ตอนที่ 726 บุกเมือง
“เพราะอะไรเจ้าคะ?”
“ข้าชอบเด็กผู้หญิง”
“พระชายา ให้กำเนิดท่านอ๋องน้อยสักคนถึงจะดีนะเจ้าค่ะ”
“ถึงอย่างไรก็ไม่มีแค่คนเดียวแน่ พ่อพันธ์ที่ดีเช่นนี้ ไม่มีสักสองสามคนเสียดายแย่เลย”
หลิงอวี้จื้อกล่าวไปก็ยิ้มไปจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก เดิมทีนางก็เป็นคนที่ชอบเด็กอยู่แล้ว จึงยินดีที่จะให้กำเนิดทายาทสักสองสามคน เซียวเหยี่ยนก็อายุอานามไม่น้อยแล้ว นี่ละนะที่เขาเรียกว่า ได้ลูกเมื่อยามวัยกลางคน
มั่วชิงฉีกยิ้ม แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าพ่อพันธ์คืออะไรก็ตามที
“สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้นั่นก็คือต้องผ่านด่านนี้ไปให้จงได้ ไม่ว่าจะอย่างไรข้าก็จะต้องปกป้องลูกคนนี้ให้ดีที่สุด”
หลิงอวี้จื้อแววตาแน่วแน่
“นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดที่สวรรค์มอบให้กับพวกเรา”
“ข้าน้อยก็จะปกป้องพระชายาและท่านอ๋องน้อยอย่างเต็มที่เจ้าค่ะ”
มั่วชิงรีบชิงเอ่ยต่อทันที
ทางด้านเซียวเหยี่ยนเองก็ได้รับรายงานข่าวจึงรู้ว่าตอนนี้หลิงอวี้จื้ออยู่ในกำมือของเฉินมั่วฉือ และมู่หรงกวานเย่ว์ได้ไปจากเมืองเจี้ยนอันแล้ว เขารู้ว่าเฉินมั่วฉือไม่มีทางทำร้ายหลิงอวี้จื้อ แต่สายของเขาในเมืองก็พาหลิงอวี้จื้อออกมาไม่ได้เช่นกัน หากจะพานางออกมามีเพียงวิธีการเดียวนั่นก็คือเอาชนะศึกในครั้งนี้ให้จงได้
กองกำลังของเซียวเหยี่ยนปักหลักอยู่ห่างจากเมืองเจี้ยนอันราวห้าร้อยกิโลเมตร ในกระโจมของเขาสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา เซียวเหยี่ยนกำลังอ่านแผนที่ใต้แสงเทียน หรูเยียนยกชาโสมเข้ามาพร้อมกับเอ่ยกล่าวอย่างนอบน้อมว่า
“ท่านอ๋อง พักผ่อนสักครู่ดื่มชาสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”
“เอาวางไว้!”
“เจ้าค่ะ ท่านอ๋อง”
เดิมทีหรูเยียนคิดที่จะถอยออกไป แต่สุดท้ายก็ชะงักฝีเท้า นางหมุนกายกลับมาเอ่ยว่า
“หลายวันมานี้ท่านอ๋องมิได้พักผ่อนติดต่อกันหลายคืน หากพระชายาทรงรู้เข้าจะต้องเป็นห่วงท่านอ๋องเป็นแน่ ท่านอ๋องจะต้องรักษาสุขภาพนะเจ้าคะ”
“หรูเยียน เจ้าถอยออกไปเถอะ แล้วเมื่ออยู่ต่อหน้าอวี้จื้อ อย่าปากมากเด็ดขาด”
เซียวเหยี่ยนถึงกับเอ่ยปากเช่นนี้ หรูเยียนจึงไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไป นางจึงได้แต่ถอยออกมา
เพิ่งจะก้าวเท้าออกจากกระโจมของเซียวเหยี่ยน พลันนางก็เห็นอู่จิ้นเดินเข้าไป นางรู้ดีว่าเซียวเหยี่ยนส่งอู่จิ้นเข้าไปสืบข่าวของหลิงอวี้จื้อ นางจึงเจตนาเดินให้ช้าลง ถ่วงเวลาอยู่ที่หน้ากระโจมเพื่อแอบฟังว่าอู่จิ้นรายงานอะไรให้กับเซียวเหยี่ยนได้รู้
“ท่านอ๋อง สายของเราในเมืองติดต่อกับมั่วชิงได้ มั่วชิงรายงานมาว่าตอนนี้พระชายาตั้งครรภ์ได้ราวสองเดือนแล้วขอรับ”
เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ทำให้อู่จิ้นรายงานด้วยสีหน้าดีใจ และไม่จำเป็นต้องกระซิบกระซาบทำให้หรูเยียนที่ยืนอยู่หน้ากระโจมได้ยินอย่างชัดเจน
‘จริงหรือ?’
เซียวเหยี่ยนถึงกับวางแผนที่ในมือลง เขาหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะด้วยความยินดีดังแว่วออกมาจากในกระโจม ซึ่งมันช่างบาดหูหรูเยียนยิ่งนัก
พวกเขามีลูกด้วยกัน นั่นก็หมายความว่าหลิงอวี้จื้อก็จะยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีกสำหรับเซียวเหยี่ยน
“อวี้จื้อเป็นอย่างไรบ้าง?”
“มั่วชิงบอกว่าพระชายาปลอดภัยดี นางจะดูแลพระชายาอย่างดี ท่านอ๋องมิต้องเป็นห่วง”
เซียวเหยี่ยนย่อมต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาเองก็จะมีห่วงมิได้ เขาจะต้องพิชิตเมืองเจี้ยนอันและพบหน้าหลิงอวี้จื้อให้เร็วที่สุด ขอเพียงพิชิตเมืองเจี้ยนอัน จับกุมเฉินมั่วฉือได้ ซีเว่ยก็ถึงคราวจบสิ้นแล้ว
หรูเยียนมิได้ยืนแอบฟังต่อไป นางกลับไปยังกระโจมของตน นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่เป็นนาน
นางไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จิตสำนึกในส่วนดีที่ยังหลงเหลือเพียงน้อยนิดในใจทำให้นางไม่อาจลงมือกับหลิงอวี้จื้อได้ แต่เมื่อเห็นพวกเขาครองรักกันอย่างมีความสุขต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ก็เป็นความทรมานสำหรับนางอย่างหนึ่งเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าพวกเขามีลูกด้วยกัน ความดีใจของเซียวเหยี่ยนมันช่างบาดตานางยิ่งนัก
ครุ่นคิดอยู่เป็นนาน ในที่สุดหรูเยียนก้ตัดสินใจแน่วแน่
‘พระชายา อย่าโทษข้าน้อยเลย ข้าน้อยไม่มีที่ไปอีกแล้ว หากว่ามิสามารถติดตามท่านอ๋องได้ ข้านน้อยยินยอมที่จะตาย’
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หรูเยียนก็กำหมัดแน่น
เช้าวันรุ่งขึ้น เซียวเหยี่ยนจึงเริ่มต้นโจมตีเมืองเจี้ยนอันอย่างเป็นทางการ หลิงอวี้จื้อรู้ดีว่าที่ด้านนอกสงครามครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้น นางจิตใจร้อนรุ่มไปเป็นสุขอยู่ในห้อง ความรู้สึกแห่งการรอคอยช่างทรมานเหลือเกิน
ตอนที่ 727 ข้าต้องการเพียงเจ้า
วันนี้เป็นช่วงเวลาที่ยาวเหลือเกินสำหรับหลิงอวี้จื้อ นางรอคอยจนกระทั่งฟ้ามืดลงในที่สุด
ซึ่งตลอดทั้งวันหลิงอวี้จื้อก็ไม่รู้สึกอยากอาหารใดๆ ทั้งสิ้น หากว่ามิใช่กำลังตั้งครรภ์ละก็ นางอาจไม่กินอะไรเลยก็เป็นได้ กินข้าวเพียงคำสองคำอย่างส่งๆ ไป ตกกลางคืนจู่ๆ เฉินมั่วฉือก็ผลุนผลันเข้ามาในห้อง บ่าซ้ายของเขาบาดเจ็บ เป็นบาดแผลที่เกิดจากธนู เพียงแต่ในขณะที่เขามาถึงบาดแผลก็ได้รับการทำแผลใส่ยาเรียบร้อยแล้ว
หลิงอวี้จื้ออยากถามเฉินมั่วฉือเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก ทั้งยังรู้สึกใจคอมิสู้ดี แต่ในเมื่อเฉินมั่วฉือมาถึงที่นี่แล้ว เขาคงจะบอกกับนางด้วยตัวเอง หลิงอวี้จื้อจึงตัดสินใจรอคอยที่จะให้เฉินมั่วฉือเป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาเอง!
“เจ้าไม่จะถามข้าหรือว่าที่ด้านนอกเกิดอะไรขึ้น?”
เฉินมั่วฉือหย่อนกายนั่งลง มองจากภายนอกดูไม่รู้เลยว่าเขาบาดเจ็บ เมื่อเห็นหลิงอวี้จื้อไม่พูดจา เขาจึงชี้ไปยังบ่าขวาของตนเอง
“ข้าถูกธนูของเซียวเหยี่ยนเข้า แต่ว่า ข้าก็เอาชนะเซียวเหยี่ยนได้”
“อวี้จื้อ นึกไม่ถึงละสิ วันนี้เซียวเหยี่ยนพ่ายแพ้ยับเยิน ข้าเอาชนะเขาได้ ทุกคนล้วนแต่สบประมาทข้า คิดว่าข้ากำลังก่อเรื่องเหลวไหล และข้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเหยี่ยน”
“พวกเจ้าคงไม่รู้สินะว่า ห้าปีที่ผ่านมานี้ ข้าศึกษาตำราพิชัยยุทธ เพื่อคิดหาวิธีเอาชนะเซียวเหยี่ยนมาโดยตลอด ครั้งนี้ที่ข้านำทัพออกศึกด้วยตัวเอง ก็เพราะมีความมั่นใจเต็มที่”
เฉินมั่วฉือกล่าวไปก็ฉีกยิ้มไปด้วย รอยยิ้มของเขาเจือเอาไว้ด้วยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเหนือกว่า
“แต่ว่าข้าก็ยอมรับว่าเซียวเหยี่ยนถือเป็นบุคคลที่มีความสามารถ คือคู่ต่อสู้ของข้า แต่หากว่าเขาจะเอาชนะข้าละก็ไม่มีทาง ข้าเตรียมการมาห้าปีเต็มก็เพื่อวันนี้ เจ้าคอยดูเถอะ ข้าจะต้องจับเป็นเซียวเหยี่ยนให้จงได้ อวี้จื้อเจ้าอย่าลืมสัญญาที่เจ้ารับปากข้าไว้ก็แล้วกัน”
หลิงอวี้จื้อหน้าเปลี่ยนสี นางนึกไม่ถึงเลยว่าวันแรกเซียวเหยี่ยนก็พ่ายแพ้เสียแล้ว ก้าวแรกก็ฤกษ์ไม่ดีเช่นนี้ย่อมต้องสั่นคลอนกำลังใจของทหารในกองทัพเป็นแน่ นางคือภรรยาของเซียวเหยี่ยน ดังนั้นไม่ว่าเซียวเหยี่ยนจะพบเจอกับอะไร นางก็ต้องยืนอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
เฉกเช่นในตอนนี้ เมื่อได้ยินเฉินมั่วฉือพูดจาเช่นนี้กับเซียวเหยี่ยน นางก็มีหน้าที่ๆ จะต้องปกป้องเซียวเหยี่ยน
“ไม่ถึงที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ฝ่าบาทอย่าเพิ่งทรงดีพระทัยเร็วไปนักนะเพคะ”
“ข้าจะทำให้เจ้ายอมศิโรราบทั้งกายและใจ อวี้จื้อ ข้าให้โอกาสและตัวเลือกแก่เจ้ามากมาย แต่ครั้งนี้ เจ้ามีเพียงตัวเลือกเดียว”
ทีท่าของเฉินมั่วฉือแฝงเอาไว้ด้วยความทะนงตนทรงอำนาจ อย่างไรเขาก็คือฮ่องเต้ ต่อให้อายุยังน้อย อย่างไรก็ยังคงไว้ซึ่งสง่าราศีแห่งความเป็นฮ่องเต้
หลิงอวี้จื้อสะกดกลั้นอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของตนเองเอาไว้ แล้วฉีกยิ้มให้กับเฉินมั่วฉือ
“ข้าเชื่อว่าสามีของข้าไม่มีวันพ่ายแพ้ เพราะเขาคือเซียวเหยี่ยน”
เพียงประโยคเดียวก็ทำให้เฉินมั่วฉือถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“รอให้เซียวเหยี่ยนตกอยู่ในเงื้อมือของข้าเสียก่อนเถอะ ข้าจะฆ่าเขาต่อหน้าเจ้า”
เฉินมั่วฉือไม่ต้องการใช้หลิงอวี้จื้อข่มขู่เซียวเหยี่ยน เขาต้องการเอาชนะเซียวเหยี่ยนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง หลังจากนั้นจึงค่อยสังหารเขาอย่างภาคภูมิ ผู้ชนะเป็นจ้าวผู้แพ้เป็นบ่าว ถึงตอนนั้นหลิงอวี้จื้อก็จะต้องพูดไม่ออก
นี่คือความภาคภูมิใจของเขา และก็คือความั่นใจในตนเองของเขาด้วย เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าตนเองสู้เซียวเหยี่ยนไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาเพียงแค่ไม่ตั้งใจเท่านั้น
เฉินมั่วฉือเอื้อมมือออกไปเชยคางหลิงอวี้จื้อ
“เจ้ามั่นใจในตัวเซียวเหยี่ยนปานนี้? ข้าก็จะไม่พูดมากกับเจ้าอีกต่อไป อวี้จื้อ ข้าต่างหากคือจ้าวแห่งแผ่นดินนี้”
หลิงอวี้จื้อเอื้อมมือออกมาปัดมือของเฉินมั่วฉือทิ้งไป เฉินมั่วฉือคว้าเอวของนาง หลิงอวี้จื้อเตรียมที่จะผลักเขาออก ทว่าเขากลับใช้มือนั้นจับมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็วางทาบลงบนหน้าท้องที่ยังคงแบนราบของหลิงอวี้จื้อ
“ในนี้คือลูกของเซียวเหยี่ยน”
“ฝ่าบาท ปล่อยข้านะ อย่าแตะต้องเขา”
หลิงอวี้จื้อตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นางจึงรีบเอ่ยปากยับยั้งทันที ขณะเดียวกันร่างของนางก็แข็งทื่อ
“ตอนนี้ข้าจะไม่ทำอะไรเขา เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ก็ต้องดูว่าพ่อของเขาจะมีชีวิตยืนยาวหรือไม่แล้วละ หากว่าเซียวเหยี่ยนพ่ายแพ้ อวี้จื้อ เจ้าไม่ต้องขอร้องข้าละ เพราะข้าไม่มีทางเก็บลูกของเซียวเหยี่ยนเอาไว้เป็นแน่ ข้าต้องเพียงเจ้า”