ตอนที่ 714 ปิดบังข่าวคราว / ตอนที่ 715 แผนการของหรูเยียน

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 714 ปิดบังข่าวคราว

 

 

“เกรงว่าในท้ายที่สุดไทเฮาจะทรงมิได้อะไรเลย แล้วจะพระองค์ทรงทำเช่นนี้เพื่ออะไรกันเพคะ? หรือทรงต้องการให้พระโอรสพระองค์เดียวเจ็บแค้นพระองค์อย่างนั้นหรือ? คิดแล้วหม่อมฉันก็รู้สึกเสียดายแทนไทเฮายิ่งนัก”

 

 

หลิงอวี้จื้อกล่าวไปก็ทอดถอนหายใจไป และสีหน้าของมู่หรงกวานเย่ว์เหี้ยมเกรียมมากขึ้นทุกขณะ

 

 

“หลิงอวี้จื้อ หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอีกละก็ ข้าจะสั่งให้คนโยนเจ้าเข้าไปในกองไฟเสียเลย”

 

 

หลิงอวี้จื้อค้อนมู่หรงกวานเย่ว์ปะหลับปะเหลือก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะอย่างไรเสียพูดไปก็เปลืองน้ำลายตนเองเปล่าๆ

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งสิ้น จึงไม่น่าเห็นใจแม้แต่น้อย จะให้ดีขอให้เฉินมั่วฉือเจ็บแค้นพระนางให้มากๆ เพราะสิ่งที่พระนางกระทำทั้งหมดทั้งมวลนี้ ช่างไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์เหลือเกิน

 

 

ขณะนั้นในเวลาเดียวกัน เซียวเหยี่ยนพำนักอยู่ที่มณฑลเฉวียนโจ เมืองเจี้ยนอัน ดินแดนที่เขาต้องการพิชิตให้จงได้นั่นเอง

 

 

เมืองเจี้ยนอันมีความสำคัญต่อซีเว่ยเป็นอย่างมาก เพราะเจี้ยนอันคือเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่านเมื่อต้องการเดินทางไปยังเมืองหลวง ถ้าหากเจี้ยนอันถูกชิงไปได้ เมืองหลวงก็จะเป็นอันตรายทันที

 

 

เซียวเหยี่ยนต้องการยึดครองเมืองหลวง ปัญหาตอนนี้มีเพียงแค่เรื่องเวลาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นประกันว่าเมืองหลวงจะปลอดภัย เมืองเจี้ยนอันจะถูกเซียวเหยี่ยนตีแตกมิได้

 

 

เฉินมั่วฉือเองก็อยู่ที่เจี้ยนอัน เขาคงต้องปะทะกับเฉินมั่วฉือในสนามรบเป็นแน่

 

 

ขณะที่เซียวเหยี่ยนกำลังปรึกษาหารือเรื่องแผนการรบอยู่กับกองกำลังของตน โดยที่เบื้องหน้าในจุดที่เขายืนอยู่ ณ ตอนนี้คือแผนที่ทั้งหมดของซีเว่ย

 

 

เซียวเหยี่ยนชี้ไม้ชี้มือเขตแดนต่างๆ บนแผนที่โดยมีขุนพลของเขายืนล้อมรอบกายรับฟังแผนการ ห้องทั้งห้องจึงมีเสียงเซียวเหยี่ยนเพียงคนเดียวที่ดังขึ้น

 

 

ในสายตาของแม่ทัพรองแม่ทัพทั้งหลาย เซียวเหยี่ยนคือเทพผู้รบไม่แพ้ ขอเพียงติดตามเซียวเหยี่ยน พวกเขาเชื่อว่าจะสามารถพิชิตเมื่อหลวงได้ในเร็ววัน

 

 

จนกระทั่งบรรดาขุนพลทั้งหลายกลับออกไปกันหมดแล้ว เซียวเหยี่ยนค่อยนั่งลงพิงพนักเก้าอี้ นวดขมับตนเองเบาๆ เขาไม่ได้นอนมาทั้งคืน เพราะต้องหารือแผนการและยุทธวิธีที่ใช้ในการรบกับแม่ทัพและกองหน้าของเขา

 

 

จะพิชิตเจี้ยนอันให้จงได้ คงจะมิใช่เรื่องง่าย เฉินมั่วฉือยกทัพมารออยู่ที่เจี้ยนอันด้วยตัวเอง หน่วยทหารอันแข็งแกร่งต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่เมืองเจี้ยนอัน เซียวเหยี่ยนจึงมิกล้าประมาทศัตรู

 

 

“นายท่าน ท่านไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนเต็มๆ คงจะอ่อนเพลีย พักผ่อนสักหน่อยเถิดขอรับ!”

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าของเซียวเหยี่ยน อู่จิ้นที่อยู่ข้างกายจึงเอ่ยปากเตือน

 

 

เซียวเหยี่ยนส่ายหน้า

 

 

“ข้าไม่เหนื่อย มีข่าวจากเมืองอวิ๋นบ้างหรือไม่?”

 

 

“ทุกอย่างปกติดีขอรับ”

 

 

แท้ที่จริงแล้วอู่จิ้นได้รับรายงานข่าวมาแล้วว่าหลิงอวี้จื้อออกจากเมืองอวิ๋น แต่เขาไม่กล้าบอกกับเซียวเหยี่ยน การเข้าโจมตีใกล้เข้ามา หากรายงานเรื่องนี้ออกไปจะต้องส่งผลกระทบต่อเซียวเยี่ยนเป็นแน่ อู่จิ้นจึงเลือกที่จะปกปิดเอาไว้ รอจนกระทั่งพิชิตเมืองเจี้ยนอันได้แล้วค่อยรายงานให้เซียวเหยี่ยนได้รู้

 

 

“เช่นนั้นก็ดี เมืองอวิ๋นมีข่าวอะไร จะต้องรายงานให้ข้าได้รู้ ห้ามปกปิดหมกเม็ดเป็นอันขาด”

 

 

อู่จิ้นแอบร่ำร้องอยู่ในใจ แต่ก็ยังเอ่ยปากรับคำสั่ง พระชายาของเขาก็จริงๆ เลย ดันต้องออกจากเมืองอวิ๋นในเวลาสำคัญเช่นนี้ได้ อู่จิ้นก้มหน้าหลบสายตาอย่างร้อนตัว แต่ก็ยังต้องก้มหน้ารับคำสั่งอยู่ดี

 

 

“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจดี”

 

 

ในตอนนั้นเอง ทหารคนหนึ่งได้เข้ามารายงาน

 

 

“เรียนท่านอ๋อง ด้านนอกมีแม่นางคนหนึ่งมาขอพบท่านอ๋องขอรับ”

 

 

“นางชื่ออะไร?”

 

 

เซียวเหยี่ยนมิสนใจแม่นางที่ต้องการจะพบเขาเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงที่กล่าวถามจึงเย็นชายิ่งนัก

 

 

“แม่นางผู้นั้นบอกว่าชื่อหรูเยียน มีเรื่องสำคัญจะมารายงานขอรับท่านอ๋อง”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อหรูเยียน เซียวเหยี่ยนก็ถึงกับขมวดคิ้ว ในเวลาเช่นนี้หรูเยียนมาที่นี่ทำไมกัน เขาให้นางไปจากจวนอ๋องแล้วมิใช่หรือ?

 

 

“นายท่าน หรูเยียนมาได้อย่างไร”

 

 

“ให้นางเข้ามา!”

 

 

เซียวเหยี่ยนต้องการจะรู้ว่าหรูเยียนมีเรื่องสำคัญอะไรจะรายงานกันแน่ หากไม่มีเรื่องสำคัญอะไร เขาจะรีบส่งนางกลับไปทันที เพราะเขาไม่คิดที่จะเก็บนางเอาไว้ข้างกายอยู่แล้ว

 

 

ที่ผ่านมาเขาชื่นชมนางก็จริง แต่นั่นก็เพราะความสามารถและความสุขุมรอบคอบของนางเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดของนางแล้ว ทำให้เขาเกิดขยะแขยงในตัวนางขึ้นมาในทันที นึกไม่ถึงเลยว่าหรูเยียนจะเป็นคนไม่รู้จักหนักเบาเช่นนี้

 

 

“ขอรับ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 715 แผนการของหรูเยียน

 

 

ทหารผู้น้อยขานรับคำสั่ง ไม่นานเขาก็ไปนำตัวหรูเยียนเข้ามา

 

 

หรูเยียนสวมใส่เสื้อผ้าซอมซ่อ แต่งกายอย่างง่ายๆ หน้าตามอมแมม สีหน้าอ่อนล้า เห็นได้ชัดว่านางคงจะรีบเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนเป็นแน่

 

 

เมื่อได้พบหน้าเซียวเหยี่ยน หรูเยียนก็ทรุดคุกเข่าลงทันที

 

 

“บ่าวคำนับท่านอ๋อง”

 

 

“หรูเยียน เจ้ามีเรื่องสำคัญอะไรจะต้องพบข้าให้ได้?”

 

 

“ว่ามา”

 

 

“ท่านอ๋อง พระชายาออกจากเมืองอวิ๋น ไม่รู้ว่าไปที่ใด บ่าวเกรงว่าพระชายาจะมีอันตราย ดังนั้นจึงรีบเร่งมารายงานท่านอ๋อง”

 

 

หรูเยียนรู้ดีว่าไม่ควรมาหาเซียวเหยี่ยน ยิ่งไม่ควรรายงานเรื่องนี้ให้กับเซียวเหยี่ยนได้รู้ แต่ทว่า มีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวที่นางจะได้มีโอกาสเข้าใกล้เซียวเหยี่ยน

 

 

นางรับใช้ข้างกายเซียวเหยี่ยนมาหลายปี จึงรู้จักนิสัยของเซียวเหยี่ยนดี หากว่านางไม่มีเหตุผลที่สำคัญเพียงพอละก็ เซียวเหยี่ยนจะต้องไล่นางไปเป็นแน่

 

 

หลังออกจากจวนเซียวอ๋อง นางก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน นางอาศัยอยู่ในจวนเซียวอ๋องมาตั้งหลายปี จึงยังมีพี่น้องสาวใช้หลายคนที่เคยได้รับน้ำใจจากนาง คอยรายงานความเคลื่อนไหวภายในจวนเซียวอ๋องให้นางได้รู้

 

 

ดังนั้น เมื่อนางรู้ข่าวที่หลิงอวี้จื้อออกจาเมืองอวิ๋นจึงเร่งรีบเดินทางมาที่นี่ ใช้โอกาสนี้เพื่ออยู่ใกล้ชิดข้างกายเซียวเหยี่ยน

 

 

หลายปีที่ผ่านมา นางเห็นจวนเซียวอ๋องประหนึ่งบ้านของตนไปเสียแล้ว

 

 

เมื่อต้องออกจากจวนเซียวอ๋อง นางก็เป็นดั่งเช่นคนที่ไร้วิญญาณ ไม่รู้เลยว่าควรจะทำอะไร นางเทียวไปเทียวมาอยู่ใกล้ๆ จวนเซียวอ๋องมาโดยตลอด หลายครั้งที่อดรนทนไม่ไหวแทบอยากจะเข้าไปขอร้องหลิงอวี้จื้อเสียด้วยซ้ำ กระทั่งรู้ข่าวที่หลิงอวี้จื้อออกจากเมืองอวิ๋น นางรู้ได้ในทันทีว่านี่คือโอกาส

 

 

เมื่อได้ยินข่าวว่าหลิงอวี้จื้อออกจากเมืองอวิ๋น เซียวเหยี่ยนก็ตวัดสายตามองไปยังอู่จิ้นทันที หรูเยียนรู้เรื่องนี้ เป็นไม่ได้ที่อู่จิ้นจะไม่รู้ อู่จิ้นคาดไม่ถึงว่าหรูเยียนจะถึงกับยอมเดินทางไกลมาถึงที่นี่เพื่อรายงานข่าวนี้ เห็นทีว่าเรื่องนี้คงจะปกปิดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

 

 

อู่จิ้นก้าวออกมาด้านหน้าคุกเข่าลงที่พื้น

 

 

“ท่านอ๋องโปรดอภัย ผู้น้อยได้รับรายงานเรื่องพระชายาออกจากเมืองอวิ๋นตั้งแต่แรกก็จริง เพียงแต่ว่าเวลาที่เรากำลังจะเข้าโจมตีเมืองเจี้ยนอันใกล้เข้ามา ผู้น้อยเกรงว่าจะกระทบถึงท่านอ๋อง จึงบังอาจตัดสินใจปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ผู้น้อยได้ส่งคนไปสืบข่าวเรื่องนี้แล้วขอรับ”

 

 

“บัดซบ”

 

 

ชัดเจนแล้วว่าหลิงอวี้จื้อไปจากเมืองอวิ๋นเป็นเรื่องจริง นั่นทำให้เซียวเหยียนจิตใจร้อนรุ่มราวกับถูกไฟแผดเผา เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ อู่จิ้นกลับปิดบังเขา

 

 

“บ่าวเกรงว่าพระชายาจะตกไปอยู่ในเงื้อมือของคนร้าย แต่ท่านอ๋องก็อย่าทรงวิตกกังวลมากเกินไปเลยนะเจ้าคะ คนพวกนั้นลักพาตัวพระชายาไป จะต้องมีจุดประสงค์ คงจะไม่ทำร้ายพระชายหรอกเพคะ”

 

 

เซียวเหยี่ยนสงบสติจนอารมณ์เย็นลงได้ ในเวลาเช่นนี้คนที่จะจับหลิงอวี้จื้อไปก็คงจะมีเพียงมู่หรงกวานเย่ว์เท่านั้น และจุดประสงค์ของนาง ไม่ต้องทายเซียวเหยี่ยนก็รู้ได้ในทันที

 

 

หากว่าหลิงอวี้จื้ออยู่ในมือของมู่หรงกวานเย่ว์จริง หรงกวนเย่ว์จะต้องมาหาเขาเป็นแน่ หลิงอวี้จื้อจึงยังจะปลอดภัยชั่วคราว

 

 

หลิงอวี้จื้อถูกจับตัวไปในเวลานี้ แน่นอนว่าไม่เป็นผลดีต่อเขาอย่างมาก หากว่ามู่หรงกวานเย่ว์ใช้หลิงอวี้จื้อมาข่มขู่และหากว่าเขาทำตามที่มู่หรงกวานเย่ว์ต้องการละก็ จะต้องกระทบถึงจิตใจของทหารในกองทัพเป็นแน่

 

 

เมื่อจิตใจของทหารสั่นคลอน ศึกในครั้งนี้เป็นไปได้มากว่าเขาจะต้องพ่ายแพ้ ตอนนี้ในมือของเขากุมชะตาชีวิตของคนนับหมื่นนับพันเอาไว้ เขารู้ดีว่า หากศึกนี้เขาพ่ายแพ้ นั่นหมายความถึงอะไร

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของเซียวเหยี่ยนก็สุขุมมากยิ่งขึ้น เขากำหมัดแน่น ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ต้องไปช่วยอวี้จื้อ แต่ครั้งนี้เขาจะผลีผลามเข้าไปโดยไม่วางแผนไม่ได้ เขาจึงจะต้องหาวิธีการที่รัดกุม

 

 

“อู่จิ้น ในเมื่อเจ้าได้ส่งคนไปสืบข่าวแล้ว ถึงตอนนี้ได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง?”

 

 

อู่จิ้นส่ายหน้า

 

 

“ยังไม่มีข่าวอะไรกลับมาเลยขอรับ หลังจากที่พระชายาออกจากเมืองอวิ๋นไปแล้วก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด หากพระชายาตกอยู่ในเงื้อมือของไทเอาจริง พวกเขาจะต้องพาพระชายามาด้วยเป็นแน่”