ตอนที่ 463 เตรียมพร้อม

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 463

เตรียมพร้อม

“แล้ว…ทำไมเจ้านี่ต้องตามเรามาด้วยล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ถามหลังจากมังกรอัสนีทองคำเปลี่ยนร่างเป็นมังกรสีทองบินตามร่างของตงฟางมาด้วย

“ข้าชวนอาจารย์ไปด้วยกันเองขอรับ”จูล่งตอบพลางทำตาใสมองมาทางจิ้งจอกเหมันต์ที่อยู่ด้านหลังตนเอง

“ก็แล้วทำไมเจ้าต้องชวนมันมาด้วยเล่า”จิ้งจอกเหมันต์ถามด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก นอกจากมังกรตนนี้จะปากเสียแล้วนางยังทำอะไรมันไม่ได้อีกต่างหาก

“ข้าก็แค่อยากให้อาจารย์มากับพวกเราด้วย ไม่ได้หรือขอรับ”จูล่งถามพลางมองจิ้งจอกเหมันต์ด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“…..ก็ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้หรอก”จิ้งจอกเหมันต์หลบสายตาจูล่งพลางถอนหายใจช้าๆ หลานชายนางขอแบบนี้จะให้นางทำอย่างไรเล่า

.

.

วูบ….ด้วยความเร็วของตงฟางและมังกรอัสนีทองคำพวกมันก็ใช้เวลาไม่นานในการเดินมายังเขตอสูรผลึกฟ้าซึ่งเป็นบ้านเกิดของผิงกั่วนั่นเอง ยามนี้เขตอสูรเต็มไปด้วยอสูรธาตุน้ำแข็งมากมายเต็มพื้นที่ไปหมด ทำให้การมาถึงของมังกรอัสนีทองคำและจิ้งจอกเหมันต์ที่เก็บซ่อนพลังอสูรไม่เป็นนั้นสร้างความแตกตื่นใจให้กับเหล่าอสูรด้านล่างอย่างมาก

“พี่จูล่ง”ตรงกันข้าม คุณหนูแห่งเขตอสูรผลึกฟ้าอย่างผิงกั่วเมื่อเห็นไป๋จูล่งขี่ตงฟางลงมาก็ไม่ได้สนใจมังกรสีทองตัวใหญ่ที่บินตามมาเลยแม้แต่น้อย

“พี่จูล่ง พี่มาแล้วจริงๆด้วย”ผิงกั่วพูดพร้อมรอยยิ้ม เพียงแต่เหมือนจะมีอะไรต่างไปจากคราวก่อน

“เจ้า…พูดภาษาของเราได้แล้ว”ไป๋จูล่งว่าพลางเอียงคอเล็กน้อย คราวก่อนผิงกั่วยังพูดภาษาหลักของมนุษย์ไม่ได้อยู่เลย แต่ตอนนี้นางกลับพูดได้แล้ว เวลามันพึ่งผ่านไปเดือนกว่าๆเองไม่ใช่หรือนี่นางเรียนรู้ได้ไวขนาดนั้นเลยหรือว่าตำราของพี่สาวไป๋หลินได้ผลกัน?

“ข้าตั้งใจเรียนมากเลยล่ะ”ผิงกั่วว่าพลางยิ้มเขินๆออกมา ตั้งแต่จูล่งจากไปผิงกั่วก็ตั้งใจศึกษาตำราที่ไป๋หลินทิ้งเอาไว้ให้อย่างจริงจังเลยทีเดียว

“เก่งมาก เจ้าพยายามได้ดีเลย”ไป๋จูล่งชมพลางลูบหัวผิงกั่วอย่างเอ็นดู นางตัวเล็กกว่าจูล่งมากดูแล้วเหมือนน้องสาวกับพี่ชายไม่มีผิด ส่วนทางผิงกั่วนั้นพอโดนลูบหัวก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนจะดีใจกับคำชมมากเช่นกัน

“จริงสิ ข้ามีเรื่องอยากจะเล่าให้เจ้าฟังเยอะแยะเลย”จูล่งว่าพลางเล่าเรื่องที่ตนได้เจอมาให้ผิงกั่วฟังอย่างเพลิดเพลิน สำหรับจูล่งแล้วคนที่มันเล่าเรื่องภายนอกให้ฟังได้ก็มีแค่ผิงกั่วเท่านั้น เพราะคนอื่นเขารู้จักโลกภายนอกกันหมดแล้ว คนที่อ่อนต่อโลกเหมือนจูล่งก็คงมีแต่ผิงกั่วที่โตในเขตอสูรผลึกฟ้าแห่งนี้เท่านั้น

ส่วนทางด้านราชินีน้ำแข็ง เมื่อเห็นจูล่งกำลังพูดคุยกับบุตรสาวของตนก็ไม่ได้เข้าไปขัดแต่อย่างไร จูล่งเป็นเชื้อสายของนางหญิงอสูรแมงมุม นางย่อมเกรงใจอยู่แล้วไม่ต้องพูดถึงพลังดึงดูดเหล่าอสูรของจูล่งเลย ได้เห็นบุตรสาวสนิทสนมกับจูล่งเช่นนี้ทำให้นางยินดีมากทีเดียว

“พวกท่านเดินทางมาไกล เชิญพักผ่อนก่อนเจ้าค่ะ”ราชินีน้ำแข็งพูดพลางเดินเข้าไปต้อนรับมังกรอัสนีทองคำและจิ้งจอกเหมันต์ที่กำลังยืนมองจูล่งอยู่ห่างๆ

“ต้องรบกวนด้วยนะเจ้าคะ”จิ้งจอกเหมันต์พูดอย่างสุภาพ พลางเดินตามราชินีน้ำแข็งเข้าไปในปราสาทน้ำแข็ง ปล่อยให้จูล่งได้อยู่คุยกับผิงกั่วตามสบาย ไม่ทราบเพราะนางกับราชินีน้ำแข็งเป็นอสูรธาตุน้ำแข็งเหมือนกันหรือไม่ แต่พวกนางก็เข้ากันได้ดีและผลัดกันพูดคุยประสบการณ์เลี้ยงดูบุตรมนุษย์กันอย่างออกรส ทั้งราชินีน้ำแข็งที่เลี้ยงดูผิงกั่วอยู่กับจิ้งจอกเหมันต์ที่เคยเลี้ยงดูไป๋จูเหวินมาก่อนต่างก็เจอปัญหาหลายๆอย่างเหมือนกันจนน่าตกใจ และสิ่งหนึ่งที่ราชินีน้ำแข็งกำลังกังวลอยู่ก็คือปัญหาที่เหล่าน้าๆเคยเจอกันมาแล้วนั่นเอง

“ผิงกั่วอยากจะออกไปจากเขตอสูร….”จิ้งจอกเหมันต์เลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ เพียงแต่นางประหลาดใจเรื่องที่ว่าปัญหาที่พบเจอช่างเหมือนตอนไป๋จูเหวินอยากจะออกไปดูโลกภายนอกไม่มีผิดไม่ใช่ว่าแปลกใจที่ผิงกั่วรู้สึกเช่นนั้น

“เจ้าค่ะ ถึงนางจะไม่ได้พูดออกมา แต่พักหลังมานี่นางก็มองออกไปนอกเขตอสูรอยู่บ่อยๆ คราวก่อนที่นางโดนจับตัวไปก็เพราะนางออกไปจากเขตอสูรด้วยเช่นกัน”ราชินีน้ำแข็งตอบพลางมองผิงกั่วจากหน้าต่างในปราสาทน้ำแข็ง แม้หลังจากเกิดเหจุการณ์ลักพาตัวผิงกั่วจะไม่ออกไปข้างนอกแล้วก็ตาม แต่นางก็มีท่าทีอยากออกไปอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งพอพูดเรื่องไป๋จูล่งขึ้นมา นางก็จะมีท่าทีแปลกๆอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาคนเป็นแม่อย่างราชินีน้ำแข็งอดกังวลไม่ได้ ข้างนอกนั่นอันตรายกับผิงกั่วจริงๆ แถมนางยังออกไปกับผิงกั่วไม่ได้อีกต่างหาก

“มันอาจจะเป็นเรื่องปกติก็ได้”จิ้งจอกเหมันต์ตอบ ไม่ว่าจะไป๋จูเหวิน ไป๋หลิน หรือ ไป๋จูล่งเองพอถึงช่วงอายุหนึ่งแล้วก็เริ่มอยากจะออกไปเจอโลกภายนอกกันทั้งนั้น ต่อให้บ้านเป็นดินแดนในฝันแค่ไหน สักวันทุกคนก็ต้องอยากออกไปเจออะไรใหม่ๆบ้าง พวกมันไม่เหมือนเหล่าอสูรที่อยู่เฝ้าเขตอสูรได้นับร้อยนับพันปีเสียหน่อย

“เป็นท่านจะทำอย่างไรเจ้าคะ”ราชินีน้ำแข็งถามเหมือนจะขอความเห็นจากจิ้งจอกเหมันต์

“เตรียมนางให้พร้อม”คนที่ตอบออกมากลับกลายเป็นมังกรอัสนีทองคำเสียอย่างนั้น แม้จะยืนเงียบมาตลอดแต่ท่าทางมันก็ยังฟังทั้งสองพูดคุยกันอยู่สินะ

“เจ้า..”จิ้งจอกเหมันต์ค้อนใส่มังกรอัสนีทองคำเสียทีหนึ่ง นางกำลังจะตอบคำถามของราชินีน้ำแข็งอย่างจริงจังเสียหน่อยดันโดนมังกรอัสนีทองคำแย่งพูดไปเสียได้

“แล้วข้าพูดอะไรผิดหรือยังไง”มังกรอัสนีทองคำถามพลางเลิกคิ้วสงสัย

“ก็…ไม่ผิดหรอก อย่างที่เจ้าบ้านั่นบอกเจ้าควรจะเตรียมตัวให้ผิงกั่วดีกว่า”จิ้งจอกเหมันต์ตอบ เรื่องที่ลูกๆจะออกจากอ้อมอกพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องธรรมดา พวกตนทำได้แค่ทำให้ลูกๆพร้อมจะเจอกับโลกภายนอกเท่านั้น

“เตรียมพร้อม? ข้าควรทำอย่างไรบ้าง”ราชินีน้ำแข็งถามด้วยท่าทีสนใจ นางไม่เหมือนจิ้งจอกเหมันต์ที่คุ้นชินกับมนุษย์แล้ว บอกตามตรงราชินีน้ำแข็งไม่รู้เลยว่าควรเลี้ยงดูบุตรชาวมนุษย์อย่างไร ลำพังที่สามารถดูแลผิงกั่วมาได้ถึงตอนนี้นับว่าสุดความสามารถแล้ว

“นางเป็นมนุษย์ก็ให้นางฝึกฝนพลังวิญญาณเสียก่อน จะได้ไม่ถูกจับไปเหมือนคราวก่อนอีก ในเขตอสูรของเจ้าอุดมสมบูรณ์ไม่น้อย คงช่วยให้นางฝึกฝนพลังวิญญาณได้ไม่ยาก”มังกรอัสนีทองคำตอบออกมาขณะที่จิ้งจอกเหมันต์กำลังจะอ้าปากพูดพอดี

ปึก!..คราวนี้นอกจากจิ้งจอกเหมันต์จะค้อนใส่มังกรอัสนีทองคำแล้วยังประเคนศอกสั้นให้อีกทีหนึ่งด้วย

“อะไรกัน ข้าพูดอะไรผิดหรือไง”มังกรอัสนีทองคำถามพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีงุนงง นี่มันทำอะไรให้นางโกรธกัน

“เปล่านี่”จิ้งจอกเหมันต์ทำหน้ามุ่ย แม้มันจะแย่งนางพูดแต่มันก็พูดเหมือนที่นางจะพูดพอดี ทำเอานางไม่มีอะไรจะเสริมเลย

“แล้วเจ้าจะมาศอกข้าทำไมกัน”มังกรอัสนีทองคำถามพลางจับไปที่เอวของตนเอง แม้ระดับพลังจะต่างกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าพลังของจิ้งจอกเหมันต์จะทำอะไรมันไม่ได้เลย

“ข้าพอใจ”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางเชิดหน้าหนีไปคุยกับราชินีน้ำแข็งทันที ทำเอามังกรอัสนีทองคำได้แต่ทำหน้างงๆมองตามมาด้วยท่าทีไม่เข้าใจ ปกติตัวมันก็ไม่เคยเจออสูรตนไหนทำแบบนี้ใส่เหมือนกัน ตนที่เป็นมิตรกับมันส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาหาด้วยท่าทีหวาดกลัวหรือเกรงใจ ตนที่เป็นศัตรูก็จะแผ่จิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน แต่นางกลับต่างออกไป เพราะนางเหมือนจะเป็นมิตรแต่ก็แผ่จิตสังหารออกมาเช่นกัน แถมมันก็ไม่สามารถข่มนางได้เต็มที่เพราะนางเป็นน้าของจูล่งที่ตอนนี้เก่งกว่าตัวมันเสียอีก

“ล่งเอ๋อ เจ้ามาหาน้าหน่อย”จิ้งจอกเหมันต์เดินเข้าไปหาไป๋จูล่งที่กำลังนั่งอยู่กับผิงกั่วที่หน้าปราสาทน้ำแข็งหลังจากได้ปรึกษาเรื่องของผิงกั่วกับราชินีน้ำแข็งจนหมดแล้ว

“ขอรับ”จูล่งว่าพลางเดินเข้ามาหาจิ้งจอกเหมันต์พร้อมๆกับผิงกั่ว ทั้งนางทั้งจูล่งได้แต่ทำหน้างงเมื่อถูกน้าจิ้งจอกเรียกตัวมา

“จูล่ง เจ้ามีวิชาฝึกฝนพลังวิญญาณที่จำได้อยู่หรือไม่”จิ้งจอกเหมันต์ถามเพราะนางไม่มีวิชาฝึกฝนพลังวิญญาณเก็บเอาไว้เลย

“มีขอรับ ท่านน้าจะเอาไปทำไมหรือ”ไป๋จูล่งถามพลางกะพริบตาปริบๆ ที่ผ่านมามันจำวิชาฝึกฝนพลังวิญญาณทั้งหมดของท่านพ่อท่านแม่รวมทั้งของพี่สาวและคนที่มันได้เห็นมาหมดแล้ว ชื่ออัจฉริยะแห่งตระกูลไป๋ไม่ใช่ของวางประดับ เพียงมองการเดินพลังของคนผู้หนึ่งจูล่งก็สามารถจำแนกและเรียนรู้วิชาที่คนนั้นใช้ได้ทันที ยามนี้ไม่ว่าจะวิชาลมปราณมังกรหรือแม้แต่วิชาเทวะปราบมารของอู๋หมิงตัวจูล่งก็เรียนรู้และนำมาปรับใช้กับตนเองจนหมดแล้ว

“น้าอยากให้เจ้าหาวิชาที่เหมาะกับผิงกั่วแล้วสอนนางฝึกฝนพลังวิญญาณเสียหน่อย”ได้ยินจิ้งจอกเหมันต์พูดแบบนั้น ผิงกั่วก็มีท่าทีประหลาดใจอย่างมาก อยู่ๆท่านน้าจิ้งจอกก็จะให้นางฝึกฝนพลังวิญญาณงั้นหรือ นี่นางไปคุยอะไรกับมารดาของตนมากันแน่

“ผิงกั่ว ข้าปรึกษากับท่านจิ้งจอกเหมันต์แล้ว”ราชินีน้ำแข็งพูดพลางเดินเข้ามาหาผิงกั่วด้วยท่าทีอ่อนโยน หลังจากปรึกษาจิ้งจอกเหมันต์จนมั่นใจแล้วนางก็ตัดสินใจได้เสียที

“แม่จะให้เจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณ และเมื่อใดที่ระดับพลังของเจ้าพอจะปกป้องตัวเองได้แล้ว แม่จะอนุญาตให้เจ้าเข้าออกเขตอสูรได้ตามใจชอบ”สิ่งที่ราชินีน้ำแข็งพูดมาทำเอาผิงกั่วได้แต่กะพริบตาปริบๆ นางไม่แม้แต่จะพูดจาตอบโต้หรือแสดงท่าทีดีใจแต่อย่างไร เพราะนางยังไม่ทันบอกแม่ของนางเลยว่านางอยากออกไปข้างนอก

“จริงหรือเจ้าคะ”ผิงกั่วเหมือนพึ่งจะได้สติ นางรีบพุ่งตัวเข้ามาหามารดาพลางบอกให้นางบอกย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“จริงสิ แม่จะโกหกเจ้าทำไมกัน”ราชินีน้ำแข็งว่าพลางยิ้มบางๆออกมา

“ระหว่างนี้ก็ให้จูล่งสอนผิงกั่วไปก่อนก็แล้วกัน เรายังมีเวลาอีกมาก”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางหัวเราะออกมากับท่าทีของแม่ลูกตรงหน้า พอเห็นภาพแบบนี้ก็อดนึกถึงตอนไป๋จูเหวินออกไปเดินทางขึ้นมาเลย ตอนนั้นพวกนางเตรียมของอะไรต่อมิอะไรให้มันตั้งมาก

“ว่าแต่ ท่านแม่ข้าต้องฝึกให้ถึงระดับไหนถึงจะออกไปได้ล่ะเจ้าคะ”ผิงกั่วถามพลางเงยหน้าขึ้นมองมารดาของตนด้วยท่าทีสงสัย

“จริงสิ…ข้าก็ไม่รู้ระดับพลังของมนุษย์เสียด้วย”ราชินีน้ำแข็งว่าพลางมองไปทางไป๋จูล่งช้าๆ

“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ หากเจ้ามีระดับพลังพอๆกับจูล่งเจ้าค่อยออกไป”ราชินีน้ำแข็งพูดพลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน น่าเสียดายนางสัมผัสพลังของจูล่งไม่ได้เลยไม่ทราบว่าพลังของมันอยู่ระดับไหน แต่มังกรอัสนีทองคำและจิ้งจอกเหมันต์กลับกะพริบตาปริบๆพลางส่ายหน้าช้าๆ หากต้องระดับพลังพอๆกับจูล่งละก็เกรงว่าชาตินี้ผิงกั่วคงไม่ได้ออกไปไหนแน่ๆ ท่าทางจะต้องหาตัวอย่างระดับพลังมาให้ราชินีน้ำแข็งได้เปรียบเทียบเสียแล้ว