บทที่ 475 รอสักคร

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ยืนทื่อทำไมกัน? ยังไม่รีบเข้าไปจับไอ้หมอนั่นมาอีก!”

แม้ว่าหัวหน้าหลี่จะรู้ดีว่าเจิ้งเหวยกั๋วกำลังกล่าวหาเย่เทียน แต่เขาไม่อยากยุ่งยากกับเจิ้งเหวยกั๋วอีก จึงได้แต่ออกคำสั่งโดยตรง

เพราะถึงอย่างไรแล้ว เหล่ารปภ. ก็คงไม่นอนเจ็บปวดคร่ำครวญอยู่บนพื้นโดยไร้สาเหตุหรอกว่าไหม?

โดยสรุปแล้ว การพาตัวเย่เทียนกลับไปก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด!

สำหรับโทษที่จะกล่าวหาเย่เทียนนั้น ไม่ใช่เรื่องของหัวหน้าหน่วยเล็กๆ อย่างเขาแน่นอน!

“หัวหน้าหลี่เหรอ? ผมรู้ว่าคุณต้องรับผิดชอบตามหน้าที่ แต่ว่า……”

เมื่อเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเดินเข้ามา เย่เทียนก็เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่เหนือแผนกต้อนรับ จากนั้นขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเฉยเมยกับหัวหน้าหลี่ “ผมหวังว่าคุณจะให้เวลาผมสักสองสามนาทีนะ ไม่อย่างนั้นผมเกรงว่าคุณจะต้องเสียใจภายหลังแน่!”

หัวหน้าหลี่ถึงกับสะดุ้ง และสีหน้าความโกรธก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เดิมทีบริษัทแช่เจิ้งเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำของโลกอยู่แล้ว และทุกๆ ปียังมีอิทธิพลส่งผลต่อ GDP ของเมืองเอกอีกด้วย ดังนั้นเบื้องบนจึงมอบหมายให้ดูแลเขาเป็นพิเศษตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เจิ้งเหวยกั๋วยังเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เขาไม่เคยถือตัวกับพวกเขา และทุกครั้งที่เรียกพวกเขามาช่วยเหลือต้องมีผลประโยชน์เป็นข้อแลกเปลี่ยนเสมอ

มิฉะนั้นเขาจะรีบมาทันทีหลังจากที่ได้รับสายได้อย่างไร?

แต่ว่า ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่ไร้นิรนามคนนี้กลับขอให้เขารออีกสองสามนาที ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องเสียใจภายหลังแน่?

แต่เขาเป็นถึงหน่วยงานข้าราชการ และไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย แล้วทำไมต้องรอตามคำขอของเย่เทียน? มันคิดว่ามันเป็นเหมือนกับเจิ้งเหวยกั๋วหรือ?

แน่นอน ถ้าเย่เทียนยอมพูดดีๆ เขาก็ใช่ว่าจะรอไม่ได้ แต่ใครให้เย่เทียนหยิ่งผยองขนาดนี้ล่ะ? ฉะนั้น ถ้าเขาดีกลับก็คงจะแปลกน่าดู

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เสียงพูดของเย่เทียนลดลง ทัศนคติของหัวหน้าหลี่ที่มีต่อเขาก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

“นี่คุณขู่ผมอยู่เหรอ?”

สีหน้าของหัวหน้าหลี่เริ่มจริงจังและเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ผมขอเตือนคุณก่อนว่าควรระมัดระวังคำพูดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นผมจะฟ้องคุณในข้อหาข่มขู่เจ้าพนักงานได้!”

“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะเคยแบล็กเมล์คุณเจิ้งเหวยกั๋วจริงหรือไม่ แต่ผมว่ารปภ. กลุ่มนี้คงไม่ล้มนอนกับพื้นโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ? แค่นี้ผมก็มีสิทธิ์ที่จะจับคุณแล้ว!”

“ผมขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามเราอย่างเชื่อฟัง ถ้าหากคุณคิดจะต่อต้านการจับกุม เรามีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังในการจับกุมคุณด้วย!”

“แค่พวกคุณเนี่ยนะ? ผมคิดว่าพาผมไปไหนไม่ได้หรอก!”

เย่เทียนก็เริ่มไม่พอใจหัวหน้าหลี่

ดังคำกล่าวที่ว่า กฎหมายไม่มีอะไรมากไปกว่าความรู้สึกของมนุษย์หรอก

เพราะเย่เทียนไม่ได้ขอให้หัวหน้าหลี่และคนอื่นๆ ล้มเลิกภารกิจแล้วกลับไป แต่เขาแค่ขอให้พวกเขารอสักครู่เท่านั้น แล้วแค่นี้มันมากไปจริงหรือ?

“ยืนทื่ออยู่ทำไม? เข้าไปจับมันสิ!”

เมื่อเห็นทัศนคติที่หยิ่งจองหองของเย่เทียน มันก็ทำให้หัวหน้าหลี่ซึ่งหงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!

ตั้งแต่เขาสวมใส่ชุดตำรวจนี้ ใครบ้างที่ไม่เคยให้เกียรติเขา? แต่เย่เทียนกลับยั่วยุเขาอย่างไม่หยุด แล้วจะมีหรือที่เขาจะไม่เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว!

ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าหลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือต่างก็มองหน้ากันและหยิบกระบองยางที่คาบอยู่บนรอบเอวออกมาแล้วเข้าไปล้อมเย่เทียนไว้อย่างชำนาญ

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แต่คุณสั่งลูกน้องมาทำแบบนี้กับผม คุณไม่กลัวผมจะฟ้องคุณในโทษฐานบังคับใช้กฎหมายที่มีความรุนแรง แล้วคุณต้องเสียตำแหน่งไปเหรอ?!”

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ เย่เทียนกลับยิ้มตอบแล้วเพ่งมองไปที่หัวหน้าหลี่

ส่วนหัวหน้าหลี่ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เขาไม่คิดเลยว่าเย่เทียนจะสามารถรักษาอารมณ์ที่แน่วแน่ได้ขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อะไรไหม?

“ประธานเจิ้งครับ ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ผมอยากทราบว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใครมาจากไหนครับ?”

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หัวหน้าหลี่ไม่ได้สนใจเย่เทียนเลยด้วยซ้ำ ได้แต่หันกลับไปกระซิบถามเจิ้งเหวยกั๋ว

“ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งที่มาจากเจียงหนาน” เจิ้งเหวยกั๋วแสยะยิ้มแล้วตอบอย่างไม่ใส่ใจ

เขาอดไม่ได้ที่จะทำให้เย่เทียนเกิดความขัดแย้งกับฝ่ายตำรวจ แล้วเขาจะพูดความจริงของเย่เทียนให้กับหัวหน้าหลี่ฟังได้อย่างไร?

“ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนเหรอครับ?”

“ประธานเจิ้ง ผมก็ช่วยคุณมาไม่น้อยแล้วนะ คุณห้ามหลอกผมเชียวล่ะ!”

หัวหน้าหลี่ก็ไม่ได้โง่เขลาจนเชื่อเรื่องไร้สาระของเจิ้งเหวยกั๋ว ถ้าหากเย่เทียนเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แล้วเขาจะกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ได้อย่างไร!

“หัวหน้าหลี่ คุณยังต้องกลัวอะไรอีกครับ? คุณก็เห็นกับตาแล้วว่าไอ้หมอนี่มันบุกเข้ามาที่บริษัทแช่เจิ้งของผมแล้วทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผมไปมากมาย คุณต้องให้ความเป็นธรรมในทางกฎหมายต่อผมนะครับ!”

“อีกอย่าง คุณอย่าลืมนะครับว่าผมสนิทกับเบื้องบนของคุณ หรือว่าคุณอยากให้ผมโทรหาพวกเขา?”

เมื่อเห็นหัวหน้าหลี่เริ่มลังเล เจิ้งเหวยกั๋วก็เกิดความไม่พอใจขึ้น

แล้วหัวหน้าหลี่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเจิ้งเหวยกั๋วกำลังข่มขู่เขา ดังนั้นสีหน้าของเขาก็บูดบึ้งทันที

แต่นี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ถ้าเขาแจ้งเบื้องบนจริงๆ หัวหน้าหลี่ก็จะต้องเสียเวลาอีกหลายปีในการเลื่อนขั้นตำแหน่งของเขา

แต่ความโกรธก็อยู่ส่วนความโกรธไป เพราะหัวหน้าหลี่รู้ดีว่าชาตินี้เขาไม่อาจต่อกรกับคนอย่างเจิ้งเหวยกั๋วได้แน่นอน

“ไอ้หนุ่ม ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย กลับไปกับพวกเราซะโดยดี ไม่อย่างนั้นคุณจบไม่สวยแน่!”

เมื่อนึกถึงจุดนี้ หัวหน้าหลี่ซึ่งเต็มไปด้วยความหงุดหงิดก็หันกลับมาแล้วระบายอารมณ์ให้กับเย่เทียน

เมื่อเห็นว่าหัวหน้าหลี่เริ่มจริงจัง เจิ้งเหวยกั๋วที่มองเย่เทียนอยู่ด้านหลังก็แสยะยิ้มออกมาแล้วแอบนินทาในใจ ใครให้เอ็งอยากอวดดีนัก? ตอนนี้รู้สึกผิดแล้วใช่ไหมล่ะ?!

เขาตัดสินใจแล้วว่า ถ้าหากเย่เทียนถูกควบคุมตัวจริงๆ เขาจะใช้เส้นสายทั้งหมดของเขาเพิ่มโทษ แล้วให้เย่เทียนต้องถูกส่งตัวเข้าคุกให้ได้!

เมื่อถึงเวลานั้น ชีวิตความเป็นความตายของเย่เทียนก็จะขึ้นอยู่กับเขาไม่ใช่หรือ?!

เพราะการทะเลาะวิวาทในเรือนจำมันไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว!

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น บางทีสถานการณ์อาจเป็นไปตามสิ่งที่เจิ้งเหวยกั๋วจินตนาการก็ได้ แต่ที่น่าเสียดายคือ คนที่เขากำลังเผชิญอยู่คือเย่เทียน!

ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งได้เข้าจับตัวเย่เทียนไว้แล้ว และพวกเขากำลังพยายามใส่กุญแจมือที่เย็นเฉียบไว้ที่มือของเขา!

แน่นอนว่าเย่เทียนไม่เลือกที่จะขัดขืนอยู่แล้ว!

เพราะเขาตั้งใจจะยืดเยื้อเวลาสักพักเพื่อลองใจหัวหน้าหลี่ และเวลาอันสั้นนั้นก็ผ่านไป!

“หัวหน้าหลี่ ผมก็จะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน ทางที่ดีคุณรีบปล่อยตัวผม ไม่อย่างนั้นผมขอรับประกันว่าคุณจะเสียใจภายหลัง!”

ถึงแม้เย่เทียนจะไม่ขัดขืน แต่ปากของเขาก็พูดไม่หยุด และพึมพำอย่างเสียงดังเหมือนกับหัวหน้าหลี่

“พวกเราจะไม่มีวันทำร้ายพลเมืองที่ดีแม้แต่คนเดียว แต่แน่นอนว่าเราก็จะไม่ปล่อยพลเมืองเลวให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียวเช่นกัน!”

“ไม่ว่าจะยังไง คุณทำร้ายกลุ่มรปภ. ของบริษัทแช่เจิ้งไปแล้ว การที่ผมจะใส่กุญแจมือคุณแล้วเอาตัวคุณไปดำเนินตามกฎหมาย ผมเชื่อว่าเบื้องบนของผมจะไม่โทษผมหรอก!”

หัวหน้าหลี่จะสนใจคำพูดข่มขู่ของเย่เทียนได้อย่างไร เขาได้แต่โบกมือแล้วเตรียมเอาตัวเย่เทียนออกไป

แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นจากด้านนอกอย่างกะทันหัน และรถที่ไม่ยอมลดความเร็วก็พุ่งเข้ามาอย่างเต็มกำลัง……