บทที่ 380 ในเมื่อมีนัด ก็ไม่รบกวน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“พรุ่งนี้ฉันเองก็จะลองบ้างแล้วกัน แต่ฉันกลัวว่าหลังจากที่ดื่มน้ำแล้วจะเอาแต่วิ่งเข้าห้องน้ำน่ะสิ ฉันขี้เกียจเข้าห้องน้ำ”

นาโนขี้เกียจจริงๆ เธอได้นั่งก็จะไม่ยืนเป็นอันขาด ไม่ต้องขยับได้ ก็จะพยายามไม่ขยับ

คิ้วของยู่ยี่อดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ ทั้งสองคนไปที่ห้างสรรพสินค้านานาชาติ เสื้อผ้าในนั้นราคาสูงมาก

นาโนเลือกเสื้อผ้าขนมิ้งมาสองสามชุด และยังมีเสื้อกันหนาวอีกสองสามแบบ ยู่ยี่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพียงแค่เดินเล่นเป็นเพื่อนและเลือกเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น

หลังจากที่สภาพจิตใจสงบลงแล้ว ก็เกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา ไม่ว่าเสื้อผ้าจะราคาแบบไหน ความจริงแล้วก็แทบไม่ได้ต่างกันมากเลย

แต่นาโนกลับยัดเสื้อกันหนาวสองตัวให้กับเธอ : “ไซส์เหมาะกับเธอพอดี สีก็สวยดีด้วยนะ”

ยู่ยี่ไม่ต้องการ เสื้อผ้าของเธอมีอยู่ไม่น้อยแล้ว สองวันก่อนก็ซื้อมาแล้ว แต่นาโนกลับไม่สนใจว่าเธอจะไม่ต้องการ เธอมีท่าทางโกรธๆ

จนสุดท้ายแล้วก็ถูกบีบบังคับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยู่ยี่เอามาแล้ว เธอจะเอาเพียงแค่ของที่นาโนกับเชอร์รีนให้เท่านั้น ของที่คนอื่นๆให้ เธอไม่ต้องการ

ทั้งสองคนรู้สึกหิวบ้างแล้ว ตรงข้ามนั้นมีร้านสุกี้อยู่พอดี ที่ยืนอยู่ทางฝั่งนี้ ทั้งสองคนวางแผนเอาไว้ว่าจะเดินไปทางที่อยู่ตรงข้าม

แล้วจู่ๆนาโนก็ร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ : “รถของเทพบุตรนี่”

หัวใจที่อยู่ตรงอกนั้นเต้นเร็วขึ้น ยู่ยี่มองตามไปโดยสัญชาตญาณ รถมูซานสีบรอนด์จอดอยู่ข้างทาง เธอมองไป : “เธอจำผิดแล้วล่ะ”

ไม่ว่าจะเป็นรถมูซานสีบรอนด์หรือว่าเบนท์ลีย์สีดำ เธอนั่งมาแล้วหลายครั้ง ทะเบียนรถก็คุ้นเสียจนไม่คุ้นไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

นับตั้งแต่หลังจากที่มาส่งเธอจากร้านข้าวต้มกลับบ้านนั้น จนกระทั่งถึงตอนนี้ เวลาประมาณเกือบสองสัปดาห์ เธอก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลย เขาเองก็ไม่ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอด้วยเช่นกัน

และนี่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกเหมือนกับเป็นภาพลวงตา คืนนั้นที่ร้านข้าวต้ม ดูเหมือนกับเธอกำลังฝันไป เวลาเพียงชั่วครู่เดียว เหมือนกับสิ่งลวงตา

บางครั้ง เห็นมูซานและเบนท์ลีย์อยู่บนถนน หัวใจของเธอก็มักจะเต้นเร็วขึ้นมาไม่ได้ และเมื่อมองไป ถึงได้พบว่าไม่ใช่รถของเขา สถานการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว……

“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจำผิด?”นาโนยังคงกำลังมองไปทางด้านในรถ

“ป้ายทะเบียนรถไม่ถูก เลขสองตัวของป้ายทะเบียนรถไม่เหมือนกันน่ะ รถของเขาขึ้นต้นและลงท้ายด้วยเลข9 แต่คันนี้เป็นเลข0”

นาโนมองเธอ : “ทำไมเธอถึงจำได้ชัดเจนขนาดนี้?”

นั่งหลายครั้งแล้ว ก็จำได้ชัดเจนไปเอง…….

แน่นอนว่ายู่ยี่ไม่สามารถตอบไปแบบนี้ได้อยู่แล้ว เธอยิ้ม : “ความจำฉันดี เธอคิดว่าใครๆจะเป็นแบบเธอรึไง”

“เธออวดเก่งไปเถอะ”นาโนยื่นมือออกมาแล้วหยิกลงที่สะโพกของเธอ

“เธอมาเล่นลวนลามในที่คนเยอะแยะแบบนี้ได้ยังไงกัน”ยู่ยี่หน้าแดง แล้วหลบเธอ

ร้านสุกี้ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเปิดใหม่ แต่รสชาตินั้นไม่เลวเลย คุณภาพเนื้อสัตว์สดใหม่ เครื่องปรุงก็ยอดเยี่ยมมาก ราคาก็อยู่ในช่วงโปรโมชั่นอีกด้วย

ยู่ยี่และนาโนทานกันไปไม่น้อย และนาโนก็ยังตั้งใจใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปส่งไปให้เชอร์รีนอีกด้วย

ความจริงแล้วเชอร์รีนก็เป็นคนที่ชอบสุกี้มาก เพียงแต่ช่วงนี้เป็นร้อนใน ถูกห้ามไม่ให้กินเผ็ด นาโนจึงตั้งใจส่งรูปไปยั่วเธอ

และเป็นอย่างที่คิด จากนั้นเชอร์รีนก็โทรมา แล้วต่อว่าใส่นาโนยกใหญ่ ทำให้ยู่ยี่ต้องหัวเราะออกมา

ทานสุกี้แล้ว นาโนก็อยากจะดื่มกาแฟอีก สองสามวันมานี้ดนัยห้ามเธอดื่มกาแฟตอนอยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังเก็บกาแฟไปหมดอีกด้วย

ช่วงนี้นาโนนอนหลับได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ตอนกลางคืนมักจะนอนไม่หลับ หรือไม่อย่างนั้นก็จะหลับไม่สนิท ดนัยกลับพูดทิ้งไว้อย่างไม่สบอารมณ์ ว่าตัวเองหาเรื่องเอง ดื่มกาแฟมากขนาดนั้น ในหัวก็ย่อมถูกกระตุ้นอยู่แล้ว หลับได้ก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว

ร้านกาแฟมีชื่อที่งดงามมาก ร้านธาราพิรุณ ได้ยินชื่อก็รู้สึกว่ามีรสนิยมแล้ว

คนที่อยู่ด้านในร้านนั้นเต็มและแน่นมาก ทั้งสองคนเข้าไปพอดีเหลืออยู่เพียงโต๊ะเดียว ที่นี่จะต้องจองที่นั่งก่อนล่วงหน้า

ราคาของกาแฟนั้นไม่ต้องพูดถึง ส่วนการตกแต่งร้านกาแฟก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดออกมา ระหว่างโต๊ะแต่ละตัวจะใช้ไม้ทำเป็นทางคดเคี้ยวล้อมรอบ มีน้ำใสไหลผ่านมา และข้างๆก็ยังมีต้นไม้สีเขียวที่ปลูกอยู่ในกระถางอีกด้วย

ภายในร้านกาแฟไม่มีคนพูดกันเลย เงียบมาก ดื่มกาแฟไป ฟังเสียงน้ำไหล กล่อมเกลาอารมณ์และความคิด และผ่อนคลายจิตใจ

ประตูร้านกาแฟแขวนโมบายเอาไว้ เมื่อมีคนผลักประตู ก็จะส่งเสียงดังไพเราะขึ้นมา

นาโนมองไป หลังจากนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา จ้องมองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาระยิบระยับ นอกจากเธอแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ในร้านก็พากันมองไปแทบจะทั้งหมด

ฉันทัชสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีเงิน ผูกเนคไทสีดำ กางเกงขายาวสีควันบุหรี่ ด้านนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาลอ่อน ความสง่างามและความเลิศล้ำนี้เปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่

ยู่ยี่เองก็เห็นแล้วเช่นกัน หัวใจของเธอเต้นเร็ว เธอก้มหน้าลงดื่มกาแฟ

แต่มีคนกลับหาเรื่องเข้าตัวอีก นาโนร้องเรียกอย่างตื่นเต้น : “คุณฉันทัช คุณฉันทัช ทางนี้ค่ะ”

รู้สึกขายหน้าอยู่บ้าง ยู่ยี่อยากจะบีบคอนาโนให้ตายจริงๆ

ขาเรียวยาวคู่นั้นเดินมาทางนี้ ทุกย่างก้าวเหมือนกับเหยียบลงบนหัวใจของหญิงสาว สั่นสะท้านตามไปด้วย

“คุณนาโน”อาการหวัดของเขาหายแล้ว เสียงไม่แหบพร่าอีกแล้ว เขายื่นมือขวาออกมาอย่างมีมารยาท

นาโนรีบวางแก้วกาแฟ ยื่นมือออกมาจับมือเขา ในใจมีเสียงอุทานออกมา และก็ไม่รู้ด้วยเช่นกันว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายแบบนี้จะถูกผู้หญิงคนไหนได้ไป!

ยู่ยี่ยังคงก้มหน้าดื่มกาแฟอยู่ ดวงตาที่ลึกซึ้งของฉันทัชหันมามองที่เธอ และยังคงเป็นสุภาพบุรุษเช่นเดิม : “คุณยู่ยี่”

อีกฝ่ายนั้นยื่นมือออกมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่จับมือกับเขา เธอลุกขึ้นยืน แล้วทั้งสองก็จับมือกัน

ฝ่ามือของเขาร้อนมาก ร้อนเสียจนทำให้ยู่ยี่รู้สึกไม่เป็นอิสระ มือของเธอขยับเล็กน้อยเพื่อจะดึงมือกลับมา แต่ดูเหมือนฉันทัชจะกระชับปลายนิ้วของเธอเอาไว้แน่น

เธอรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมามอง แต่เขากลับปล่อยมือเธอไปแล้ว ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาดูนิ่งเฉย

“คุณฉันทัชเพิ่งจะมาถึงที่นี่ หรือว่ามาซักพักนึงแล้วคะ?” นาโนเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เพิ่งถึงครับ….” ฉันทัชตอบ

“ขับรถมูซานสีบรอนด์มาหรือเปล่าคะ?”เธอเอ่ยถามต่อ

ฉันทัชพยักหน้าลงเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่เธอถาม

นาโนทัดผมลอนที่หลังใบหู แล้วเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “เมื่อครู่นี้ฉันกับยู่ยี่เดินเล่นอยู่ที่ห้างตรงข้าม ตอนที่เดินออกมาเห็นรถมูซานคันหนึ่ง เหมือนกับรถของคุณฉันทัชเลยค่ะ ฉันคิดว่าเป็นรถของคุณฉันทัช แต่เธอกลับบอกฉันว่าไม่ใช่ แล้วบอกว่าป้ายทะเบียนรถของคุณฉันทัชขึ้นต้นและลงท้ายด้วยเลข9 แต่คันนั้นเป็นเลข0 ฉันกำลังทดสอบความแม่นจากการคาดเดาของฉันกับยู่ยี่อยู่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความจำของยู่ยีคงจะดีจริงๆ”

ยู่ยี่แอบดึงเสื้อของนาโน เธอไม่พูด ก็ไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้หรอกนะ

ดวงตาที่ลึกซึ้งนั้นอ่อนโยนลง ฉันทัชเหลือบมองเธอ ดูเหมือนกับคำพูดของนาโนนั้นจะทำให้เขารู้สึกดีใจขึ้นมาบ้าง

สบตากัน ยู่ยี่เป็นฝ่ายหลบตา

ทางด้านนี้ เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย เขาทำอะไรก็จะปกปิดเอาไว้ไม่เปิดเผยออกมา เงียบขรึมและสง่างาม แต่เธอกลับมีความลนลาน

“คุณฉันทัชมาดื่มกาแฟที่นี่หรือว่ามีธุระคะ?” นาโนยังเอ่ยถามต่อ

“ทั้งสองอย่างเลยครับ…..”เขาเอ่ยขึ้นนิ่งๆ สายตามองไปทางยู่ยี่ : “คุณยู่ยี่ก็ขึ้นมาด้วยกันสิครับ คนที่ผมมาพบ จะช่วยคุณได้…..”

นาโนรู้สึกงุนงง ยู่ยี่ดึงเธอเอาไว้ พลางอธิบาย : “ตอนนี้งานที่ฉันรับช่วงต่อเกี่ยวข้องกับคุณฉันทัชด้วย ในเมื่อคุณฉันทัชนัดเอาไว้แล้ว พวกเราไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”