กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 980
จักรพรรดินีสั่งจับกุมกู้ชูหน่วน เยี่ยจิ่งหานและคนอื่นๆ ทำให้ทั้งรัฐปิงทุกเมืองทุกพื้นที่ต่างพากันตื่นตระหนก ทหารที่เฝ้าลาดตระเวนอยู่ตามเมืองก็มีเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า
บริเวณประตูเมือง บรรดาทหารเห็นว่าขาของเยี่ยจิ่งหานเดินไม่ปกติ และคิดจะตรวจสอบเป็นพิเศษ
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเปิดผ้าที่ปิดขาของเยี่ยจิ่งหาน บรรดาทหารก็ต่างเอามือกุมปากและต่างพากันวิ่งออกไปอาเจียนอย่างหนัก
“ขาของเจ้ากลิ่นอะไร เหตุใดถึงเหม็นเช่นนี้?”
กู้ชูหน่วนใช้เกวียนหวายลากเขา และเมื่อได้ยินนางก็ตอบกลับด้วยน้ำตา “สามีของข้าถูกงูพิษกัดเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะรักษายังไงก็ไม่ดีขึ้นมาและบริเวณโดยรอบก็เน่าลามไปเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่เน่า แต่บาดแผลยังเปลี่ยนไป ดูสิ มันเปลี่ยนเป็นตุ่มสีแดงเช่นนี้ ไม่รู้ว่าทำไม ร่างกายของเขามีตุ่มแดงก็แย่แล้ว แต่ร่างกายของข้าก็มีขึ้นมาด้วย”
ขณะพูด กู้ชูหน่วนก็เปิดแขนเสื้อขึ้นและเผยให้เห็นตุ่มแดงเต็มไปหมด
“ซี๊ด……”
ไม่เพียงแค่บรรดาทหาร แต่เหล่าประชาชนที่ต่อแถวจะเข้าเมืองก็ต่างตกใจจนวิ่งหนีออกไป ไกล
“นี่มันตุ่มแดงอะไรกัน นี่มันไข้ทรพิษชัดๆ โรคนี้สามารถติดต่อกันได้เจ้าไม่รู้หรือ?”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นไม่รู้และถามกลับไป “ไข้ทรพิษคืออะไรอย่างนั้นหรือ?”
“ไสหัวไป ไสหัวไปให้ไกลๆ เลยนะ รีบไปเลยนะ”
“แต่ข้าต้องเข้าเมืองพาสามีของข้าไปหาหมอ”
“หากเจ้ายังไม่ไป ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าตอนนี้เลย”
บรรดาทหารต่างพากันตวาดกู้ชูหน่วน กู้ชูหน่วนกลัวจนตัวสั่นและลากเกวียนหวายออกไปทางนอกเมือง
เยี่ยจิ่งหานพูดไม่ออก
ไหนว่าจะเข้าเมืองไม่ใช่หรือ?
แต่แสร้งว่าเป็นไข้ทรพิษ?
นางคิดได้อย่างไร
โรคติดต่อเช่นนี้ เหล่าทหารไม่เผาพวกเขาทิ้งทั้งเป็นก็นับว่าเป็นบุญมากพอแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาเข้าเมืองได้อย่างไร ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรของนาง
เมื่อเห็นพวกเขากำลังเดินออกไป ไม่นานทหารลาดตระเวนก็เรียกให้พวกเขาหยุด
“หยุด มาจากที่ไหนหรือ?”
“พวกข้ามาจากหมู่บ้านไป่ฮวา ข้าอยากพาสามีของข้าไปรักษาที่ในเมือง แต่พวกเขา……พวกเขาไม่ยอมให้เราเข้าไป ท่านพอจะช่วยเราได้หรือไม่ ให้เราได้เข้าเมืองไปรักษาเถอะนะ?”
“ใต้เท้า คนนั้นเป็นโรคไข้ทรพิษ โรคนี้สามารถติดต่อได้” ทหารต่างพูดกระซิบกระซาบ
หัวหน้าทหารได้กลิ่นผิดปกติลอยเข้าจมูก
และไม่สนใจว่าจะเป็นไข้ทรพิษจริงหรือไม่ จากนั้นเดินเข้าไปที่เยี่ยจิ่งหาน
เขาไม่อยากปล่อยผู้ต้องสงสัยไปแม้แต่คนเดียว
โดยเฉพาะผู้ที่พิการขาทั้งสองข้าง
แต่เมื่อมองเห็นขาทั้งสองข้างของเยี่ยจิ่งหาน แม้ว่าเขาจะนิ่งเฉยมากแค่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา
นี่มันขาลักษณะไหนกันแน่นะ?
ไม่เพียงแต่เน่าเฟะเป็นบริเวฯกว้าง อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นเน่าและในผิวหนังก็มีหนอนอยู่เต็มไปหมด
บริเวณอื่นๆ ก็มีตุ่มแดง ดูแล้วเหมือนโรคไข้ทรพิษอย่างมาก
คนที่ขาพิการเป็นหญิงชราผมหงอกที่ดูเซื่องซึม ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่ฝ่าบาทต้องการตัว
ไม่รู้ว่าเพราะมีโรคติดตัวหรือไม่ ทำให้นางไออยู่ตลอดเวลา และแววตาเหม่อลอย ลมหายใจอ่อนแรง ราวกับป่วยหนักและรอวันตายอยู่เคียงข้างเขา
และเมื่อมองไปที่กู้ชูหน่วน เขาก็เป็นชายชราที่อายุมากแล้ว และคอยขอร้องเขาอย่างร้อนใจ
คนเช่นนี้ ยิ่งไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ที่ฝ่าบาทต้องการตัวเหล่านั้นหรอก
“ต่อให้เขาเป็นโรคไข้ทรพิษ จากขาพิการทั้งสองข้างของเขาก็ไม่สามารถออกจากเมืองไปได้”
“เราไม่ต้องการออกจากเมือง เราต้องการเข้าเมือง เราต้องการไปหาหมอในเมืองเพื่อรักษา”
“งั้นก็เข้าไปเถอะ”
บรรดาทหารต่างตกใจจนแทบล้มทั้งยืน
“ใต้เท้า พวกเขาอาจเป็นโรคไข้ทรพิษก็ได้นะขอรับ”
“หมู่บ้านไป่ฮวาไม่มีโรคไข้ทรพิษ โรคที่พวกเขาเป็นไม่มีทางใช่โรคไข้ทรพิษหรอก”
“แต่……หากเป็นเช่นนั้นล่ะขอรับ ใต้เท้า ในเมืองมีประชากรอยู่กว่าหมื่นคนเชียวนะขอรับ……”
“นำตัวพวกเขาไปและเฝ้าจับตาดูไว้ จากนั้นหาหมอให้พวกเขารักษา และจำไว้ว่าอย่าเข้าใกล้พวกเขา”