บทที่ 469 เซ่เจียหายตัว

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ รอจนเย่เทียนตื่นขึ้นจากการสลบไสล พระอาทิตย์ก็ตั้งโด่งอยู่บนท้องฟ้าแล้ว

เย่เทียนลืมตาสะลึมสะลือ ภาพที่สะท้อนเข้ามีคือเศษเสื้อผ้าเกลื่อนพื้น เละเทะถึงขีดสุด

เขาเขย่าหัวที่ยังไม่ได้สติเท่าไหร่ เย่เทียนรู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว และมีรอยฟกช้ำดำเขียวบนตัวเพิ่มมาไม่น้อย

“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

เย่เทียนพึมพำตามสัญชาตญาณ เสียงแหวกอากาศพลันดังขึ้นข้างหู เขาไม่ทันจะตั้งตัวก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบนหน้า

“คุณ….”

นาทีเดียวกับที่เย่เทียนตื่นเต็มที่ เขาก็พลันโมโหโทโส และรีบหันไปมอง ทว่าทึ่งไปในชั่วพริบตา

เขาเห็นเซ่เจียดึงผ้าห่มคลุมตัวนั่งอยู่ข้างเขา ใบหน้างดงามนั้นฉายแววโกรธเกรี้ยวโดยไม่ปิดบัง!

“นี่ นี่มันห้องของผมไม่ใช่เหรอ คุณ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เย่เทียนงงไปหมด ยังไม่คิดออกเลยสักนิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

ถ้าเขานึกออกว่าเมื่อคืนได้กระทำอะไรเลวทรามลงไปบ้าง คงจะรู้สึกว่าโดนตบแค่นี้เบาเกินไป!

“เย่เทียน! นายมันสมควรตาย!”

เซ่เจียที่เพิ่งตื่นเหมือนกันบันดาลโทสะในบัดดล เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะเสียตัวให้ไอ้คนระยำอย่างเย่เทียน!

ความตั้งใจเดิมของเธอแค่อยากช่วยถอนพิษเท่านั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเย่เทียนจะทรพี ด้วยสถานการณ์ที่ถูกขืนใจขนาดนั้น จะไม่ให้เธอโมโหได้ยังไง?!

เซ่เจียยิ่งคิดยิ่งฉุน เธอไม่สนอะไรอีก เงื้อมกำปั้นต่อยใส่เย่เทียนไม่ยั้ง

แต่พอเป็นแบบนี้ผ้าห่มที่เซ่เจียนำมาปิกปิดตัวเองก็จะหลุด และต้องเผยเรือนร่างอรชร

การได้มองในระยะใกล้ชิดขนาดนี้ เย่เทียนอึ้งไปทันตา

ที่สำคัญที่สุดคือไม่รู้ว่าเพราะเห็นสิ่งย้ำเตือนหรือเปล่า เย่เทียนพอจะนึกภาพสวาทเมื่อคืนออกคร่าวๆแล้ว

ตึ้ง!

ด้วยความเหม่อลอยไปชั่วขณะ เย่เทียนโดนเซ่เจียถีบตกเตียง หัวโขกกับพื้นอย่างแรง

“เดี๋ยวก่อน! คุณ คุณอย่าเพิ่งวู่วาม! ฟังผมอธิบายก่อน!”

แต่เย่เทียนไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดที่หลังหัว เขารีบเอามือข้างหนึ่งปิดจุดสําคัญ และมืออีกข้างโบกไปมา

“มาอธิบายตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร!”

“แกมันสารเลว! คนไร้จรรยาบรรณ! ไอ้โรคจิต! ฉันจะฆ่าแก!”

เซ่เจียโกรธจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่สนเลยว่าตอนนี้เธอได้เปิดเผยร่างเปลือยเปล่า เซ่เจียกระโจนขึ้นจากเตียงอย่างคล่องแคล่ว และพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนด้วยความเร็วปานสายฟ้า

เย่เทียนตกใจ คิดไม่เลยว่าเซ่เจียจะมีฝีมือขนาดนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาถามเธอให้ละเอียดถี่ถ่วนแล้ว

แต่ตอนนี้เย่เทียนที่ตื่นตระหนกไม่อาจรักษาความสุขุมเอาไว้ได้

มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาทําเรื่องที่ผิดต่อเซ่เจียลงไปจริงๆล่ะ?

ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นฝ่ายเอาเปรียบ ดูจากท่าทางโกรธจัดของเซ่เจีย ไม่แน่อาจจะต้องการฆ่าเขาจริงๆก็ได้!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เย่เทียนก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีก เขากลิ้งสองตลบอยู่บนพื้นอย่างทุลักทุเล หลังจากหลบหลีกการโจมตีของเซ่เจียได้แล้วก็รีบกระโจนเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมปิดประตูดังปัง

เย่เทียนใช้หลังดันประตูอย่างนึกกลัว พร้อมตะโกน “ไม่สิ ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ คุณใจเย็นๆแล้วฟังผมคอธิบายก่อน!”

“เข้าใจผิด? เมื่อคืนแกครางซะสบายเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วจะมีอะไรเข้าใจผิดอีก?!”

“เย่เทียน ถ้าแกยังเป็นผู้ชายอยู่ก็ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เซ่เจียจะใจเย็นได้ยังไง เธอออกแรงทุบประตูห้องน้ําอย่างหนัก

เย่เทียนหน้าตาหมดอาลัยตายอยาก แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบก็จริง แต่เมื่อคืนสติเขาไม่อยู่กับตัวนะ!

เขาสลัดความทรงจําที่แตกเป็นเสี่ยงๆออก แทบจะจำเหตุการณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้ แล้วจะจําสิ่งที่ตัวเองพูดได้ยังไง

“แค่กๆ! คุณ คุณใจเย็นๆก่อน!”

“อย่าง อย่างน้อยคุณก็ใส่เสื้อผ้าก่อนได้มั้ย?”

เย่เทียนคิดแล้วคิดอีก แต่ก็หาวิธีแก้ไขปัญหาตรงหน้าไม่เจอ

ถึงยังไงไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ตัวเองก็ล่วงเกินเซ่เจียไปแล้วจริงๆ

เสียงทุบประตูเงียบสงัดฉับพลัน ก่อนจะมีเสียงปิดประตูดังปังตามมา รอต่อไปอีกหลายนาทีก็ไม่ได้ยินสุ้มเสียงอะไรจากด้านนอก เย่เทียนถึงกล้าแง้มประตูเป็นซอกเล็กๆอย่างระวังเพื่อดูเหตุการณ์ด้านนอก

บางทีคำพูดเมื่อกี้ของเขาเกิดผล เซ่เจียออกจากห้องไปก่อนจริงๆ และเอาผ้าห่มกับผ้าปูที่นอนไปด้วย

มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เสื้อผ้าของเธอโดนเย่เทียนฉีกขาดกระจุยไปหมดแล้ว แม้ว่าห้องของทั้งสองคนติดกัน แต่จะออกไปแบบเปลือยๆก็คงไม่ได้

“หรือว่า นี่เป็นครั้งแรกของเธอ?”

ถ้าเอาไปแค่ผ้าห่มยังไม่เท่าไหร่ แต่เอาผ้าปูที่นอนไปด้วยนี่ทำให้เย่เทียนต้องกลับมาคิดใหม่

พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เย่เทียนก็เอามือทึ้งผมอย่างสลด ถ้าเป็นแบบที่เขาคาดเดาจริงๆ เรื่องนี้ก็ตึงมือซะแล้ว!

จากที่เย่เทียนคิดไว้ตอนแรก ในโลกที่สิ่งยั่วยุเกลื่อนกลาด ตัวเซ่เจียก็อยู่ในวงการบันเทิงที่เปรียบดั่งโรงย้อมสี แม้ว่าเธอจะแสดงออกว่าโมโหมาก แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดก็จะใจเย็นลงและลืมเรื่องนี้ไปสนิท

แต่ดันเป็นครั้งแรกของเซ่เจีย เรื่องแบบนี้ก็เหมือนรักแรก ไม่มีทางลืมได้ง่ายๆ และอาจจะตราตรึงใจกว่าปกติด้วย!

นี่ยังเป็นแค่สถานการณ์ของเซ่เจีย ถ้าเซ่เจียบอกเฉินหวั่นชิง ด้วยนิสัยของคุณหนูเฉินเกรงว่าได้ลากเขาไปเขตและเปลี่ยนเล่มแดงเป็นเล่มเขียวทันที!

“นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย?!”

เย่เทียนเครียดจนแทบกระอักเลือด คิดไปคิดมาก็คิดวิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบไม่ออก

ด้วยความเหนื่อยใจ เย่เทียนพยายามสงบสติ หาชุดจากกระเป๋าเดินทางมาใส่ และไม่ยอมเสียเวลา ออกจากห้องเพื่อไปยังห้องข้างๆ

ไม่ว่าเรื่องนี้จะตึงมือแค่ไหนก็ต้องจัดการอยู่ดีไม่ใช่เหรอ? ต่อให้โชคดีเลี่ยงไปได้ในครั้งนี้ ก็คงเลี่ยงในครั้งต่อไปไม่ได้แล้ว

ถ้าเซ่เจียมีอะไรผิดปกติแล้วไม่ถือสาจริงๆล่ะ?

อีกอย่าง ถ้าทำให้เขาหมดทนทางจริงๆก็มาอีกรอบซะเลย กำราบเซ่เจียให้อยู่หมัดตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ให้เธอเต็มใจเป็นแฟนสาวในความลับ

คิดมาถึงตรงนี้ เย่เทียนรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจลึกๆ เมื่อคืนเขาอยู่ในสภาพไม่มีสติ ไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ!

แค่ฐานะดาราดัง พอคิดๆดูแล้วก็ตื่นเต้นสุดๆ

ตึ้งตึ้ง!

น่าเสียดาย เย่เทียนยืนอยู่หน้าประตูเซ่เจียด้วยใจตุ้มๆต่อมๆเป็นเวลาห้านาทีเต็ม อย่าว่าแต่เปิดประตูเลย ไม่มีแม้แต่เสียงด้วยซ้ำ”

“คงไม่ใช่ว่าหมดอาลัยตายอยากเลยไปฆ่าตัวตายนะ?”

การเดาอันบ้าบิ่นนี้ทำให้เย่เทียนตะลึง เขารีบถีบประตูห้องอย่างแรงและบุกเข้าไปด้วยความแข็งกร้าว

แต่สถานการณ์ข้างในห้องกลับทำให้เย่เทียนขมวดคิ้วเป็นปม

เซ่เจียไม่อยู่ในห้องด้วยซ้ำ!

ไม่ใช่แค่เซ่เจีย แม้แต่กระเป๋าเดินทางที่เธอพกมาก็หายไปด้วย!