ส่วนที่ 4 ตอนที่ 71 ผู้ชายหายนะ

ความลับแห่งจินเหลียน

จู่ๆ จ่านมู่ฮวาก็รู้สึกว่าน่าขันอยู่บ้าง “คุณนี่ก็จำได้แต่ sm สินะ?” 

 

 

“ก็นั่นเป็นของเดิมพันของผู้ชนะอย่างฉันนี่คะ เหมือนอย่างคุณตอนนี้ก็เหมือนเป็นของฉันทั้งหมด!” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

 

“ว่าไปแล้วก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น” จ่านมู่ฮวาหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ดูเข้าใจกว่าเด็กน้อยน่ารักไม่ซุกซน เขามองไปซีเหมินจินเหลียนอีกครั้ง เหมือนว่าตัวเธอกำลังกลั่นแกล้งตัวเขาอยู่ก็ไม่ปาน

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าฉันอยากจะทำอะไรกับคุณก็ได้ไม่ใช่เหรอ” ซีเหมินจินเหลียนก็ยิ้มกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มท่าทางเช่นนี้เหมือนกับเด็กน้อยแสนน่ารัก

 

 

“คุณจะทำอะไรกับผม” จ่านมู่ฮวาต่อประเด็นต่อจากเธอ

 

 

“ฉันจะจับคุณมัดเอาไว้” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มด้วยท่าทางราวกับผู้บริสุทธิ์                            “จากนั้นก็ใช้แส้ เทียน…”

 

 

 “คุณจะเล่น sm จริงๆ น่ะเหรอ” จ่านมู่ฮวาหัวเราะ ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเขาถึงกลับรอคอยขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

 

“จริงสิ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า สายตาเริ่มมองหาเชือก   

 

 

“ถ้าหากคุณอยากจะเล่นจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมจะช่วยทำให้คุณมีความสุขแล้วกัน!” จ่านมู่ฮวายิ้ม

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเมื่อเห็นเขาท่าทางไม่เดือดร้อนทุกข์ใจ อีกทั้งยังมีท่าทางว่านอนสอนง่าย ก็พลันนึกถึงความโหดร้ายอำมหิตของคนคนนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ภาพของจ่านป๋ายที่โชกไปด้วยโลหิตที่เธอพบเจอในครั้งแรกปรากฏขึ้นมา ทำให้เธอต้องกัดฟันแน่น แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันจะไปหาเชือก” พอพูดจบเธอก็ตรงไปที่ห้องใต้ดิน แล้วนำเชือกที่อยู่ที่ประตูออกมา เชือกนี้เตรียมไว้สำหรับเวลาขนย้ายหินหยก แต่ตอนนี้มันช่างเป็นประโยชน์จริงๆ

 

 

“คุณมานี่” ซีเหมินจินเหลียนยกยิ้มขึ้นด้วยสายตายั่วยวนเรียกให้จ่านมู่ฮวาเข้ามา

 

 

จ่านมู่ฮวารู้สึกคาดไม่ถึง เธอยังมีเชือกด้วยหรือ? อีกทั้งดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่แค่ของตกแต่งธรรมดาๆ หรือว่าเธอจะมีงานอดิเรกแบบนี้จริงๆ?   

 

 

“คุณไปเอาเชือกมาจากที่ไหน” จ่านมู่ฮวาถามอย่างสงสัย

 

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ ในระหว่างที่จ่านป๋ายยังไม่กลับมา เธอจะมัดคนคนนี้ไว้เสียก่อน ตนเองจะได้ปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่จะมัดไว้ที่ไหนดีล่ะ โซฟาหรือ? อันนั้นก็ดูจะนิ่มไป ไม่มีประโยชน์อะไร หรือว่าจะเก้าอี้ดี? แต่นั่นก็เบาไปหน่อย

 

 

เพียงไม่นานสายตาของซีเหมินจินเหลียนก็ตกไปอยู่ที่ราวบันได ราวบันไดนั่นทำด้วยวัสดุไม้ น่าจะแข็งแรงพอ แต่เขาจะยอมเล่นด้วยเหรอ?

 

 

จ่านมู่ฮวามองตามสายตาของเธอไปและมองราวบันไดอยู่หลายครั้ง “คุณคิดจะผูกผมไว้ตรงนั้นเหรอ นี่คุณมีงานอดิเรกแบบนี้จริงๆ สินะ”  

 

 

“คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มถาม “ถ้าหากคุณไม่เต็มใจที่จะเล่น คุณก็ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย”

 

 

“ได้” จ่านมู่ฮวายิ้ม แต่ว่าเชือกนี้ก็ดูไม่ได้อันตรายอะไร เขาจะยอมให้เธอมัดสักรอบก็ได้ คิดอย่างนั้นก่อนจะเดินไปที่ราวบันไดข้างหน้าอย่างว่าง่าน เธอจะให้เขาเล่นอย่างไรเขาก็จะเล่นตามน้ำไป…

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกแปลกประหลาดในใจอยู่บ้าง ผู้ชายคนนี้ก็บ้าไปแล้วหรืออย่างไร? คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมให้ความร่วมมือกับเธอจริงๆ ไม่เห็นหรืออย่างไรว่าเธอถือเชือกเตรียมมัดเขาไว้อยู่? ความจริงแล้วเธอก็แค่อยากหาข้ออ้างที่จะไล่เขากลับไปก็แค่นั้น คนคนนี้น่ากลัวเกินไป ไม่รู้ว่าใครบอกว่าภายนอกเหมือนยิ้มด้วยท่าทางบริสุทธิ์สดใสไม่ทำร้ายใคร นั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัวกว่าใคร…

 

 

“คุณอยากจะให้ฉันมัดจริงๆ อย่างนั้นเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างสงสัย

 

 

“แน่นอนสิ ผมยอมรับในผลการพนัน ในเมื่อแพ้ผมก็ต้องถูกคุณจัดการ ตอนนั้นคนก็เยอะเกินไป ผมเลยรู้สึกอายนิดหน่อย คุณดูสิวันนี้โอกาสดีขนาดไหน มีแค่เราสองคน จะเล่นอะไรก็ได้!” จ่านมู่ฮวายิ้ม “มาเถอะ” 

 

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดพึมพำในใจ นี่นายหาเรื่องเองนะ!

 

 

เพราะว่าจ่านมู่ฮวารูปร่างสูงเพรียว ซีเหมินจินเหลียนคาดเดาอยู่พักหนึ่ง อย่างน้อยเขาน่าจะสูงสักหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ขณะนั้นเธอก็เดินขึ้นไปบนบันไดขั้นที่เจ็ดแปด จากนั้นเทียบความสูงกันแล้วนำเชือกมาพันรอบราวบันไดก่อนหนึ่งรอบ จ่านมู่ฮวาก็ให้ความร่วมมือเดินเข้าไปอย่างดี หันหลังให้ราวบันไดและยื่นมือออกมา ให้เธอนำมือเขาไปมัดผูกติดกับราวบันได ปากก็ตั้งใจพูดว่า “คุณซีเหมิน คุณผูกเป็นหรือเปล่า ให้ผมสอนคุณหรือดีไหม?”

 

 

“ตอนเด็กฉันต้องเลี้ยงหมู ฉันก็ผูกมันจนดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ นับประสาอะไรกับคุณกัน” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางใช้มือออกแรงในการดึงเชือกมัดให้แน่น

 

 

จ่านมู่ฮวาไม่มีปฏิกิริยาขัดขวางต่อต้านใดๆ เชือกเส้นใหญ่หยาบกำลังรัดแผ่นกล้ามเนื้อที่เขาดูแลรักษาอยู่ทุกวัน เจ็บจนเขาต้องเปล่งเสียง “อือ” ออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

ซีเหมินจินเหลียนไม่สนใจเขา แต่กลับออกแรงมัดให้แน่นไปกว่าเดิม เมื่อมัดเขาเสร็จแล้ว เธอเองก็รู้สึกมีความปลอดภัยขึ้นมา เชือกมัดรอบข้อมือของเขาอยู่หลายรอบ เมื่อรัดแน่นแล้วผูกปม เธอเชื่อมั่นว่า ถึงจะเป็นหมูก็คิดฟุ้งซ่านถ้าอยากจะหลุดออกไป

 

 

เมื่อมัดจ่านมู่ฮวาไว้อย่างแน่นหนา เธอก็ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ เดินจากบันไดเพื่อลงมาข้างล่าง แล้วมองผลงานของตัวเองที่ทำให้ยิ้มไม่หุบ

 

 

จ่านมู่ฮวาทดสอบอยู่หลายครั้ง เชือกก็มัดแน่นพอสมควร อีกทั้งความสูงก็เอาชีวิตคนได้ เขาจำเป็นต้องยืดปลายเท้าไปถึงจะแตะพื้นถึง นี่เหมือนเป็นการมีชีวิตเพื่อการรับโทษจริงๆ น้ำหนักในตัวเกือบทั้งหมดขึ้นอยู่กับเชือกและแขน ส่วนเชือกรัดแน่นมาก

 

 

“ฉันมัดแน่นใช่ไหมล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนเดินไปที่เขาข้างหน้าแล้วถามขึ้น

 

 

“อืม! ไม่เลวนี่ ฝีมือชำนาญดี คุณเล่นบ่อยเหรอ” จ่านมู่ฮวาถาม “มู่หรงก็ชอบถูกคุณมัดเหรอ ผมไม่รู้ว่าเขามีงานอดิเรกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”   

 

 

“เขาไม่ได้โรคจิตเหมือนคุณหรอกนะ!” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงเหอะออกมา ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ห้องครัว

 

 

“นี่ คุณจะไปไหนน่ะ” จ่านมู่ฮวาถาม

 

 

ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้สนใจเขา เธอเดินไปห้องครัวตักน้ำเย็นหนึ่งขันเข้ามา จ่านมู่ฮวายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมยังไม่ได้สลบไปสักหน่อย คุณไม่ต้องเอาน้ำเย็นมาสาดผมก็ได้”

 

 

“ใครเป็นคนกำหนดว่าถ้าคุณยังไม่สลบแล้วฉันจะเอาน้ำเย็นมาสาดคุณไม่ได้?” ซีเหมินจินเหลียนถาม พูดพลางใช้น้ำเย็นหนึ่งขันสาดไปที่เชือกที่มัดมือของเขาไว้ แน่นอนมันทำให้จ่านมู่ฮวาเปียกทั้งหัวและหน้าไปด้วย

 

 

สีหน้าของจ่านมู่ฮวาดูอยากร้องออกมาเต็มที่ ตัวเองให้ความร่วมมือที่จะให้เธอมัด แน่นอนว่าจะพูดอะไรออกไปไม่ได้แล้ว แค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักการใช้น้ำเย็นทำให้เชือกหนักขึ้น นี่มันก็เกินไปหน่อยหรือเปล่า เชือกนี้เป็นเชือกป่าน ถ้าหากโดนน้ำก็จะพองออก เดิมทีที่มัดแน่นอยู่แล้ว ถ้าเชือกพองออกอีก เขาคงทนไม่ได้แน่…  

 

 

เมื่อเห็นจ่านมู่ฮวาเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำ ซีเหมินจินเหลียนก็กลั้นขำไม่ได้อีกต่อไป พร้อมระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

 

“ไม่เลวจริงๆ ฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่เคยถูกใครจับมัดมาก่อน” คิดไม่ถึงว่าจ่านมู่ฮวายังคงยิ้มอยู่

 

 

ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกสงสัยอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้เขาก็โรคจิตจริงๆ เหรอไง? ถ้าเป็นคนปกติ ใครจะยอมถูกจับมัดกัน แต่คนคนนี้กลับหาเรื่องใส่ตัว ในเมื่อเขามาถึงที่ เธอก็จะเอาเปรียบเขาไม่ได้

 

 

“นี่ คุณซีเหมิน…จินเหลียน…คุณ…ปลดเข็มขัดหนังของผมทำไม? พวกเราบอกว่าเล่นกัน ไม่ใช่เล่น…นี่…ถอดแบบนี้ไม่ได้นะ คุณทำอย่างนี้มันจะยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่…” จ่านมู่ฮวามองซีเหมินจินเหลียนที่กำลังถอดเข็มขัดของเขาอยู่ด้วยท่าทางงุ่มง่าม แวบหนึ่งก็คิดอย่างโง่เขลา เธอคงไม่ได้อยากได้เขาจริงๆ หรอกนะ?

 

 

ชั่วชีวิตของจ่านมู่ฮวาช่ำชองกับเรื่องผู้หญิงมามาก แต่ก็ยังไม่เคยถูกใครมาเบ่งอำนาจใหญ่เช่นนี้มากก่อน แต่ทำไมเขาถึงกลับรู้สึกรอคอยอย่างบอกไม่ถูกนะ?

 

 

ซีเหมินจินเหลียนนิ่งอึ้งไปเกือบสามนาที งงงันที่ไม่ได้ถอดเข็มขัดของจ่านมู่ฮวาออกมาสักที อีกทั้งเขายังร้องแหกปากอยู่นั่น ทำให้เธอหน้าแดงหูแดงไปหมด มือไม้พัลวันพันมั่วทำตัวไม่ถูก ถอดไม่ออก…เข็มขัดบ้าอะไร แข็งแรงชะมัด

 

 

“คุณเงียบปากหน่อยเถอะ!” ซีเหมินจินเหลียนยอมปล่อยวางเรื่องการใช้วิธีธรรมดาในการปลดเข็มขัดออก

 

 

จ่านมู่ฮวาปิดปากลงอย่างว่าง่าย ไม่พูดอะไรต่อไปอีก ซีเหมินจินเหลียนค้นหาไปทั่วห้อง จากนั้นเธอก็เดินไปที่ห้องครัวอีกครั้ง ก่อนจะออกมาพร้อมกับกรรไกรแหลมคมที่เพิ่มขึ้นมาในมือ

 

 

“คุณ…คุณจะทำอะไร?” จ่านมู่ฮวาตกใจหนักมาก เดี๋ยวก็จะปลดเข็มขัด เดี๋ยวก็หยิบกรรไกรมา เธอคงไม่ได้…จะตัดเขานะหรอกนะ? “คุณอย่าเข้ามานะ!”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนเดินไปข้างหน้าเขา ก่อนจะใช้กรรไกรตัดเข็มขัดออกไป จากนั้นนำสายเข็มขัดหนังออกมา…

 

 

จ่านมู่ฮวามองเธอด้วยความสงสัย เข็มขัดนี่เขาเป็นคนซื้อ ราคามูลค่ามหาศาล แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือเธอจะเอาเข็มขัดเขาไปตัดทำอะไร เข็มขัดนี้ไม่ได้ไปขัดขวางการทำงานของเธอสักหน่อย?

 

 

“ตอนนี้ พวกเราสามารถเล่นกันได้สักรอบแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนนำเข็มขัดมาถือไว้ในมือ ทดสอบความสัมผัส ไม่เลวเลย จ่านมู่ฮวาคงไม่ได้ใช้เข็มขัดเลียนแบบของเล่นกิ๊กก๊อกใช่ไหม นี่น่าจะเป็นหนังแท้สินะ

 

 

ในที่สุดจ่านมู่ฮวาก็เข้าใจสักทีว่าซีเหมินจินเหลียนถอดเข็มขัดของเขาด้วยจุดประสงค์อะไร เธอไม่ได้ต้องการเขา แต่แค่อยากหาแส้เท่านั้น

 

 

“คุณจ่านมู่ฮวา คุณมาหาฉันเพราะเรื่องอะไรกันแน่” ซีเหมินจินเหลียนถาม

 

 

“ผมก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอไง?” จ่านมู่ฮวายิ้มกลบเกลื่อน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้สนใจ เธอยกเข็มขัดที่ใช้แทนแส้ชั่วคราว ก่อนจะฟาดลงไปที่ร่างกายของเขาอย่างไม่มีเยื่อใย ผู้ชายคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่เคยถูกสั่งสอน  

 

 

เพียะ! เสียงดังอย่างชัดเจน เข็มขัดฟาดลงไปที่ลำตัวของจ่านมู่ฮวาอย่างหนัก จ่านมู่ฮวาเจ็บปวดจนต้องออกแรงกำหมัด กัดฟันเพื่อกลบเกลื่อนเสียงร้องของตัวเองไม่ให้แหกปากขึ้นมา แรงข้อมือของเธอมีพลังมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก โดนครั้งหนึ่งก็รู้สึกทนรับได้ยาก

 

 

“อย่าฟาดมาทีหน้าผมก็พอ” จ่านมู่ฮวารีบชิงพูดขึ้น

 

 

“ฉันจะตีคุณให้ตาย อนาคตจะได้อ่อยผู้หญิงไม่ติด” ซีเหมินจินเหลียนหัวเราะ “ไม่มีใครเคยบอกคุณเลยหรือไงว่าคุณมันคือหายนะ?”

 

 

“หืม…” จ่านมู่ฮวาไม่เข้าใจ หายนะอย่างนั้นเหรอ?

 

 

“โอเค ถ้าไม่อยากจะถูกมัดแบบนี้ คุณก็บอกฉันมาเสียดีๆ ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่กันแน่” ซีเหมินจินเหลียนถาม เธอไม่เชื่อว่าเธอจะมีมนตร์เสน่ห์แพรวพราวขนาดนั้น ที่จะทำให้ผู้ชายหายนะอย่างจ่านมู่ฮวามาจีบเธอ ผู้ชายอย่างเขาน่าจะถูกผู้หญิงตามจีบมาตลอด รูปร่างที่งดงาม โปรไฟล์ที่บ้านก็ดี ผู้หญิงส่วนมากแทบอยากจะโผบินสยายปีกแห่กันมาเป็นลูกสะใภ้ตระกูลนี้

 

 

จ่านมู่ฮวาไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามาทำอะไร สำหรับคำถามนี้จะให้เขาตอบอย่างไร?

 

 

ซีเหมินจินเหลียนก็รู้ว่าเขาน่าจะไม่ตอบง่ายๆ คนบางคน…ขาดการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เกิด แล้วมีสมองที่วิปริต คิดถึงตอนนั้นที่จ่านป๋ายทั้งตัวโชกไปด้วยเลือดนั่น เธอก็คิดว่าการมัดเขาแค่นี้ก็ถือว่าน้อยไป ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เหมือนเป็นคนเรียกร้องอยากได้เอง   

 

 

“ผมไม่ตอบ มันก็ทำให้คุณใช้โอกาสนี้มัดผมไม่ใช่เหรอไง?” จ่านมู่ฮวายิ้มอย่างมีเลศนัย