เปิดใช้งานหอคอยอัญเชิญ

คำเตือนของออสเซ็ททำให้ซือเฟิงนั้นหลุดออกมาจากห้วงความคิดลึก

“ฉันเลือกคุกป้อมปราการ และหอคอยอัญเชิญ !!” ซือเฟิงรีบกล่าวตอบทันที

จากสิทธิพิเศษระดับทองแดงที่มีให้นั้น คุกป้อมปราการนั้นนับเป็นข้อบังคับที่ต้องมีเลยในความคิดของซือเฟิง หากไม่มีฟังชั่นก์นี้เขาจะไม่สามารถยับยั้งศัตรูไม่ให้ก่อปัญหาในป้อมปราการได้

สำหรับสิทธิพิเศษระดับเงินอย่างหอคอย Manafication และหอคอย Object Creation จะช่วยเพิ่มมูลค่าของป้อมปราการโบราณ และทำให้มันเป็นที่นิยมมากขึ้น

อย่างไรก็ตามป้อมปราการแสงดาวนั้นมันเป็นป้อมปราการแห่งเดียวที่ถูกยึดได้ในหุบเขาดาวตอนนี้ และด้วยเหตุนี้มันจึงไม่มีการแข่งขันใดๆ ผู้เล่นทุกคนที่ต้องการจะเข้ามาพัฒนาตัวเองในหุบเขาดาวนั้นจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้ามาเยี่ยมชมป้อมปราการแสงดาวซึ่งทำให้หอคอยทั้งสองนั้นไม่จำเป็น

ในทางกลับกันหอคอยอัญเชิญนั้นเป็นคนละเรื่องกัน

จากสามสิทธิพิเศษระดับเงินมีเพียงหอคอยอัญเชิญเท่านั้นที่จะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถควบคุมป้อมปราการแสงดาวได้มากขึ้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่กิลต้องการมากกว่าสิ่งใดๆ ในตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีสมาชิกอยู่เพียงสิบคนในทวีปด้านตะวันตก และหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเผ่าศักสิทธิ์ พวกเขาก็จะไม่สามารถจัดการป้อมปราการได้ แม้จะสามารถเข้ายึดได้แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามหากเพิ่มหอคอยอัญเชิญเข้าไปสมการทั้งหมด ทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนั้น

ตราบใดที่สภาสิบแปดปีกอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอออกมาได้ กิลก็จะยังคงยืนหยัดยึดป้อมปราการเอาไว้ได้ แม้ว่าจะไม่มีสมาชิกอยู่ที่นี่เลยก็ตาม

สิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญมานั้นจะทำตามเงื่อนไขพฤติกรรมพื้นฐานที่ผู้เล่นกำหนดไว้ ผู้เล่นนั้นสามารถจะออกคำสั่งให้สิ่งมีชีวิตอัญเชิญมาปกป้องคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ครอง หรือไม่ก็ป้องกันไม่ให้คนบางคนเข้าสู่ป้อมปราการได้เช่นกัน เมื่อรวมกับคุกป้อมปราการแล้ว มันจึงจะไม่มีผู้เล่นคนใดกล้าก่อความวุ่นวายในป้อมปปราการแน่นอน

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญมานั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ

หากสิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญมาไม่สามารถจะฆ่าหรือปราบปรามผู้เล่นได้เร็วพอ หอคอยอัญเชิญก็จะไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ดีกว่าของตกแต่งเล็กน้อย ซึ่งมันก็จะแตกต่างจากหอคอย Manafication และหอคอย Object Creation ที่ให้ประโยชน์ที่ชัดเจน หอคอยอัญเชิญนั้นจะมีประโยชน์เทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญมาได้

ยิ่งไปกว่านั้นการดูแลสิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญมายังจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก

ในตอนแรกนั้นผู้เล่นจะสามารถอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่มีเลเวลเท่ากับพวกเขาออกมาได้ และในการจะเพิ่มเลเวลให้กับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญนั้น ผู้เล่นจะต้องลงทุนทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งจำนวนทรัพยากรที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับมาตราฐานของสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ ยิ่งสิ่งมีชีวิตอัญเชิญทรงพลังมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งต้องใช้ทรัพยากรมากเท่านั้น

จากข่าวลือที่ซือเฟิงได้ยินมาค่าใช้จ่ายรายวันในการดูแลสิ่งมีชีวิตปีศาจขั้นห้านั้นมันใกล้เคียงกับผลกำไรโดยรวมที่กิลชั้นสูงทั่วไปทำได้ต่อวันเลย หากไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถรองรับการใช้งานของหอคอยอัญเชิญได้

อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับปัญหานี้เลยในตอนนี้ ป้อมปราการแสงดาวนั้นเป็นป้อมปราการเดียวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้เล่นจากทั่วทั้งหุบเขาดาวในตอนนี้ และมันยังอยู่ใกล้กับดันเจี้ยนภูมิภาค โหมดพระเจ้าในแผนที่นี้ด้วย ถ้าซือเฟิงสามารถสร้างกฎของเขาให้อยู่เหนือดันเจี้ยนภูมิภาคได้ เขาก็จะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทุกวันจากป้อมปราการ ซึ่งแค่ที่นี่เพียงอย่างเดียวเขาก็น่าจะทำกำไรได้มากพอๆกับที่กิลชั้นสูงกิลหนึ่งทำได้ต่อวันแล้ว เขาจะสามารถสร้างโชคลาภให้กับตัวเองได้อย่างมหาศาลโดยการเก็บแค่ค่าเข้าเยี่ยมชม

ป้อมปราการโบราณนั้นมันไม่ได้ถูกจัดการโดย NPC ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นนั้นจะไม่จำเป็นต้องแบ่งเข้าเยี่ยมป้อมปราการกับระบบ ผู้เล่นนั้นจะได้รับเข้ากระเป๋าตัวเองหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เลย ยิ่งไปกว่านั้นป้อมปราการขนาดเล็กแบบนี้ยังสามารถจะเรียกเก็บค่าเข้าได้สูงสุดถึงยี่สิบเหรียญเงินต่อคน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ป้อมปราการโบราณนั้นล้วนเป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่มหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

เมื่อซือเฟิงได้ตัดสินใจแล้ว ออสเซ็ทก็ได้เริ่มร่ายเวทย์ จากนั้นวิญญาณ NPC ผู้นี้ก็ได้ทำการเขียนรูนลึกลับขึ้นกลางอากาศ และนำมันไปสลักไว้บนโทเค่นในมือของซือเฟิง

ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งแสงก็ปรากฎขึ้นเหนือโทเค่นซึ่งแสดงรายการสิทธิพิเศษทั้งหกที่ซือเฟิงได้รับมาให้เลือก่อนหน้านี้ โดยสองจากหกนั้นมันก็เรืองแสงขึ้นมามากกว่าอันอื่นๆ

คุกป้อมปราการ : สถานะปลดล๊อค

ค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งาน : คริสตัลเวทย์มนต์สามหมื่นชิ้น

ต้นทุนการดำเนินงานรายวัน : คริสตัลเวทย์มนต์สามพันชิ้น

คุณต้องการจะเปิดใช้งานคุกป้อมปราการไหม ?

หอคอยอัญเชิญป้อมปราการแสงดาว : สถานะปลดล๊อค

ค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งาน : คริสตัลเวทย์มนต์ห้าหมื่นชิ้น

ต้นทุนการดำเนินงานรายวัน : คริสตัลเวทย์มนต์ห้าพันชิ้น

คุณต้องการจะเปิดใช้งานหอคอยอัญเชิญไหม ?

เมื่อเห็นข้อความแจ้งแบบนี้ ซือเฟิงจึงเลือกจึงเลือกจะเปิดใช้งานหอคอยอัญเชิญก่อนคุกป้อมปราการในตอนนี้

ป้อมปราการแสงดาวนั้นยังคงถูกผนึกอยู่ และมันก็ยังไม่ได้อนุญาติให้บุคคลภายนอกเข้ามา ดังนั้นซือเฟิงจึงไม่จำเป็นจะต้องรีบเปิดใช้งานคุกป้อมปราการ คริสตัลเวทย์มนต์นั้นไม่ได้หาได้ง่ายๆ ถ้าเขาเปิดใช้มันตอนนี้ เขาน่าจะเสียคริสตัลเวทย์มนต์ไปโดยเปล่าประโยชน์ราวหกพันชิ้นเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามสำหรับหอคอยอัญเชิญนั้น ยิ่งเขาเปิดใช้งานมันได้เร็วเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งดีเท่านั้น

การอัญเชิญสิ่งมีชีวิตออกมานั้นมันต้องใช้เวลา และยิ่งสิ่งมีชีวิตเป้าหมายมีพลังมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งต้องใช้เวลาในการอัญเชิญนานขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้การดูแลและจัดการกับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญนั้นมันก็ต้องใช้เวลา ซึ่งซือเฟิงผู้ที่ตอนนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเวลาเลยจึงต้องรีบอัญเชิญสิ่งมีชีวิตออกมาให้ไวที่สุด และถ้าเขาโชคดีเขาก็จะสามารถเพิ่มเลเวลของสิ่งมีชีวิตให้ได้ในอีกสองวัน

มอนสเตอร์นั้นไม่เหมือนกับ NPC และผู้เล่น เมื่อเลเวลของมันสูงขึ้นค่าสถานะพื้นฐานและพลังการต่อสู้ของพวกมันจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดของเลเวล ในการเปรียบเทียบกันนั้น ผู้เล่นและ NPC ไม่ได้รับการเพิ่มความแข็งแกร่งมากนัก เมื่อมีเลเวลเพิ่มขึ้น พวกเขายังคงต้องอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ควบคู่ไปด้วย

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ใช้คริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนชิ้นในทันที โดยครึ่งหนึ่งเพื่อเปิดใช้งานหอคอยอัญเชิญ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งเพื่อรักษามันไว้เป็นเวลาสิบวัน

เมื่อมีการเปิดใช้งานหอคอยอัญเชิญ อักษรรูนใหม่ก็ปรากฎขึ้นบนโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการ และกลายเป็นตราประทับที่มือขวาของซือเฟิงด้วย

ระบบ : คุณเปิดใช้งาน หอคอยอัญเชิญป้อมปราการแสงดาวสำเร็จแล้ว วงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่ของหอคอยอัญเชิญได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว คุณสามารถที่จะใช้รูนอัญเชิญเพื่อเทเลพอร์ตไปยังหอคอยอัญเชิญได้ทุกเวลา โดยรูนอัญเชิญจะมีคูลดาวน์หนึ่งวันตามธรรมชาติ

หอคอยอัญเชิญนั้นมีความสามารถแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ? ซือเฟิงแปลกใจเล็กน้อย ขณะเหลือบมองไปยังรูนอัญเชิญบนฝ่ามือของเขา

มันไม่ได้มีอะไรน่าทึ่งเกี่ยวกับวงเวทย์เทเลพอร์ตของ God domain เมืองของ NPC ทุกเมืองมีมัน และผู้เล่นก็สามารถสร้างมันที่สถานที่พักกิลของตัวเองได้ด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้นั้นล้วนเป็นวงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดเล็กหรือขนาดกลางทั้งหมด วงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่สาบสูญไปแล้ว และมันไม่เหมือนกับวงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดเล็กกับขนาดกลาง วงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่นั้นอนุญาติให้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักสองด้านได้
ซึ่งวงเวทย์ในหอคอยอัญเชิญนี้ก็เป็นวงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งหมายความว่าซือเฟิงจะสามารถเดินทางกลับมาที่ป้อมปราการแสงดาวได้ตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะอยู่ในทวีปด้านตะวันออกก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นรูนอัญเชิญยังมีคูลดาวน์เพียงวันเดียว และนี่ก็ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่สะดวกอย่างน่าเหลือเชื่อ

การเดินทางระหว่างทวีปหลักสองด้านนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ เนื่องมาจากวงเวทย์เทเลพอร์ตโบราณที่อนุญาติให้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักสองด้านได้ล้วนมีระยะเวลาแน่นอนที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด หากผู้เล่นพลาดในเวลาที่กำหนด พวกเขาจะต้องรอจนกว่าจะถึงการเทเลพอร์ตครั้งต่อไป ซึ่งนี่นับเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับกิลที่ต้องการจะขยายอำนาจในทวีปหลักสองด้าน และราคาของไอเทมนั้นมันก็มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา และหากผู้เล่นไม่สามารถสต๊อคของและทำการขายได้ในเวลาที่เหมาะสม การทำเช่นนี้มันก็จะส่งผลให้หลายสิ่งซับซ้อนมากๆ

รูนอัญเชิญนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การเดินมายังทวีปด้านตะวันตกทำได้ง่ายขึ้น แต่เขาก็ยังจะสามารถเก็บรวบรวมไอเทมจากทวีปด้านตะวันตกไปด้วยได้แทบทุกเวลาที่เขาต้องการ และเขาก็จะสามารถทำกำไรโดยการขายสินค้าจากทวีปด้านตะวันออกได้อย่างมหาศาลด้วย

หลังจากรู้สึกอิ่มเอมและมีความสุขเชื่อครู่ ซือเฟิงก็เปิดใช้งานรูนอัญเชิญ และเทเลพอร์ตไปยังหอคอยอัญเชิญทันที

หอคอยอัญเชิญนั้นตั้งอยู่ทางทิศใต้สุดของป้อมปราการแสงดาว โดยหอคอยนี้นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในป้อมปราการ โดยมันมีความสูงถึงสองร้อยเมตร และจากด้านบนของหอคอย ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในป้อมปราการได้

ขณะที่วงเวทย์เทเลพอร์ตบนชั้นบนสุดของหอคอยอัญเชิญสว่างขึ้น ซือเฟิงก็ได้ปรา
กฎตัวขึ้นมาในหอคอย

หลังจากมาถึงซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะว่าออสเซ็ทนั้นรอเขาอยู่ที่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามครั้งนี้ร่างกายของเขาดูชัดเจน และสามารถจับต้องได้มากขึ้น ไม่เหมือนกับวิญญาณก่อนหน้านี้

“ผู้ถือครองโทเค่น หอคอยอัญเชิญนั้นได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว หากคุณต้องการจะอัญเชิญผู้พิทักษ์ป้อมปราการออกมา ฉันก็จำเป็นที่จะต้องแจ้งสองสิ่งให้คุณทราบ วงเวทย์นี้ต้องการสื่อที่มีพลังสูงเพียงพอในการจะอัญเชิญผู้พิทักษ์ออกมา และมันไม่สามารถจะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตใดๆออกมาได้โดยไม่ป้อนข้อมูล และยิ่งสื่อมีพลังสูงเท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตอัญเชิญที่ถูกอัญเชิญออกมาก็จะยิ่งมีพลังแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น

“การอัญเชิญแต่ละครั้งนั้นก็จะมีคูลดาวน์หนึ่งเดือน ฉันหวังว่าคุณจะใช้หอคอยอัญเชิญได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” ออสเซ็ทกล่าวกับซือเฟิง ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นหมอกและหายไป

แน่นอนซือเฟิงรู้ถึงปัจจัยเหล่านี้อยู่แล้ว

ข้อมูลนี้เป็นเหตุผลที่เขาเลือกหอคอยอัญเชิญ

น่าจะเป็นที่นี่แหละ … เมื่อมาถึงแท่นบูชาอัญเชิญ ซือเฟิงก็ดึงกรงเล็บที่มีขนาดเท่ากับมนุษย์ที่โตเต็มวัยออกมาจากกระเป๋าของเขา และวางไว้บนแท่นบูชา

ซึ่งกรงเล็บนี้นั้นก็เคยเป็นกรงเล็บของมังกรน้ำแข็งฮีธไวท์ และเป็นหนึ่งในวัสดุระดับตำนานเพียงสองชิ้นที่ซือเฟิงมีอยู่กับตัว

ในตอนแรกซือเฟิงต้องการจะใช้กรงเล็บมังกรน้ำแข็งนี้ เมื่อเขาได้รับแบบแปลนอาวุธระดับอีปิคมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการอัญเชิญมังกรน้ำแข็งออกมาก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่สองที่เลวร้าย สิ่งมีชีวิตอัญเชิญของเขาจะสามารถช่วยปกป้องป้อมปราการได้อย่างมาก และแม้แต่กองทัพมอนสเตอร์ทั่วไปก็จะไม่สามารถทำอะไรกับป้อมปราการของเขาได้

แม้ว่าเขาจะสามารถอัญเชิญเบเฮโมทแสงดาวออกมาได้จากเกล็ดของเบเฮโมทแสงดาว แต่มอนสเตอร์ตัวนี้ก็ไม่ได้มีความน่าเกรงขามเท่ากับมังกรน้ำแข็ง

ทันทีที่ซือเฟิงวางกรงเล็บลงบนแท่นบูชา เขาก็ได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมาที่หูของเขา

ระบบ : แท่นบูชาอัญเชิญได้ค้นพบกรงเล็บมังกรน้ำแข็ง คุณต้องการจะวิเคราะห์สื่อนี้ไหม ?

“ต้องการ !!” ซือเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะทำการตัดสินใจ

สื่อบางชนิดนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ และหากสื่อที่เลือกมีพลังไม่เพียงพอ การอัญเชิญก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เขานั้นก็แอบรู้สึกเจ็บเล็กๆเช่นกันที่ต้องเสียสละกรงเล็บมังกรน้ำแข็ง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้เรื่องของป้อมปราการแสงดาวต้องมาก่อน

เมื่อแท่นบูชาเริ่มทำการวิเคราะห์ ควันสีม่วงเข้มก็โผล่ออกมาจากแท่นบูชาอัญเชิญ และห่อหุ้มกรงเล็บขนาดมหึมาเอาไว้

เมื่อเวลาผ่านไปซือเฟิงก็เริ่มกังวลมากขึ้น

หากการวิเคราะห์กรงเล็บมังกรน้ำแข็งออกมาไม่น่าพอใจ เขาก็คงจะต้องตัดสินใจอัญเชิญเบเฮโมทแสงดาวออกมาแทน ….

ในขณะที่ซือเฟิงกำลังเริ่มคิดในแง่ร้ายแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นอีกครั้ง

ระบบ : อัตราความสำเร็จสื่อพลังขั้นกลางอยู่ที่แปดสิบเก้าเปอเซ็นต์ และมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการอัญเชิญ คุณต้องการจะอัญเชิญผู้พิทักษ์ไหม ?

“อัญเชิญ !!!”