กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 960
น้ำเสียงของเซี่ยวอวี่เซวียนเต็มไปด้วยคำตักเตือน และเขาคิดจะกัดลิ้นตัวเองลงและตายไปต่อหน้าของนาง ทำให้กู้ชูหน่วนทำอะไรไม่ได้ และทำได้เพียงวางเขาลง
“เสี่ยวเซวียนเซวียน……”
“ท่านผู้นำตระกูลหนิงพ่ายแพ้แล้ว อีกไม่นานนางจะกลับมาแล้ว เจ้ารีบหนีไป”
เมื่อได้ยินคำว่าเสี่ยวเซวียนเซวียนที่คุ้นเคย เซี่ยวอวี่เซวียนก็เกิดความรู้สึกสับสนปนเป ทว่าเสียงการต่อสู้ที่อยู่ไกลออกไปนั้นเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ เขาไม่อาจเดิมพันได้และไม่กล้าเดิมพันเช่นกัน และทำได้เพียงเร่งให้กู้ชูหน่วนรีบหนีออกไป
“เชื่อข้า เราจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย”
“เจ้าฟังไม่เข้าใจหรือ? ข้าไม่ต้องการให้เจ้าช่วยชีวิต เจ้ารีบออกไปเดี๋ยวนี้ ไปซะ”
กู้ชูหน่วนยกมือขึ้นมาและคิดอยากจะกดจุดไปที่จุดชีพจรของเขา เพื่อไม่ให้เขากัดลิ้นตัวเอง ทว่าเซี่ยวอวี่เซวียนรู้จักนางเป็นอย่างดี ยังไม่ทันที่กู้ชูหน่วนจะยกมือขึ้นมา เขาก็รู้ได้ว่านางกำลังจะทำอะไร
“หากเจ้ากดจุดชีพจรของข้าและพาข้าออกไปจากที่นี่ ข้าจะไม่มีทางอภัยให้เจ้าตลอดชีวิต”
“เรื่องของอนาคตค่อยพูดกันคราวหลังเถอะ”
“เจ้าก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด เจ้าไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นเลย เจ้าคิดว่าเจ้าช่วยชีวิตข้า ก็เพื่อข้าอย่างนั้นหรือ? อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องเกลียดแค้นเจ้าเลย”
คำพูดของเซี่ยวอวี่เซวียนนั้นแรงเกินไป
และความโกรธในแววตาของเขานั้นไม่อาจปิดบังได้
กู้ชูหน่วนตกตะลึงเล็กน้อยและนางไม่รู้ว่าเหตุใดเซี่ยวอวี่เซวียนถึงโกรธนางมากถึงเพียงนี้?
“ฉับๆๆ……”
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และอยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก นางหลบหนีออกไปคนเดียวก็ลำบากมากพอแล้ว หากยังพาเซี่ยวอวี่เซวียนไปอีกคนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แม้จะรู้ว่าที่เซี่ยวอวี่เซวียนบอกให้นางหนีออกไปนั้นเป็นเพราะเขาไม่ต้องการเป็นภาระให้กับนาง
ทว่าแววตาอันเดือดพล่านของเขากลับทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
ราวกับ……
นางได้ทำสิ่งที่ทำให้เซี่ยวอวี่เซวียนผิดหวังและเสียใจอย่างมาก
เมื่อมองไปที่เซี่ยวอวี่เซวียนอีกครั้งและเขาก็รับรู้ได้ว่าจักรพรรดินีกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า
เขาใช้แววตาออดอ้อนขอร้องจ้องมองนาง
ราวกับหากนางยังไม่ออกไป ต่อให้เขาออกไปได้ เขาก็จะกัดลิ้นตัวเองตาย
กู้ชูหน่วนกัดฟันและกล่าวด้วยเสียงต่ำ “ไม่ว่าอย่างไรเจ้าจะมีมีชีวิตอยู่ต่อไป และรอให้ข้ากลับมาช่วยเจ้าออกไป”
เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ตอบ
ชิงเฟิงจึงรีบกล่าวขึ้นมา “พระชายา ท่าน……”
“ท่านอะไรของเจ้า ข้าพาเสี่ยวเซวียนเซวียนออกไปไม่ได้ เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าเรียกข้าว่าพระชายา ข้าก็จะพาเจ้าออกไปอย่างนั้นหรือ? เจ้าดูแลตัวเองให้ดีเถอะ รอให้นายท่านของเจ้ามาช่วยพวกเจ้าออกไปเถอะ”
เมื่อพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ได้หายตัวไปแล้ว
ชิงเฟิงตกตะลึงอย่างมาก
เขาไม่ได้ต้องการให้พระชายาช่วยเขาออกไป
เขาเพียงต้องการให้พระชายาระมัดระวังตัวเองให้ดี
เขาเพียงต้องการถามพระชายาว่า การแต่งงานของนายท่านที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนั้น ใช่การแต่งงานกับผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นหรือไม่
เพราะอย่างไรเสีย ผู้หญิงบ้าคลั่งตัวปลอมคนนั้นก็ได้เคยพูดเอาไว้ว่าจะแต่งงานกับนายท่าน
“ตึ่ง……”
จักรพรรดินีเข้ามาในห้องลับ และมือข้างหนึ่งได้ยกขาขวาของท่านผู้เฒ่าหนิงขึ้นมา จากนั้นลากไปจนสุดทางราวกับเป็นหุ่นไม้ และมืออีกข้างหนึ่งของนางก็อยู่ในปาก เพลิดเพลินกับการลิ้มรสเลือดสดอย่างเอร็ดอร่อย
ทุกที่ที่เดินผ่าน พื้นนั้นนองเต็มไปด้วยเลือดของท่านผู้เฒ่าหนิง
กู้ชูหน่วนเพียงแค่หลบซ่อน แต่ไม่ได้หนีออกไปไกล
นางและคนอื่นๆ ต่างก็ได้เห็นสภาพอันน่าเวทนาของท่านผู้เฒ่าหนิง
สีหน้าของท่านผู้เฒ่าหนิงซีดเผือด และตามร่างกายก็เต็มไปด้วยคราบเลือด มีรอยแผลที่มีเลือดออกเต็มไปหมด แม้แต่แขนขวาก็หักลง และเลือดก็ได้ไหลออกมาจากบาดแผลเหล่านั้นนั่นเอง
ผมของเขายุ่งเหยิง และลมหายใจอ่อนโรย โดยไม่มีกำลังที่จะต่อสู้ได้อีก
กู้ชูหน่วนน้ำตาคลอ
แม้ว่าจะรู้จักท่านผู้เฒ่าหนิงได้ไม่นานนัก
ทว่าท่านผู้เฒ่าหนิงก็ดูแลนางเป็นอย่างดี เสมือนกับเป็นหลานสาวแท้ๆ คนหนึ่ง
วันนั้นที่นางถูกสำนักต่างๆ ล้อมเอาไว้ ทุกคนต่างคิดว่านางเป็นคนเลว
และมีเพียงท่านผู้เฒ่าหนิงและหนิงเทียนโย่วเท่านั้นที่ยืนข้างนาง และได้ยอมเป็นศัตรูกับทุกคนเพื่อนาง
แต่ตอนนี้……
ท่านผู้เฒ่าหนิงที่อายุกว่าเจ็ดสิบปีกลับถูกจักรพรรดินีคลุ้มคลั่งทำร้ายบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ จะไม่ให้นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจได้อย่างไรกัน
จักรพรรดินีโยนท่านผู้เฒ่าหนิงทิ้งลงเสมือนกับเขาเป็นเพียงขยะ ก่อนจะหัวเราะเย้ยหยันและกล่าวออกมา “กระดูกของเจ้าแข็งมากไม่ใช่หรือ? รู้สึกดีหรือไม่ที่ถูกหักทีละท่อนๆ”
ท่านผู้เฒ่าหนิงกระอักเลือดออกมา
เขาฝืนอดทนกับความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นจะคืนสนอง ต่อให้ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ จะต้องมีคนอื่นที่สามารถฆ่าเจ้าได้ เจ้าไม่มีทางมีจุดจบที่สวยงามอย่างแน่นอน……อ๊า……”
ตามด้วยเสียงร้องอันเจ็บปวด ดวงตาข้างหนึ่งของท่านผู้เฒ่าหนิงก็ได้ถูกควักออกไป และเลือดที่ไหลออกมาก็หยดย้อยเอ่อนองไปตามพื้น
ท่านผู้เฒ่าหนิงคิดอยากจะยกมือขึ้นไปกุมดวงตาข้างที่ถูกควักไป เขารู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน อย่างไรเสียกระดูกในร่างกายของเขาก็ถูกหักลงหมด คงทำได้เพียงยอมรับกับความเจ็บปวดนี้ต่อไป
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยแทบไม่กล้าหันไปมองดูท่านผู้เฒ่าหนิง
เซี่ยวอวี่เซวียนทำได้เพียงหันไปทางอื่นอย่างฝืนทน
อย่าว่าแต่เขาไม่สามารถช่วยท่านผู้เฒ่าหนิงได้ ต่อให้ช่วยได้ ชีวิตหลังจากนี้ของท่านผู้เฒ่าหนิงก็จะเป็นได้เพียงผู้พิการเท่านั้น การมีชีวิตอยู่นั้นเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าตายไปเสียอีก เช่นนั้นแล้วตายไปยังจะดีเสียกว่า
“จุดจบของข้าจะเป็นอย่างไร ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางมีจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ……”
สายตาของจักรพรรดินีดุร้ายและนางได้ยื่นมือออกไปเพื่อดูดพลังทั้งหมดของท่านผู้เฒ่าหนิง
กู้ชูหน่วนกัดริมฝีปากอันเรียวบางของนางและใช้ผ้าไหมปกคลุมใบหน้าเอาไว้ จากนั้นยิงอาวุธลับพุ่งไปที่จักรพรรดินีในขณะที่นางกำลังลงมือ
ต่อให้เป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจมากเพียงใด ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับเจ็ดก็ไม่ช่วยอะไร
อาวุธลับที่กู้ชูหน่วนยิงออกไปอย่างต่อเนื่องนั้นไม่สามารถเข้าใกล้จักรพรรดินีได้เลย ทว่าทั้งหมดได้กระเด็นกลับออกมา
เซี่ยวอวี่เซวียนแทบอยากจะเป็นลม
ผู้หญิงคนนี้……
นางไม่ใช้โอกาสในความวุ่นวายนี้หลบหนีออกไป ยังอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่ออะไร
หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา และแทบไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
จักรพรรดินีคว้าหยิบอาวุธลับด้วยมือเปล่าอย่างไม่สนใจ จากนั้นบีบทำลายอาวุธลับเหล่านั้นจนหมด
“ยังมีอาวุธลับอีกเท่าไร นำออกมาใช้ให้หมด ข้าจะรอดู”
กู้ชูหน่วนหันกลับมาและยิงไปที่จุดสำคัญของจักรพรรดินีอย่างต่อเนื่อง
อาวุธลับที่นางภาคภูมิใจ ที่เป็นหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ อาวุธลับที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดยังรู้สึกหวาดกลัว ทว่าต่อหน้าของจักรพรรดินีแล้วนั้นกลับไร้ประโยชน์
จักรพรรดินีเล่นกับนางอย่างอารมณ์ดี
และทันใดนั้น อาวุธลับที่นางบีบทำลายได้ระเบิดพ่นผงควันออกมา
และอาวุธลับก่อนหน้านี้ที่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่มีพิษร้ายติดมาด้วย ทว่าพิษเหล่านั้นไม่อาจทำอะไรนางได้
แต่……
แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่พิษ แต่กลับเป็นพริกป่น
และยังเป็นพริกป่นที่มีความเผ็ดมาก
จักรพรรดินีไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรก ทำให้ดวงตาของนางแสบจนลืมตาไม่ขึ้น จมูกของนางก็ได้สูดดมพริกป่นเข้าไป ทำให้นางไอไม่หยุด
และในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อไปรับท่านผู้เฒ่าหนิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสออกไปจากเส้นทางลับ
กู้ชูหน่วนก็คิดอยากจะช่วยเซี่ยวอวี่เซวียน ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยออกไป
ทว่าที่นางช่วยท่านผู้เฒ่าหนิงออกมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว จะมีเวลาที่ไหนนึกถึงเซี่ยวอวี่เซวียนและคนอื่นๆ ได้อีก
“ตู้มๆๆ……”
ฝ่าฟันวังใต้ดินถึงสองครั้ง นางพอจะรู้อยู่บ้างว่าที่ใดมีแผงควบคุม
ทุกทางแยกที่นางผ่าน นางจะปิดแผงควบคุมหนึ่งชั้น
แผงควบคุมเหล่านั้น มีจำนวนไม่น้อยที่นางใช้เลือดของตัวเองเพื่อดึงดูดให้มันปิดลง
นอกจากใช้เลือดของนางแล้ว ใครก็ไม่สามารถเปิดออก
จักรพรรดินีโกรธจนหน้าเขียว
“สมควรตาย เจ้ากล้าเล่นงานข้าอย่างนั้นหรือ”
ควับ……
จักรพรรดินีหายวับไปและออกติดตามไล่ล่า
นางเคลื่อนที่อย่างรวเร็ว แผงควบคุมเหล่านั้น มีบ้างที่นางสามารถทำลายได้ และบางจุดก็ไม่สามารถทำลายได้ ดังนั้นนางจึงใช้พลังฝ่ามือทำลายลง ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ชิงเฟิงรีบกล่าว “คุณชายเซี่ยว ทำอย่างไรดี พระชายาของพวกข้าจะเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ?”
“ไม่มีทาง ไม่มีใครสามารถฆ่านางได้”
เซี่ยวอวี่เซวียนพูดออกไปเช่นนั้น ทว่าในใจของเขากลับไม่คิดเช่นนั้น
วรยุทธ์ระดับเจ็ด……
พละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
เขาไม่แน่ใจว่าแม่สาวอัปลักษณ์จะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้หรือไม่
เมื่อได้ยินเสียงประตูหินระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่ไกลนัก เซี่ยวอวี่เซวียนแทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำก็รู้ได้ว่า ผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นอีกแล้ว และทำการระเบิดประตูหินไม่หยุด
และนางก็ไม่กลัวว่าวังใต้ดินจะถล่มพังทลายลงมา