บทที่ 465 หมัดตะวัน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เมื่อเห็นว่าตาแก่ทั้งสองพุ่งเข้ามาโดยไม่คิดชีวิตอีกครั้ง เย่เทียนยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน ไม่ได้เห็นสองคนนี้อยู่ในสายตานัก

แต่ยังไงซะเย่เทียนก็เป็นคนที่มีชีวิตมาหนที่สองแล้ว ย่อมไม่อยากให้เรือล่มในคูน้ำแคบที่คาดไม่ถึง เขาระแวงอยู่ในใจลับๆ

“ฮ่า!”

เหลยเฉิงยุ่นคำรามเสียงเกรี้ยวกราด มือชราที่เหี่ยวเหมือนซากไม้กำหมัดแน่น ประหนึ่งต้องการทุบทะลุมิติ ส่งเสียงฝ่าอากาศดังสนั่นอยู่เนืองๆ และถล่มไปหาเย่เทียนอย่างดุร้าย

เย่ไม่กลัวเลยสักนิด เขาปล่อยหมัดโหดเหี้ยมออกไปเช่นกัน

ตู้ม!

สองหมัดปะทะกัน ส่งเสียงทุ้มต่ำดังสนั่น ร่างของทั้งสองคนแตะกันปุ๊บก็แยกออก

วินาทีต่อมา ไต้หงเล่อที่ตามหลังเหลยเฉิงยุ่นมาจู่โจมเช่นเดียวกัน

แต่เนื่องจากมือขวาพิการไปแล้ว เขาจึงไม่กล้าเข้าไปสู้ประชิดตัวกับเย่เทียน ยืนห่างออกไปสองเมตร

“ฝ่ามือตะวัน!”

ไต้หงเล่อคำรามเกรี้ยวกราด มือซ้ายฟาดฝ่ามือที่ดูเหมือนจะช้าแต่ความจริงแล้วไวดุจสายฟ้าออกไป รอยฝ่ามือจำลองสีแดงเพลิงโผล่ออกมาในทันใด

เมื่อรอยฝ่ามือนี้ถูกปล่อยออกไป อุณหภูมิในห้องก็สูงขึ้นหลายองศา มันมาอยู่ตรงหน้าเย่เทียนในเสี้ยววินาที

เย่เทียนใจกระตุก ขยับไปด้านข้างโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก และหลบได้อย่างหวุดหวิด

ตู้ม!

เสียงทุ้มต่ำดังสะท้อนออกมาในห้อง ฝ่ามือนี้ฟาดโดนผนังด้านหลังเย่เทียนอย่างแรง ทิ้งร่องรอยของฝ่ามือที่ลึกเข้ากำแพง

ถึงแม้เย่เทียนจะหลบได้ทันเวลา แต่แขนก็ยังโดนเฉี่ยวนิดหน่อย เสื้อผ้าราคาแพงของเขาขาดเป็นรูใหญ่ในทันที ทิ้งรอยไหม้แถบหนึ่งบนผิว

“เวรเอ๊ย ดีนะที่ฉันหลบทัน ไม่อย่างนั้นฝ่ามือนี้ได้ย่างฉันจนสุกแน่”

เย่เทียนลอบถอนหายใจด้วยความที่ยังนึกกลัว คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งที่อยู่แค่ระดับดินชั้นสูง ไต้หงเล่อยังสามารถโจมตีรุนแรงได้ขนาดนี้

ดูเหมือนว่าที่พรรคชิงเฉิงสามารถมีชื่อติดอันดับในโลกศิลปะการต่อสู้นั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเย่เทียนเคร่งเครียดขึ้นนิดหน่อย ยังไงซะตาแก่สองคนนี้ก็มาจากพรรคใหญ่มีชื่อเสียง ใครจะรู้ว่าพวกเขามีวิธีเอาตัวรอดอะไรบ้าง?

แต่ไม่รอให้เย่เทียนพักหายใจ การจู่โจมของเหลยเฉิงยุ่นก็ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง

สองมือของเขาห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำจำลองหนึ่งชั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนให้ห้องนี้มืดลงเล็กน้อย แต่ยังเพิ่มอุณหภูมิอีกหลายองศาด้วย ความร้อนอบอ้าวทำให้เย่เทียนอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมา!

เนื่องจากโล่ทิพย์ป้องกันกายเพิ่งจะโดนเหลยเฉิงยุ่นโจมตีเสียแหลกลาญ​​ ไม่สามารถใช้ได้ในสิบกว่านาทีนี้ เย่เทียนไม่กล้าเข้ารับตรงๆ ได้แต่หลบหลีกไปด้านข้างด้วยความทุลักทุเลอีกครั้งฃ

ทว่าเหลยเฉิงยุ่นไม่ยอมปล่อยเย่เทียนไปแบบนี้หรอก เขาขยับเท้าเล็กน้อย ตามประกบเย่เทียนดั่งเงา ไม่ให้โอกาสเขาได้หอบหายใจ

“ไอ้หนุ่ม นายหนีไม่พ้นหรอก! วันนี้ของปีหน้าก็คือวันครบรอบวันตายของนาย!”

เวลานั้น ไต้หงเล่อสบโอกาส อุดทางไปของเย่เทียนอย่างเจ้าเล่ห์ และคลี่ยิ้มเย็นเยียบบนใบหน้า

ด้านหน้ามีเสือ ด้านหลังมีหมาป่า เย่เทียนขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่ทันจะคิดอะไรมาก เร่งคัมภีร์หวงในกายถึงขีดสุด ชี่ทิพย์หนาแน่นหลั่งไหลมารวมกันที่มือเรื่อยๆ

“อย่างคุณน่ะเหรอคิดจะฆ่าฉัน? ชาติหน้าแล้วกัน!”

เย่เทียนแค่นเสียงเย็น ปล่อยหมัดโหดเหี้ยมใส่ไต้หงเล่อที่ปิดทางไปของเขา

นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ใครใช้ให้ไต้หงเล่อนอกจากจะมีพลังต่ำกว่าเหลยเฉิงยุ่นแล้ว ยังบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

“ฝ่ามือตะวัน”

นัยน์ตาขุ่นมัวของไต้หงเล่อฉายแววตื่นตระหนก เขากัดฟันฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ พยายามบีบให้เย่เทียนถอยไป

ว่ากันว่า: จะรังแกให้เลือกรังแกคนอ่อนแอ

ทั้งที่ไต้หงเล่อรังแกได้ง่ายกว่าแท้ๆ เย่เทียนจะโง่ไปหาเรื่องเหลยเฉิงยุ่นทำไมเล่า

ตู้ม!

หมัดหนักของเย่เทียนกระแทกใส่ไต้หงเล่อ จนเขาส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา เขากระอักเลือดพรวด ร่างกายถอยกรูดไปด้านหลังอย่างดูไม่ได้

แต่ฝ่ามือของไต้หงเล่อก็ฟาดโดนหน้าอกของเย่เทียนเช่นกัน เสื้อผ้าราคาแพงกลายเป็นชุดขอทานในบัดดล ผิวก็เป็นแผลไหม้ในชั่วพริบตา กลิ่นหอมเนื้อโชยออกมาแผ่วเบา

“ไสหัวไปซะ!”

ภายใต้ความเจ็บปวดอันแสนสาหัส เย่เทียนไม่มีทีท่าจะออมมือ นาทีเดียวกับที่เขาคำรามเท้าใหญ่ก็พุ่งพรวดออกมาทันที เตะไต้หงเล่อที่กำลังจะถอยออกไปกระเด็นอย่างแรง

“อ๊าก!”

ไต้หงเล่อกระแทกไปอัดผนังด้านหลังอย่างรุนแรง จนกระเบื้องกำแพงตรงนั้นมีหลุมรูปคน

พรวด!

ไม่เพียงแค่นั้น หน้าตาไต้หงเล่อมีสีแดงระเรื่ออย่างน่าพิศวง รู้สึกมีอะไรหวานๆที่คอ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาอย่างอดไม่ได้ สีหน้าซีดเผือดลงไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ก่อนจะนอนหมดแรงกับพื้น

น่าเสียดายที่ไม่รอให้เย่เทียนได้ทำอะไร เหลยเฉิงยุ่นก็บุกโจมตีเข้ามาอีกครั้ง หมัดเหล็กที่ถูกปกคลุมด้วยเพลิงดำฟาดมาที่หัวของเย่เทียนอย่างแรง

“ระยำเอ๊ย!”

เย่เทียนในตอนนี้หลบไม่ทันเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยว รวบรวมชี่ทิพย์หนาแน่นไว้ที่กำปั้น และพลิกตัวต่อยคืนกลับมาอย่างหนักหน่วง คิดจะเอาหมัดแลกหมัด!

เหลยเฉิงยุ่นเห็นดังนั้น มุมปากเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมอย่างอดไม่ได้

อย่ามองว่าหมัดนี้ของเขาดูธรรมดาเชียว ความจริงแล้วนี่คือวิชาสุดยอดที่เขาภูมิใจ–หมัดตะวัน!

หมัดนี้ไม่เพียงแต่มีอุณหภูมิสูงดั่งฝ่ามือตะวัน หลังจากผ่านการปรับปรุงของเหลยเฉิงยุ่นแล้ว มันแฝงพิษพิฆาตมาด้วย!

ตราบใดที่แตะโดนตัวอีกฝ่าย อุณหภูมิสูงจะแผดเผาผิวในชั่วพริบตา พิษพิฆาตจะถือโอกาสซึมซาบเข้าสู่ร่างกาย และทำลายอวัยวะภายในของอีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ!

ตู้ม!

ไม่ว่ายังไง ด้วยการตอบโต้อันแข็งกร้าวของเย่เทียน กำปั้นของทั้งสองฝ่ายกระแทกเขาด้วยกันอย่างแรง ส่งเสียงทุ้มต่ำดังสนั่น

กับเหลยเฉิงยุ่นที่เขาจับตื้นลึกหนาบางของเขาไม่ถูก เย่เทียนไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ออกแรงทั้งหมดที่มี

ความสะใจบนหน้าของเหลยเฉิงยุ่นยังไม่ทันหายไป เขาก็พลันสัมผัสถึงพลังมหาศาลจากมือ และมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันควัน จากหน้าแดงเป็นหน้าซีด

แกร่ก!

เขาทนต่อได้เพียงสองวินาที เสียงกระดูกร้าวกึกก้องก็ดังมาจากมือของเหลยเฉิงยุ่น กระดูกนิ้วของเขาแหลกละเอียดโดยสิ้นเชิง

“อ๊าก!”

เหลยเฉิงยุ่นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างอดไม่ได้ และถอยกรูดออกไป

ตึ้งตึ้ง!

เขาถอยออกไปถึงสามเมตรถึงยืนอย่างมั่นคงได้ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าที่มองเย่เทียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพลังของเย่เทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้!

แต่ถึงแม้แขนข้างหนึ่งจะพิการ เหลยเฉิงยุ่นก็ยังมีความมั่นใจอยู่ เขามั่นใจสุดๆว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่แพ้ต้องเป็นเย่เทียนที่โดนหมัดของเขาอย่างแน่นอน!

ในความเป็นจริง เย่เทียนก็รู้สึกไม่ค่อยดีจริงๆ เขาคิดไว้แล้วว่าหมัดของเหลยเฉิงยุ่นไม่ธรรมดา แต่คิดไม่ถึงว่าจะโรคจิตถึงเพียงนี้

แค่ปะทะกันช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่วินาที กำปั้นของเขาไม่เพียงแต่เป็นแผลไหม้ แต่ยังถูกย้อมด้วยสีดำประหลาด

ที่สำคัญที่สุดคือ สีดำนี้ยังแพร่กระจายด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

ผ่านไปได้ไม่นาน เย่เทียนก็รู้สึกเจ็บปวดที่มืออย่างรุนแรงราวกับโดนมดนับพันนับหมื่นรุมกัด มือทั้งมือสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้

ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเข้มแข็งเหนือมนุษย์ คงจะเจ็บจนทนไม่ไหวและลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นทั้งส่งเสียงโหยหวนแล้ว…