เย่เซิ่งเทียนคิดไม่ถึงว่า การมาเฉียนถังในครั้งนี้ จะได้รับมาซึ่งอะไรแบบนี้
ถ้าหากไม่ใช่เย่จิงหงกับเย่ห้าวบ้าคลั่งเสียสติมาขุดหลุมศพของแม่ เขาอาจจะไม่รู้ข่าวที่ว่าแม่ยังไม่เสียชีวิตก็เป็นได้
แต่ทว่า ถึงแม้เขาจะไม่เกลียดตระกูลเย่อีกต่อไป แต่ก็ไม่อยากติดต่ออะไรกับตระกูลเย่อีก
ถึงแม้จะยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลเย่ก็ลบล้างบาปที่เคยทำไม่หมด!
ในขณะนี้เอง ตอนนี้หรันยู่ได้ทำหน้าที่ในหมิงซื่อกรุ๊ปแทนหวางซี ก็ได้มาหาเย่เซิ่งเทียน
“คุณผู้ชายครับ เราอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ พบร่องรอยของท่านพรตหลินแล้วครับ คนของเราอยู่ที่นั่นสิบคนแล้วครับ”
บริษัทหรันซื่อกรุ๊ปมีมหาเศรษฐีลึกลับคนหนึ่ง มีทรัพย์สินรวมกันนับล้านล้าน เป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลที่เป็นคนสนับสนุนเย่เซิ่งเทียน
แน่นอนว่า นี่เป็นหนึ่งในเศรษฐีที่อยู่ภายใต้เย่เซิ่งเทียน
ในอดีตตระกูลหมิงซึ่งเป็นครอบครัวระดับซูเปอร์เฟิร์สคลาสในเมือง ถูกหรันยู่ใช้วิธีการบางอย่าง ทำให้กลายเป็นบริษัทภายใต้ของหวางซี
แต่ในขณะเดียวกันหวางซีก็ไม่สามารถจัดการดูแลหมิงซื่อกรุ๊ปกับบริษัทหัวหยวนได้ ดังนั้นบริษัทหรันซื่อจึงมอบหมายให้หรันยู่ช่วยจัดการไปก่อนเป็นการชั่วคราว
ในขณะที่เย่เซิ่งเทียนให้หรันยู่ก่อตั้งบริษัทหรันซื่อ เขาได้ออกคำสั่งกับหรันยู่ ให้ติดต่อร่องรอยเบาะแสของหลินเต้าจื่อผู้ซึ่งเป็นอาจารย์
เย่เซิ่งเทียนอยากจะรู้ว่า ตกลงอาจารย์ของตัวเองเป็นใครมาจากไหนกันแน่
เพราะเมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น เขาก็ตระหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าตาเฒ่าหลินนั้นแข็งแกร่งและลึกลับเกินไป
“นี่เป็นวัดโบราณในเมืองพุทธ ตอนแรกคนของเราคิดว่ามันเป็นเพียงวัดธรรมดา แต่พวกเขาบังเอิญค้นพบว่า มีรอบพู่กันที่ท่านพรตหลินหลงเหลือไว้ จากนั้นจึงพบว่าใต้วัดโบราณ มีวังใต้ดินอายุนับพันปี ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง คนของเราเข้าไปในนั้นสิบห้าคน ทุกคนล้วนเป็นผู้กล้า แต่เหลือรอดชีวิตกลับมาเพียงแค่ห้าคน และห้าคนนี้ ก็ล้วนสติฟั่นเฟือน ไม่สามารถพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้ด้วยซ้ำ ราวกับได้รับการกระตุ้นจากบางสิ่งบางอย่าง”
บนใบหน้าของหรันยู่เผยให้เห็นความหวาดกลัว เขารีบนำคลิปส่งให้เย่เซิ่งเทียนดูทันที
ในคลิป ห้าคนนั้นเสียสติไปแล้ว อีกทั้งมักจะอ้อนวอนภาวนาคุกเข่าอยู่กับพื้น
หรันยู่กลืนน้ำลายดังเอือก”จากที่หมอได้ตรวจดู ถึงแม้พวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ได้สูญเสียสติไปแล้ว ราวกับมีแค่ร่างกายที่ว่างเปล่า ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว”
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วเป็นปม พลางกล่าวว่า”ให้ทุกคนห้ามเข้าใกล้วัดโบราณนั้น ช่วงนี้ผมจะไปดูด้วยตัวเอง ยังมีข้อมูลอื่นอีกไหม?”
หรันยู่ส่ายหัว”มีคนพบสิ่งนี้แล้วและคนอื่น ๆ ยังไม่ได้ตอบกลับ สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือ ตามหลักแล้วผู้แข็งแกร่งอย่างท่านพรตหลิน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก แต่ความจริงคือ แทบจะไม่มีใครรู้จักเขา อีกทั้งคนระดับเขาเมื่อต้องต่อสู้กับคนอื่น มักจะทำให้ผู้อื่นตื่นตระหนกเสมอ แต่ไม่มีการบันทึกว่า สิบปีที่ผ่านมาได้มีการต่อสู้กับใครไปแล้วบ้าง”
“ตรวจสอบต่อไป ไม่ต้องรีบ”
เย่เซิ่งเทียนไม่รีบ ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ง่ายเลย
เขาเคยถามมามากมาย ตาเฒ่าหลินที่เป็นคนเก่งขนาดนี้ กลับไม่มีใครรู้จัก
นี่เป็นสิ่งที่ผิดปกติ
ตอนนั้นตาเฒ่าหลินได้รับบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายในตอนที่เขาตายร่างกายผุพัง ในตอนที่เขาถูกฝัง กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาใช้เวลาสั้นๆเพียงหนึ่งชั่วโมง เน่าเปื่อยจนสลายเหลือแค่กระดูก
จนกระทั่งสองปีต่อมา เขาถึงพึ่งรู้ว่ามันเป็นแบคทีเรีย ที่สามารถกัดกร่อนเนื้อของมนุษย์ทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น เช่นเดียวกับกรดซัลฟิวริกที่เข้มข้น
แต่ตาเฒ่าหลินก็บอกเขาว่า บาดแผลนั้นเกิดจากคู่ต่อสู้ และบอกกับเย่เซิ่งเทียนว่า เย่เซิ่งเทียนยังไม่ได้ชำระเนื้อหนังให้บริสุทธิ์ ก็อย่าได้คิดเรื่องที่จะแก้แค้นให้เขา
ชำระเนื้อหนังให้บริสุทธิ์ ถึงจะเป็นเย่เซิ่งเทียนในตอนนี้ แม้ว่าเขาพลังการต่อสู้ของเขาจะกลายเป็นจุดสูงสุดของโลก อาจจะยังไม่ได้แตะแม้แต่ปลายประตู!
“เหนือกว่าเทพสงคราม ตกลงเป็นโลกไหนกันเนี่ย?เงื่อนไขของการชำระเนื้อหนังคืออะไรกัน?”
เย่เซิ่งเทียนกดความคิดเห็นของตัวเองลง สำหรับเขาแล้ว คำนึงสิ่งเหล่านี้ยังถือว่าเร็วเกินไป
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดกับหรันยู่ว่า”นายไปควบคุมหน้างานที่เมืองพุทธก่อน ตระกูลหลันนายคิดยังไงบ้าง?”
หรันยู่เผยให้เห็นรอยยิ้มที่โรคจิต”คุณผู้ชายครับ เรื่องของตระกูลหลันคุณไม่ต้องถามหรอกครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้บริษัทหรันซื่อจะไม่สามารถเทียบอะไรกับตระกูลหลันได้ แต่ใช้เวลาอีกไม่นานหรอกครับ ผมจะทำให้ตระกูลหลันคุกเข่าต่อหน้าของผม!”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างใจเย็นว่า”เรื่องที่ฉันไม่ได้ถามนาย นี่เป็นสัญญาของเราก่อนหน้านี้”
หรันยู่เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์มากกว่าของผู้หญิง”ขอบคุณค่ะคุณผู้ชาย”
เรื่องทางนี้จบแล้ว เย่เซิ่งเทียนกำลังเตรียมจะกลับเมืองโมตู สายจากหวางซีก็ดังขึ้น
“เซิ่งเทียน คุณอยู่ไหนน่ะ?เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณตาตายแล้วค่ะ คนของตระกูลหลี่กำลังจะจับพวกเรา”