ตอนที่ 613 ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีได้อ่านข้อมูลของนักเรียนทั้งชั้นแล้ว สำหรับนักเรียนที่ขาดเรียนทั้งสี่คนนั้นนางก็เข้าใจพวกเขาบ้างแล้วเล็กน้อย หนึ่งในนั้นก็มีนักเรียนที่พิเศษที่สุดก็คือซูเซิง

เขามีความโดดเด่นมาก พรสวรรค์ดีเลิศ แต่กลับชื่นชอบในเรื่องพิษเท่านั้น

เมื่อก่อน เขาเป็นนักเรียนที่ก่อกรรมทำชั่วแม้แต่สวรรค์และคนอื่น ๆ ต่างพากันเคียดแค้น สุดท้ายสำนักศึกษาจึงให้เขามาอยู่รวมกันกับขยะไร้ประโยชน์อย่างนักเรียนระดับต่ำห้องเจ็ดของหน่วยสำนักปรุงยา

“เจ้ารู้จักข้า!”

“รู้สิ เพราะฉะนั้นกลับไปเรียนแต่โดยดีเถอะ! อย่าได้คิดโดดเรียนอีก!”

“ในเมื่อตกอยู่ในกำมือของท่านอาจารย์แล้ว ข้าก็ต้องเข้าเรียนแน่นอน เพียงแต่อาจารย์ปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ท่านเข้าใกล้ข้าเช่นนี้ ข้าอาจจะคิดว่าท่านชอบไม้ป่าเดียวกัน ชอบข้าเข้าแล้ว”

มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่! อาจารย์ชอบเจ้าเข้าแล้ว อีกทั้งยังอยากจะมอบของขวัญที่ได้เจอกันกับเจ้าสักหน่อย!”

ฉึก! เข็มยาของมู่เฉียนซีเจาะเข้าไปที่คอของซูเซิงอย่างไร้ซึ่งความปรานี

ซูเซิงรู้สึกได้แค่ว่าเจ็บปวดที่คอ จากนั้นก็พบว่ามีพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งกำลังไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งร่างกายเขา และเขาไม่รู้เลยว่ามันคือพิษใด

มู่เฉียนซีหิ้วซูเซิงไป ผลักประตูออกและเดินเข้าไปด้านใน

เมื่อทุกคนเห็นซูเซิงที่ถูกมู่เฉียนซีหิ้วเข้ามาเช่นนี้ ในใจก็ร้องโหยหวนขึ้น

แย่แล้ว แม้แต่ซูเซิงผู้สารพัดพิษผู้นี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านอาจารย์วิปริตผู้นี้ ชะตากรรมของพวกเขาต่อจากนี้จะต้องน่าเวทนามากเป็นแน่

ปัง! เมื่อมองหาที่ว่างเจอ มู่เฉียนซีก็ผลักซูเซิงออกไปทันที

มู่เฉียนซีกวาดสายตามองนักเรียนที่นั่งอยู่ตรงหน้า วันนี้ช่างน่าแปลกยิ่งนัก ทุกคนต่างก็มากันครบแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนเพิ่มมาสามคนนะ”

ในตอนนี้เอง หญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นมากผู้หนึ่งก็ได้ยืนขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ข้า มู่อีลั่ว ขอรายงานตัว ได้ยินพวกเขาเล่ากันว่า ท่านอาจารย์ใหม่นั้นเป็นหนุ่มรูปงาม เดิมทีข้าก็ไม่เชื่อ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ”

“ท่านอาจารย์ ท่านมีหญิงสาวในดวงใจแล้วหรือไม่ หากยังไม่มี ท่านชอบข้าได้นะ! หากได้แต่งงานกับชายหนุ่มรูปงามอย่างท่านเช่นนี้ ทุก ๆ วันก็จะได้……”

“เออะ!” มู่อีลั่วยังอยากจะกล่าวพร่ำรำพันอย่างไม่รู้จบ มู่เฉียนซีขว้างยาเม็ดหนึ่งตัดผ่านอากาศไป ชั่วครู่หนึ่งมู่อีลั่วก็พูดไม่ออกแล้ว แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้นางหยุดหลงใหลในตัวมู่เฉียนซีได้ ท่านอาจารย์ช่างงดงามยิ่งนัก ท่าทางการวางยาพิษก็งดงามมากถึงเพียงนี้!

“ยังมีอีกสองคน!”

“ตู๋กูหร่านถง!” เสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น

จากนั้นหญิงสาวชุดแดงยกมือขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “ข้า เฟิ้งชิงอู่”

“ต่อไป ก็จะเริ่มทดสอบภารกิจของทุกคน ผู้ที่ทำไม่สำเร็จ เตรียมตัวประหลาดใจได้เลย!”

นอกจากหวงฝู่จี้เหินกับซูเซิงแล้ว ทุกคนล้วนแต่ไม่มีผู้ใดทำสำเร็จเลย มู่เฉียนซีวางยาพิษกองพะเนินไว้บนแท่นเวทีและกล่าวว่า “พวกเจ้าเลือกเองเถอะ!”

“ฮือ ฮือ ฮือ! ท่านอาจารย์ ให้โอกาสข้าอีกสักครั้งเถอะ วันพรุ่งข้าทำสำเร็จแน่นอน!”

“ท่านอาจารย์……”

มู่เฉียนซี “หากพวกเจ้าไม่เลือก รอให้ข้าเป็นคนลงมือเอง ถึงตอนนั้นพวกเจ้าต้องกินเข้าไปทั้งหมด!”

กินเข้าไปทั้งหมด มีหวังต้องตายแน่!

พวกเขารีบพรวดออกมาที่แท่นเวที และรีบเลือกยาพิษที่คิดว่ามีพิษน้อยที่สุดกลืนเข้าไป

แต่ดูเหมือนว่ายาพิษที่เหมือนจะมีพิษน้อย อันที่จริงแล้วทำให้ผู้ที่กลืนเข้าไปนั้นเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก พวกเขาแทบอยากจะเดินชนกำแพง หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้น่าจะเรียนรู้การปรุงยาแก้พิษให้มาก เช่นนี้ก็คงจะไม่ต้องเลือกยาผิด

“วันพรุ่ง หากพวกเจ้ายังทำไม่ได้ จะไม่โดนลงโทษเล็กน้อยเพียงแค่นี้แน่ ข้าจะทำให้พวกเจ้ารู้ว่านรกคืออะไร!” หลังจากที่ตักเตือนพวกเขาเสร็จสิ้น มู่เฉียนซีก็หันหลังเดินจากไปทันที

ซูเซิงจ้องไปที่แผ่นหลังของมู่เฉียนซี ดวงตาเปล่งประกายขึ้น มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย อาจารย์ใหม่ท่านนี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมากจริง ๆ ทักษะการใช้พิษนั้นเป็นเป้าหมายที่เขาต้องการมาโดยตลอด ซูเซิงมองดูสหายร่วมชั้นเรียนที่กำลังเจ็บปวดทรมานเหล่านั้น และกล่าวว่า “พวกเจ้ามันพวกโง่เขลา แค่ตำราสมุนไพรวิญญาณเล่มเดียวก็ท่องไม่ได้ หากพวกเจ้ายังท่องไม่ได้ วันพรุ่ง ต่อให้อาจารย์ไม่ลงมือ ข้านี่แหละจะเป็นคนลงมือวางยาพิษพวกเจ้าเอง เพื่อไม่ให้คนโง่เขลาอย่างพวกเจ้าอยู่รกโลกใบนี้!”

ปากของซูเซิงผู้นี้ร้ายพอ ๆ กับพิษของเขาเลย พวกเขานั้นคุ้นชินแล้ว แต่คำพูดในวันนี้นั้น……

อยากจะวางยาพิษให้พวกเขาตาย พระเจ้า! แม้แต่ซูเซิงก็ยืนอยู่ข้างท่านอาจารย์ผู้วิปริตนั่นแล้ว พวกเขายังจะมีทางรอดอยู่อีกเหรอ ?

หวงฝู่จี้เหินกล่าว “พวกเจ้า สู้ ๆ นะ!”

ต่อมา มู่เฉียนซีก็ฝึกซ้อมต่อสู้กับจิ่วเยี่ย มู่เฉียนซีเหน็ดเหนื่อยจนเดินไม่ไหว เอนกายซบจิ่วเยี่ยและกล่าวว่า “เหตุใดถึงพลังวิญญาณถึงยังไม่ทะลวงสักที!”

“อย่าใจร้อนไปเลย น้ำมาคลองก็เกิด!”

ถูกอุ้มไปที่ห้องอาบน้ำเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็รีบกล่าวขึ้นว่า “วันนี้ข้ายังสบายอยู่ ข้าทำเองได้”

“เมื่อวานซีชอบมากไม่ใช่เหรอ ?” จิ่วเยี่ยกล่าวถาม

“เมื่อวาน……” ตัวของมู่เฉียนซีแข็งทื่อไป ช่างคิดถึงความรู้สึกผ่อนคลายนั้นจริง ๆ

ไม่ได้ ไม่ได้ จะถูกหลอกล่อเช่นนั้นไม่ได้

“ข้าคิดว่า เรื่องอาบน้ำเช่นนี้ ข้าทำเองจะกว่า”

“แต่ข้าไม่อยากให้ซีแบ่งเขาแบ่งเราเช่นนี้!”

การปฏิเสธทุกอย่างนั้นล้วนแต่ไร้ประโยชน์ มู่เฉียนซีถูกอุ้มเข้าไปในอ่างอาบน้ำแล้ว ร่างของเขาแนบชิดอยู่บนร่างมู่เฉียนซี ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกนั้นจ้องมองนางก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ข้ากับซี ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกกัน เพราะฉะนั้นข้าทำเอง!”

ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา! ใจของมู่เฉียนซีเต้นแรงอย่างต่อเนื่อง นางหลับตาและทำจิตใจให้สงบ จากนั้นจิ่วเยี่ยก็เริ่มลงมือแล้ว!

ทุกซอกทุกมุมบนเรือนร่างถูกเขาล้างอย่างระมัดระวัง เฉียนซีรู้สึกชาไปทั้งตัว

“จิ่วเยี่ย เจ้ากำลังหลงใหลข้า เจ้าไม่กลัวข้าจะกินเจ้าเหรอ!” มู่เฉียนซีถูกเขายั่วเย้าจนทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมาจ้องมองเขา

“ซี ตอนนี้ไม่ได้!”

รู้ดีว่าใจตัวเองนั้นต้องการมาก แต่ครานี้กลับปฏิเสธอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีแอบบ่นอยู่ในใจ

“แต่ซีลวนลามข้าได้!” จิ่วเยี่ยขยับเข้าใกล้มู่เฉียนซี

“จะลวนลามเช่นไรก็ได้ทั้งนั้น!”

มู่เฉียนซีนึกถึงผลลัพธ์จากการที่ลวนลามเขาไปเมื่อครั้งก่อน ต่อมาก็กลับกลายเป็นหนี้เลือด!

“หน้าเนื้อใจเสือ ใจดำ ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก ข้าดูเจ้าออก” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา

ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกฉายแววผิดหวังออกมา มองหญิงสาวตรงหน้า เขาอยากจะกลืนกินนางเข้าไปจริง ๆ แต่กลับทำไม่ได้!

จิ่วเยี่ยยับยั้งอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แววตาก็ค่อย ๆ เย็นยะเยือกขึ้น จากนั้นก็นวดให้มู่เฉียนซีเพื่อทำให้นางรู้สึกสบายไปทั่วทุกเส้นประสาท

เขากับซีจะต้องหาวิธีทำลายล้างคำสาปนั้นให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ทนที่จะจากไปจากนางหรือทำร้ายนางไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะทำให้ซีเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้

ที่แท้ มนุษย์ก็ล้วนแต่ถูกบีบบังคับทั้งนั้น

นักเรียนที่อกสั่นขวัญหายกับความเจ็บปวดทรมานจากยาพิษเหล่านั้น ในที่สุดก็ทำภารกิจได้สำเร็จแล้ว มู่เฉียนซีกล่าว “ต่อไป ข้าจะอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปรุงยา หากพวกเจ้าจำไม่ได้แล้วล่ะก็……”

มู่เฉียนซีจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเป็นนัยว่าพวกเจ้าต้องเข้าใจ ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น

ท่านพ่อท่านแม่ช่วยข้าด้วย! ท่านอาจารย์ใหม่ผู้นี้วิปริตเกินไปแล้ว ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

การปรุงยาที่มู่เฉียนซีอธิบายนั้นไม่เหมือนกับที่อาจารย์ท่านอื่นได้อธิบายไว้ ครั้นนี้จึงไม่ได้ทำให้พวกเขาหลับไปในขณะที่ฟัง อีกทั้งยังทำให้พวกเขาจดจำได้ง่ายด้วย

ฝูหวงจี้เหินรู้สึกทึ่งกับการอธิบายนั้น ทว่า ดวงตาของเขาฉายแววโศกเศร้าออกมา ท่านอาจารย์ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่ในที่สุดเขาก็คงจะทำให้เขาผิดหวังอยู่ดี!

มาวันที่สาม มู่เฉียนซีก็ได้ค้นพบพรสวรรค์สามารถในการเรียนรู้ของพวกเขาแล้ว พวกเขาเหล่าไม่ใช่สวะไร้ประโยชน์ และไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าอัจฉริยะเหล่านั้นเลย แต่เป็นเพียงเพราะว่าเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่เป็นปฏิปักษ์จึงไม่อยากเรียน

แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาอยากจะเรียน เรียนมากแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา

การสอนและการฝึกทั้งสองอย่างไม่อาจละเลย การเริ่มแผนการอบรมและฝึกฝนสวะไร้ประโยชน์ของมู่เฉียนซีนี้ช่างน่าสนใจมาก แต่นักเรียนห้องเจ็ดกลับใช้ชีวิตราวกับอยู่ในนรกก็มิปาน

หลายคนมักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าอนาถดังก้องออกมาจากห้องเจ็ด ในที่สุดก็สอนมาถึงวิธีการปรุงยา ผลสุดท้ายหวงฝู่จี้เหินก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ข้าจะขอลา”