จักรพรรดิเทพมังกร – บบทที่ 949 : สิ่งตอบแทน!
“ไม่ได้!”
หลิงหยุนปฏิเสธข้อเสนอของเย่ซิงเฉินในทันที..
น่าขัน..หลิงหยุนตกลงร่วมมือกับเย่ซิงเฉินง่ายๆ โดยไม่ถามแม้แต่ชื่อศัตรูของนาง แล้วจะปล่อยนางกลับไปโดยที่เขายังไม่ได้อะไรเลยงั้นหรือ
หลิงหยุนเป็นคนโง่ถึงเพียงนั้นเชียวรึ
หลิงหยุนจ้องลึกลงไปในดวงตาของเย่ซิงเฉินในขณะที่บอกเงื่อนไขของตนเองออกไป
“ก่อนรุ่งสาง..ข้าต้องได้พบพวกนางทั้งสองคน เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนางอยู่ในกำมือของเจ้าจริงๆ และเพื่อความปลอดภัยของพวกนาง ข้าจะพาทั้งสองคนกลับไปที่จิงฉู!”
เวลานี้ก็ใกล้จะตีสองแล้ว..เนื่องจากเป็นฤดูร้อน กลางคืนจึงค่อนข้างสั้น และเหลืออีกเพียงแค่สองชั่วโมง ท้องฟ้าก็จะสว่างไสวแล้ว..
เย่ซิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยแสดงถึงความไม่พอใจและถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “นี่เจ้าไม่เชื่อใจข้างั้นรึ”
หลิงหยุนยิ้ม“หากข้าไม่เชื่อใจเจ้า ก็คงจะไม่รับปากร่วมมือกับเจ้าแน่! แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อใจ หรือไม่เชื่อใจ! ในเมื่อข้ารับปากที่จะร่วมมือกับเจ้าแล้ว เจ้าจะไม่ให้ข้าพบพวกนางเลยงั้นรึ”
“อีกอย่าง..เจ้าเองก็ควรจะรู้ดีกว่าใครๆ ว่าครั้งนี้ปัญหาของข้านั้นหนักหนาเพียงใด และไม่รู้ว่ามียอดฝีมือมากมายเพียงใดที่กำลังมาตามหาตัวข้าที่จิงฉู หากข้าไม่สะสางปัญหาเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ก็คงจะมีห่วง อีกอย่างเจ้าเองก็ทำตัวลึกลับเดี่ยวมาเดี๋ยวหายเช่นนี้ หากข้าอยากรู้เรื่องของพวกนาง ข้าจะตามตัวเจ้าพบได้อย่างไรเล่า?”
เย่ซิงเฉินครุ่นคิดอย่างหนักเพราะคำพูดของหลิงหยุนนั้นถูกต้อง และเป็นความจริง ความกังวลใจของเขาจึงเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ และมีเหตุมีผล
“แต่..”
“ไม่มีแต่..”
หลิงหยุนไม่รอให้เย่ซิงเฉินพูดจบด้วยซ้ำเขารีบร้องขัดขึ้นมาทันที และพูดต่อว่า “เจ้าจับตัวพวกนางไปเพื่อต่อรองให้ข้ายอมร่วมมือกับเจ้าไม่ใช่รึ เห็นแก่ที่เจ้าช่วยเหลือข้าในคืนนี้ ข้าจึงได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับเจ้า! ในเมื่อเจ้าเองก็บรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ควรจะปล่อยตัวพวกนางได้แล้ว!”
“แล้วข้าก็รู้ว่าเจ้าคงอยากจะถามข้าว่า..หากเจ้าคืนตัวพวกนางให้กับข้าแล้ว ข้ากลับไม่รักษาสัญญาล่ะ”
หลิงหยุนเป็นฝ่ายพูดความในใจของเย่ซิงเฉินออกมาเองจากนั้นจึงตอบนางกลับไปยิ้มๆ
“ในเมื่อเจ้าสามารถจับตัวพวกนางได้ครั้งหนึ่งแล้วการจะจับตัวพวกนางอีกเป็นครั้งที่สองก็คงไม่ยากอะไรไม่ใช่รึ ข้าเองก็ไม่สามารถอยู่กับนาง และคอยปกป้องพวกนางได้ตลอดเวลานี่..”
เมื่อได้ฟังหลิงหยุนพูดเช่นนั้นเย่ซิงเฉินจึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก..
“หลิงหยุน..ข้าคิดว่าเจ้าจะฉลาดกว่านี้เสียอีก! เจ้าคิดว่าที่ข้าจับตัวพวกนางสองคนมาเพื่อบีบให้เจ้าร่วมมือกับข้างั้นรึ”
หลิงหยุนถึงกับนิ่งไปก่อนจะถามออกไปว่า “ถ้าไม่ใช่.. แล้วเจ้าจับตัวพวกนางมาด้วยเหตุผลใดงั้นรึ”
เย่ซิงเฉินตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกว่าเดิม“คืนนั้น.. หากไม่ใช่เพราะข้าไปจับตัวพวกนางมาก่อนแล้วล่ะก็ พวกนางสองคนคงต้องตกไปอยู่ในกำมือของซือกงวู่จี๋แล้ว! ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าหากพวกนางตกไปอยู่ในกำมือของซือกงวู่จี๋ เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!’
“ซือกงวู่จี๋เป็นผู้ที่ชื่นชอบการบ่มเพาะเคียงคู่และคนอย่างซือกงวู่จี๋ก็ไม่เคยสนใจว่าหญิงสาวผู้นั้นจะเป็นลูกเมียใครด้วย!”
หลิงหยุนได้ฟังก็นึกถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับหลินเมิ่งหานและเหยาลู่ได้ในทันทีหากพวกนางตกอยู่ในกำมือของซือกงวู่จี๋ แล้วเขาก็ถึงกับเย็นสันหลังวาบ..
กลับกลายเป็นว่าที่เย่ซิงเฉินจับตัวหลินเมิ่งหานกับเหยาลู่ไปนั้นก็เพื่อปกป้องพวกนางนี่เอง!
หลิงหยุนนิ่งไปครู่ใหญ่จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“อภัยให้ข้าด้วย! ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก..”
“ฮึ..ทำดีกลับไม่ได้ดี!” เย่ซิงเฉินทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ
แม้นางจะทำกิริยาท่าทางออกไปเช่นนั้นแต่ความจริงแล้วในใจกลับรู้สึกมีความสุขอย่างมาก..
หลิงหยุนยิ้มเคอะเขินพร้อมกับตอบไปว่า“ในเมื่อเจ้าช่วยพวกนางไว้ หากพวกนางดื้อดึงไม่เชื่อฟังเจ้า หรือสร้างความรำคาญใจให้กับเจ้า เจ้าก็อบรมพวกนางได้ตามสมควร..”
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของหลิงหยุนเย่ซิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับพูดเสียงใส “ใครอยากจะอบรมพวกนางกันเล่า บอกข้ามา.. ครั้งนี้เจ้าจะตอบแทนข้าเช่นใด?”
หลิงหยุนถึงกับอึ้งไปและร้องถามออกมาอย่างงุนงง “ข้าก็รับปากจะร่วมมือกับเจ้าแล้วไม่ใช่รึ ยังต้องตอบแทนอะไรอีก?”
เย่ซิงเฉินตอบกลับทันที“ร่วมมือก็ส่วนร่วมมือ.. ตอบแทนก็ส่วนตอบแทน.. สองสิ่งนี้เป็นคนละเรื่องกัน..”
หลิงหยุนถึงกับหมดหนทางและได้แต่ยกมือขึ้นผายออกพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เจ้าบอกข้ามาก็แล้วกันว่าอยากได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน.. แต่บอกไว้ก่อนนะ อย่าขออะไรที่มากมายจนเกินไป!”
เย่ซิงเฉินหัวเราะคิกคักพร้อมกับพูดหยอกเย้า “นี่เจ้ากลัวถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย“เจ้าเองก็รู้ว่าข้ามาจากครอบครัวยากจน ไม่ได้มีธุรกิจอะไรมากมาย มีเพียงมือเปล่าสองข้าง..”
“มือเปล่าสองข้างงั้นรึ!”
เย่ซิงเฉินยกมือขึ้นชี้ไปที่มือข้างซ้ายของหลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า“สมบัติล้ำค่าของเจ้าล้วนอยู่ในแหวนวงนี้สินะ”
หลิงหยุนได้ฟังถึงกับขนหัวลุกและรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก..
หากไม่ใช่เพราะหญิงสาวทั้งสองคนหลิงหยุนคงจะรีบหันหลัง และหนีไปให้ห่างจากเย่ซิงเฉินทันที ไม่ปล่อยให้ตนเองต้องถูกขูดเลือดขูดเนื้อเช่นนี้แน่..
หลิงหยุนผู้มีนิสัยขี้เหนียวยิ่งกว่าอะไรรีบชักมือซ้ายไปซ่อนไว้ด้านหลังทันที สายตาของเขาที่จ้องมองเย่ซิงเฉินนั้นบ่งบอกว่าไม่ไว้ใจนางอย่างมาก
“นี่เจ้ากำลังคิดที่จะทำอะไร..!”
ในแหวนพื้นที่ของหลิงหยุนนั้น..นอกจากลูกธนูมากมายแล้ว ก็ยังมีอาหารและเครื่องดื่มที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่เหลือนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติล้ำค่าทั้งสิ้น!
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่าหากเย่ซิงเฉินกล้าเอ่ยปากขอหม้อเสินหนงหรือว่ากระบี่โลหิตแดนใต้จากเขาแล้วล่ะก็ เขาไม่มีทางยินยอมแน่ และหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องสู้กับนาง..
สมบัติล้ำค่าพวกนี้..แน่นอนว่าหลิงหยุนไม่สามารถมอบให้ผู้ใดได้!
อีกทั้งสมบัติล้ำค่าอย่างต้นหลิวเทวะประคำโพธิ และสมบัติชิ้นอื่นๆ เขาก็ไม่สามารถให้เย่ซิงเฉินรู้ได้เช่นกัน
และจากที่ฟังเย่ซิงเฉินพูดมาก่อนหน้านี้หลิงหยุนคาดเดาว่าเย่ซิงเฉินคงจะรู้เฉพาะเรื่องที่เขามีน้ำลายมังกร สมุนไพรหายากที่นำมาจากป่าเสินหนงเจี๋ย ไข่มุกราตรี หยกจักรพรรดิ และหินพลังชีวิตอื่นๆ
แต่ถึงกระนั้น..ทุกสิ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติที่ล้ำค่าสำหรับหลิงหยุน เขาจึงระล้าระลังที่จะมอบให้ผู้ใดเป็นธรรมดา
หลิงหยุนกำลังรอคอยคำตอบของเย่ซิงเฉินด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย..
ดวงตาของเย่ซิงเฉินเป็นประกายสดใสยิ่งกว่าเดิมและกำลังจ้องมองหลิงหยุนราวกับว่ากำลังเริ่มขุดค้นหาสมบัติล้ำค่าในตัวเขา
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีหยกจักรพรรดิแล้วก็ศิลาห้าสีไม่ใช่รึ” เย่ซิงเฉินเริ่มต่อรอง..
“ข้าขายไปนานแล้ว!”novel-lucky
หลิงตอบกลับไปห้วนๆและน้ำตาก็แทบจะร่วงออกมาในขณะที่หาทางหยุดเย่ซิงเฉิน “ต่อให้ข้ายังไม่ขายไป ก็คงไม่สามารถเก็บหินที่ทั้งใหญ่ และหนักไว้ในแหวนพื้นที่ได้แน่!”
“อ่อ..หม้อเสินหนงไม่ใหญ่ แล้วก็ไม่หนักเลยสินะ! เจ้าถึงได้เก็บมันไว้ในแหวนพื้นที่ได้ ข้าก็แค่อยากจะเปิดหูเปิดตาเท่านั้น หากเจ้าไม่ให้ ก็ไม่เป็นไร..”
เย่ซิงเฉินพูดพร้อมกับทำท่าทางจะลุกขึ้นยืนและเตรียมตัวจะจากไป..
“เดี๋ยก่อน..”
หลิงหยุนรีบลุกขึ้นทันทีพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาราวกับกระซิบ “ข้านำติดตัวมาด้วย.. ข้าจะนำออกมาให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน!”
หลิงหยุนคิดว่าหยกจักรพรรดิกับศิลาห้าสีนั้นมีขนาดที่ใหญ่โตมากเย่ซิงเฉินไม่มีทางนำกลับไปด้วยได้อย่างแน่นอน เขาคิดว่านางมารน้อยผู้นี้คงจะแค่อยากเปิดหูเปิดตาอย่างที่นางพูดจริงๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลิงหยุนจึงเรียกหยกจักรพรรดิ และศิลาห้าสีออกมาจากแหวนพื้นที่ และนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงหยุนนำมันออกมาให้ผู้อื่นได้ชื่นชม
หินสีเขียวและสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่พื้น และกำลังทอประกายระยิบระยับท่ามกลางความมืด
เย่ซิงเฉินจ้องมองหินขนาดใหญ่ทั้งสองก้อนด้วยสีหน้าตกตะลึง..
หยกก้อนใหญ่นี้..นับว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาได้อย่างงดงาม ผู้ใดได้พบเห็นคงยากที่จะไม่ตกตะลึง..
เย่ซิงเฉินจ้องมองอยู่นานก่อนจะค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปใกล้พร้อมกับยื่นมือออกไปสัมผัสหินทั้งสองก้อนอย่างระมัดระวัง..
“ไม่แปลกเลย..”
หลิงหยุนร้องถามทันที“ไม่แปลกอะไรรึ”
เย่ซิงเฉินพึมพำเสียงเบา“ไม่แปลกที่พวกมันถูกยกย่องให้เป็นหินล้ำค่ายังไงเล่า!”
หลิงหยุนเห็นท่าทางของเย่ซิงเฉินจึงรีบร้องเตือนสตินางทันที“อย่าลืมนะ.. เจ้าบอกข้าว่าต้องเปิดหูเปิดตาเท่านั้น!”
เย่ซิงเฉินยืนชื่นชมอยู่เงียบๆแต่แล้วจู่ๆ นางก็พูดขึ้นว่า “เจ้าต้องแกะสลักรูปเหมือนของเข้าด้วยหยกจักรพรรดิชิ้นนี้ เอ่อ.. ขนาดสักหนึ่งฟุตก็พอ! แต่เจ้าต้องตั้งใจแกะสลักให้งดงามด้วยล่ะ..”
หลิงหยุนได้แต่เศร้าใจเมื่อคิดว่ารูปแกะสลักของเย่ซิงเฉินขนาดหนึ่งฟุต จะต้องใช้หยกจักรพรรดิมากเพียงใด
“อ่อ..หยกเนื้อดีหาได้ยากเช่นนี้ ข้าอยากได้ชุดเครื่องประดับสำหรับผู้หญิงอีกหนึ่งชุด ให้มีทั้งต่างหู สร้ยอคอ กำไล แล้วก็แหวนด้วยล่ะ..”
แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองและพบว่านางไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไร “ข้ารับปากจะทำเครื่องประดับให้กับเจ้า”
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า‘ไว้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าทั้งต้นทั้งดอกเลยทีเดียว!’
จากนั้นหลิงหยุนจึงเรียกหินทั้งสองก้อนกลับเข้าไปไว้ในแหวนพื้นที่ดังเดิมแต่ยังไม่ทันที่หลิงหยุนจะได้หายใจโล่ง เขาก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นมาว่า
“หลิงหยุน..เจ้ามีไข่มุกราตรีกี่เม็ดงั้นรึ”