ตอนที่ 486 ฉินอวิ๋นถูกจับขัง / ตอนที่ 487 มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 486 ฉินอวิ๋นถูกจับขัง 

 

 

“พอแล้ว ไม่ต้องเล่นแล้ว เมื่อกี้คุณแม่มาตามให้พวกเราไปกินข้าวนะ” 

 

 

“แล้วคุณไม่รีบบอกล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ” ลั่วเซ่าเชินอุ้มลูกชายแล้วเดินนำหน้าไป ถังโจวโจวก็ตามหลังเขาไป 

 

 

เมื่อมาถึงชั้นหนึ่งของโรงแรมก็มีคนอยู่หลายโต๊ะที่เริ่มทานอาหารแล้ว พวกหลินเหยาเองก็ลงมานานแล้วเช่นกัน พอเห็นพวกถังโจวโจวอุ้มลูกมาก็เอ่ยทักขึ้น “ตายจริง หรือเมื่อวานมีเสี่ยวอวี่อยู่เป็นก้างเหรอ” 

 

 

ฟังหยวนมีสีหน้ารู้สึกผิด เมื่อวานทำให้ลั่วเซ่าเชินหนีไปได้ เดิมทีเมื่อวานควรจะเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยสำหรับลั่วเซ่าเชินสักหน่อยให้เขาหมดหนทางได้ร่วมหอกับเจ้าสาวของเขา ที่ไหนได้เขาเองก็เมาเร็วมากเช่นกัน ที่เหลือก็มีใจแต่ไม่มีแรง ไม่นานก็ถูกคนพยุงให้ไปพักที่ห้อง 

 

 

ถังโจวโจวไม่ได้ตอบอะไร อย่างไรเรื่องเมื่อวานก็ไม่มีอะไรให้เอ่ยถึงอยู่ดี เธอจะรอคอยวันที่ได้ดื่มเหล้ามงคลของหลินเหยา ดูซิว่าเธอจะจัดการคู่ตัวแสบนี่ยังไง 

 

 

ถังโจวโจวทำสีหน้าคาดโทษไว้ หลินเหยาจึงกลัวขึ้นมานิดหน่อย “โจวโจว เมื่อกี้พวกเราแค่ล่อเล่นเอง รีบนั่งเถอะ” ดึงถังโจวโจวให้นั่งลงก่อน ถ้าถึงเวลาที่เธอโดนจัดการขึ้นมาจริงๆ แล้วเกิดไม่มีใครช่วยเหลือนั่นคงแย่มากทีเดียว 

 

 

“อืม อย่างนี้ค่อยดีหน่อย”  

 

 

ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวเริ่มมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าก็รู้สึกว่าดีมาก เมื่อมองไปที่โอวหยางหง เขาก็ทำมือโอเคให้ ลั่วเซ่าเชินถึงเพิ่งจะเข้าใจ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว 

 

 

เดิมทีเมื่อวานจะมีคนมาทำลายงานแต่งงาน โชคดีที่ลั่วเว่าเซินได้เตรียมการกำลังคนไว้แล้ว เขารู้ว่าคงมีบางพวกที่อยู่ไม่สุข อยากจะมาทำลายความสุขของพวกเขา เรื่องนี้เขาจับได้คาหนังคาเขา คนเองก็ถูกจับขังเอาไว้แล้วเช่นกัน 

 

 

ลั่วเซ่าเชินไม่อยากทำให้ตระกูลเมิ่งลำบาก ที่ไหนได้ฉินอวิ๋นคนคนนั้นกลับไม่ยอมหยุด และก็ไม่รู้ว่าในสมองของเธอแท้จริงแล้วคิดอะไรอยู่ เห็นได้ชัดว่าเมิ่งชิงซีไม่ยอมปล่อยมือจากลั่วเซ่าเชินเอง เขาพูดอย่างชัดเจนไปนานแล้ว แต่ฉินอวิ๋นกลับมีความคิดเหมือนกับลูกสาวของเธอ กัดพวกเขาไม่ยอมปล่อย 

 

 

ครั้งนี้จับเธอไปขัง ลั่วเซ่าเชินเองก็จะไม่ทำตัวเป็นคนดีอีกแล้ว เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ในเมื่อฉินอวิ๋นกล้าที่จะทำก็อย่าโทษที่เขาทำอย่างนี้กับบ้านตระกูลเมิ่ง 

 

 

ลั่วเซ่าเชินจัดการเรื่องแขกกับถังโจวโจวดีแล้ว โอวหยางหงก็ขับรถพาเขามาที่คุมขังฉินอวิ๋น ตอนนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วน ฉินอวิ๋นจึงถูกจับขังไว้ในห้องเล็กๆ ที่โบสถ์ หลังจากนั้นก็ถูกพาตัวไปที่พักส่วนตัวของโอวหยางเลี่ย 

 

 

เมื่อฉินอวิ๋นเข้าไปในนั้น เธอจะไม่สามารถไปไหนได้นอกจากจะมีปีกบิน ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้พูดเล่น สำหรับความถนัดของโอวหยางหงเขาก็ยังไม่ค่อยรู้ละเอียดนัก 

 

 

โอวหยางหงมั่นคงในการทำงาน ลั่วเซ่าเชินเชื่อใจเขาและเชื่อฟังเขา เพราะว่าเดิมทีโอวหยางหงก็มีจิตใจโหดเ**้ยมกว่าเขามาก เมื่อเทียบกับเขาแล้วเรื่องใจโหดเ**้ยมลั่วเซ่าเชินยังสู้เขาไม่ได้ 

 

 

เมื่อมาถึงสถานที่ที่ขังฉินอวิ๋น นั่นเป็นห้องสีขาวห้องหนึ่ง มีแค่ฉินอวิ๋นที่นั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง เธอถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาบนเก้าอี้ ไม่ว่าเธอจะขยับตัวอย่างไรล้วนแล้วแต่ทำให้เธอเจ็บตัว เพราะว่าถ้าเธอทำให้เก้าอี้ล้มลงก็คงไม่มีคนพยุงขึ้นมาแน่นอน 

 

 

ฉินอวิ๋นเองก็ลองมาแล้วจริงๆ ตอนนั้นเธอเพิ่งจะถูกจับมาอยู่ที่นี่ เพราะว่าถูกปิดปากไว้เลยตะโกนไม่ได้ทำให้ในใจเธอรู้สึกหดหู่มาก แต่เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็คงจะไม่มีทางที่จะมีคนรู้ ฉินอวิ๋นเองก็ไม่สามารถหาคนมาช่วยได้ทำได้เพียงพึ่งพาคนที่เฝ้าเธออยู่เท่านั้น 

 

 

ร้องเรียกก็ไม่ได้ ตะโกนก็ไม่ได้ หยาดน้ำตาพวกผู้ชายพวกนี้ก็ไม่สนใจ ทำได้แค่ขอน้ำดื่ม พวกเขาไม่ให้เธอทานอาหาร แต่หลังจากดื่มน้ำแล้วก็ยังมีปัญหาใหญ่ตามมาอีก 

 

 

จะเข้าห้องน้ำยังไง ผู้ชายพวกนี้ทำให้ฉินอวิ๋นต้องกลั้นไว้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้ ทำได้แค่ฉี่รดใส่ร่างกาย 

 

 

ครั้งแรกฉินอวิ๋นยังรู้สึกว่าลำบาก แต่คนเหล่านี้กลับไม่คิดว่าเธอเป็นคน ฉินอวิ๋นเป็นอะไรพวกเขาก็ไม่สน เธอต้องทนทรมาน แต่เมื่อหลายครั้งเข้าก็ยิ่งลำบากน่าอายขึ้นไปอีก หน้าเธอก็เริ่มไม่แดงเพราะธรรมชาติมนุษย์ไม่สามารถห้ามได้ 

 

 

และเมื่อลั่วเซ่าเชินเข้ามา ร่างกายของฉินอวิ๋นก็สกปรกไปหมด แต่ในห้องมีลมพัดผ่าน ถ้าไม่ได้ดมใกล้ๆ ก็คงไม่ได้กลิ่นบนร่างของฉินอวิ๋น นี่เป็นวิธีที่ชายร่างใหญ่พวกนี้คิดออก คงไม่อาจให้หัวหน้าต้องมาทนดมกลิ่นพวกนี้หรอกกระมัง 

 

 

  

 

 

ตอนที่ 487 มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย 

 

 

“คุณชายครับ คุณคิดว่าจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีครับ” รอมาคืนหนึ่งแล้ว สุดท้ายพวกโอวหยางหงก็ปรากฏตัว พวกคนที่เฝ้าอยู่เห็นผู้หญิงคนนี้ตะโกนแล้วไม่น้อย เบื่อเต็มทนแล้ว ควรรีบตัดสินใจโดยเร็ว จะได้กลับไปกอดภรรยาและลูกๆ แล้ว 

 

 

“พวกนายออกไปก่อน รออีกเดี๋ยวมีเรื่องอะไรแล้วจะเรียก” 

 

 

“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราออกไปก่อนนะครับ” กลุ่มชายชุดดำเดินออกจากห้องไป ก่อนจะออกไปก็ได้ทำตามที่โอวหยางส่งสัญญาณมือให้แก้มัดผ้าที่ปากของเธอออกก่อน 

 

 

พอปากฉินอวิ๋นได้รับอิสระก็ต่อว่าขึ้นมาทันที “ลั่วเซ่าเชิน แกมันคนไม่มีจิตสำนึก ชิงซีของฉันดีต่อแกขนาดไหน กับอีแค่ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างถังโจวโจวแกกลับทำให้เธอต้องติดคุก ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่” 

 

 

“คุณนายเมิ่ง รบกวนก่อนคุณจะด่าช่วยลองดูสารรูปตัวเองก่อนนะครับ หรือคุณคิดว่าคุณจะมีสิทธิ์มีเสียงอะไรเมื่ออยู่ที่นี่งั้นเหรอ” ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่รู้ว่าฉินอวิ๋นผู้หญิงคนนี้สมองมีปัญหาไปแล้วหรือเปล่า เห็นๆ ว่าตอนนี้ตัวเองเสียเปรียบ ไม่คิดจะขอความเมตตาเลยเหรอ  

 

 

พอได้เห็นฉินอวิ๋นในตอนนี้แล้วลั่วเซ่าเชินรู้สึกอึดอัดอยู่สักพัก ฉินอวิ๋นไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ตอนนี้เธอยังเหลือท่าทางคุณหญิงคุณนายไฮโซที่สูงส่งที่ไหนอีก น่าเสียดายที่เธอเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเมิ่งมาตั้งยี่สิบกว่าปี เดิมทีก็เป็นแค่ท่าทีผิวเผิน เรื่องลึกซึ้งพวกนี้เธอจะเคยเรียนรู้ที่ไหนกัน 

 

 

ลั่วเซ่าเชินตะโกนอยู่ในใจ โอวหยางหงเองก็รู้สึกว่าโง่เง่าจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ยังต้องให้พวกตนมานั่งเปลืองแรงเปลืองความคิดอยู่อีกงั้นเหรอ  

 

 

ฉินอวิ๋นไม่สนใจความคิดของโอวหยางหงและลั่วเซ่าเชิน ตอนนี้เธอเพียงแค่อยากจะได้รับอิสระเท่านั้น แค่ต้องอดทนมาหนึ่งคืนกลับรู้สึกว่าเหมือนผ่านไปนับหนึ่งศตวรรษ หน้าตาของเธอไม่มีเหลืออีกแล้ว 

 

 

ถ้าทุกคนรู้ว่าเมื่อวานตอนค่ำเกิดเรื่อง ตนคงจะต้องถูกคนหัวเราะเยาะแน่ 

 

 

ดังนั้นฉินอวิ๋นจึงสาบานว่า ขอแค่ให้เธอมีโอกาสออกไปได้ เธอจะต้องทำให้ลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวและผู้ชายตรงหน้าของเธอไม่ตายดีแน่นอน 

 

 

“ตอนนี้คุณก็กำลังคิดว่าจะแก้แค้นพวกเรายังไงใช่ไหม” โอวหยางหงมองความคิดในใจของฉินอวิ๋นออกทันที เธอคิดจะแก้แค้น ไม่รู้จักซ่อนอารมณ์ในดวงตาให้มิดชิดจนถูกคนที่มองออกง่ายขนาดนี้ยังจะแก้แค้นอะไรอีก ไร้สาระจริงๆ 

 

 

“เปล่านะ เซ่าเซิน เมื่อกี้ที่ป้าพูดไปทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่คิดอยู่ในใจป้าเลย รีบปล่อยป้าเถอะ” 

 

 

“อืม คำพูดนี้ของคุณน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะ” โอวหยางหงรู้สึกว่าฉินอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมาฟังแล้วรื่นหูดี ดีกว่าก่อนหน้านี้มากนัก เพียงแต่มันเป็นเรื่องโกหก 

 

 

พอเห็นพวกโอวหยางหงมีความสุข ฉินอวิ๋นจึงพูดขึ้นอีก “เซ่าเซิน ที่ป้าพูดเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงนะ ป้าสำนึกผิดแล้ว ต่อไปป้าจะไม่ทำร้ายถังโจวโจวอีกแล้ว” ไม่ทำร้ายก็บ้าแล้ว ครั้งแรกที่เธอทำร้ายถังโจวโจวก็หวังจะฉีกอีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ  

 

 

ในใจฉินอวิ๋นสาบานอย่างรุนแรง แต่กลับไม่กล้าพูดต่อหน้าลั่วเซ่าเชินและโอวหยางหง เพราะตอนนี้เธออ่อนแอกว่า เธอจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แบบนี้ถึงจะมีโอกาสออกจากห้องนี้ได้ 

 

 

“ขอความเมตตาเหรอ เป็นเรื่องที่น่าสนใจดีนะ พวกคุณสองคนแม่ลูกทำเรื่องผิดไว้มาก ยังกล้ามาขอความเมตตาอีกเหรอ” ลั่วเซ่าเชินไม่ฟังฉินอวิ๋นด้วยซ้ำ ยังจะพูดถึงถังโจวโจวอีก เธอมีสิทธิ์อะไร 

 

 

โจวโจวเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนั้น กลับเป็นเพราะพวกเธอสองแม่ลูกที่มีความคิดโหดร้ายถึงสามครั้งสามครา เขายังไม่เคยเจอสองแม่ลูกที่มีจิตใจโหดร้ายอย่างนี้มาก่อน พวกหล่อนทำให้โจวโจวต้องเดือดร้อนมามาก 

 

 

ไม่ว่าตอนนี้ในใจลั่วเซ่าเชินจะนึกเสียใจอย่างไร แต่เรื่องของฉินอวิ๋นต้องได้รับการสะสาง นั่นคือพาเธอเข้าคุกหรือไม่ก็สั่งสอนเธอเป็นการส่วนตัว เรื่องนี้ทำให้ลั่วเซ่าเชินต้องมาจัดการเอง 

 

 

“ไม่งั้นส่งเธอไปอยู่เป็นเพื่อนเมิ่งชิงซีดีมั้ยล่ะ” ลั่วเซ่าเชินเองก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี เขาไม่มีเวลามานั่งจับตามองพวกเธอหรอกนะ ทางที่ดีที่สุดคือให้คุณตำรวจช่วยพวกเขาดู 

 

 

“ไม่ได้ ไม่ได้นะ พวกเธอจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้” ฉินอวิ๋นร้องขึ้นมาทันที เธอไม่อยากมีสภาพเช่นเดียวกับเมิ่งชิงซี 

 

 

ทุกๆ ครั้งที่ไปเยี่ยมเมิ่งชิงซี เห็นเธอนับวันยิ่งดูซึมเศร้า นี่ทำให้ฉินอวิ๋นกลัว ให้เธอตายไปซะยังจะดีกว่า เพราะบนโลกใบนี้สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือการอยู่ไม่สู้ตาย