“ ข้าไม่ได้จะอวดดีนะ แต่นี่มิใช่ที่เด็กๆเล่นกัน ”

หมีใหญ่โอ้อวด

“ ข้ายอมรับ นั่นมันยอดเยี่ยมจริงๆข้าเชื่อและยอมรับในความพ่ายแพ้นี้  ! ”

จวินโม่เซี่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ

จวินโม่เซี่ยยอมรับว่าเขาไม่มีทางเลือก จวินโม่เซี่ยนั้นเป็นคนที่ไร้ยางอายในระดับหนึ่ง แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้

นอกจากการไร้ยางอายแล้ว การแสดงของหมีใหญ่นั้นยังยากเกินกว่าคนธรรมดาอีกด้วย

หากเป็นการกระโดดขึ้นไปสูงในอากาศ และฉี่นั้น คนบางคนสามารถที่จะทำมันได้ด้วยการฝึกฝน แต่การฉี่ในขณะที่รักษาตำแหน่งของตัวเองไปด้วยนั้น … แม้แต่ยุ่นเบ้ยเฉินก็ไม่อาจทำได้

มันเป็นการกระทำปกติที่จะรักษาระดับความสูงไว้ในอากาศได้ คนจะต้องใช้ปราณเชวียนลอบรอบตัวเองไว้ และโดยการกระทำเช่นนั้น ร่างกายของคนจะแข็งเกร็งขึ้นโดยไม่ได้สนใจว่าความแข็งแกร่งในระดับปกติของเขาเป็นเช่นไร

แม้ว่ามันจะไม่ยากที่จะหมุนตัวอยู่ในอากาศ แต่คนจำเป็นจะต้องผ่อนคลายกล้ามเนื้อในร่างกายทุกส่วนในเวลาที่ฉี่ … ซึ่งมันทำให้การกระทำเช่นนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อคนผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คนผู้นั้นจะเริ่มร่วงลงมาที่พื้น !

คนที่มาเห็นคงจะถาม 

 หมีใหญ่ทำแบบนี้ได้อย่างไรกันในเมื่อยุ่นเบ้ยเฉินก็ยังทำไม่ได้ ? นั่นหมายความว่าหมีใหญ่แข็งแกร่งกว่ายุ่นเบ้ยเฉินใช่ไหม ?

ความสามารถนี้ไม่ได้ทำได้โดยความแข็งแกร่งแต่กำเนิดของหมีใหญ่ !

เรื่องนี้เป็นความแตกต่างของมนุษย์และสัตว์เชวียน สัตว์ที่ทรงพลังเช่น หมีใหญ่และกระเรียนขายาวนั้นจะมีความสามารถหรือฝีมือที่พิเศษ ที่เรียกว่า สภาวะหยุดนิ่ง !

สัตว์เชวียนสามารถใช้ความสามาถนี้ได้อย่างอิสระบนท้องฟ้า ทุกครั้งที่พวกเขาต้องการโดยไม่ต้องใช้ปราณเชวียน ในทางตรงกันข้าม คนจะต้องใช้ปราณเชวียนในการทำเช่นเดียวกันนี้ ดังนั้น นี่คือความน่าสนใจ สัตว์เชวียนนั้นดีเลิศกว่ามนุษย์โดยไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้น หมีใหญ่นั้นแข็งแกร่งที่สุดในสายพันธ์เดียวกับเขา …

ในความจริง หมีใหญ่นั้นไม่เพียงแต่หนุ่มกว่าพี่ของเขา เขานั้นยังอ่อนแอกว่าด้วย แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเอาชนะเช่นนี้ กระเรียนขายาวก็ไม่เลือกที่จะทำอะไรไร้ยางอายในที่สาธารณะเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหตุที่หมีใหญ่กล้าที่จะวิ่งเข้าใส่งานนี้ และอาสาที่จะทำมัน

แน่นอน ความหน้าด้านของหมีนั้นทำให้เขามีบทบาทมากในการกระทำเช่นนี้ แต่มันก็ยังทำให้เขาได้แต้มขึ้นมา และทำให้มีโอกาสที่จะสามารถชนะได้แบบห้าสิบห้าสิบ

กระเรียนขายาวยืนอยู่ด้านหลังของจวินโม่เซี่ย ไหล่ของเขาตกลงไป และดูเหมือนว่าเขาไม่มีความกล้าแม้แต่จะยืน และมองไปยังดวงตาของจวอนโม่เวี่ย

ข้าอยากจะตาย !

จะต้องไม่มีเรื่อน่าอับอายขนาดนี้สำหรับสัตว์ในป่าเถียนฟาอีกแล้ว พวกเราได้ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการเรียกคะแนน … ต้องขอบคุณที่มีคนเพียงสามคนที่นี่ .. หากเขาบอกกับโลกถึงการแสดงของน้องสี่ของข้า แม่งเอ้ย ข้าจะอธิบายมันแก่เขาได้อย่างไรว่าเขาจะต้องไปบอกกับโลกถึงวิธีที่เขาได้มาซึ่งชัยชนะของพวกเราในรอบนี้ …

“ พี่กะเรียน ยินดีด้วย การแสดงของน้องสี่ของเจ้านั้นน่าอัศจรรย์ และข้ายอมรับในความพ่ายแพ้ ”

จวินโม่เซี่ยเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากระเรียนขายาวนั้นไม่ได้ไร้ยางอายดั่งเช่นน้องชายของเขา และตัดสินใจที่จะแกล้งหยอกเขา เห็นได้ชัดว่าจวินโม่เซี่ยพยายามกระตุ้นความเศร้าหมองของเขาด้วยการทำเช่นนี้

“ หลังจากชัยชนะที่รุ่งโรจน์นี้ ข้าคิดว่ามันคงจะดีที่สุดหากผู้ชนะในรอบที่สองตัดสินใจเลือก รูปแบบการแข่งขันในรอบสุดท้าย ดังนั้นท่านพี่กระเรียน โปรดเลือกวิธีการแข่งขันในรอบต่อไป ”

กระเรียนขายาวกระแอมสองครั้งเพื่อปิดบังความอับอายของเขา จากนั้นเพ่งมองหมีใหญ่อย่างดุร้ายก่อนที่จะหันไปเผชิญหน้ากับจวินโม่เซี่ย เปิดเผยเพียงแค่ความอับอายบนใบหน้าของเขา และจากนั้นก็ฝืนยิ้ม และพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ ขอบคุณที่เฟิง ท่านช่างมีความอดทนอย่างมาก … และขอบคุณที่ให้พวกเราตัดสินใจในการแข่งขันรอบต่อไป … ”

“ มันต้องเป็นเช่นนั้นท่านพี่ นี่เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่แท้จริงสำหรับข้า และข้าเคารพในความพ่ายแพ้ ” 

จวินโม่เซี่ยใช้คำว่า ประสบการณ์การเรียนรู้ที่แท้จริง ในความจริงมันดูเหมือนว่าเขาจะกัดริมฝีปากอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าหมีใหญ่หรือพี่ของเขา และแม้ว่าจวินโม่เซี่ยจะรู้ว่าหมีใหญ่นั้นโกงเขาในรอบนี้ เขาก็มิได้โต้แย้งเพราะเขารู้ว่าเขาก้ทำเช่นเดียวกันนี้ในรอบก่อนหน้า …

เขาเพิ่งจะเอาคืน !

อีกด้านหนึ่งกระเรียนขายาวนั้นเป็นคนที่ทะนงและถือตัวด้วยศักศรีอยู่เสมอ เขายอมที่จะให้ตัวเองแพ้การแข่งขัน แต่จะไม่ยอมใช้วิธีการที่ไม่เป็นธรรมในการได้มาซึ่งชัยชนะ อย่างไรก็ตาม น้องชายที่ใจร้อยและไร้ยางอายของเขาได้ทำในส่ิงที่เขาเสียใจที่สุดในโลกไปแล้ว ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่ภายใน อย่างแรก เขารู้สึกแย่ที่จะใช้วิธีเช่นนั้นในการได้ชัยชนะ และอย่างที่สอง เขารู้สึกเสียใจกับฝ่ายตรงข้ามของเขา และอย่างที่สาม เขาต้องทำให้เรื่องนี้เป็นความลับ

และจากนั้น จวินโม่เซี่ยจึงเสนอให้เขาเป็นผู้เลือกวิธีการแข่งขันในรอบที่สามมันทำให้เขารู้สึกต่ำต้อย

ยิ่งเขาคิด เขายิ่งรู้สึกละอายใจ ยิ่งไปกว่านั้น ในความจริงที่ว่าจวินโม่เซี่ยตัดสินใจที่จะยอมรับโดยไม่ได้พยายาม มันทำให้เขาแย่ลง ความจริงแล้ว เขาเริ่มโอนเอนใจให้จวินโม่เซี่ยแล้วในตอนนี้ …

“ ขอบคุณท่านพี่ … ต่อไป … ต่อไป …. ”

กระเรียนขายาวยืดตัวตรงเป็นเวลานาน แต่เขาก็ยังไม่สามารถเลือกได้ ฝ่ายตรงข้ามของเขานั้นทำให้เขาปวดหัวจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น การวางตัวที่สูงส่งของฝ่ายตรงข้ามทำให้เขารู้สึกผิดอยู่ภายใน นอกจากนี้ หัวใจของเขาก็แบกรับความรู้สึกที่อ่อนล้า ที่ว่าอีกฝ่ายสามารถเลียนแบบการกระทำทุกอย่างที่เขาคิดได้

กระเรียนขายาวไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มาเป็นเวลานาน ความจริงแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่เขารู้สึกเช่นนี้ในชีวิต ! ครั้งแรกคือตอนที่เขาได้เผชิหน้ากับ ยุนเบ้ยเฉิน !

แม้ความคิดนี้จะอยู่ในหัวของเขา และความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมในหัวใจ

หรือคนผู้นี้มีอำนาจเทียบเท่ากับยุนเบ้ยเฉิน ?

หมีใหญ่ลูบไปที่เสื้อของพี่ และเอามือป้องปากและพูด

“ พี่สาม เจ้ายังไม่ได้คิดถึงมันใช่ไหม ? มันง่ายมาก ! ”

กระเรียนขายาวเพ่งมองกลับไปที่เขาเพียงแค่จะไม่ต้องการให้ความบันเทิงแก่เขาอีกต่อไป

“ แล้ว เจ้าคิดอะไรหรือเปล่า ? ”

จวินโม่เซี่ยมองไปที่พวกเขา

“ ใช่ ”

หมีใหญ่อ้าปากของเขาอีกครั้ง

“ สิ่งต่อไปเกี่ยวกับฉี่ เจ้าพร้อมแล้วหรือยัง ? ”

เอ๋ ! คนผู้นี้ไร้ยางอายโดยไม่มีขีดจำกันเลยหรือ ?

คำพูดของเขาทำให้ จวินโม่เซี่ยและกระเรียนขายาวลังเล

 ไม่มีความอับอายเลยหรือ ? เขานั้นไร้ยางอายเยี่ยงสัตว์ ! ไม่ แม้แต่จะเรียกว่าสัตว์นั้นยังไม่เพียงพอสำหรับเขา … ไม่มีคำใหนที่จะสามารถบอกถึงความน่ารังเกียจของชายผู้นี้ได้ … !

“ เจ้ายังไม่อับอายจนอยากตายอีกหรือ ?! ”

กระเรียนขายาวเริ่มทำร้ายร่างกายน้องของเขา และจากนั้นก็เตะไปที่ก้นของเขายชายด้วยความโกรธ

“ เจ้าไปยืนอยู่ตรงนู้น ! หากเจ้าไม่มีความอับอายเลยสักนิด แต่พี่สามของเจ้ามี ! ”

หมีใหญ่ทำหน้ามุ่ยขณะที่เขาลูบก้นของตัวเอง พร้อมกับรู้สึกผิด

“ พี่สาม เจ้าด่าข้าต้องหน้าคนอื่น มันไม่ทำให้ข้าต้องอับอายหรอกหรือ ? ข้าไม่มีความภาคผู้ใจเลยหรือ ? หากเจ้าต้องการจะเตะข้าจริงๆ เจ้าสามารถทำเช่นนั้นได้เป็นการส่วนตัว … นี่ไม่ถูกต้อง …. ”

“ หึ ! ความอับอายอะไรที่เจ้ากำลังพูด ? เจ้าทำให้ตัวเองน่าอับอายมานานแล้ว ! ”

กระเรียนขายาวยังคงทำร้ายน้องของเขาต่อไปด้วยความไม่พอใจเนื่องจากน้องของเขาไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ และเริ่มจะโมโหแล้วในตอนนี้

“ ไปอยู่ตรงนู้นซะ และอย่าได้อ้าปากของเจ้าอีก ! ”

“ เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่สามารถคิดอะไรได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ข้าจึงต้องคิดขึ้นมา และทำให้พวกเราชนะ และเจ้ายังจะมาบอกให้ข้าหุบ … ”

หมีใหญ่บ่นกับตัวเองขณะที่เขาเดินไปด้านข้างด้วยความไม่พอใจ

“ ตามจริง ข้าไม่คิดว่าข้ามีปัญหาอะไรกับคำแนะนำของพี่สี่เลยแม้แต่น้อย ในความจริงแล้ว มันจะเป็นไปตามข้อตกลงของพวกเราในกรณีที่พี่สี่จะปฏิบัติสิ่งเดียวกันมากกว่า หนึ่งครั้ง ”

ใบหน้าของจวินโม่เซี่ยเผยถึงรอยยิ้มที่แปลกประหลาดในทันที

“ เอ๋ ? ”

กระเรียนขายาวไม่คาดว่าเขาจะอุทานออกมาเสียงดัง

“ เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่แพ้หากข้าทำมันอีกครั้ง ? ”

หมีใหญ่อ้าปากของเขาอีกครั้ง

“ เด็กน้อย เจ้าอย่างคิดว่าหาหมีใหญ่ฉี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาจะไม่สามารถทำมันได้อีก ข้านั้นมีสะสมไว้เยอะ ดังนั้นข้าสามารถทำได้มากกว่าหนึ่งครั้งโดยไม่มีปัญหาอะไร …. ”

หมีใหญ่ต้องการที่จะพูดต่อ แต่คำพูดของ้ขาก็หมดไปเนื่องจากการเพ่งมองด้วยความโกรธของกระเรียนขายาว และเขายอมที่จะบ่นกับตัวเอง

“ ข้าเพียงแค่พูดถึงความดีของเขา … เขาคิดว่าเขานั้นฉลาด ข้าแค่อยากจะเตือนเขาว่า พวกเรามีดีกว่านั้น …. ”

“ ข้าไม่คลางแคลงใจในคำพูดของพี่สาม แต่หากเราทำอย่างเดียวกันกับรอบที่แล้ว มันจะไม่น่าเบื่อไปหรือ ? ดังนั้น ข้าคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนมันสักเล็กน้อย คิดว่าอย่างไร ?! ”

กระเรียนขายาวคิดและพูด

“ ข้าอยากจะฟังรายละเอียด ! ”

จวินโม่เซี่ยยิ้ม

“ มันง่ายมาก พี่สามพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถฉี่บนท้องฟ้าได้ ซึ่งหมายความว่ามันง่ายมากสำหรับเขาหากจะฉี่บนพื้น และบนท้องฟ้า ดังนั้น จะเป็นอย่างไรหากเราจะปรับเปลี่ยนมนสักหน่อยและเราไปฉี่มันใต้ดินแทนในครั้งนี้ ? ”

“ ฉี่ใต้ดิน ? ”

หมีใหญ่อ้าปากอีกครั้ง

“ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ? คนจะหายใจไม่ออกในขณะที่เขาอยู่ใต้ดิน และแล้วเจ้าจะระบายมันออกมาได้อย่างไรเมื่อมีดินและหินล้อมรอบตัวเจ้าอยู่ ? แม้ว่าเจ้าจะโชคดีมากพอที่จะหาที่ที่ถูกต้อง แล้วเจ้าจะขยับตัวได้อย่างไรที่ใต้ดินนั้น ? ”

“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ? …. เจ้าจะบอกหรือว่าเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ? ”

จวินโม่เซี่ยยิ้ม

“ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น ”

พวกเขาทั้งคู่พยักหน้าพร้อมๆกัน

“ มันง่ายบนท้องฟ้าเนื่องจากมันว่าเปล่า แต่ใต้ดินนั้น … มันเป็นไปไม่ได้เลย เจ้าทำได้หรือ ? ”

“ เจ้าจะว่าอะไรหากว่าข้าสามารถทำได้ ? ”

จวินโม่เซี่ยฮึมฮัมยั่วยุ 

 ข้าให้เจ้าโกงข้ามาแล้ว แต่ตอนนี้เป็นตาของข้าบ้าง !

“ ถ้าเช่นนั้น เราจะยอมรับความพ่ายแพ้ของพวกเรา ! ”

พวกเขามองหน้ากันและยิ้ม 

 นี่มันเป็นสิ่งที่ดีกับพวกเรา ฮืมม ฮืมม ดูเหมือนว่าเขาจะเอาคืนจากการที่เขาแพ้ในการทำเช่นนี้บนท้องฟ้าโดยที่ทำใต้ดินแทน แต่ แม้แต่พวกเรายังไม่สามารถทำได้ แล้วเขาจะทำได้อย่างไร ? ชายผู้นี้ช่างน่าสมเพช … แม้ว่าเจ้าจะสามารถเข้าไปใต้ดินได้ เจ้าก็ยังคงต้องผ่อนคลาย พยายาม และค้นหามันด้วยตัวเองเด็กน้อย ! อย่างไรก็ดี ก็ดูเหมือนเจ้าเด็กนี่พยายามทดสองการกระทำนี้ … มันจะสนุกที่ได้ดูเขาล้มเหลว ….

เนื่องจากพวกเขาทั้งสองรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มั่นใจที่จะทำสิ่งนี้ได้ พวกเขาทั้งคู่จึงพยักหน้าและเห็นด้วยว่าการกระทำนี้จะกลายเป็นการท้าทายในรอบที่สามโดยที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันเลย ….

“ ข้าจะเริ่มก่อน ! ”

จวินโม่เซี่ยยกมือขึ้น และพวกเขาทั้งสองก็รู้สึกถึงปราณที่รุนแรงในอากาศซึ่งพวกเขาปราถนาที่จะได้มันมา พวกเขาไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองไม่ให้สูดกลิ่นที่หอมหวานนี้เข้าไปได้ในขณะที่พวกเขาเลียริมฝีปาก พร้อมกับหัวใจที่ปราถนาที่จะดูดกลืนมันเข้าไปให้หมด