” ขอรับ ! ”
ทุกคนตอบรับในเวลาเดียวกัน
ต้องยอมรับว่าแผนการของผู้อาวุโสสามนั้นมีเหตุผล เขาตั้งใจส่งมูซื่อทงไปยังสกุลจวินแทนเซี่ยวฮั่น เนื่องจาก เซี่ยวฮั่น อาจจะก่อปัญหาที่ จวนสกุลจวินได้โดยการกล่าวหาพวกเขา
ผู้นำนครได้มอบภาระความรับผิดชอบที่สำคัญและอ่อนไหวให้แก่ผู้อาวุโสสามในกระหว่างการออกเดินทางของเขาในครั้งงนี้ อย่าก่อปัญหาแก่สกุลจวิน !
ผู้อาวุโสสามหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ความจริงแล้ว อุบัติการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสกุลจวินนั้นเป็นความลับอย่างยิ่งยวด และมีเพียงสกุลเซี่ยวเท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะที่ผู้อื่นได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้หลังจากนั้นมาก แม้ว่าสถานการณ์จะสงบลงอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังนำพาถึงผลลัพธ์ที่ตึงเครียด เมื่อมาถึงเรื่องนี้ แม้แต่ภายใน เมืองพายุหิมะขาว เองยังแบ่งแยกเป็นส่องก๊ก พวกเขามีเหตุผลเป็นของตัวเอง และยังเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนตัวแล้ว ผู้อาวุโสสามมิได้มีความคิดปองร้ายกับสกุลจวิน แต่ก็มิได้ประทับใจในพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขายังรู้สึกเห็นใจเมื่อพูดถึงองค์หญิงคนโต ซึ่งในใจเขานั้น รู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับนิสัยใจคอที่ดื้อดึงของเซี่ยวฮั่น
จากความคิดเห็นส่วนตัวของเขา ความกดดันของเหล่าผู้อาวุโสนั้นนำพาสิ่งใดมา ? แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมการจัดพิธีแต่งงาน แต่ในเมื่อฝ่ายเจ้าสาวไม่ยินยอม เจ้าบบ่างจึงทำได้เพียงลำบากใจ ! หากพวกเขาโดนบังคับให้คลุมถุงชน มันจะเพียงแต่นำพามาซึ่งความไม่พอใจ และปูทางไปสู่ชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความสุข
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็โกรธาอย่างมากที่องค์หญิงคนโตและจวินวูอี้หาทางหนีไปยังอาณาจักรของพวกเขาจนได้ นั่นเป็นเพราะ เมืองพายุหิมะขาว แบ่งออกไปสองฝักฝ่าย และมุ่งร้ายต่อกัน ทว่าองค์หญิงกลับฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งหรือนาง สูญเสียความคิดและสติปัญหาไปแล้ว ในขณะที่นิสัยของเซี่ยวฮั่นยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน และระยะห่างระห่างสกุลเซี่ยว และสกุลของนครเพิ่มมากขึ้น …เห็นได้ชัดว่าผลที่ตามมานั้นจะกลับกลายเป็นการทำลายสกุลจวินมากยิ่งขึ้น !
ความเร็วของผู้อาวุโสสามนั้นมากยิ่งอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าเขาจะนำพาองค์หญิงน้อย ฮั่นหยานเมิง ในขณะที่พวกเขามาถึงยังสถานที่เกิดเหตุ ตอนนี้ผู้อาวุโสสามตะลึงงัน เมื่อยืนอยู่ในจุดที่จวินโม่เซี่ยกระทำทารุณ เซี่ยวเฟิงวู เนื่องจากเขาไม่พบอะไรเลยนอกจากแผ่นดินอันว่าเปล่า
” เด็กน้อย เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นที่นี่ ? เจ้ามิได้นำพวกเรามาผิดทางใช่หรือไม่ ? ”
ผู้อาวุโสสามถามด้วยความประหลาดใจ
ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิเขาได้ พื้นที่ตรงนี้โล่งมากจนไม่มีแม้แต่หญ้าสักใบ ทั่วทั้งรัศมีพื้นที่นี้ไร้ซื่งใบเมเปิ้ล และต้มไม้แม้แต่ต้นเดียว
มีป่าเมเปิ้ลอยู่ตรงนี้เมื่อไม่นานมานี้หรือ ?
ต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ !
หากพื้นที่นี้ถูกเผาไหม้จะต้องมีขี้เถ้าให้เห็นสิ
พื้นที่นี้ไม่มีอะไรเลย … มันสะอาดอย่างมาก !
” นี่คือสถานที่นั้น ! ”
เด็กสาวพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
” ปู่สามเจ้ามาดูสิ … พี่เซี่ยนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนี้ ข้าไม่เคยลืมมันเลย ! ”
ผู้อาวุโสสามมองไปรอบๆอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ยังมิอาจเชื่อ และตัดสินใจมองหาคนแถวนั้นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานที่นี้ และทั้งหมดที่เขาเห็นคนผู้คนที่เสียสติพร้อมกับธูปในมือ กำลังบูชาต่อสรวงสวรรค์เบื้องบน
ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์ ! ทั้งป่าหายไป ….
เขาถามคนแล้วคนเล่า และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยความตกตะลึงอย่างรุนแรง
พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นที่อยู่ของป่าเมเปิ้ล !
แต่กระนั้น ป่าเมเปิ้ลหายไปเมื่อไม่นานมานี้อย่างไม่ทราบเหตุผล … ตอนนี้ ผู้อาวุโสสามนึกอะไรบางอย่างออก
” สาวน้อย เจ้าพูดว่าชายผู้นั้นเปลือยเปล่าในตอนที่เจ้าเห็นใช่หรือไม่ ? เขาเปลือยทั้งตัวเลยหรือ ?”
” ท่านปู่เหตุใดท่านถึงถามเช่นนี้ ? ”
แม้ว่าไม่มีผู้ใดหยิกแก้มของนาง แต่มันก็ยังแดงก่ำ
” เพียงแค่ตอบข้ามาว่าเขาเปลือยเปล่า ? เขามิได้สวมใส่อะไรเลยตั้งแต่หัวจรดเท้า ? และเขายังไม่รู้ตัวเลยหรือ ในตอนที่เจ้ามองเขาอยู่ ? เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ ?”
ผู้อาวุโสสามาถามอีกครั้งด้วยท่าทางสง่า
” ใช่ ! ”
เด็กสาวค่อยๆคิดถึงเหตุการณ์นั้น และตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ
ใบหน้าของผู้อาวุโสสามซีดเผือกทันที !
ดูเหมือนว่า คนผู้นี้มายังสถานที่นี้เพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาเฉพาะอะไรบางอย่าง และการฝึกฝนของเขาจะต้องทรงพลังอย่างมาก จนเขาแผดเผาทุกสิ่งอย่างให้หายไป แม้กระทั้งเสื้อผ้าของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องมีส่วนในการฝึกฝนของตัวเองจนไม่รู้ถึงสิ่งนี้ในตอนที่จบการฝึก แต่มันกลับเปลี่ยนไป … เขาเผชิญหน้ากับ เซี่ยวเฟิงวู และ องค์หญิงน้อย ไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยวเฟิงวู ได้กระทำการหยาบคาย … และผู้ที่มีฝีมือเช่นนี้ไม่ชอบต่อการอวดดีของเด็กหนุ่ม … นั่นพูดได้ว่า คนผู้นี้ละเว้นชีวิตของ เซี่ยวเฟิงวู ไว้อย่างแท้จริง
แต่ … ความแข็งแกร่งเช่นใดกันที่สามารถแผดเผาพื้นที่ใหญ่โตเช่นนี้ได้
ไม่น่าประหลาดใจนักที่ชายผู่นี้มิได้สนใจ เมืองพายุหิมะขาว หากเขามีฝีมือเช่นนี้จริง ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่เกรงกลัวแม้ว่า เมืองพายุหิมะขาว และ คฤหัสน์ฉือฮั่น จะร่วมมือกัน ความแข็งแกร่งของ แปดยอดปรมาจารย์ รวมกันจะสามารถก่อให้เกิดสิ่งนี้ได้หรือ ?
แปดยอดปรมาจารย์ สามารถทำลายป่าเมเปิ้ลได้อย่างง่ายดายหากต้องการ แต่พวกเขาไม่สามารถลบล้างร่องรอยของมันได้ และไม่สามารถทำมันได้อย่างเงียบเฉียบเช่นนี้ !
คนผู้นี้ครอบครองพลังที่น่ากลัวเช่นไรกัน ?
และคนผู้นี้เลือกมายืนประจันกับเมืองพายุหิมะขาวแล้วในตอนนี้ !
เวลานี้ ความคิดผู้อาวุโสสามใส่ใจกับการแก้แค้นผู้ที่ตำหนิ หรือทำให้ เซี่ยวเฟิงวูบาดเจ็บ แต่กลับสนใจถึงความเป็นไปได้ ที่เมืองพายุหิมะขาวจะต้องเผชิญ เนื่องจากความโอหังของ เซี่ยวเฟิงวู
หากเขายั่วยุศัตรูที่มิอาจทัดทาน … นี่อาจเป็นจุดจบที่เลวร้ายของเมืองพายุหิมะขาว !
” ไปเถิด ! พวกเรามุ่งหน้าไปยังสกุลจวินกัน ! ”
ผู้อาวุโสตัดสินใจเด็ดขาดเนื่องจากเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
หาก ปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้กำลังสืบสวน และค้นพบเกี่ยวกับคนของข้ามาขึ้น ข้าคาดว่าไม่มีสิ่งใดสามารถทดนทานต่อโทสะที่บ้าคลั่งของเขาได้ ข้าเกรงว่าเขาสามารถทำลายทุกคนและทุกสิ่งลงได้ แม้ว่าพวกเราจะหลบหนีไปยังเมืองพายุหิมะขาว ผลสุดท้ายยังคงเป็นเช่นเดิม
แม้ว่าเบื้องหน้า ผู้อาวุโสสามยังคงรักษษความสงบไว้ แต่ภายในกลับสาปแช่ง เซี่ยวเฟิงวูนับร้อยครั้ง
เจ้าเด็กเลวนั่นเรียกร้องจะเป็นผู้นำของสกุลเซี่ยวรุ่นใหม่ แต่เขากลับล้มเหลวในทุกสิ่ง เขาไม่เคยสำเร็จในสิ่งใดเลยนอกเหนือจากความรวดเร็วในการเพาะปลูก และนำพาให้พวกเราพบพานกับปัญหาระดับโลกเสมอมา ! และครั้งนี้ นิสัยโอหังของเขานำพาให้พวกเราต้องเผชิญหน้ากับ พระเจ้าที่มีชีวิต !
ดูเหมือนว่ามันสำคัญที่ต้องล่าถอย และจำกัดการเคลื่อนไหวยอดฝีมือของเมืองพายุหิมะขาว และให้พวกเขาหลบซ่อนตัวไปก่อน การปรากฏตัวอย่างเย่อหยิ่งเปิดเผยและเอาแต่ใจของพวกเขาจะต้องถูกจำกัด
ปรมาจารย์ระดับเทพเจ้าเช่นนี้ มีอยู่จริงในโลกแห่งปุถุชน !
บรรยากาศสังสรรค์ในเมืองพายุหิมะขาวเศร้าหมอง และไม่รื่นเริง แต่ผู้หนึ่งในสกุลลี่นั้นเศร้าหมองและไม่รื่นเริงยิ่งกว่า ความจริงมันคือความโศกเศร้าแห่งความตาย …
ชายผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนถึงจุดที่ยากจะยื้อชีวิต ในขณะที่ซากซพของเพื่อนทั้งสี่ยังไม่ได้รับการเผาให้แล้วเสร็จ ลี่โย่วหลานและพี่ที่ยังเหลือทั้งห้าของเขานั่ล้อมวงกัน แต่ละผู้แสดงถึงสีหน้าที่เศร้าสลด ! ความสนใจของพวกเขาจดจ่อไปยังการควานหาผู้ร้าย เจ้าของมีดบินที่ลึกลับในหลายวันมานี้ พวกเขาสืบสวนไปครึ่งค่อนเมือง แต่ก็ยังไม่พบข้อมูลใดๆ
” ตอนนี้ พี่หกคืนสติแล้ว แต่ … ”
ใบหน้าไร้อารมณ์ของลี่โย่วหลานสะท้อนร่องรอยแห่งความเจ็บปวด
” แต่ข้าเกรงว่าเขาจะไม่สามารถยืนได้อีกแล้ว ! ”
” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ! นี่จะเหี้ยมโหดเกินไปแล้ว ! ศัตรูของพี่น้องเราต้องไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ! “
เล่ยเจียนฮ้ง ขบฟันจนสามารถได้ยินเสียงที่กระทบกันได้ เส้นเฃือดตรงหน้าผากของเขากลายเป็นสีเขียวด้วยโทสะ ในขณะที่ดวงตาดูราวกับจะพ่นเปลวไฟออกมา
” ทั้งหมดนี่เป็นเพราะข้า … มันเป็นเพราะความประสงค์ของข้า และหลงผิดคิดไขว่คว้าแกนเชวียน ซึ่งทำให้พี่หกต้องพิการ และส่งให้พี่น้องอีกสี่คนของข้าก้าวข้าวประตูสู่แดนมัจจุราชด้วยวัยเพียงนี้ … ”
แม้ว่า ลี่โย่วหลาน จะมีใบหน้าไร้อารมณ์ ดวงตาของเขากลับนองด้วยน้ำตา ขณะที่เขาคุกเข่าลงด้วยเสียง ตุ๊บ
” พี่ใหญ่ …. ข้า…. ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าทำผิดต่อท่าน และข้าทำผิดต่ออาจารย์ … ข้า….. ข้ามมันระยำ ! “
เล่ยเจียนฮ้งลุกขึ้นอย่างไว
” ลุกขึ้นก่อนน้องหนึ่ง นี่มิใช่ความผิดเจ้า ! ”
จากนั้นเขาจึงถอนหายใจและพูด
” แม้ว่าเจ้าเป็นต้นเหตุ ก็มิใช่ความผิดของเจ้าทั้งหมด มีผู้คนมากมายตายลงด้วยน้ำมือของศัตรูตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการต่อสู้ นี่คือวาระสุดท้ายในการงานของพวกเรา หากยอดฝีมือที่กล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อการตายภายใต้คมกระบี่ของผู้อื่น พวกเขาจะเดินทางไปทั่วอาณาจักรโดยไม่มีความหวาดกลัวหรือความหมายในชีวิต หากเราชนะในการแย่งชิงแกนเชวียนมาในครั้งนี้ ผู้อื่นก็จักต้องสูญเสียชีวิตพี่น้องของพวกเขาเช่นกัน และ บางคนจักต้องพบพานดชคชะตาที่โศกเศร้า ยิ่งไปกว่านั้น การสูฐเสียนี้ก็เป็นความผิดพลาดของพวกเรา ดังนั้นเจ้าจักต้องไม่กลางโทษตัวเองสำหรับเรื่องนี้ น้องหนึ่ง ! “
” ใช่แล้ว เป็นเช่นนั้น พี่ใหญ่พูดถูก ”
โชคชะตาของจอมยุทธ์ทุกคนต้องจบลงด้วยคมกระบี่ของผู้อื่น แม้นมันเป็นความจริงที่โหดร้ายและโศกศเร้า แต่มันมิใช่สิ่งที่ต้องมาโสศกเศร้ากับความตาย
” หญิงสาวกระพริบตาขณะนางเอ่ยทั้งน้ำตา พวกเราจะต้องชำระแค้น และต้องชำระมันด้วยเลือด ! “
” ใช่ ! พวกเราต้องชำระมันด้วยเลือด ! ”
ทุกคนตะโกนพร้อมกัน
” ศัตรูของน้องหกนั้นคือผู้ที่ทรงพลังดั่งเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเชื่อว่า ข้าจะไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แม้ว่าข้าไม่เชื่อว่าข้าสามารถล้างแค้นเขาได้ … “
ลี่โย่วหลานเพ่งมองครุ่นคิดออกไป
” แต่ข้าจักไม่ใช่สิ่งใดในสกุลลี่เพื่อจัดการเรื่องนี้ ! “
” สำหรับพี่น้องทั้งสี่ที่จากไป ข้าได้ค้นหาห้องสมุดและคลังทุกที่ถึงที่มาของมีดบินเล่มนั้น และข้าได้ตำเนินการตรวจสอบทั่วทั้งเมืองหลวง แต่ก็ไม่พบร่องรอยเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้น ข้าต้องพิจารณาใหม่ เมื่อข้าได้พบเหตุการณ์ที่พิเศษซึ่งเกิดขึ้นในเมืองก่อนหน้านี้ และข้าเชื่อว่าเหตุการณ์นั้นมีจุดเชื่อมโยงกับมีดบินเล่มนี้ … ”
ลี่โย่วหลานกล่าวขึ้นพร้อมด้วยใบหน้าจริงจัง
” เหตุการณ์อันใด ? “
เล่ยเจียนฮ้งและคนอื่นๆถามขึ้นพร้อมกัน
“ข้ามั่นใจว่ามีดบินเล่มนี้ไม่เคยมีในดินแดนนี้มาก่อน ! ”
ลี่โย่วหลานเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ
” อย่างไรกตาม ข้าได้ยินถึงเรื่องการลอบสังหาร องค์หญิงหลิงเมิงเมื่อเร็วๆนี้ มียอดฝีมือลึกลับและแข็งแกร่งได้ปล่อยมีดบินที่มีหน้าตาลึกลับออกมาซึ่งช่วยให้องค์หญิงหลบหนีออกมาได้ อย่างไรก็ตาม มีดบินเล่มนั้นยังคงเป็นของสะสมส่วนตัวขององค์หญิงมาตั้งแต่วันนั้น และไม่เคยมีผู้ใดได้เห็น และรู้ถึงหน้าตาที่แท้จริง … ”
มีบางคนที่ได้เห็นถึงหน้าตาที่แท้จริงของมีดเหล่านี้ แต่ตอนนี้พวกเขาลงนรกไปแล้ว มือสังหารจวินได้สร้างมีดบีนของตัวเอง และคนส่วนใหญ่ที่ได้สัมผัสกับมีดเหล่านี้ต้องกระสบกับความตายในเวลาต่อมา เว้นแต่ องค์หญิงหลิงเมิง และ ยี่กู้ฮั่นเท่านั้น และ องค์หญิงหลิงเมิง ไม่เคยปล่อยให้มีดเล่มนี้ห่างจากตัวนางเลยนับแต่วันที่นางได้พบมัน
“น้องหนึ่ง เจ้าหมายความว่า … องค์หญิงหลิงเมิงอาจจะครอบครองมีดที่มีหน้าตาเช่นนี้อยู่อย่างนั้นหรือ ? ”
ประกายหนาวเย็นเปล่งขึ้นในดวงตาของ เล่ยเจียนฮ้ง