AST
บทที่1731 – ขุมสมบัติ วิหารศักดิ์สิทธิ์โบราณแห่งแดนทะเลเหนือ
ข้อมูลจากกฎหมายตระกูลหยวนไม่ได้มีผลกระทบใดๆต่อชีวิตชิงสุ่ย สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการดำเนินชีวิตต่อไปโดยปกติ
……………………..
สถานที่ที่เขาอยู่นั้นอยู่ใกล้กับเขตแดนทะเลเหนือชิงสุ่ยไม่อาจประมาณได้ว่าสถานที่ที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรนั้นอยู่บริเวณใดและลึกมากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามตอนนี้ชิงสุ่ยเอาไม่ได้ตั้งใจจะเดินทางไปไหนทะเลลึกแห่งนั้น
เขาทำความเข้าใจด้านพลังหลายๆอย่างรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว แม้ว่าเขาจะไม่ออกไปปรากฏตัวโดยตรง แต่ก็มีคนอื่นคอยรับมือ
มนุษย์หวาดกลัวความพึงพอใจในตนเองเพราะเมื่อไหร่ที่คนพึงพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ พวกเขาก็จะดื่มด่ำกับความสุขชั่วขณะจนกระทั่งพบว่าการก้าวเข้าสู่ระดับถัดไปจะกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อเป็นเช่นนั้นความแข็งแกร่งจะหยุดเติบโตตามคำพูดที่ว่า “แม้แต่นักบุญศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องเรียนรู้จากคนธรรมดา” มันคือรูปแบบหนึ่งของการเข้าใจสภาวะจิตใจของมนุษย์ มนุษย์ที่แข็งแกร่งก็จะมองดูถูกคนอื่นที่แข็งแกร่งด้อยกว่า เมื่อสภาพจิตตกต่ำ มันก็จะกลายเป็นความเย่อหยิ่ง แต่โชคดีที่ชิงสุ่ยไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น เขายังคงฝึกฝนอย่างมุ่งมั่นเพื่อพัฒนา เขาไม่ต้องการถูกผู้ใดกดขี่ และไม่ต้องการมองโลกใบนี้ด้วยมุมมองที่จำกัด
………………..
ในช่วงพริบตา2 เดือนก็ผ่านไป ในวันนี้ชิงสุ่ยพาชิงซิ่วกลับบ้าน เจ้าตัวน้อยมีอายุเพียงแค่กว่าครึ่งปี ใบหน้าของเจ้าหนูน้อยได้รับกรรมพันธุ์จากอีเย่เจี้ยนเก้อเป็นส่วนใหญ
เจ้าหนูน้อยกอดคอชิงสุ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะมันทำให้จิตใจของชิงสุ่ยเบิกบาน
ช่วงเวลาที่เขาได้อุ้มเจ้าหนูน้อยถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด มันทำให้เขารับรู้ถึงความเป็นพ่อ หน้าที่ของพ่อ ไม่มีใครรู้ได้ว่าความสุขที่สมบูรณ์จะเป็นเช่นไร แต่สำหรับเขาแล้วแค่นี้ก็ถือว่ามีสุขมากพอ novel-lucky
ทันทีที่พวกเขากลับถึงบ้านประมุขพระราชวังสุริยาก็รีบเดินออกมาต้อนรับ เด็กน้อยเริ่มจดจำคนรอบข้างได้ แม้จะไม่คุ้นเคย แต่เจ้าเด็กน้อยก็ยอมให้ทุกคนกอด
”สุ่ยหยุนเฟิงมาที่นี่เขารอเจ้าอยู่ที่ห้องนั่งเล่น”หลัว ชิงเฉิงกล่าวขณะเล่นกับชิงซิ่ว
”เข้าใจละเดี๋ยวข้าออกไปดูเอง”
ชิงสุ่ยลูกหัวชิงซิ่วก่อนจะมุ่งหน้าออกไปที่ห้องนั่งเล่น
นี่ก็ผ่านไปกว่า2 เดือนแล้วหลังจากที่ชิงสุ่ยทำการรักษาสุ่ยหยุนเฟิง เขามักจะแวะเวียนมาที่นี่บ่อยครั้ง ฉะนั้นตลอดทั้ง 2 เดือน เขาเดินทางมาที่นี่เกือบ 10 ครั้ง ”พี่ชายท่านมาแล้วหรือ!!”ขณะที่เดินเข้ามา ชิงสุ่ยก็มองเห็นอีเย่เจี้ยนเก้อ และสุ่ยหยุนเฟิง รวมถึงมู่หยุน ชิงเก้อกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างอยู่ อาจเป็นเพราะทุกคนแสดงความเป็นมิตรภาพออกมา จึงทำให้การพูดคุยเป็นไปด้วยความราบรื่น
”จริงสิชิงซิ่วอยู่ที่ใดกัน? ทำไมน้องชายไม่พาเจ้าตัวน้อยออกมาด้วย?”สุ่ยหยุนเฟิงยิ้มขณะกล่าวถาม
หญิงสาวทั้งสองคนเดินกลับไปทันทีเพื่อให้ชิงสุ่ยและสุ่ยหยุนเฟิงได้มีเวลาพูดคุยเมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองคนจะไป เขาก็ยิ้มและกล่าวกลับสุ่ยหยุนเฟิงว่า “อาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง? รู้สึกไม่สบายตัวอย่างนั้นหรือ?”
”ไม่เลยเพียงแค่ความรู้สึกของข้ามันดูช้าลง”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ดูข่มขืน
”พี่ชายมันก็ดีแล้ว ด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนก ท่านจะไม่สามารถลิ้มรสเต้าหู้ที่อบอุ่นได้ ข้ารับประกันได้ว่าอาการบาดเจ็บของท่านจะต้องหาย ท่านไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้”ชิงสุ่ยเข้าใจและรู้ว่าสุ่ยหยุนเฟิงนั้นรู้สึกเช่นไร
”อืมเออจริงสิ ชิงสุ่ยข้าเพิ่งได้ข่าวบางอย่างมา เจ้าสนใจที่จะฟังหรือไม่?”สุ่ยหยุนเฟิงดวงตาเปล่งประกายขณะมองดูชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยจ้องมองสุ่ยหยุนเฟิงดวงตาที่สับสนมีเรื่องไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่จะทำให้ดวงตาของสุ่ยหยุนเฟิงทอแสงประกาย มันทำให้ชิงสุ่ยสงสัยว่าข่าวนี้คือข่าวอะไร
”แน่นอนสิข้าต้องอยากรู้”ชิงสุ่ยจ้องมองสุ่ยหยุนเฟิง
”มีข่าวคราวว่าภายในเส้นทางมังกรการุณแห่งแดนทะเลเหนือมีสมบัติซ่อนอยู่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นคือมันถูกป้องกันโดยอสูรผู้พิทักษ์ที่น่าเกรงขาม ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ไป ขุมกำลังจากทุกหนแห่งก็รีบเร่งเดินทางมาที่แห่งนี้ น้องชาย เจ้าสนใจมันหรือไม่?”สุ่ยหยุนเฟิงมองดูชิงสุ่ยขนณะที่เขาอธิบายอย่างช้าๆ
ขณะฟังคำอธิบายชิงสุ่ยยังคงอยู่ในท่าทางสงบนิ่งมันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้หัวใจของชายผู้นี้รู้สึกตื่นเต้นหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมบัติ เพราะเขาก็มีมันครอบครองอยู่มากมาย มากจนเขาเริ่มลังเลที่จะเข้าร่วมการค้นหาสมบัติครั้งนี้
”เส้นทางมังกรการุณแห่งแดนทะเลเหนือ!!”ชิงสุ่ยกล่าวมันอีกครั้งก่อนจะมองหน้าสุ่ยหยุนเฟิงด้วยท่าทางตกใจ “มันคือเส้นทางมังกรที่เชื่อมต่อเข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนือใช่หรือไม่?”
สุ่ยหยุนเฟิงพยักหน้า
ขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็เริ่มที่จะลังเล แม้ว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนือจะสาบสูญไป หากนับย้อนไปตั้งแต่ครั้งอดีตกาล มันคือวิหารที่ครอบครองความแข็งแกร่ง แล้วยังมีกิ่งก้านสาขากระจัดกระจายออกไปทั่วพื้นที่ ปัญหาคือไม่มีใครรู้ว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนือยังคงส่งผ่านและครอบครองโดยลูกหลานของกลุ่มวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนืออีกหรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าสมบัติที่อยู่ในเส้นทางมังกรการุณอาจจะเป็นสิ่งของของวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนทะเลเหนือ
ธรรมชาติของมนุษย์คือความโลภไม่ว่าจะเป็นเพราะข่าวลือหรืออะไรก็ตาม หากมันก่อให้เกิดผลประโยชน์ มนุษย์ก็พร้อมหาวิธีไขว่คว้า ทุกคนต่างยอมเสี่ยงโชคสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อเดินทางเข้าสู่เส้นทางมังกรการุณแห่งแดนทะเลเหนือ โชคดีพวกเขาจะได้รับสมบัติจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่ง พวกเขาจะร่ำรวยในพริบตาและจะมีหญิงสาวคอยอยู่ในบริวาร
แน่นอนว่าตอนนี้ชิงสุ่ยก็เริ่มจะสองจิตสองใจ