AST
บทที่1727 – รักษาบาดแผล
ชิงสุ่ยยิ้มค่ะทักทายสุ่ยหยุนเฟิงก่อนจะเชิญให้เขานั่งลงที่เก้าอี้
สุ่ยหยุนเฟิงพยักหน้าและกล่าวขอบคุณก่อนจะนั่งลง
ทัศนคติของสุ่ยหยุนเฟิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมันเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าชิงสุ่ยคิดถูก เพราะเขาเชื่อว่าคนที่ถูกในครอบครองสมบัติของนักบุญเทวะย่อมต้องไม่ใช่คนที่ชั่วร้ายเกินไป
หลังจากเครื่องดื่มสุราถูกจัดเตรียมทั้งสองก็เริ่มดื่มและพูดคุย
”ชิงสุ่ยข้ารู้ดีว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้เป็นสิ่งไม่สมควร แต่เจ้าก็ยังเลือกที่จะรักษาข้า ข้าขอขอบคุณเจ้ามาก”สุ่ยหยุนเฟิงดูเหมือนจะคิดได้ว่าครอบครัวของเขาจะไม่สามารถอยู่รอดได้ถ้าไม่มีเขาอยู่ แม้ว่าชิงสุ่ยจะกลับมาบอกเขาว่าโรคของเขานั้นไม่มีทางรักษา เขาก็จะไม่ท้าประลองชี้เป็นชี้ตายเพื่อเอาตัวเองไปเสี่ยงโดยไร้ประโยชน์อีกต่อไป
ที่เขาเป็นเด็กเขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางครอบครัวที่ใหญ่โตเขาได้รับหน้าที่มอบหมายงานหลักส่วนใหญ่ และเขาก็รู้ดีว่าชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่เรื่องเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ภารกิจส่วนใหญ่ของเขาล้วนสำเร็จลุล่วง ซึ่งบางครั้งมันทำให้เขาคิดว่าชีวิตของเขานั้นขาดอะไรไปบางอย่าง หลังจากที่เขาได้รับอาการบาดเจ็บ มันยิ่งทำให้เขาเพิ่งสำนึกได้ว่า การมีชีวิตอยู่ต่อไปของเขานั่นไร้ประโยชน์ หากไม่มีเครื่องยึดเหนียว
เขาอาจเป็นคนยึดติดใช้เวลาไต่ตรองสิ่งต่างๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่ามันจะทำให้ความสงบสุขจากตัวเขาไป แต่มันก็ทำให้เขาตระหนักได้อีกอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้ร่างกายของเขาจะไม่สมบูรณ์ แต่บรรดาบริวารหญิงสาวทั้งหมดของเขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างและรักเขา นอกเหนือจากคนทางสู่การมีลูกแล้ว นอกเหนือจากนี้ พวกนางก็ไม่ต้องการอะไรอีก
”เดี๋ยวก่อนสิข้ายังไม่ทันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าเลย ไว้ขอบคุณข้าหลังจากที่ข้ารักษาเจ้าจนหายดีเถอะ”ชิงสุ่ยหัวเราะเล็กนอย พร้อมกับรินสุราอีก 1 จอก
”ชิงสุ่ยเหตุผลที่ข้าขอบคุณเจ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรักษาเลย แต่ที่ข้าขอบคุณเจ้ามันเป็นเพราะคำพูดของเจ้าที่ฉุดดึงข้าขึ้นมาจากโคลนตมที่ข้าติดอยู่มานานหลายปีแล้ว ส่วนเรื่องบาดแผลของข้าที่ไม่อาจรักษาหายขาดได้ ข้ารู้ดีว่าใครเพื่อน”ขณะที่กล่าว สุ่ยหยุนเฟิงก็แสดงความโศกเศร้าเมื่อกล่าวถึงมัน
”อืมแน่นอนว่าข้าเข้าใจสภาพอาการบาดเจ็บของเก่า และข้าก็คงไม่พูดเช่นนั้นออกไป หากข้าไม่มั่นใจ ฉะนั้นเจ้าจงเชื่อใจในตัวข้า!!”ลึกในจิตใจของชิงสุ่ย เขารู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นสุ่ยหยุนเฟิงคิดได้
”เจ้าสามารถรักษาข้าได้จริงๆหรือ?”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวถามพร้อมสีหน้าที่สับสน ”ถ้าหากเจ้าไม่เชื่อทำไมเจ้าไม่ลองหาคำตอบด้วยตัวเองล่ะ? เดี๋ยวเจ้าจะได้รู้ว่าข้ารักษามันได้จริงๆหรือไม่”ชิงสุ่ยลุกขึ้นยืน novel-lucky
สุ่ยหยุนเฟิงรู้สึกประหลาดใจสายตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย เขาตื่นเต้นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวกับชิงสุ่ยว่า “มาเถิด ข้าพร้อมแล้ว ข้าจะต้องเตรียมการอะไรบ้าง?”
ชิงสุ่ยส่ายหน้า”ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้จนครบแล้ว เจ้าแค่ตามข้าไปที่ห้อง จากนั้นข้าจะได้เริ่มรักษาเจ้า”
ร่างกายส่วนบนของสุ่ยหยุนเฟิงเปลือยเปล่าชิงสุ่ยได้นำเอากล่องเข็มทองคำออกมาทั้งหมด 2 กล่อง ส่วนทางด้านสุ่ยหยุนเฟิงเขารู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย เพราะระหว่างการรักษา มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับชิงสุ่ย หากเขาต้องการจะสังหารสุ่ยหยุนเฟิงระหว่างการรักษา
แต่เมื่อเขาคิดให้ลึกซึ้งแล้วเขาก็เชื่อว่าชายหนุ่มผู้นี้จะไม่มีทางลงมือสังหารเขา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องเสียเวลามานั่งเสาวนาเรื่องราวให้เปลืองพลัง
เหตุผลที่ทำให้เขาคิดเช่นนั้นเพราะตอนที่ทั้ง 2 คนต่อสู้กัน สุ่ยหยุนเฟิงรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่เขาไม่คุ้นเคย มันเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่ออกมาจากร่างกายชิงสุ่ย มันบริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังงานในตัวของเขาเสียอีก และพลังนั้นเหมือนปรสิตที่ดูดกลืนพลังงานของเขาจนหายไปมากมายกว่าที่คนที่เขาเคยเจอ
สำหรับชิงสุ่ยการรักษาอาการบาดเจ็บเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แต่เขาก็ไม่สามารถรักษาบาดแผลทั้งหมดให้หายขาดภายในคราวเดียว และที่สำคัญ เขาเองก็ยังไม่รู้ตัวตนลึกๆที่แท้จริงของสุ่ยหยุนเฟิงอีกด้วย
ชิงสุ่ยจึงทำการสำรวจเส้นลมปราณที่อยู่ในร่างกายของเขาและพบว่าจากทั้งหมด 13 เส้นลมปราณหลัก มีเพียง 2 เส้นเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน ส่วนเส้นลมปราณที่เหลือกำลังหดตัวลงด้วยอัตราคงที่เนื่องจากความเครียดหากเขายังเป็นเช่นนี้ต่อไป มันอาจจะส่งผลถึงจิตใจจนไม่อาจแก้ไขได้อีก
ชิงสุ่ยปักเข็มทองคำลงตามจุดชีพจรของสุ่ยหยุนเฟิงเข็มทองคำทุกเล่มอัดแน่นไปด้วยพลังปราณก่อกำเนิด และชิงสุ่ยก็ได้ใช้พลังเบญจธาตุในการช่วยฟื้นฟู ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาก้าวกระโดดอีกหลายเท่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่ง 6 ชั่วโมงผ่านไป ชิงสุ่ยก็สามารถหยุดยั้งการหดตัวของทั้ง 8 เส้นลมปราณ เขาก็ให้ค่อยเข็มทองคำออกจากร่างกายสุ่ยหยุนเฟิงทีละเล่ม
สุ่ยหยุนเฟิงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเขาตกอยู่ในสภาวะช็อคไม่อาจหาคำพูดมาอธิบายได้ ตลอดเวลา เขาได้เพียงแค่หวังว่าชิงสุ่ยจะรักษาเขาได้จริงๆ แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าโรคที่เขาเป็นนั้นรักษายากเพียงใด แต่ตอนนี้เขามองดูชิงสุ่ยราวกับว่าเขากำลังบูชาเทพเจ้า
”ข้าสามารถรักษาเจ้าได้3 ส่วน ซึ่งตอนนี้ก็ถึงขีดจำกัดที่เจ้ารับได้แล้ว อีก 3 เดือนข้าจะกลับมารักษาให้เจ้าอีก และอีกภายในครึ่งปีเจ้าจะหายเป็นปกติ”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับเก็บเข็มทองคำ
”ขอบคุณมาก!!”
สุ่ยหยุนเฟิงตื่นเต้นเป็นอย่างเขาไม่เชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ครึ่งวันที่เขาใช้ไปเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต
”ข้าก็ขอยินดีด้วยแต่เจ้าจงอย่าลืมว่าเจ้าเคยให้สัญญาอะไรกับข้าเอาไว้ หวังว่ามันก็ยังคงเป็นสัญญา”ชิงสุ่ยหัวเราะเบาๆ
”ข้ารู้ข้าไม่ลืมหรอก เจ้าอย่าได้กังวล แค่คำพูดที่เจ้าเตือนสติข้าก็มากพอที่ข้าจะไม่กลับมาทำอะไรพวกเราอีกแล้ว ฉะนั้นต่อให้เจ้ารักษาข้าไม่ได้ ข้าเองก็คงไม่คิดมาก แต่เจ้ากลับทำตามสัญญา ช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับข้าจริงๆ”
และด้วยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ชิงสุ่ยครอบครองมันยิ่งทำให้เขาอยากเป็นเพื่อนกับเด็กหนุ่มผู้นี้เพราะว่ายังไงซะบนโลกใบนี้ หมอเทวดาย่อมมีค่าเหนือสิ่งใด
สุ่ยหยุนเฟิงนำกระดาษบันทึกเรื่องการหมั้นทั้งหมดออกมาจากนั้นก็ส่งให้กับชิงสุ่ย”สิ่งนี้เป็นของเจ้าแล้ว และข้าหวังว่าเจ้าจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ ตัวข้านั้นต้องการเป็นเพื่อนกับเจ้า ข้าไม่ได้ทำไปเพราะหวังผลประโยชน์ที่เจ้าได้ทำให้ข้า แต่ถึงกระนั้นความจริงที่เจ้ารักษาข้าก็ยังคงเป็นความจริง เหตุผลหลักที่ทำให้ข้าอยากรู้จักและเป็นเพื่อนกับเจ้า ก็คือการที่ตั้งเตือนสติข้าให้หันกลับไปมองครอบครัว หลังจากนี้ไปข้าจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของ”