“ตอนนี้นางไร้ที่พึ่ง ชีวิตอยู่ในกำมือพวกเราหมด นอกจากพึ่งพาพวกเราแล้ว นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น”
จื่ออียอมรับเงียบ ๆ ที่นี่คือฮุ่ยโจว ที่นี่ไป่อู๋ไม่มีที่พึ่งอื่นจริง ๆ จะควบคุมนางไม่ยากเลย
ตอนบ่ายนอนไปทั้งบ่าย หลิงอวี้จื้อนอนแผ่บนเตียง แต่ไม่ง่วงนอนเลย ได้แต่นอนเบิกตาโพลงมองเพดาน มู่หรงกวานเย่ว์คงจะคิดทุกวิถีทางเพื่อบังคับให้เธอเขียนจดหมายนั่น
ตัวเธอเองแบกรับได้ เธอเป็นห่วงก็แต่มู่หรงเซียงหนาน เด็กคนนี้ตกใจกลัวถึงขั้นนี้แล้ว หากถูกมู่หรงกวานเย่ว์ทรมานต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะทนทุกข์ทรมานจนเป็นอย่างไร
ตอนนี้เองจู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดออก คนใช้สองคนบังคับอุ้มเซียงหนานมา ตอนนี้มู่หรงเซียงหนานเหมือนตุ๊กตาไร้วิญญาณ ขดตัวกลม สาวใช้เพิ่งจะวางเขาลง เขาก็วิ่งไปนั่งยอง ๆ ที่มุมกำแพง
“ไทเฮาบอกว่า สองสามวันนี้ให้เจ้าดูแลคุณชายน้อยด้วย”
พูดจบสาวใช้สองคนก็ออกไป มู่หรงเซียงหนานเอาแต่ขดตัวอยู่มุมกำแพง หลิงอวี้จื้อเข้าใจจุดประสงค์ของมู่หรงกวานเย่ว์ นางอยากให้เธอเห็นว่ามู่หรงเซียงหนานถูกพวกนางทรมานอย่างไร นี่เป็นหนึ่งในขั้นตอนการบีบบังคับ
ระหว่างพวกนางจะเป็นอย่างไร หลิงอวี้จื้อไม่สนใจ แต่ใช้เด็กมาทำเรื่องเช่นนี้ หลิงอวี้จื้อทนไม่ไหวแล้ว
หลิงอวี้จื้อเห็นมู่หรงเซียงหนานขดตัวอยู่มุมกำแพงตลอดเวลา ใจก็ปวดแปลบ เธอเดินเบา ๆ ไปหามู่หรงเซียงหนาน นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้ามู่หรงเซียงหนาน
“เซียงหนาน เจ้าหิวหรือไม่ กินอะไรสักหน่อยไหม”
เพียงแต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ไม่ต้องกลัว เราเจอกันหลายครั้งแล้ว เรายังเคยไปเล่นว่าวด้วยกันด้วย เซียงหนาน เจ้ายังจำได้หรือไม่ อีกไม่นานก็จะได้เจอแม่เจ้าแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะปกป้องเจ้า”
หลิงอวี้จื้อปลอบใจมู่หรงเซียงหนานต่อไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพียงแต่มู่หรงเซียงหนานไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรเลย
หลิงอวี้จื้อคุยกับมู่หรงเซียงหนานอย่างอดทนต่อไป นั่งอยู่กับพื้นคุยเป็นเพื่อนเขาทั้งคืน ในที่สุดมู่หรงเซียงหนานก็เต็มใจพิงเธอ ถึงแม้จะยังไม่พูดอะไร แต่ก็ลดกำแพงลงมาบ้างแล้ว สุดท้ายเมื่อง่วงจริง ๆ ก็พิงตัวหลิงอวี้จื้อผล็อยหลับไป