บทที่ 378 เป็นเพียงเพราะรู้สึกแปลกใหม

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ฉันทัชนั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้ น้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่กลับเป็นความหนักแน่นที่แหบพร่า

ประโยคเดียวสั้นๆ ทำให้คนที่นั่งอยู่นั้นรู้อยู่ในใจ มีคนจำนวนไม่น้อยส่งเสียงหัวเราะออกมา บรรยากาศไม่ได้มีความกดดันขนาดนั้น

“เริ่มกันเถอะครับ….”เขาพยักหน้าลงเล็กน้อย เป็นการบ่งบอกให้เริ่มขึ้น ดวงตาลึกซึ้งกวาดมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งนั้น ก็ชะงักลงเล็กน้อย

คนที่นั่งอยู่ตรงด้านหน้านั้นล้วนแต่เป็นผู้หญิงทั้งสิ้น เสียงของพวกเธอนั้นน่าฟังมาก ในนั้นยังมีความเขินอายอยู่เล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย

จนกระทั่งตอนนี้ยู่ยี่ถึงได้รู้สึกว่าทำไมผู้หญิงถึงได้มากขนาดนี้ และทั้งหมดยังแต่งตัวกันอย่างสวยหรูอีกด้วย ตอนที่เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งขยิบตาให้กับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นก็นึกออกขึ้นมาอย่างฉับพลัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการดึงดูดยั่วยวน….

เพียงแต่ฉันทัชไม่ได้มีปฏิกิริยามากมายนักมาตั้งแต่แรก เขายังคงรักษาท่าทางเดียวของเขาเอาไว้ พนักงานที่ยืนอยู่ทางด้านหลังคอยเติมเครื่องดื่มในแก้วให้เขาอยู่ตลอด

ไม่ใช่น้ำชา เป็นน้ำเปล่า…..

ทั้งหมดมี20คน ยู่ยี่เป็นคนสุดท้าย ตอนที่มาถึงเธอนั้น ดวงตาของเขามองมาอย่างเป็นธรรมชาติ

ปกติแล้วเขาก็ให้ความรู้สึกที่บีบรัดกดดันกับคนอื่นๆอยู่แล้ว แต่นี่ข้างๆยังมีคนมากมายขนาดนี้ ยิ่งรู้สึกกดดัดมากขึ้น และเธอก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างอีกด้วย

“ไม่ต้องตื่นเต้นครับ คุณสามารถสูดหายใจเข้าลึกๆทำให้ตัวเองผ่อนคลายได้บ้าง…..” ฉันทัชเอ่ยพูดเบาๆ มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

ทำตามที่เขาพูด เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รอหลังจากที่อารมณ์นิ่งลงมาแล้ว ถึงได้ค่อยๆเริ่มขึ้น

ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขามองมาที่ร่างของเธอ ดูเหมือนกับกำลังตั้งใจฟัง แต่กลับทำให้ยู่ยี่รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแปลกๆ แต่ก็พยายามฝืนพูดในสิ่งที่ควรพูดออกมา

จนกระทั่งสิ้นสุดลง เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ แล้วนั่งลง การประชุมก็สิ้นสุดลงในเวลานี้ ฉันทัชลุกขึ้น หลังจากที่เอ่ยพูดออกมาอย่างนิ่งๆแล้วก็เดินออกไป

ไม่มีข้อยกเว้น ครั้งนี้ความชื่นชมที่มีต่อเขายิ่งนับไม่ถ้วนขึ้นไปอีก เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรด้วยเช่นกัน เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้น กลับสามารถได้รับความชื่นชมและความเลื่อมใสศรัทธามากมายขนาดนี้

ยู่ยี่ออกไปเป็นคนแรก เดินผ่านตรงทางเลี้ยวของร้านเดอะพรีเมี่ยม ขณะที่เตรียมตัวกำลังโบกรถแท็กซี่อยู่นั้น เบนท์ลีย์สีดำจอดลง ใบหน้าของโก๋ปรากฏขึ้น : “คุณยู่ยี่ ขึ้นรถครับ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันยังต้องไปทำธุระอื่นอีก” ยู่ยี่ปฏิเสธ

“ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องนั่งรถไปอยู่ดี พาคุณไปได้พอดีเลยครับ”โก๋มีความกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ

ความกระตือรือร้นนี้ทำให้ยู่ยี่ไม่สามารถหาคำพูดแก้ตัวได้อีก เธอเปิดประตูแล้วขึ้นรถ ฉันทัชนั่งอยู่ทางเบาะหลัง เขาหลับตา กำลังหลับตาพักสมอง

ยู่ยี่ขึ้นไปนั่ง ตรงกลางเว้นระยะห่างเอาไว้ช่วงหนึ่ง โก๋เอ่ยพูดขึ้นเบาๆ ว่าคุณฉันทัชเป็นหวัด ทั้งๆที่เมื่อวานนี้เขาวางร่มเอาไว้บนรถ คุณฉันทัชกลับมาบ้านก็ไม่รู้ว่าไปตัวเปียกมาได้อย่างไร นี่ก็น่าจะเป็นหวัดแล้ว เสียงก็ยิ่งผิดปกติ เสียงแหบพร่าไปหมด

เมื่อครู่นี้เธอก็รู้สึกว่าเสียงของเขานั้นดูจะผิดปกติอยู่บ้าง ที่แท้ก็เป็นหวัดนี่เอง

เธอคิดขึ้นมาได้อีกครั้งว่า ร่มคันนั้นเขาให้เธอเมื่อคืนนี้ หลังจากในใจก็มีความละอายใจปรากฏขึ้นมา

ฉันทัชไม่ได้ส่งเสียงออกมาราวกับว่าเขาหลับสนิทมาก ขยับร่างเล็กน้อย เสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ที่คลุมร่างเขาอยู่เลื่อนลงมาจากไหล่ แล้วหล่นลงบนพรม

ยู่ยี่เงยหน้าขึ้นมองเขา ก็ยังคงหลับลึกอยู่เช่นเดิม ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอชะงัก ก้มตัวลงหยิบเสื้อคลุมสีดำของเขาขึ้นมา

เขาไม่ตื่น เธอเองก็ไม่กล้าที่จะไปรบกวนให้เขาตื่นด้วยเช่นกัน จึงจำใจคิดอยากจะเอาเสื้อคลุมคลุมร่างเขาให้อย่างเบามือ

ร่างของเขาขยับอีกครั้ง เสื้อคลุมเลื่อนลงมาด้านล่าง เธอรีบยื่นมือออกไปรับเอาไว้ ไหล่ของเขาทั้งกว้างทั้งหนา เมื่อครู่นี้เธอคลุมให้เขาต่ำไป ครั้งนี้อยากจะคลุมขึ้นไปด้านบนอีกซักหน่อย

ร่างของเธอสั่นเล็กน้อย สองมือจับตรงคอเสื้อของเสื้อคลุมสีดำ แล้วคลุมลงตรงช่วงคอของเขา

และเวลานี้ ฉันทัชก็ลืมตาขึ้นมา ยู่ยี่รู้สึกตกตะลึงไปเล็กน้อย เขายกมือซ้ายขึ้นมานวดลงตรงกว่างคิ้ว พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่ามีความหยาบและกระด้าง : “ขอบคุณครับ…..”

ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นอยู่ใกล้กันมาก พอเขาเอ่ยขึ้นมานั้น ลมหายใจที่ออกมาจากปากและจมูกก็รดลงบนแก้มของเธอนั้นร้อนผ่าว อาการหวัดของเขานั้นไม่เบาเลย…..

“ไม่เป็นไรค่ะ”เธอรีบดึงมือตัวเองกลับมาทันที แก้มที่ถูกลมหายใจของเขานั้นร้อนขึ้นมาบ้าง

“โก๋ ร้านข้าวต้มถนนโจเม……”เขาลุกขึ้นมานั่ง แล้วหยิบเสื้อคลุมสีดำที่คลุมอยู่บนร่างของตัวเองลงมา

ในใจของยู่ยี่เกิดความรู้สึกละอายใจ : “ยังไม่ได้ทานมื้อเย็นหรือคะ?”

“ครับ……..”ริมฝีปากของเขายกขึ้นมีส่วนโค้ง เพียงแต่เบาบางมากเท่านั้น

ยังคงเป็นร้านข้าวต้มครั้งที่แล้ว เข้าไปนั่งในห้องวีไอพีแล้วนั้น ยู่ยี่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาอีก เธอจำได้ว่าข้างๆมีร้านยาอยู่ร้านหนึ่ง

รอจนตอนเดินเข้ามาอีกครั้ง ในมือเธอถือถุงยามาด้วย ด้านในนั้นมียาอะม็อกซีซิลลินและยาแก้หวัดแคปซูลอยู่ด้วย

ตอนที่พนักงานถือข้าวต้มเข้ามานั้น ยู่ยี่ให้พนักงานถือน้ำเข้ามาด้วย หลังจากนั้นก็ยื่นส่งยาให้เขาตามคำอธิบาย

ฉันทัชรับมา มีความรู้สึกสบายใจและเป็นที่รู้กันของทั้งสองฝ่าย ริมฝีปากเขายกขึ้นแล้วเอ่ยพูดกับพนักงาน : “ขอบคุณครับ”

พนักงานหน้าแดง แล้วแอบมองอีกแวบหนึ่ง ข่มหัวใจที่รู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป

“วันนี้แต่งหน้าด้วยเหรอครับ?” ดวงตาของเขามองมา พลางทานข้าวต้มเบาๆ ท่าทางมีความสง่างามเป็นอย่างมาก

ยู่ยี่รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติแล้ว มีความระมัดระวังตัวมากเกินไป เธอพยักหน้าลง ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะแต่งหน้ามาเลยจริงๆ

“สวยมากเลยครับ…..”แล้วเขาก็เอ่ยพูดชมขึ้นมาอีก

มุมปากของเธอขยับพลางยิ้ม : “ขอบคุณค่ะ”

“เมื่อวานคุณถามผมว่าทำไมถึงรู้สึกดีกับคุณ…..”

ร่างของเธอแข็งทื่อไป ยู่ยี่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา จึงรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ซักพักหนึ่งจึงพยักหน้าลง

เงยขึ้นมามอง ดวงตาที่ลึกซึ้งจนมองไม่เห็นก้นบึ้งของฉันทัชมองมาที่ร่างของยู่ยี่ ริมฝีปากบางที่เซ็กซี่กระตุก แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน : “คุณเอาข้าวต้มมาให้โก๋ ตอนที่ทำความสะอาดคุณยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สิ่งที่คุณสามารถทำให้กระตุ้นอารมณ์ผมได้มีมากมายเลยครับ ผมไม่สามารถที่จะยกตัวอย่างออกมาทั้งหมดได้ทีละอันๆ แต่นิสัยของคุณชนะใจของผม…..”

อย่างเช่นในครัว สาลี่ที่ทำให้เขา ชวนให้เขาทานอาหารโต๊ะนั้น แสงที่แพร่กระจายออกมาตอนที่ตั้งใจทำความสะอาด และยังมีกล่องยาเมื่อครู่นี้อีก…..

ชนะใจผม คำพูดของเขาสั้นและง่ายมาก แต่มักจะมีความสามารถที่จะทำให้คนใจเต้นและหน้าแดงได้แบบนั้น

ในเมื่อเป็นสาเหตุที่ง่ายๆแบบนี้ ยู่ยี่ก็รู้สึกไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี

หลังจากนั้นพักหนึ่ง ยู่ยี่ก็ยกแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา หลังจากที่ดื่มน้ำลงไปแล้ว เธอถึงได้เอ่ยพูดขึ้น : “ถ้าหากเป็นเพราะสาเหตุทางด้านนี้ ฉันรู้สึกว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบของ霍先นะคะ…..”

ฉันทัชขมวดคิ้วขึ้นมา : “อารมณ์ชั่ววูบ?”

หลับตาลงเล็กน้อย ยู่ยี่เองก็เอ่ยพูดออกมาตรงๆ : “คุณฉันทัชไม่รู้สึกว่าที่ตัวเองยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องธรรมดามากแล้วก็ไม่ได้ลึกซึ้งด้วยเลยเหรอคะ?”

“ไม่ครับ……”เขาจิบน้ำอุ่นเบาๆให้สบายคอ

“อย่างสิ่งที่ฉันทำทั้งหมดนั้น ความจริงแล้วผู้หญิงทุกคนก็ทำได้ค่ะ”ยู่ยี่เอ่ยพูดต่อ

“บางทีพวกเขาทำได้ แต่พวกเขาไม่เคยได้มาทำตรงหน้าผม…….” ดวงตาของฉันทัชเงียบขรึม กำลังจ้องมองเธออยู่

ดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้น ทำให้ยู่ยี่รู้สึกได้ถึงการบีบรัด : “ความจริงแล้วนี่ไม่ใช่ความรู้สึกดี เป็นเพราะว่าคุณฉันทัชไม่เคยมีผู้หญิงมาทำเรื่องพวกนี้ให้ คุณฉันทัชถึงได้รู้สึกถึงความแปลกใหม่ไงคะ….”