ตอนที่ 1870 -1872

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1870 ตบหน้าดังเพี๊ยะ (3)
  ผู้อาวุโสเยว่ชะงักไป
  “ศาลาพนาจันทร์” ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็พูดชื่อที่ทำให้ผู้อาวุโสเยว่ต้องขนพองยองเกล้าออกมา
  “เป็นไปไม่ได้! พวกเจ้าไม่มีทางหาเยว่อี้เจอ!” ผู้อาวุโสเยว่เหงื่อแตกทันที เขาหันไปมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าเหลือเชื่ออย่างที่สุด
  จวินอู๋เสียยังคงพูดต่อไปอย่างไม่รีบร้อน “เจ้าฉลาดมาก รู้ว่าศาลาพนาจันทร์เป็นสถานที่เซ่นไหว้ประมุขวิหารเงาจันทรารุ่นก่อนๆ มีเพียงวันทำพิธีเซ่นไหว้เท่านั้นที่ประมุขวิหารเงาจันทราและเหล่าผู้อาวุโสจะเข้าไปที่ศาลาพนาจันทร์เพื่อทำการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ปกติแล้วที่นี่ไม่อนุญาตให้ศิษย์คนไหนย่างเท้าเข้าไป เจ้าจึงคิดว่าซ่อนเยว่อี้ไว้ที่ศาลาพนาจันทร์จะไม่มีใครหาเขาพบ โชคร้ายหน่อยนะ……ข้าหาเจอแล้ว”
  เสียงอันเย็นชาของจวินอู๋เสียได้ขยี้ฟางแห่งความหวังเส้นสุดท้ายของผู้อาวุโสเยว่จนแหลกละเอียด
  ผู้อาวุโสเยว่ได้ฉีกหน้าประมุขวิหารเงาจันทราไปแล้วเมื่อกี้ ตอนนี้ไม่เพียงได้รับบาดเจ็บจากเย่กู แต่เยว่อี้ที่อยู่ในกำมือเขาก็ถูกจวินอู๋เสียช่วยไปได้!
  ในช่วงเวลาสั้นๆแค่ครึ่งชั่วยาม ผู้อาวุโสเยว่โดนเล่นงานหนักที่สุดที่เคยโดนมาทั้งชีวิต!
  และการเล่นงานครั้งนี้ทำให้เขาไม่เหลือทางรอดใดๆเลย
  ตอนนี้ใบหน้าของผู้อาวุโสเยว่ปราศจากสีเลือดอย่างสิ้นเชิง และรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่างขึ้นมาทันที
  ประตูห้องโถงถูกจวินอู๋เสียขวางไว้ ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ด้านหลังก็มีผู้อาวุโสอิ่งที่เกลียดเขาเข้ากระดูกดำ
  เขาถูกต้อนเข้าตาจนแล้ว!
  ทันใดนั้น!
  ผู้อาวุโสเยว่ก็ทรุดตัวลงคุกเข่าในห้องโถง เขาไม่สนใจบาดแผลที่ข้อมือของตนและโขกศีรษะคำนับประมุขวิหารเงาจันทราที่ล้อมรอบด้วยศิษย์มากมาย
  “ท่านประมุข! ข้ามีตาหามีแววไม่ เป็นข้าเองที่สับสนเลอะเลือน ท่านประมุขได้โปรดเห็นแก่ที่ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจทำเพื่อวิหารเงาจันทรามาหลายปี ช่วยชีวิตตาแก่คนนี้ด้วย! ข้ายอมยกสมบัติทั้งหมดของข้าให้วิหารเงาจันทรา และจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านประมุขทุกคำ ท่านประมุขได้โปรดทำเช่นข้าเป็นสุนัขตัวหนึ่งและช่วยชีวิตของข้าด้วย!” ผู้อาวุโสเยว่โขกศีรษะคำนับพร้อมวิงวอนขอร้อง
  ไม่ว่าผู้อาวุโสอิ่งจะเป็นคนพาจวินอู๋เสียเข้ามาหรือไม่ แต่ดูจากท่าทีของจวินอู๋เสียแล้ว นางไม่มีความคิดที่จะไว้ชีวิตเขาเลย
  ผู้อาวุโสเยว่จึงเหลือเพียงทางเดียวเท่านั้นก็คือประมุขวิหารเงาจันทรา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิงวอนขอร้องด้วยทุกอย่างที่มี พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นความสงสารจากส่วนลึกในใจของประมุข
  น่าเสียดาย ครั้งนี้ผู้อาวุโสเยว่คำนวณพลาดแล้ว
  ถ้านี่เป็นก่อนที่เยว่เย่จะปรากฏตัว แม้ว่าประมุขจะรู้ว่าผู้อาวุโสเยว่ทำบางอย่างที่สร้างความเสียหายให้แก่วิหารเงาจันทรา เขาก็ยังคงไว้ชีวิตผู้อาวุโสเยว่เพราะความสัมพันธ์เก่าๆ แต่หลังจากที่ประมุขรู้ว่าผู้อาวุโสเยว่สั่งให้เยว่เย่วางยาพิษเขา เขาก็เกลียดผู้อาวุโสเยว่เข้ากระดูกดำ!
  “ผู้อาวุโสเยว่ เจ้าคิดว่าข้าจะช่วยหมาป่าตาขาวที่ใจร้ายและเนรคุณอย่างเจ้างั้นรึ?” ประมุขวิหารเงาจันทราหัวเราะเย็นชา เขาเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียผู้มีใบหน้างามล่มเมือง แล้วพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหนูจวิน ถ้าวันนี้เจ้าอยากออกหน้าให้ผู้อาวุโสอิ่ง ก็ไม่ต้องขอความเห็นใครทั้งนั้น คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้อาวุโสของวิหารเงาจันทราของข้าแล้ว จะฆ่าจะแกงก็เชิญตามสบาย”
  “ท่านประมุข!!!” ผู้อาวุโสเยว่เบิกตากว้าง ม่านตาขยายออกด้วยความหวาดกลัว
  แต่ประมุขวิหารเงาจันทราก็ไม่มองเขาเลยสักครั้ง เอาแต่มองความงามของจวินอู๋เสียอย่างมักมาก
  “เย่กู” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้นจากด้านหลังของผู้อาวุโสเยว่ราวกับเสียงระฆังแห่งความตาย
  ผู้อาวุโสเยว่ตัวสั่นสะท้าน รู้สึกเหน็บหนาวไปทั่วร่าง สัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของเขาได้ระเบิดพลังวิญญาณทั้งหมดออกมาทันที เขาคำรามพร้อมกับหันกลับมาและพุ่งตรงไปที่ทางออกของห้องโถงใหญ่!
  แต่ร่างของผู้อาวุโสเยว่ยังไม่ทันเข้าใกล้ประตูห้องโถง เย่กูก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของผู้อาวุโสเยว่!
ตอนที่ 1871 ตบหน้าดังเพี๊ยะ (4)
  แสงสีดำหลายสายถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ได้ยินแต่เสียงกระแทกดังต่อเนื่อง
  ผู้อาวุโสเยว่ล้มลงบนพื้นทันที!
  “อ๊ากกกก!” เสียงร้องโหยหวนดังก้องอยู่ในห้องโถงกว้าง
  แขนขาทั้งสี่ของผู้อาวุโสเยว่ถูกหัก กระดูกสีขาวโผล่ออกมาจากบาดแผล เลือดสดๆไหลออกมานองพื้น กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่วห้องโถงใหญ่
  เย่กูยืนห่างจากด้านหลังของผู้อาวุโสเยว่แค่ไม่กี่ก้าว ไม่มีใครมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาโจมตีอย่างไร ทุกอย่างก็จบลงแล้ว
  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทำให้ในห้องโถงใหญ่เงียบกริบ
  ประมุขวิหารเงาจันทราเบิกตากว้างจ้องมองเย่กู ไม่อยากจะเชื่อว่าในโลกนี้จะมีผู้ที่ทรงพลังขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องเรียกพลังวิญญาณออกมาก็หักแขนหักขาของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินได้
  จวินอู๋เสียก้าวเดินช้าๆไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสเยว่ นางมองผู้อาวุโสเยว่ที่นอนจมกองเลือดและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ในดวงตาไม่มีความสงสารใดๆอยู่เลย ขณะที่ภาพของห้องลับนั้นผุดขึ้นในความทรงจำนาง กล่องผ้าจำนวนนับไม่ถ้วนและวิญญาณอาฆาตที่ถูกฝังไว้ในกล่องพวกนั้น ทำให้ผู้อาวุโสเยว่ซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่นั้นกลายเป็นปีศาจร้ายที่ไม่อาจให้อภัยได้
  “อย่า……อย่าฆ่าข้า……อย่าฆ่าข้า……” ผู้อาวุโสเยว่ทั้งกลัวและตกใจ ความเจ็บปวดทั่วร่างทำให้เขาต้องขบฟันแน่น เขามองรองเท้าที่อยู่ตรงหน้าจมูกของเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
  เขา ผู้ที่เคยใช้มือเดียวปิดฟ้าในวิหารเงาจันทรา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะถูกคนทรมานอย่างน่าสมเพชขนาดนี้……
  ความหวาดกลัวแผ่กระจายไปทั่วร่าง เขากลัวมากจนร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลนองหน้า ปากก็อ้อนวอนขอความเมตตาไม่หยุด
  “ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้” เสียงเย็นชาของจวินอู๋เสียดังขึ้นเหนือหัวผู้อาวุโสเยว่
  เสียงนั้นราวกับน้ำแข็งเกล็ด แต่มันทำให้ผู้อาวุโสเยว่รู้สึกถึงความหวัง
  “ฆ่าเจ้า มันง่ายเกินไปสำหรับเจ้า” ประโยคสุดท้ายจากจวินอู๋เสียได้บดขยี้ความหวังสุดท้ายของผู้อาวุโสเยว่จนแหลกสลายอย่างรวดเร็ว
  ปลายรองเท้าของจวินอู๋เสียงัดใต้คางของผู้อาวุโสเยว่ บังคับให้เขาเงยหน้าขึ้น บิดปลายเท้าหนึ่งทีจิกไปตรงลำคอของผู้อาวุโสเยว่ ความเจ็บปวดทำให้เขาร้องครางออกมา
  ทันทีที่เขาอ้าปาก จวินอู๋เสียก็โยนยาเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของผู้อาวุโสเยว่ “ข้าไม่ได้ใช้เจ้านี่มานานแล้ว หวังว่าเจ้าจะชอบมันนะ” จวินอู๋เสียหรี่ตามองลงไปยังใบหน้าหวาดกลัวของผู้อาวุโสเยว่
  “เจ้า……เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน……” ผู้อาวุโสเยว่ตัวสั่นขณะมองจวินอู๋เสีย
  “สิ่งที่จะไม่ฆ่าเจ้า แต่ก็ไม่ให้เจ้ามีชีวิตอยู่เช่นกัน” จวินอู๋เสียประกาศชะตากรรมของผู้อาวุโสเยว่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
  “อะไรนะ……” ผู้อาวุโสเยว่เบิกตากว้าง
  “กระดูกเน่า มันคือกระดูกเน่า” เสียงของเยว่เย่ดังขึ้น
  เยว่เย่ก้าวเข้ามายืนด้านหลังจวินอู๋เสีย นางมองสบดวงตาที่หวาดกลัวของผู้อาวุโสเยว่ แล้วเอ่ยช้าๆเพื่อทรมานจิตใจของผู้อาวุโสเยว่
  “กระดูกเน่าคือยาพิษที่อาจารย์ข้าปรุงขึ้นมา ใครก็ตามที่กินมันเข้าไป ถ้าไม่ได้รับยาแก้พิษ เนื้อทั้งหมดบนร่างกายจะเน่าอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงกระดูก แต่ก็จะไม่ตาย หลังจากเนื้อเน่าร่วงไปหมดแล้ว เนื้อใหม่ก็จะงอกขึ้นมา เป็นวัฏจักรวนเวียนไม่รู้จบ ไม่ตาย แต่ก็ไม่อาจมีชีวิต” เสียงของเยว่เย่ยังคงฟังเหมือนเด็กน้อย แต่เป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับผู้อาวุโสเยว่
  “อาจารย์พูดถูก ฆ่าเจ้ามันง่ายเกินไปสำหรับเจ้า สัตว์เดรัจฉานอย่างเจ้า ตายไปก็ไปทำให้ถนนยมโลกต้องแปดเปื้อน” เยว่เย่พูดอย่างโกรธแค้น
  “อย่า……อย่า……” ผู้อาวุโสเยว่หวาดกลัวจับขั้วหัวใจ พิษเช่นนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่คำพูดนี้ก็ทำให้เขาตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างที่สุด
ตอนที่ 1872 ตบหน้าดังเพี๊ยะ (5)
  เสียงร้องโหยหวนของผู้อาวุโสเยว่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ สิ่งเดียวที่รอคอยเขาอยู่ก็คือความทรมานที่แสนเจ็บปวดโดยที่ไม่สามารถร้องขอความตายและไม่ได้รับโอกาสที่จะอ้อนวอนขอมีชีวิตอยู่
  จวินอู๋เสียเหยียบไปบนพื้นที่เปื้อนเลือดของผู้อาวุโสเยว่ เลือดสีแดงสดติดใต้เท้านางขณะที่เดินผ่าน ทุกย่างก้าวของนางจะทิ้งรอยเท้าสีแดงฉานไว้บนพื้นหินอ่อนมันวาว
  ภายในห้องโถงใหญ่มีเพียงเสียงครวญครางที่ค่อยๆอ่อนแรงลงเรื่อยๆของผู้อาวุโสเยว่
  คนอื่นๆต่างตกใจกลัว “กระดูกเน่า” ของจวินอู๋เสียจนตัวเย็นเฉียบ
  ประมุขวิหารเงาจันทราตัวสั่นสะท้าน รู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง เขามองเด็กสาวผู้งดงามที่ยืนอยู่ในห้องโถง ไม่อาจจินตนาการได้ว่าพิษที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นจะถูกปรุงขึ้นโดยสาวงามไร้ที่ติเช่นนี้จริงๆ
  “คุณหนูจวิน แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ศิษย์ของวิหารเงาจันทราของข้า แต่ในเมื่อเจ้าสนิทสนมกับผู้อาวุโสอิ่ง เจ้าก็คือสหายของวิหารเงาจันทราเช่นกัน ตอนนี้เจ้าได้กำจัดคนทรยศแทนวิหารเงาจันทราเรา วิหารเงาจันทราย่อมเป็นหนี้เจ้า ข้าอยากจะเชิญคุณหนูจวินพักที่วิหารเงาจันทราสักพักเพื่อให้ข้าได้แสดงความขอบคุณ” ความเย็นยะเยือกที่ประมุขรู้สึกอยู่ในใจ บัดนี้ได้ถูกกวาดทิ้งไปหมดสิ้นด้วยรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลของจวินอู๋เสีย
  พิษนั้นฟังดูน่ากลัวมาก แต่มันอาจจะเป็นแค่สิ่งที่เยว่เย่แกล้งขู่ให้ผู้อาวุโสเยว่กลัวเพื่อแก้แค้นเท่านั้น
  “ท่านประมุข ผู้อาวุโสเยว่ถูกจัดการไปแล้ว แต่เรื่องของตระกูลจ้าน ท่านไม่คิดจะอธิบายอะไรกับข้าหน่อยหรือ” ผู้อาวุโสอิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอ่ยออกมา หลังจากชื่นชมสภาพอันน่าอนาถของผู้อาวุโสเยว่แล้ว เขาก็หันกลับมามองประมุขวิหารเงาจันทราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประมุขที่ยกสูงขึ้นไป เขาอยู่กับวิหารเงาจันทรามานานหลายปี จะไม่รู้ได้ยังไงว่าประมุขพยายามจะเอาชนะใจจวินอู๋เสีย
  แต่ประมุขจะต้องไร้ยางอายมากขนาดไหน หลังจากผู้อาวุโสเยว่เปิดเผยความจริงเรื่องการตายของลูกชายของเขาแล้ว ยังจะสามารถใช้ความสัมพันธ์ของเขากับจวินอู๋เสียมาดึงนางเข้าเป็นพวกได้อีก
  สีหน้าของประมุขวิหารเงาจันทราแข็งทื่อไปทันที บนใบหน้าแสดงออกให้เห็นว่าทำอะไรไม่ถูก
  “ผู้อาวุโสอิ่ง เจ้าเชื่อคำพูดของผู้อาวุโสเยว่ไปได้ยังไง? ข้าปฏิบัติกับเจ้ายังไงตั้งแต่เจ้าเข้าร่วมกับวิหารเงาจันทรา ยังไม่ชัดอีกหรือ? ถ้าข้าแค่จะใช้ประโยชน์จากเจ้าจริงๆ ทำไมข้าถึงให้อำนาจเจ้ามากขนาดนี้ ให้เจ้ากลายเป็นหนึ่งในสองผู้อาวุโสใหญ่แห่งวิหารเงาจันทรา คำพูดของผู้อาวุโสเยว่เห็นได้ชัดว่าพยายามที่จะทำให้เจ้ากับข้าแตกคอกัน จิตใจเขามันชั่วร้าย สิ่งที่เขาทำข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ตัวข้าเองก็เกือบถูกเขาฆ่าไม่ใช่หรือ?”
  ผู้อาวุโสอิ่งหัวเราะเย็นชา “ท่านประมุขมอบอำนาจให้ข้า แค่เพราะท่านป่วยเลยไม่สามารถควบคุมวิหารเงาจันทราได้ รวมทั้งเกรงว่าผู้อาวุโสเยว่จะเป็นใหญ่อยู่คนเดียว จึงสนับสนุนข้าขึ้นมาเพื่อคานอำนาจเขา ข้าอาจจะไม่ฉลาดนัก แต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น”
  สีหน้าของประมุขวิหารเงาจันทรายิ่งน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ เขาด่าผู้อาวุโสเยว่นับครั้งไม่ถ้วน ถ้าผู้อาวุโสเยว่ไม่ปากโป้ง เขาก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจวินอู๋เสียกับผู้อาวุโสอิ่งดึงจวินอู๋เสียเข้าสู่วิหารเงาจันทราได้
  พรสวรรค์ที่จวินอู๋เสียมีนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ในบรรดาคนรุ่นใหม่ และด้วยรูปลักษณ์ที่ทำให้โลกตกตะลึง ทำให้หัวใจของประมุขวิหารเงาจันทราหวั่นไหวอย่างมาก
  นอกจากนั้น หลังจากได้เห็นพลังของเย่กู ประมุขก็ทนรอไม่ไหวที่จะดึงคนพวกนี้เข้าสู่วิหารเงาจันทรา เขามองออกว่าชายชุดดำสองคนที่อยู่ด้านหลังของจวินอู๋เสียนั้นปฏิบัติตามคำสั่งของนาง
  ถ้าเขาสามารถครอบครองพลังที่สามารถฆ่าผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินได้ในชั่วพริบตาล่ะก็ ตำแหน่งของวิหารเงาจันทราในสิบสองวิหารก็จะต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
  แผนการในใจของประมุขนั้นน่าดึงดูดมาก แต่คำพูดของผู้อาวุโสเยว่ก่อนหน้านี้ทำแผนของเขาพังหมด
  “ผู้อาวุโสอิ่ง ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างจริงใจ หวังว่าเจ้าจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกเจ้าคนทรยศนั่นยุยงเอานะ”