บทที่ 555 สวรรค์บนดิน
หลังจากเจ้าแห่งวายุส่งสัญญาณมา พายุสีดำที่ดูเหมือนจุดสิ้นสุดของโลกก็ก่อตัวขึ้นโดยมีวงเวทการส่งผ่านขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง ซัดทำลายเสาหินและหลังคาทรงโดมของคริสตจักรแห่งอาภาซึ่งตั้งอยู่ได้ด้วยพลังเทพพังทลาย

อาคารที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายหลอมละลายเหมือนกับแก้ว ส่วนอาคารที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาก็ถูกแช่เป็นน้ำแข็ง ตัวอาคารโปร่งแสงและเปล่งแสงสีแวววาวออกมา ทันใดนั้น ความเย็นยะเยือกและความร้อนก็ผสมปนเปกัน จนอาคารทั้งหมดกลายเป็นผุยผงและก๊าซ

ในขณะเดียวกัน สายฟ้าแสงสีเงินก็ฟาดลงตรงวงเวทการส่งผ่านขนาดใหญ่ด้วยเสียงดังกัมปนาทราวกับงูยักษ์ การโจมตีของสายฟ้าแต่ละครั้งนำเอามวลอากาศแห่งการทำลายล้างลงมาพร้อมกัน พลังแม่เหล็กไฟฟ้าสุดแสนอลังการทำให้ทุกอย่างโดยรอบบิดเบี้ยวไปหมด แรงลมและฟ้าผ่าส่งเสียงคำรามที่ทำให้จิตเตลิดไปไกล

นี่คือ ‘เวทวายุโทสะ’ เวทมนตร์พื้นฐานระดับตำนานของเฟอร์นันโด!

อย่างไรก็ตาม ‘พลังพระเจ้าคุ้มครอง’ ที่เมแคนทรอนใช้พร้อมกับภาพสะท้อนของหุบเขาวิมานดูเหมือนจะช่วยคุ้มครองตัวเขาและวงเวทการส่งผ่านขนาดใหญ่ในดินแดนแห่งความฝัน ซึ่งมีเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และเทวทูตสวรรค์เท่านั้นที่ไปถึง ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าแห่งสัจธรรมจะใช้เพื่อช่วยโลก!

พลังทำลายล้างของพายุ สายฟ้า ความร้อน และความเย็นยะเยือก เมื่อปะทะเข้ากับ ‘พลังพระเจ้าคุ้มครอง’ ก็ทะลุผ่านเข้าไปโดยไร้อุปสรรค แต่คลื่นพลังที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ก็ยังคงแผ่ขยายออกไปท่ามกลางความพร่ามัว

ผลที่ออกมาเป็นไปตามคาด เนื่องด้วย ‘พลังพระเจ้าคุ้มครอง’ และ ‘ราชาทูตสวรรค์’ ซึ่งเป็นเทวทูตระดับสูงสุดที่เคยมาเยือนโลกและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของพลังชั้นตำนาน

และในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะลงมาเยือนโลกด้วยตัวเอง!

สภาเวทมนตร์และลูเซียนคาดการณ์ไว้แล้วว่าซาร์ดกำลังปั่นหัวกลุ่มหัวรุนแรงซึ้งอ้างตนว่าศรัทธาในศาสนาพยากรณ์และการจุติใหม่ของราชาทูตสวรรค์ ดังนั้น พวกเขาจึงใช้ความระแวดระวังกับซาร์ดสูงสุด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าราชาทูตสวรรค์ที่รู้จักในนาม ‘ทายาทพระเจ้าแห่งสัจธรรม’ จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจริงๆ

เขาอาจเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังซาร์ดก็เป็นได้?

แล้วพวกเขามีความสัมพันธ์กับโป๊บและพระคาร์ดินัลหลวงอื่นๆ อย่างไร? หรือนี่เป็นกับดักที่พวกเขาร่วมมือกัน หรือหมายความว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย?

เฟอร์นันโดคิดอย่างรวดเร็วขณะร่ายเวทมนตร์ระดับตำนานต่อไป เขาครุ่นคิดถึงส่งของเมแคนทรอนและซาร์ด และเตรียมพร้อมจะเปลี่ยนแผน

หากไม่มีการคุ้มกันจากเขตพลังเทพ คริสตจักรแห่งอาภาจะกลายสภาพเป็นซากปรักหักพังภายใต้ ‘เวทวายุโทสะ’ โดนัลด์ ทอมป์สัน และผู้วิเศษและนักเวทอาวุโสคนอื่นๆ รวมถึงนักบวชที่เอนเอียงเข้าข้างสภารีบล่าถอย นี่เป็นสมรภูมิของผู้มีพลังชั้นตำนานเท่านั้น พวกเขาไม่อาจมีส่วนร่วมได้แม้แต่น้อย

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ความกังวลในใจของพวกเขากลายเป็นความวิตกจริตในที่สุด เสียงที่เยือกเย็นและมั่นคงดังก้องมาจากกลางอากาศ “ถอนกำลังกลับอัลลิน คนอื่นจะร่วมรบกับข้า แม้พลังพระเจ้าคุ้มครองจะเป็นอาคมป้องกันขั้นสูงสุดและอ้างว่าป้องกันความเสียหายได้ทุกรูปแบบ แต่ก็มีขีดจำกัดด้านบนที่สามารถทลายได้ เราพังมันได้ง่ายๆ ถ้าเราร่วมมือกัน!”

ชายคนหนึ่งผู้ยืนหยัดและสนับสนุนสภาเวทมนตร์มาหลายร้อยปีก็มาถึง เสียงที่คุ้นเคยและอ่อนโยนของเขาทำให้ทอมป์สันและนักเวทคนอื่นๆ สงบลง หลังได้รับคำยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุม สภาไม่เคยถูกโจมตีเสียหายใหญ่หลวงตราบใดที่ท่านประธานยังมีลมหายใจอยู่!

บนท้องฟ้า ดักลาสลอยอยู่อีกฝั่งหนึ่งพร้อมกับแสงเรืองรองในมือราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหม่กำลังจะขึ้นสุดขอบฟ้า ขณะที่นักเวทชั้นตำนานคนอื่นๆ ยืนแยกกันอยู่คนละทิศทาง เพื่อป้องกันไม่ให้พลังพระเจ้าเสด็จสังหารพวกเขาได้พร้อมกัน

ผู้ควบคุมธาตุ หัตถ์ทำลายล้าง แม่มดแห่งแดนน้ำแข็ง ศาสดาพยากรณ์ เนตรแห่งคำสาป แสงแห่งดวงดาว ราชันย์แห่งสุริยา ปรมาจารย์แห่งรสายนเวท… เมื่อเห็นนักเวทชั้นตำนานสิบเอ็ดคนของสภาเวทมนตร์มารวมตัวกันที่นี่ โดนัลด์และคนที่เหลือต่างรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น พวกเขาบินกลับไปยังอัลลิน ซึ่งเปิดประตูมิติไว้

นครอัลลินห้อมล้อมไปด้วย ‘ดวงดาว’ สุกสกาว เมืองลอยฟ้าแห่งนี้ที่มีหนึ่งในประตูมิติที่ดีที่สุดสามารถใช้พลังชั้นตำนานระดับสามได้ในสถานการณ์วิกฤต อย่างไรก็ตาม พลังอาจไม่มากพอที่จะสนับสนุนเป็นเวลานาน หาก ‘เตาอมตะ’ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันต้านสนามแม่เหล็กที่ลูเซียนออกแบบไว้ กลายเป็นจริงขึ้นมา

ณ อารามหลวงแห่งเรนทาโต…

อาร์เธอร์ พระคาร์ดินัลผู้ดุดันและเกรี้ยวกราด ยืนอยู่ต่อหน้าพระคาร์ดินัล บิชอป และนักบวชที่มีแนวคิดสุดโต่งดูน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาและฮึกเหิม “ถึงเวลาที่เราต้องพลีชีพ!”

“สัจจะคงอยู่นิรันดร์!” เหล่าพระคาร์ดินัล บิชอป และนักบวชคุกเข่าลงต่อหน้าไม้กางเขนและเริ่มสวดภาวนา

อาร์เธอร์หันกลับไปและทำเครื่องหมายไม้กางเขนบนหน้าอก แล้วเขาก็นอนลงบนผืนและสวดออกมา

“พระองค์คือหนึ่งเดียว และทุกผู้ทุกนาม”

“พระองค์คือจุดเริ่มต้น และจุดจบ”

“พระองค์คือผู้สร้าง และผู้ควบคุม”

“…ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”

แล้วพระคาร์ดินัลคนอื่นๆ ก็สาธยายตามเขา

“…ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”

แสงศักดิ์สิทธิ์เปล่งออกมาจากร่างของพวกเขาอย่างอ่อนโยน ทาทับพวกเขาด้วยสีสันที่สว่างไสวและสะอาดตา ราวกับปีกกำลังโอบล้อมหลังของพวกเขาไว้ แสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเชื่อมต่อและขยายออกไปจนถึงมหาสมุทรที่ซัดเข้ามาทางฝั่งตะวันออกของเรนทาโต

สโตนทั้งรู้สึกประหลาดใจและสับสนกับสถานการณ์ของกองอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “สวรรค์บนดินอย่างนั้นหรือ?”

นี่คือเขตพลังเทพที่เป็นรองเพียง ‘พลังพระเจ้าเสด็จ’ และเทียบเท่ากับ ‘พระเจ้าคุ้มครอง’ พลังนี้สามารถเปลี่ยนดินแดนภายในอาณาบริเวณหนึ่งให้เป็น ‘สวรรค์บนดิน’ อย่างไรก็ตาม การใช้พลังนี้มีราคาที่ต้องจ่ายสูงลิบ พระคาร์ดินัลมากกว่ายี่สิบรูป จำนวนเท่ากับทูตสวรรค์ พระคาร์ดินัลหนึ่งร้อยรูป และนักบวชหนึ่งพันรูปต้องสังเวยชีวิต และพฤติกรรมต้องประกอบโดยผู้มีพลังขั้นสูงระดับเทวทูตเสราฟิม

อารามหลวงเรนทาโตเป็นจุดเริ่มต้น มหาสมุทรแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์หลั่งไหลเข้าสู่เขตขุนนางทางตะวันออกของเมืองอย่างรวดเร็ว ในวินาทีถัดมา โบสถ์ต่างๆ ที่เหล่านักบวชแนวคิดสุดโต่งรวมตัวกันก็เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ติดต่อกันทีละแห่งๆ จนพื้นที่ทั้งหมดมีแสงรัศมีเรืองรอง

หากใครสักคนมองพื้นดินลงมาจากเมืองอัลลินบนท้องฟ้า ก็จะพบว่ามีกลุ่มแสงขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ทางตะวันออกของเรนทาโต ราวกับว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และนักบวชจำนวนมากกำลังขานร้องและสวดภาวนา ยิ่งไกลออกไปทางตะวันออกมากเท่าไร จุดแสงก็ยิ่งน้อยลงแต่กลับเป็นแสงที่สว่างไสวกว่า ทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าอาณาเขตถูกแบ่งออกเป็นหกชั้น

เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์รวมตัวกัน ก็สะท้อนกลับไปยังเส้นพลังเทพทั้งหมดของนครเรนทาโต แสงยิ่งสว่างไสวมากยิ่งขึ้นๆ จนกระทั่งเชื่อมต่อกับราชาทูตสวรรค์ที่กำลังใช้พลังพระเจ้าคุ้มครอง

“พระองค์คือหนึ่งเดียว และทุกผู้ทุกนาม”

“…ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”

เสียงสวดภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ดังก้องไปทั่วทั้งนครเรนทาโต และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มหักมุม

บนท้องฟ้า ทอมป์สันมองดูด้วยความตกตะลึงที่เห็นว่าตั้งแต่ฝั่งตะวันตกจนถึงฝั่งตะวันออกของเมือง มีภาพสะท้อนชั้นแรกของสวรรค์หุบเขาวิมาน และภาพสะท้อนของชั้นที่สองและชั้นอื่นๆ ก็ปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าสวรรค์จะลงมาเยือนแผ่นดินโลก!

ดักลาส เฟอร์นันโด และคนที่เหลือต่างรู้สึกว่ากำลังจมอยู่ในมหาสมุทรแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ และพลังวิญญาณของพวกเขาก็เฉื่อยชาลง นอกจากนี้ ดูเหมือนพวกเขาจะถูกดึงออกจากโลกความเป็นจริง จนกว่าจะสามารถทลาย ‘สวรรค์บนดิน’ นครเรนทาโตจะไม่มีวันได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม ‘สวรรค์บนดิน’ ทำให้ผู้มีพลังชั้นตำนานอ่อนกำลังลงได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ยิ่งผู้มีพลังอยู่ในระดับสูงเท่าไร ก็ยิ่งได้รับผลกระทบน้อยลงเท่านั้น ไม่นานดักลาสก็เรียกพลังกลับมาได้และกำลังจะร่ายเวทมนตร์

ณ ตอนนั้นเอง วงเวทการส่งผ่านขนาดใหญ่ก็เปล่งแสงขึ้น และมีเงาของร่างสิบสามร่างปรากฏขึ้นภายใน

“เมลแม็กซ์ อนาสตา มาเรีย ออกัสตา แอนโธนี วารันไทน์ อาร์ซาโร แอสทีรา วาฮารัล…”

นักบุญห้ารูป พระคาร์ดินัลหรืออัศวินศักดิ์สิทธิ์อีกแปดคน และราชาทูตสวรรค์ จำนวนและความแข็งแกร่งของฝ่ายศาสนจักรอยู่เหนือกว่าฝ่ายสภาเวทมนตร์ในทันใด

อย่างไรก็ตาม เฟอร์นันโดก็ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอกและล้มเลิกความคิดที่จะใช้ ‘แผนที่สี่’ ความจริงที่ว่ามีพระคาร์ดินัลมาเพียงสิบสามรูปย่อมหมายความว่าโป๊บไม่พร้อม และไม่สามารถเคลื่อนย้ายกำลังในเหตุฉุกเฉินได้มากกว่านี้ สถานการณ์นี้บอกได้ว่าซาร์ดและราชาทูตสวรรค์ไม่ได้อยู่เรือลำเดียวกับโป๊บ และแม้แต่โป๊บก็เป็นเป้าหมายการโจมตีในแผนของพวกเขา

ดังนั้น ตราบใดที่เหล่านักเวทกำราบการโจมตีให้ได้เสียก่อนที่กำลังเสริมจะมา พวกเขาก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ แล้วทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก!

เมื่อคำว่า ‘แผนสาม’ ดังเข้ามาในหูของเขาผ่านทางแว่นตาข้างเดียว ลูเซียนก็สลัดความกลัวและความกังวลก่อนหน้านี้ทิ้ง เลิกคิดถึงอันตรายจากแผนนี้อีกต่อไป

หลังจากใช้ ‘เวทเร่งความเร็วขั้นสูง’ เขาก็กลายเป็นเงาเลือนลางและพุ่งไปสู่ปราสาทเนคโซเพื่อช่วยให้ปราสาทควบคุมเพจพลังเทพทั้งหมดของนครเรนทาโต อย่างไรก็ตาม ลูเซียนไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก ราวกับว่าเขากำลังรอบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะเข้าไปในปราสาทเนคโซ

เขาออกวิ่งได้เพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่แสงศักดิ์สิทธิ์ของ ‘สวรรค์บนดิน’ จะเข้าท่วมตัวลูเซียน มวลแสงที่หนาแน่นจนแทบหายใจไม่ออกทำให้พลังวิญญาณของเขาเฉื่อยชาลง พลังเวทมนตร์ของเขาดูเหมือนจะลดลงหนึ่งระดับ

ไม่ไกลกันนัก สารถีคนหนึ่งก็สังเกตเห็นทุกอย่างด้วยความมึนงง เขายื่นมือออกไปพยายามจะสัมผัสมหาสมุทรแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่มือของเขาก็ทะลุผ่านไปอย่างง่ายดาย

แสงศักดิ์สิทธิ์นี้ทำให้ทั้งเขาและม้าต่างตกตะลึง ม้าของเขาเริ่มวิ่งพรวดพราดเข้าใส่ลูเซียน

ลูเซียนร่าย ‘เวทยืดเวลา’ เพื่อหยุดม้าตามสัญชาตญาณ แต่เวทมนตร์กลับทำอะไรสารถีและม้าเกล็ดมังกรตัวนั้นไม่ได้เลย ม้าทะลุผ่านร่างของลูเซียนราวกับว่าเขาเป็นเพียงภาพมายา โดยไม่เกิดการปะทะแม้แต่น้อย!

“นี่มัน…” เมื่อมองไปยังอาคารและต้นไม้ที่บิดเบี้ยวรอบๆ ลูเซียนก็รู้สึกได้ทันทีว่า ‘โลกแห่งวิญญาณ’ มาเยือนแล้ว โลกแห่งวิญญาณทับซ้อนกับโลกจริงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้คนและวัตถุในโลกจริงที่ตั้งอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้นวิญญาณตนหนึ่งที่นิ่งเงียบและแข็งทื่อ และอีกคนหนึ่งที่บริสุทธิ์และมีศรัทธาแรงกล้า

แต่ทำไมเขาถึงติดอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ ทั้งๆ ที่สารถียังคงอยู่ใน ‘เรนทาโตต้นฉบับ?’

“เพราะมีเพียงผู้ที่ใช้พลังเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่จะถูกดึงเข้าสู่ ‘สวรรค์บนดิน’ หากเจ้าสลายเวทมนตร์ เจ้าจะกลับสู่ความเป็นจริงอย่างช้าๆ” เสียงแหบพร่าดังมาจากข้างหน้า และผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความพยาบาทก็เดินออกมาจากหลังตึกที่บิดเบี้ยวท่ามกลางแสงศักดิ์สิทธิ์ “แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีโอกาสกลับไป เลือดของหัวหน้ากองทั้งสี่และเพื่อนพ้องน้องพี่อีกกว่ายี่สิบ จะต้องได้รับการชดใช้ในวันนี้”

“หัวหน้า พวกท่านเห็นหรือไม่?”

ปีกสีขาวบริสุทธิ์สี่ปีกสยายออกมาจากหลังของนางและสอดคล้องกับแสงศักดิ์สิทธิ์โดยรอบอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม พลังของนางยังไม่เสถียร และดูเหมือนว่าจะอยู่เหนือการควบคุมของนางในอีกไม่นาน

“จูเลียนา?” ลูเซียนถามออกมาเสียงเบาๆ

“และข้าด้วย ท่านศาสตราจารย์ สหายเก่าของเจ้า” อีกฝั่งหนึ่ง มินสค์ ‘มังกรแดง’ ที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวก็เดินออกมาพร้อมกับปีกเทวทูตสี่ปีกบนหลังเหมือนกัน

เขาหัวเราะหึๆ “ท่ามกลางพระสิระแห่งสวรรค์บนดิน พลังเวทมนตร์ของเจ้าถูกสกัดกั้น และแหวนพลังตำนานของเจ้าก็ไร้ประโยชน์ เราจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีให้เจ้าเสียใจกับทุกอย่างที่ทำไป”

“เอาล่ะ พระคาร์ดินัลหลวงซาร์ดต้องการเครื่องรางมงกุฎสุริยันของเจ้า เหรียญตราที่ระบุพิกัดสุดท้ายของมาสเกลีนและพรรคพวก”

จูเลียนาก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “หลังจากเราฆ่าเจ้าแล้ว ราชินีที่รักของเจ้าก็คงอยู่ได้ไม่นาน แล้วเราจะส่งลุงโจเอลกับป้าอะลิซ่าของเจ้าไปลงนรกเป็นเพื่อนเจ้า พวกมันจะบอกเจ้าทั้งน้ำตาว่าถูกฆ่าอย่างไร มินสค์ ระวังมือซ้ายของมัน มือมันถอนคำสาปได้ แบบใช้พลังเทพประเภทคำสาป”

‘ถอนคำสาป?’ ลูเซียนมองที่มือซ้ายของเขา พวกมันได้ข่าวกรองนี้มาได้อย่างไร?

………………………………………………………………..

ตอนต่อไป