TQF:บทที่ 495 บาดเจ็บกันนับไม่ถ้วน (1)

 

 

“อะไรนะ ทำไมพวกเขามาถึงเร็วจัง” โม่ซวนซุนหน้าเครียดกับคำบอกของผู้อาวุโส

 

ในเวลาเพียงครึ่งเดือนกว่า ผู้ฝึกตนวิถีมารก็บุกมาถึงอาณาจักรจงหยวนแล้ว ยอมรับได้ยากจริงๆ

 

ผู้อาวุโสฉินพยักหน้า ตอบด้วยท่าทีจริงจัง “ถูกต้อง คุณชาย พวกเรา…”

 

“พวกเราต้องกำจัดพวกเขาให้ได้ จะให้พวกเขาเข้าไปไม่ได้เด็ดขาด”

 

โม่ซวนซุนสีหน้าเคร่งเครียด หรี่ตามองไปทางข้างหน้า “วิชาสะกดที่นี่ข้าวางไว้เรียบร้อยแล้ว ไป เราไปดูกัน”

 

เนื่องจากโม่ซวนซุนมีความชำนาญด้านวิชาสะกดในระดับชั้นยอด เขาจึงลงมือเดียงคนเดียว คนอื่นๆต้องจับคู่กันไป เพราะฉะนั้น ผู้อาวุโสที่เฝ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ลงมือคนเดียวเมื่อเจอสถานการณ์ แต่แจ้งให้เขาทราบก่อน

 

ร่าง 2 ร่างแว้บผ่านฟากฟ้าไป ปรากฏตัวที่ร้อยลี้ข้างหน้า

 

พวกเขาเห็นผู้ฝึกตนวิถีมารนับร้อยนำฝูงผีดิบกว่าสิบตัวพุ่งเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆ ในหมู่บ้านโกลาหลไปหมด เสียงก่นด่า เสียงกรีดร้อง ดังสะท้านไปทั้งผืนฟ้า

 

ได้เห็นดังนี้โม่ซวนซุนโกรธจนทนไม่ไหว เขาลอยอยู่กลางอากาศ 2 มือส่ายไปมาด้วยพลังภายในอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้บิดเบือนไปทั้งชั้นบรรยากาศ

 

ผู้ฝึกตนวิถีมารด้านล่างสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ พวกเขาเห็นคน 2 คนที่ลอยอยู่กลางอากาศ รู้ทันทีว่าเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเข้าให้แล้ว อดร้อนรนไม่ได้

 

พวกเขาวุ่นวายไปหมด แต่พวกผีดิบไม่ได้หยุด ยังคงพุ่งใส่ประชาชน

 

“ช่วยด้วย คุณชาย ช่วยข้าด้วย”

 

“ท่านเซียน ช่วยพวกเราที พวกสัตว์ประหลาดจะกินพวกเรา….”

 

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”

 

“……..”

 

ข้างล่างมีเสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังระงมไปทั่ว ผู้อาวุโสฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป ยกมือฟาดไปยังพวกผีดิบที่วิ่งอยู่ไกลๆ

 

ชั่วขณะนั้น ทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยรูปฝ่ามือ และแต่ละรูปก็เป็นของจริงสัมผัสได้จริงๆที่เกิดจากความเร็วขั้นสุด

 

สำหรับผู้ฝึกตนวิถีมาร พวกเขารู้สึกเหมือนทุกฝ่ามือกำลังทาบลงมาที่ตัวเอง

 

บนใบหน้าของพวกเขาทุกคนมีความหวาดกลัวอยู่ พวกเขาที่อยู่ในระดับราชันย์เทพยุทธ์แต่กลับไม่มีแรงแม้แต่น้อยที่จะต้านทาน

 

แม้แต่พวกผีดิบก็ขยับไม่ได้ แข็งราวกับหิน

 

ตู้มมมมม

 

มีเสียงดั่งสนั่นเกิดขึ้น หลังจากที่เสียงนั้นเงียบไป รูปฝ่ามือที่ลอยอยู่ทั่วก็ได้หายไปด้วย ในอากาศเหลือแต่บรรยากาศสยดสยอง

 

ทั้งหมู่บ้านตกอยู่ในความเงียบพิลึก

 

พวกปีศาจดุร้ายเมื่อกี้ตายกันหมดแล้วหรือ? พวกคนแบบนั้นถูกคนหนุ่มคนนึงฆ่าตายหมดเกลี้ยงในไม่กี่อึกใจ?

 

นี่ทำให้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ ชาวบ้านที่ยังมีชีวิตรอดต่างอึ้งไม่ไหวติงไปตามๆกัน

 

นี่มันน่ากลัวมาก และก็เก่งมากด้วย หรือว่าท่านเซียนพวกนี้เก่งกาจแบบนี้กันหมด

 

ฉากตรงหน้าทำลายความเชื่อที่ผ่านมาของพวกเขา

 

ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่ผู้อาวุโสฉินก็อึ้งไปเหมือนกัน เหลือเชื่อกับผู้ฝึกตนวิถีมารและพวกผีดิบที่ถูกกำจัดจนเหลือแค่เศษผง

 

โม่ซวนซุนไม่ได้สนใจความผิดปกติของคนด้านล่าง เขาลำเลียงพลังภายในอีกครั้ง มีพลังลมปราณที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนปกคลุมอยู่บนฟ้า ชำระล้างพลังมารที่กำลังจะหนีไปจนหมด

 

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว โม่ซวนซุนก็หายตัวจากไป และสั่งให้ผู้อาวุโสฉินจัดการพวกชาวบ้านที่ถูกผีดิบกัดด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขากลายเป็นผีดิบ ชาวบ้านคนอื่นๆก็ยังอันตรายอยู่

 

โม่ซวนซุนลงมือที่นี่โดยไม่รู้เลยว่า พลังภายในของเขาที่ใช้ไปและยังไม่หายไปได้ทะลุออกจากกฏแห่งฟ้าดินที่ผนึกผืนดินนี้ไว้

 

หญิงสาวชุดแดงคนหนึ่งในผืนดินฉางไห่มีท่าทีเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ ทันใดนั้น นางแน่นิ่งไป ใบหน้าเย็นยะเยือกมีสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

 

สายตาของนางทอดไปยังฝูงเขาที่ห่างไปไม่ไกล

 

มีแสงสีขาวจำนวนหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ฟ้า แฝงไว้ด้วยพลังลมปราณลึกลับ

 

“สวรรค์ นั่นเป็นพลังลมปราณจากผู้สืบทอดวิหารสวรรค์ของเรา ต้องเป็นคนของวิหารสวรรค์แน่ๆ”

 

“ใช่เขา ต้องใช่เขาแน่ เขาไม่อยู่ที่ผืนดืนฉางไห่ มิน่าล่ะข้าหาจนทั่วผืนดินฉางไห่แล้วก็ไม่พบร่องรอยของเขาเลย น่าประหลาดใจจริงๆ”

 

“เขาอยู่บนผืนดินอื่น ทำไงดีๆ ทำไงถึงจะข้ามมิติไปได้ ข้าจะหาเขาได้ยังไง”

——————————————-