“คุณนี่มันไม่มีใครสั่งใครสอน!” ซีเหมินจินเหลียนด่าท้อ ปากก็พูดไป ส่วนมือก็ถือแส้หนังพร้อมที่จะฟาดเขาตลิดเวลา
จ่านมู่ฮวาร้องโอดครวญออกมาอย่างเจ็บปวด แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา ซีเหมินจินเหลียนนับเงียบๆ อยู่ในใจ จำได้ว่าในโทรทัศน์ตีเหมือนไม่ตีก็ไปถึงหนึ่งร้อยรอบ ฟาดเขาไปแค่สิบกว่ารอบคงจะไม่น่ามีปัญหาอะไร? แต่ระหว่างที่เธอนับไปถึงสามสิบ คิ้วก็ขมวดขึ้นอย่างสงสัย
เดิมทีจ่านมู่ฮวาสวมใส่ชุดสูทสีขาว ตอนที่เข้ามาเขาได้ถอดวางไว้ที่โซฟา ตอนนี้ชุดที่เขาสวมใส่เป็นเสื้อเชิ้ตลายทางสีขาว แต่ตอนนี้เสื่อเชิ้ตนั้นได้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดอย่างน่าสลดใจ
แม้ว่าซีเหมินจินเหลียนคิดมาตลอดว่าตอนนั้นไม่รู้ว่าใครทำให้จ่านป๋ายอาการเจ็บสาหัสขนาดนั้น ถ้ามีโอกาส เธอจะเอาคืนให้สาสมกับคนชั่วคนนั้นอย่างแน่นอน แต่วันนี้คนชั่วคนนั้นยอมให้เธอมัด แม้ว่าอารมณ์โกรธจะพลุ่งพล่าน แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะตีเขาจนตายไม่ใช่หรืออย่างไร?
“จ่านมู่ฮวา คุณยังไม่ตายใช่ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนยั้งมือไว้ เมื่อเห็นจ่านมู่ฮวาก้มหน้าลงก็รีบถามขึ้น ในใจได้แต่สงสัย คงไม่ใช่ว่าเขาทนกับการตีแค่นี้ไม่ได้หรอกนะ? ถ้าหากทำให้คนตายในบ้านนี้ นั่นก็คงเป็นเรื่องใหญ่แน่…
“ผมยังไม่ตาย…” จ่านมู่ฮวาเงยหน้าขึ้นมา ส่งแววตาทำให้ซีเหมินจินเหลียนดวงตาโตอย่างวิตกกังวลขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ มีความรู้สึกลังเลขึ้น ตีเธอก็ตีแล้ว ด่าเธอก็ไม่รู้จะด่าเขาอย่างไรดี เพราะพวกเขาไม่ได้สนิทสนมกัน
เธอนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก สองมือกุมเข่าแล้ววางคางลงไป มองยังผู้ชายคนที่ถูกเธอมัดไว้ที่ราวบันได…
ปล่อยเขาก็น่าจะอันตรายเกินไป แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง
ทำไมจ่านป๋ายยังไม่กลับมาอีกนะ? ในใจของซีเหมินจินเหลียนคิดแต่เรื่องของจ่านป๋าย ถ้าเขาอยู่เรื่องก็คงจัดการง่ายขึ้น เธอคิดพลางควานหามือถือเริ่มโทรไปหาเขาอีกครั้ง
มือถือของเขายังคงปิดอยู่ เมื่อโทรไปหาหลินเสวียนหลานก็ปิดเครื่องเช่นกัน มองเวลาไปมาก็ถึงสี่ทุ่มแล้ว…
“ถ้าหากมู่หรงกลับมา ผมคงไม่นั่งนิ่งๆ ให้คุณมัดด้วยเชือกแบบนี้หรอก” จ่านมู่ฮวามองไปทางซีเหมินจินเหลียนแล้วยิ้ม “เขาเกลียดผมเข้ากระดูก เขาคงสบโอกาสที่ผมกำลังอ่อนแอจัดการผมให้ตายซะ!”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันก็เกลียดคุณ!” ซีเหมินจินเหลียนทำเสียงเหอะ แล้วคิดไปถึงสภาพที่จ่านป๋ายเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดสดอีกครั้ง
จ่านมู่ฮวาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คุณคิดจะมัดผมไว้นานขนาดไหน”
“รอจนกว่าเสี่ยวป๋ายจะกลับมา หรือไม่ก็คุณรีบไสหัวไปตั้งแต่ตอนนี้!” ซีเหมินจินเหลียนรีบพูดด้วยวาจาเฉียบคม ในระหว่างที่จ่านป๋ายยังไม่กลับมา เธอจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่ คนคนนี้อันตรายเกินไป นอกเสียจากเขาตกลงว่าจะออกไปจากที่นี่
“จริงๆ ผมอยากจะเลี้ยงข้าวเย็นคุณ คุณหิวหรือเปล่า” จ่านมู่ฮวาถาม
“หิว…” ซีเหมินจินเหลียนเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าว
จ่านมู่ฮวาคิดอะไรขึ้นมาได้ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราออกไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะ แล้วค่อยกลับมามัดผมต่อดีไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนจับโทรศัพท์อีกครั้ง จ่านมู่ฮวาเลยพูดว่า “คุณไม่ต้องโทรไปแล้ว ผมบอกแล้วว่าเขาไม่น่าจะกลับมา ก็ไม่กลับมา”
“คุณทำอะไรเขา” ซีเหมินจินเหลียนดีดตัวเองขึ้นมาจากโซฟา แล้วหยิบแส้นั่นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเดินไปข้างหน้าเขา ถ้าหากเขาไม่พูด เธอคงต้องเล่นเกมบีบบังคับเขาสักตา
“หลินเสวียเหวินตายแล้ว คุณคงรู้เรื่องนี้สินะ?” จ่านมู่ฮวาพูด
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า เรื่องนี้เธอย่อมรู้เรื่อง จ่านมู่ฮวาจึงพูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณก็น่าจะรู้ว่าการตายของชายชราหลินมันผิดปกติ?”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า “ได้ยินมาว่าเขาถูกวางยาพิษ”
“อืม เดิมทีเรื่องนี้ตระกูลหลินตั้งใจจะปิดบังไว้ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ หลินเจิ้งก็ไปแจ้งความ จากนั้นหลักฐานต่างๆ บ่งชี้ไปทางหลินเสวียนหลาน ทางตำรวจก็คิดว่าเป็นคดีเจตนาฆ่า เพราะฉะนั้นคืนนี้เลยจับเขาขังไว้” จ่านมู่ฮวาพูดขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนถือแส้ไว้ในมืออย่างแน่นหนา คิดไม่ถึงว่าหลินเสวียนหลานจะถูกตำรวจกุมขังไว้? คนอย่างเขาจะทนกับความยากลำบากแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“เขาอยู่ที่สถานีตำรวจ มือถือเลยถูกยึดไว้ก่อน ไม่ว่าคุณจะโทรไปหาเขายังไงก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนน้องรักของผมคนนั้น ที่ทำให้ผมกล้ามาหาคุณถึงที่นี้ ผมเลยให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับเขา!” จ่านมู่ฮวายิ้มอ่อน เดิมทีหน้าตาหล่อเหลาไร้พิษภัยก็ได้แสดงถึงความชั่วร้ายผ่านให้เห็น
“คุณทำอะไรกันแน่?” ซีเหมินจินเหลียนถามด้วยน้ำเสียงอึมครึม ในใจเธอมีลางสังหรณ์บางอย่าง กลัวว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้น
“ผมก็แค่บอกตำรวจว่าคืนนี้เขาจะไปที่ห้องชายชราหลินเพื่อเผาทำลายหลักฐาน” จ่านมู่ฮวายิ้ม “คุณซีเหมิน คุณว่าถ้าหากตำรวจไม่ได้โง่ จะวางกับดักรอให้เขากระโดดหรือไม่ล่ะครับ?”
“คุณ…” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้น ก็ไม่รู้จะควบคุมอารมณ์โกรธที่อยู่ในตัวเช่นไร ในมือที่กำลังถือแส้อยู่นั้นก็ได้ฟาดลงไปที่ร่างของเขาอีกครั้ง
ถ้าหากเมื่อครู่นี้ซีเหมินจินเหลียนเพียงแค่เล่นเท่านั้น เวลานี้ถึงเรียกว่าลงมือของจริง รอยเข็มขัดฟาดลงไปที่ลำตัวของเขาพร้อมคราบเลือดแดงสดคละเคล้ากัน
จ่านมู่ฮวายังอดกลั้นที่จะไม่ปล่อยเสียงออกมา แต่เขาที่ถูกตีไปตั้งสามสิบสี่สิบที เลยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ร้องสิ! ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลัวเจ็บเสียอีก!” ซีเหมินจินเหลียนโกรธจัด
“แน่นอนว่าผมกลัวเจ็บ แต่คุณตีผม ผมยังรู้สึกชอบ” จ่านมู่ฮวาสูดลมหายใจเข้าอย่างลึกๆ
“คุณมันคนชั้นต่ำ!” ซีเหมินจินเหลียนด่าทอ พูดไปในมือก็กำแส้ไว้ อดไม่ได้ที่จะฟาดเขาต่อไป
“จินเหลียน คุณซีเหมิน…อย่าตีเลย…ผม…โอ๊ย…อย่าตีเลย…” จ่านมู่ฮวาถูกตีไปเพิ่มอีกสิบกว่าครั้ง รู้สึกเจ็บปวดทรมานจริงๆ อดใจไม่ได้ที่จะปริปากอ้อนวอนขอชีวิต แต่ความโกรธที่แผ่รังสีล้อมรอบตัวเธอ ทำให้เธอเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ฟาดตีเขาเพิ่มอีกยี่สิบสามสิบรอบ ซีเหมินจินเหลียนเห็นตอนแรกที่เขายังพูดจาโอ้อวด แต่ตอนท้ายสักประโยคก็ไม่ลั่นออกมา และไม่มีเสียงคัดค้านใดๆ ลองนับครั้งทั้งหมดเหมือนเธอจะตีเขาไปร้อยรอบเห็นจะได้ ถ้าตีอีกสภาพคงไม่ใช่คนแน่ อีกทั้งมือของเธอเองก็เจ็บแสบปวดร้อนไปหมด…
เธอยั้งมือไว้แล้วยืนข้างหน้าจ่านมู่ฮวา ก่อนจะยื่นมือไปตบหน้าเขาและถามว่า “นี่ คุณยังโอเคอยู่หรือเปล่า”
แต่เห็นใบหน้าของจ่านมู่ฮวาซีดเผือด ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ ขณะนั้นในใจของซีเหมินจินเหลียนก็ตกใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเขาจะตายไปจริงๆ หรอกนะ? คิดพลางรีบยื่นมือไปทดสอบลมหายใจที่จมูกของเขา นับว่ายังดีอยู่ เพียงแต่แค่หายใจอ่อนแรง เธอรีบขึ้นบันไดไปแกะเชือกออก ในใจยังรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง นี่เธอคงจะไม่ได้ฆ่าเขาตายหรอกนะ?
เมื่อเชือกถูกปลดออก ร่างกายของจ่านมู่ฮวาก็ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวอีก ร่างของเขาอ่อนแรงจนร่วงลงไปอยู่ที่พื้น
ซีเหมินจินเหลียนรีบวิ่งไปที่ห้องครัว จ่านมู่ฮวากลับลืมตาขึ้นมาด้วยความสงสัย แอบมองเงาด้านหลังของเธอที่กำลังลนลาน จากนั้นก็รีบปิดตาเพื่อแกล้งตายต่อไป
ไม่นานความรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆ ถูกสาดเข้าที่ใบหน้า แต่จ่านมู่ฮวาตั้งใจจะแกล้งให้เธอตกใจ เลยได้แต่ทำเป็นหลับตาเหมือนคนใกล้ตาย
ซีเหมินจินเหลียนเห็นใบหน้าเขาที่ถูกสาดด้วยน้ำเย็นแล้ว แต่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ในละครโทรทัศน์ไม่ใช่ว่าแค่สาดน้ำเย็นก็ตื่นแล้วหรอกเหรอ? นี่จะทำอย่างไรดี เขาคงไม่ตายหรอกนะ?
“นี่! จ่านมู่ฮวา จ่านมู่ฮวา!” ซีเหมินจินเหลียนตบเข้าที่ใบหน้าเขาเบาๆ เรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณอย่าแกล้งตายทำให้ฉันตกใจนะ!”
แต่ถึงอย่างนั้นจ่านมู่ฮวาก็ยังไม่กระดิกตัว ประจวบเหมาะกับเวลานี้ที่มีเสียงมือถือดังขึ้นมาพอดี ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้ว เสียงมือถือนี่เหมือนไม่ใช่ของตน…
เธอมองโซฟาที่มีเสื้อสูทของจ่านมู่ฮวา เธอก็รู้สึกกลัวรีบวิ่งไปดู ก่อนจะคว้าหามือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ ดูไปมาเบอร์นี้ เธอก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง แต่ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้ ให้เธอคิดเธอก็คิดไม่ออกว่าเป็นเบอร์ของใคร…
“คุณซีเหมิน รบกวนคุณช่วยหยิบมือถือผมมาด้วยครับ” ด้านหลังมีเสียงของจ่านมู่ฮวาดังขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนสับสน แต่ก็เรียกสติกลับคืนมาได้ รู้สึกตัวว่าตนเองถูกหลอกเข้าแล้ว แต่เมื่อคิดถึงเมื่อสักครู่ที่เล่นไปพอสมควร เขาและจ่านป๋ายไม่ถูกกัน ใส่ร้ายหลินเสวียนหลาน แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจ เธอเกลียดเขามันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เขาถูกมัดไว้แล้วยังโดนแซ่ฟาด มันก็เกินไปหน่อย
เธอนำมือถือยื่นไปหาจ่านมู่ฮวา จ่านมู่ฮวารู้สึกว่ามือทั้งสองข้างด้านชาไปหมด เมื่อสักครู่ที่ถูกเชือกมัดไว้แน่นคงจะทำให้เลือดไม่เดิน แต่เมื่อแกะเชือกออกแล้วก็รู้สึกว่าข้อมือเหมือนถูกเข็มมีดหลายเล่มปักเข้าใส่ เกือบจะกดปุ่มมือถือไม่ได้ เขากดปุ่มรับด้วยความยากลำบาก
ซีเหมินจินเหลียนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะไปนั่งเอนตัวที่โซฟามองจ่านมู่ฮวาที่นั่งลงอยู่ที่พื้น และกดรับมือถืออย่างอ่อนแรง
ไม่นาน จ่านมู่ฮวาก็ได้ปริปากพูดประโยคไม่กี่ประโยคออกมาอย่างเรียบเย็น “รู้แล้ว!” จากนั้นก็กดปุ่มตัดสายไป
จ่านมู่ฮวารีบลุกขึ้นมาจากพื้น เขาเดินไปที่ตรงกลางห้องรับแขกและเอนตัวนั่งลงที่โซฟา ถามเธอว่า “โกรธเหรอ”
ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า คนที่สมควรโกรธ น่าจะเป็นเขา ไม่ใช่เธอ! เธอเพียงแค่หมดแรงเท่านั้น…
“คุณเป็นห่วงมู่หรง?” จ่านมู่ฮวาถาม
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า เธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขามากจริงๆ และยังกังวลใจกับหลินเสวียนหลานที่ถูกกุมขังไว้ที่สถานีตำรวจ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณวางใจได้ พวกเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตา ในระหว่างที่ยังไม่มีการตัดสินคดี ใครก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเขาหรอก ส่วนคุณก็น่าจะเชื่อใจในตัวจ่านมู่หรง ถ้าหากเขายังจัดการกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้ไม่ได้ เขาคงตายไปนานแล้ว ไม่ต้องให้ใครจัดการหรอก ผมนี่แหละที่อยากได้ชีวิตเขามาตั้งนานแล้ว” จ่านมู่ฮวาแสยะยิ้ม รับรู้ได้ว่าเธอเป็นห่วงจ่านป๋ายอย่างไม่มีเหตุผล
“ฉันรู้ว่าเขาจะไม่เป็นอะไร แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงเขา” ซีเหมินจินเหลียนพูดความจริง
จ่านมู่ฮวากระตุกมุมปากขึ้นด้วยท่าทีมีลับลมคมในพร้อมส่ายหัว “คุณรักเขาแล้ว?”
ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้พูดอะไร รักเหรอ? คงไม่แปลกสินะ? รู้จักกันมาตั้งนาน อย่าพูดถึงคนเลย ถึงจะเป็นสัตว์ก็มีความรู้สึก เพียงไม่นานเธอก็คิดได้ว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาหาจ่านมู่ฮวาเมื่อสักครู่เป็นเบอร์ของใคร…