บทที่ 466 เห็นฉันเป็นเด็กอมมือเหรอ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ไอ้หนุ่ม รสชาติของหมัดตะวันไม่ค่อยดีใช่มั้ยล่ะ?!”

แม้ว่ามือขวาจะบาดเจ็บไม่น้อย แต่เมื่อเห็นพิษที่กระจายออกไปตามมือของเย่เทียนแล้ว เหลยเฉิงยุ่นกลับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“คุณคิดว่าลูกไม้ตื้นๆของคุณจะจัดการฉันได้เหรอ?”

สีหน้าเย่เทียนอึมครึมลง แผลไหม้ที่ตัวยังไม่เท่าไหร่ แม้จะเจ็บแต่ก็ใช่ว่าจะทนไม่ได้

แต่ประเด็นสำคัญคือเย่เทียนพบว่าพิษที่ค่อยๆขยายออกนั้นมีทีท่าว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการหมุนเวียนของชี่ทิพย์

ต่อให้เย่เทียนมีชีวิตมาสองชาติ แต่เหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็เพิ่งเคยเจอะเจอเป็นครั้งแรก!

ถ้าไม่ใช่ว่าศัตรูอยู่ตรงหน้า เย่เทียนได้นั่งขัดสมาธิเพื่อตรวจดูไปแล้ว

“ลูกไม้ตื้นๆเหรอ?”

เหลยเฉิงยุ่นอดกลั้นกับความเจ็บปวดที่มือ หัวเราะเย็นๆ “ไอ้หนุ่ม แน่จริงนายก็หมุนเวียนกำลังภายในดูสิ ฉันรับประกันได้ว่านายจะตายอย่างน่าอนาถ”

เย่เทียนขมขื่นใจ รู้ดีว่าสิ่งที่เหลยเฉิงยุ่นพูดมาไม่ผิด พิษประหลาดนี้กัดกินชี่ทิพย์ได้ และยิ่งหมุนเวียนยิ่งกัดกินไวขึ้น

แต่แม้ว่าเหลยเฉิงยุ่นและไต้หงเล่อจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เสียความสามารถในการต่อสู้ หากเสียการค้ำจุนจากชี่ทิพย์ไปจริงๆ ต้องตายเร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย!

“ดูท่า ฉันต้องรีบจัดการพวกคุณเสียแล้ว!”

คิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนค่อยๆเย็นเยียบลง แผ่ขยายความแข็งแกร่งของระดับฝึกพลังชั้นหกออกมาทั้งหมด มีเงาจักรพรรดิที่เสมือนจริงโผล่ออกมาด้านหลัง!

เย่เทียนรู้ดีว่า ถึงแม้พิษเดนตายนี้จะกัดกินชี่ทิพย์ แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ยิ่งยื้อต่อไปยิ่งไม่ดีกับเขา สู้สุดใจเพื่อจัดการพวกเขาให้เสร็จๆไปจะดีกว่า!

เหลยเฉิงยุ่นรู้สึกเพียงมีแรงกดดันอันสยองขวัญถาโถมเข้ามา คนทั้งคนถูกกดไว้จนเริ่มหายใจไม่ออก นัยน์ตาขุ่นมัวคู่นั้นหรี่ลงอย่างแรง หน้าตาหวาดผวาโดยไม่ปิดบัง

“เวรจริง! ทำไมไอ้หนุ่มนี่ถึงมีพลังแกร่งกล้าขนาดนี้?!”

ไต้หงเล่อที่พยุงกำแพงลุกขึ้นก็มีสีหน้าหวาดกลัวเช่นกัน

“มีคนจำนวนมากต้องการให้ฉันตาย แต่ท้ายที่สุดคนที่ล้มลงก็คือพวกเขา ตาแก่อย่างพวกคุณก็ไม่ต่างกัน!”

เย่เทียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตาเปล่งประกายเย็นยะเยือกน่าเกรงขาม จ้องเขม็งไปที่เหลยเฉิงยุ่นตรงหน้า

เหลยเฉิงยุ่นตัวสั่นเล็กน้อย เขาข่มความไม่สบายใจลง หัวเราะอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกล่าว “นายโดนหมัดตะวันของฉันเข้าไป ตอนนี้เกรงว่าคงจะเป็นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแล้วล่ะสิ!”

“ฉันจะตายหรือไม่ตายยังพูดยาก แต่คืนนี้คุณต้องตายแน่นอน!”

ปากของเย่เทียนคลี่ยิ้มอำมหิตกระหายเลือด เขาขี้เกียจจะเปลืองน้ำลายแล้ว มือซ้ายที่ไม่บาดเจ็บยื่นออกไปช้าๆ

“ท่ามังกรเก้า กระบวนท่าที่สอง ตี้ถงแปดด้าน!”

วินาทีที่เย่เทียนพูดจบ เงาจักรพรรดิองค์ใหญ่ด้านหลังเขาก็ยื่นมือซ้ายออกมาฉับพลัน กำไปหาเหลยเฉิงยุ่นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

การต่อสู้ก่อนหน้านี้ได้ผลาญชี่ทิพย์ของเขาไปไม่น้อย กระบวนท่าที่สองของท่ามังกรเก้าเป็นท่าที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถปล่อยออกมาได้

เหลยเฉิงยุ่นตะลึงกับเงาจักรพรรดิจักรพรรดิเสมือนจริงนั้นจนใจหายใจคว่ำไปนานแล้ว เวลานี้กล้าตอบโต้ที่ไหน เขาไม่ทันแม้แต่จะสนไต้หงเล่อ หันหลังวิ่งหนีโดยไม่ลังเล

น่าเสียดายที่ต่อให้ความเร็วของเขาจะไม่ต่ำ แต่จะเร็วกว่าฝ่ามือของจักรพรรดิที่ก่อร่างขึ้นด้วยชี่ทิพย์ได้ยังไง

ฟึ่บ!

แทบจะในชั่วพริบตา มือใหญ่ของจักรพรรดิคว้าเหลยเฉิงยุ่นไว้ได้ และพันธนาการเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์

แต่เหลยเฉิงยุ่นย่อมไม่มีทางปล่อยให้จับง่ายๆ เมื่อเขาเห็นว่าหนีไม่รอดแล้ว จึงดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี พยายามสลัดพันธนาการให้ออก

ฟึ่บ!

ต้องยอมรับว่าเหลยเฉิงยุ่นสมกับเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินชั้นต่ำ ภายใต้สถานการณ์ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เขากลับทำให้มือใหญ่จำลองเริ่มวูบไหวและอ่อนแรงลง มีทีท่าว่าจะสลัดออกมาได้

“ไปตายซะเถอะ!!”

รู้สึกได้ว่าพิษได้กระจายจากแขนไปทั่วร่างกาย สีหน้าเย่เทียนเย็นชาถึงขีดสุด ปากส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด และกำลังจะกำหมัดซ้าย

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน!”

เหลยเฉิงยุ่นที่ถูกมือใหญ่จำลองกำไว้กลัวจนแทบบ้า และรีบส่งเสียงตะโกน “นายเร่งกำลังภายในแบบนี้พิษต้องซึมซาบเข้าไปในร่างกายของนายแน่นอน ถ้าฉันตาย นายก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!”

“ทำไมเหรอ นี่คิดจะแก้พิษให้ฉันเหรอ?”

เย่เทียนเลิกคิ้วเล็กน้อย การเคลื่อนไหวที่มือหยุดลง

“นาย นายปล่อยฉันไปก่อน!”

เหลยเฉิงยุ่นพยายามข่มความกลัวภายในใจเอาไว้ แล้วแสร้งทำเป็นสุขุม “ให้ฉันกับหงเล่อไปก่อน รอจนกว่าฉันมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว ฉันจะโทรบอกวิธีแก้พิษกับนาย ไม่อย่างนั้นรับรองว่านายจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้แน่!”

เย่เทียนหัวเราะเย็นๆในใจ จะไปเชื่อคำพูดเหลวไหลพวกนี้ของเหลยเฉิงยุ่นได้ยังไง

ถ้าพูดแบบไม่น่าฟัง ขืนปล่อยตาแก่สองคนนี้ไปจริงๆจะไม่เหลือแม้แต่คนตายเป็นเพื่อน!

เวลานี้ไต้หงเล่อที่บาดเจ็บสาหัสเริ่มฟื้นตัวได้บ้างแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีก แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินเหิน

แต่เมื่อมองเหลยเฉิงยุ่นที่ใบหน้าซีดราวกระดาษ ถูกมือใหญ่จำลองกำเอาไว้อย่างแน่นหนา นัยน์ตาขุ่นมัวของเขาฉายแววพิศวง เขาเดินไปที่ประตูโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง

“เป็นยังไง? คิดได้หรือยัง? ปล่อยพวกเราไปแล้วฉันจะให้ยาถอนพิษ!”

เห็นเย่เทียนเงียบไป เหลยเฉิงยุ่นที่กัดฟันต้านแรงมือใหญ่จำลองเร่งเร้าอย่างอดไม่ได้

“คุณเห็นฉันเป็นเด็กอมมือจริงๆเหรอ?”

เย่เทียนได้สติกลับมา นัยน์ตาสีนิลฉายแววแน่วแน่ “ถ้าฉันปล่อยพวกคุณไปจริงๆ หลัจากพวกคุณปลอดภัยแล้วไม่ให้ยาถอนพิษกับฉัน ฉันก็ต้องตายอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”

นัยน์ตาเหลยเฉิงยุ่นฉายแววประหลาดอยู่แวบหนึ่ง เป็นอย่างที่เย่เทียนพูด ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่เคยคิดจะให้ยาถอนพิษกับเย่เทียน!

ความแข็งแกร่งของเย่เทียนเกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก อายุแค่นี้กลับมีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้ วันหน้าประสบความสำเร็จยิ่งกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น?

ตามที่เหลยเฉิงยุ่นคิด หากเย่เทียนกลัวตายและปล่อยพวกเขาจริงๆ อย่างมากเขาก็แค่ฤทธิ์ของพิษในร่างกายของเย่เทียนไปก่อน เพื่อให้เย่เทียนยอมเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ภักดีของเขาตลอดไป!

“นายเชื่อใจฉันได้! ขืนนายยังรั้นอยู่แบบนี้ พิษพิฆาตนี้ต้องแล่นเข้าสู่หัวใจของนายและต้องตายอย่างแน่นอน!”

เหลยเฉิงยุ่นที่ไม่อาจสลัดมือใหญ่จำลองได้ฝืนข่มความหวาดกลัวในใจ และแกล้งทำเป็นสุขุม

“บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้ ยังไงซะฉันก็เป็นปรมาจารย์การปรุงยา ฉันไม่เชื่อว่าจะแก้พิษเฮงซวยของคุณไม่ได้”

ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เย่เทียนคลี่ยิ้มร้ายกาจ คำรามเสียงต่ำอย่างกราดเกรี้ยว มือซ้ายกำแน่นโดยไม่ลังเล

รูม่านตาเหลยเฉิงยุ่นหรี่ลงนิดหน่อย รู้สึกเพียงพันธนาการแรงขึ้น เส้นประสาทที่เริ่มผ่อนคลายก็ตึงขึ้นมาอีกครั้ง เขากัดฟันเร่งกำลังภายในพยายามต้านทาน

ตู้ม!

น่าเสียดายที่ภายใต้การระเบิดพลังทั้งหมดของเย่เทียน ต่อให้เหลยเฉิงยุ่นเร่งพลังสุดแรงเกิด ก็ทนได้เพียงไม่กี่วินาทีสั้นๆ แล้วจึงโดนมือใหญ่จำลองบีบจนกลายเป็นเศษเนื้อ

“ซี้ด!”

ไต้หงเล่อที่แอบอยู่หน้าประตูอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้ แม้แต่เหลยเฉิงยุ่นที่อยู่ระดับดินชั้นต่ำยังตายอย่างอนาถในมือเย่เทียน ไม่เหลือแม้กระทั่งศพที่สมบูรณ์ แล้วตัวเองที่มีพลังเพียงระดับดินชั้นสูงล่ะ?

คิดมาถึงตรงนี้ ไต้หงเล่อไม่กล้าชักช้า เขารีบกระโจนหนีออกไปจากห้องนี้ วิ่งพล่านไปทั่วราวกับหมาจรจัด……