TQF:บทที่ 493 ผลตอบแทนหนาแน่น สงครามเริ่ม (2)

 

ตาของอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์เป็นประกาย สีหน้าดีใจ “ส่งพวกเขาออกไปปกป้องอำเภอสำคัญต่างๆก่อน แล้วก็ตั้งวิชาสะกดที่ทุกตำบลเท่าที่จะตั้งได้”

 

“จริงด้วยคุณหนู วิธีนี้สุดยอด” ผู้เฒ่าหยิงปรบมือ

 

โม่ซวนซุนยิ้มก่อนจะเบือนสายตาไปมอง “งั้นข้าก็ต้องวิ่งวุ่นไปทั่วน่ะสิ”

 

“โอ๊ย แย่แล้ว ถ้าไอพวกสารเลวนี่ก่อเรื่องขึ้นในตอนนี้จริงๆแล้วเราไม่สามารถกำราบพวกมันได้ภายใน 1 เดือน งานแต่งของคุณหนูและคุณชายก็ต้องเลื่อนไปอีกน่ะสิ”

 

ผู้เฒ่าหยิงตีหัวตัวเอง โวยวายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

 

หน้าหล่อเหลาของโม่ซวนซุนอึมครึมทันที “ไอพวกระยำตำบอน รนหาที่ตายรึ”

 

“เหอะๆๆ” อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์อดขำไม่ได้

 

คนอื่นๆก็อดขำกับทั้งคู่ไม่ได้

 

ช่วงเวลาหลังจากนั้นวิปริตแปรปรวน

 

เรื่องที่เมืองโลกทมิฬจะทำสงครามได้กระจายสู่ประชาชน เกิดเสียงเล่าลือไปทั่วทั้งในหมู่ผู้ฝึกวิทยายุทธและประชาชนธรรมดา

 

แน่นอนว่าสายตาส่วนใหญ่ตกมาอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน ดูว่าพวกเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง

 

อีก 3 เมืองที่เหลือก็ส่งคนมาถามไถ่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน แน่นอนว่า 9 นิกายใหญ่ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง รีบพากันมาเหมือนกัน

 

ไม่นานนักก็มีคำสั่งรวมพลจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทุกคนที่เข้าร่วมศึกครั้งนี้จะได้รับทรัพยากรเหล่านี้ สัตว์วิญญาณ ข้าวจิตวิญญาณ น้ำจิตวิญญาณ ผลไม้จิตวิญญาณวิเศษ สมุนไพรจิตวิญญาณ

 

นี่ถือเป็นค่าตอบแทนสำหรับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ นอกจากของเหล่านี้แล้ว ในช่วงเวลาที่ทำสงครามกันอยู่ ไม่ว่าจะต้องการอะไรดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนรับผิดชอบหมด พยายามรักษาชีวิตของผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทุกคนไว้

 

ขณะเดียวกัน ไม่ว่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธจะได้รางวัลอะไรจากสนามรบก็เป็นของตัวบุคคลนั้นๆทุกอย่าง ไม่ต้องส่งมอบให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน

 

เมื่อเงื่อนไขเหล่านี้ถูกประกาศออกมาก็เกิดเสียงฮือฮาไปทั่วผืนดินอีกครั้ง

 

รางวัลใหญ่ขนาดนี้ราวกับหย่อนระเบิดลงตรงหน้าเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ ทำให้ทุกคนเวียนหัวหาทิศไม่เจอ คนส่วนใหญ่ดีใจสุดๆ แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยง แต่รางวัลพวกนี้ดึงดูดพวกเขาเกินไป เพื่อยกระดับวิทยายุทธแล้ว ต้องทุ่มเทเท่านั้น

 

อีกอย่างการไปสู่สนาบรบก็ใช่ว่าจะต้องตายเสมอไป ถ้าไม่ตาย เชื่อว่าในสนามรบต้องได้อะไรอีกมากแน่ เรื่องดีขนาดนี้พวกเขาจะพลาดได้ไง

 

เหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่ไม่มีสำนักต่างเดินทางมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน

 

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนครึกครื้นอีกครั้ง

 

โถงประชุมเนืองแน่นทุกวัน ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธถูกส่งออกไปพวกแล้วพวกเล่า

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงวุ่นอยู่กับการทำยา แม้ว่าจะทำได้วันนึงเป็นร้อยๆพอให้ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทุกคนเอาไปด้วย แม้แต่ของเก่าในคลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนก็ถูกแจกจ่ายออกไปจนหมด ของที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ที่สามารถช่วยชีวิตคนได้ ไม่ว่าจะมีเท่าไหร่คนก็ยังมองว่าน้อย

 

ฮูหยินทั้ง 3 เห็นร่างที่กำลังยุ่งก็อดถอนหายใจไม่ได้

 

“ลิขิตคนสู้ลิขิตฟ้าไม่ได้จริงๆ”

 

ฮูหยินกงถอนหายใจเบาๆ “ข้าว่า พวกเราคงต้องพักไว้ก่อน สถานการณ์ตอนนี้คงจะไม่สงบลงในเร็ววันนี้หรอก ถึงพวกเราจะตั้งใจจัดเตรียมยังไง แต่ถึงเวลาคนอื่นๆไม่สามารถมาร่วมงานแต่งอย่างสบายใจได้ แบบนี้สู้พักไว้ก่อนจะดีกว่า”

 

“แต่ว่า เลื่อนไปเรื่อยๆแบบนี้จะไม่ดีกับพวกเขา 2 คนรึเปล่า” ลั่วหยูฉินสีหน้าทุกข์ใจ

 

หรงจิ้งซือก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ไม่มีหรอกดีไม่ดี ก็แค่วันที่เท่านั้น ถ้าพวกเขารักกันดีจะจัดงานแต่งตอนไหนก็ได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าครั้งนี้จะเจอเรื่องแบบนี้อีก ท่าทางพวกเขาต้องรอถึงปีหน้าถึงจะมีวันดีอีก”

 

“ใช่แล้ว ต้องปีหน้าถึงจะมีวันดี” ลั่วหยูฉินพูดอย่างช่วยไม่ได้

 

“พวกเจ้า 2 คนจะรีบอะไร ยังไงซะพวกเขาก็เพิ่งจะอายุ 10 กว่าปี 20 กว่าปีเอง อย่าว่าแต่ช้าไปไม่กี่เดือนเลย ต่อให้ช้าไปอีกหลายปีก็ไม่เห็นจะเป็นไร”

 

จู่ๆคุณนายกงก็หัวเราะขั้นมา “พวกเจ้าไม่ลองคิดดูหน่อยว่ายัยหนูซีหยวนของข้าอายุ 25 แล้ว ลั่วจุนฮ่าวก็อายุ 30 กว่าแล้ว ข้ายังไม่รีบเลย”

 

“ไม่รีบก็แปลกแล้ว” หรงจิ้งซือกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ข้าน่ะรู้จักเจ้าดี เมื่อก่อนใครกันที่แทบจะห่อลูกสาวส่งออกไป พาลูกสาวตะลอนไปทุกที่หวังว่าจะเจอคนที่เหมาะสม ที่ๆมาบ่อยที่สุดก็ที่วิหารสวรรค์เนี่ยแหละ ใช่มั้ยล่ะ”

 

“เฮอะ เจ้ายังกล้าพูดอีก ลูกเขยที่ข้าถูกใจช่าง…”

 

กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่คุณนายกงก็หยุดไป อย่างไรซะก็มีอีกคนอยู่ข้างๆ เดี๋ยวจะไม่น่าฟัง

 

ลั่วหยูฉินรู้ว่าคุณนายทั้ง 2 เคยอยากจะเกี่ยวดองกัน แต่ความสัมพันธ์ของเด็กทั้งคู่กลับมีแค่ฉันท์พี่น้องเท่านั้น นางเองก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร

 

“เอาล่ะ เรามาพูดเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ได้ข่าวว่าผู้ฝึกตนวิถีมารนับล้านบุกเข้าอาณาจักรเฟิงหลิงแล้ว”

 

“ใช่แล้ว เดี๋ยวก็จะเกิดการฆ่าล้างกันขึ้นแล้ว”

 

“ผู้ฝึกตนวิถีมารน่ะก็เหมือนเนื้อร้าย ต้องกำจัดให้หมด”

 

“เฮ้อ หวังว่ากำจัดได้ในเดือน 2 เดือนนี้คงจะดี”

 

ฮูหยินทั้ง 3 ถอนหายใจ ส่วนคนที่ยุ่งอยู่ก็ยังต้องยุ่งต่อไป

 

วังสวรรค์ในมิติ

 

หน้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงมีเตายาอยู่คนละเตา พวกนางคอยควบคุมไฟวิเศษในการทำยาอย่างตั้งใจ ข้างๆตัวมีสมุนไพรและขวดหยกกองอยู่ ทั้งมิติอบอวลไปด้วยกลิ่นยา

————————————