ตอนที่ 90 กล้าแตะต้องผู้หญิงของข้า

ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน]

หวงฝู่อี้เซวียนเอ่ยปากเอง เฝิงจิ้งเหวินไม่กล้าปฏิเสธอีก เดินตามทั้งสองมาถึงประตูจวน ขึ้นรถม้าของตนเอง

 

 

รถม้าของพวกนางอยู่ข้างหน้า รถม้าของเมิ่งเชี่ยนโยวและหวงฝู่อี้เซวียนอยู่ด้านหลัง ตามส่งนางกลับจวนเฝิง

 

 

มาถึงหน้าประตูจวนเฝิง หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้ลงจากรถม้า หลังจากมองพวกนางเข้าไปด้านใน ก็สั่งกัวเฟยให้บังคับรถม้ากลับ

 

 

พอคิดว่าคืนนี้จะได้อยู่ค้างในห้องเมิ่งเชี่ยนโยว หวงฝู่อี้เซวียนก็ดีใจยิ้มไม่หุบปาก

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นเขาทำหน้าเอ๋อ โพล่งหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะใสกังวานดังลอยออกไปท่ามกลางรัตติกาลมืดมิด

 

 

ทว่าท่ามกลางเสียงหัวเราะนี้ กลับมีเสียงเ**้ยมของชายคนหึ่งดังแว่วมา “แม่นางเมิ่งยังหัวเราะได้ระรื่นเช่นนี้ ดูท่าจะไม่ได้สนใจกับคำขู่ของข้าแม้แต่น้อย”

 

 

กัวเฟยหยุดรถม้า

 

 

ชิงหลวนและจูหลีทอดสายตามองออกไปอย่างระแวดระวัง

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหยุดหัวเราะ เปล่งเสียงออกมาจากในห้องโดยสาร “คุณชายรองเหวินพูดได้ประหลาดนัก หรือนับแต่นั้นข้าก็ห้ามหัวเราะอีกรึ”

 

 

คุณชายรองเหวินแค่นเสียงหึ “แม่นางเมิ่งก็รู้ว่าข้าพูดถึงอะไร ยังจะแสร้งโง่เขลา ดูท่าวันนี้ข้าจะต้องเปิดหูเปิดตาเจ้าสักหน่อยแล้ว”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่โมโห พูดด้วยน้ำเสียงปกติ “กัวเฟย คนที่ไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นทำให้เจ้าตกใจจนหยุดรถม้าเชียวเรอะ ดูท่าต่อไปเจ้าอย่าตามข้าออกมาอีกเลย”

 

 

กัวเฟยเข้าใจนัยแฝงของนางพลัน รีบพูดรับผิด “นายท่านสั่งสอนได้ดี ผู้น้อยจะจดจำไว้ ต่อไปเจอพวกไม่กล้าสู้หน้าคน ผู้น้อยจะไม่หยุดรถม้าอีกขอรับ” ว่าแล้วก็สะบัดบังเ**ยน บังคับรถม้าเดินหน้าต่อ

 

 

คุณชายรองเหวินเพลิงโทสะปะทุ โบกมือ มีชายชุดดำสิบกว่านายลอยออกมาจากความมืดขวางหน้ารถม้าไว้

 

 

ม้าชะงักตกใจ เปล่งเสียงร้องลั่น

 

 

กัวเฟยรีบดึงบังเ**ยนม้า

 

 

คุณชายรองเหวินพูดเสียงเ**้ยม “แม่นางเมิ่ง ข้ามารอตรงนี้นานแล้ว เจ้าไม่แม้แต่จะพบหน้าก็จะไป ดูจะเสียมารยาทหรือไม่”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเปล่งเสียงตอบกลับ “คุณชายรองเหวินใบหน้าดุร้าย ข้าได้เห็นครั้งก่อน ทำเอานอนไม่หลับไปหลายวัน วันนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นแล้ว”

 

 

คุณชายรองเหวินส่งเสียงกร้าว “ปากดีนักนะ เจ้าตัดสินใจจะยุ่งเรื่องของเหวินซื่อ เป็นศัตรูกับข้าจริงๆ ใช่ไหมไ

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยังคงพูดเนิบๆ “คุณชายรองเหวินประเมินตัวเองสูงไปแล้ว อย่างเจ้า ยังไม่คู่ควรจะเป็นศัตรูกับข้า”

 

 

“เจ้า…” คุณชายรองเหวินถูกยั่วโมโห กัดฟันพูดว่า “เจ้าอย่าบีบให้ข้าต้องลงมือกับเจ้า”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะเหอๆ “หรือเมื่อวานคุณชายรองเหวินเพียงแค่ล้อเล่น”

 

 

เมื่อวานที่ปะทะกัน ก็ถูกชิงหลวนและจูหลีฆ่าไปสองคน เมิ่งเชี่ยนโยวกำลังเยาะเย้ยเขาอย่างเจ็บแสบ ต่อให้คุณชายรองเหวินสะกดกลั้นอารมณ์ได้ดีเพียงใด ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หันไปโบกมือให้ชายชุดดำ “ลุย จัดการนังตัวดีไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำนั่นให้สาสม”

 

 

สิ้นเสียงเขา ชายชุดดำก็เข้ามาล้อมรถม้าไว้

 

 

ชิงหลวนและจูหลีก็ชักดาบข้างเอวออกมาเตรียมรับมือแล้ว

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนแหวกม่านรถออก ก้าวออกมาจากในรถม้าช้าๆ เดินมาหน้ารถม้าอย่างสูงศักดิ์องอาจ พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “คุณชายรองเหวิน แม้แต่สตรีของข้าก็กล้าแตะต้อง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม”

 

 

เห็นชัดว่าคุณชายรองเหวินรู้จักหวงฝู่อี้เซวียน ไม่คิดว่าเขาก็จะอยู่ในรถม้า ตกใจร้องตวาดชายชุดดำพลัน “ช้าก่อน!”

 

 

ชายชุดดำหยุดชะงัก ถอยกลับมาด้านหลังคุณชายรองเหวิน

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนยืนหน้ารถม้า มองเขาอย่างเย็นชา พูดเนิบนาบ “เมื่อวานคุณชายรองเหวินมาขวางรถม้าโยวเอ๋อร์ พูดจาข่มขู่นาง เดิมข้าคิดจะส่งคนไปถามความกับเจ้า เมื่อวันนี้เจ้าเข้ามาเองก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองแรง จัดการรวบยอดทีเดียว”

 

 

คุณชายรองเหวินหรี่นัยน์ตาประเมินหวงฝู่อี้เซวียนครู่หนึ่ง ถึงพูดว่า “หวงฝู่อี้เซวียน ท่านข้าหาได้มีความแค้นต่อกัน วันนี้ข้ามาหาแม่นางเมิ่ง หากท่านจะแหย่เท้าเข้ามาให้ได้ เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว”

 

 

“อ่อ” หวงฝู่อี้เซวียนเปล่งน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดูแคลน “คุณชายรองเหวินจะไม่เกรงใจอย่างไรเล่า”

 

 

คุณชายรองเหวินหัวเราะเยาะหยัน “ซื่อจื่อเป็นคนฉลาด รู้แล้วไยต้องถาม”

 

 

“ข้าไม่รู้ ขอคุณชายรองเหวินชี้แนะด้วย”

 

 

คุณชายรองเหวินพูดเสียงกร้าว “เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว ข้าจะส่งพวกเจ้าไปครองรักกันในปรโลกเอง”

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนเบ้ปาก มองเขาอย่างเย็นชา หาได้สนใจคำขู่ขวัญของเขาไม่

 

 

คุณชายรองเหวินแสยะยิ้มยากจะคาดเดา โบกมือไปด้านหลัง ชายชุดดำโผล่ออกมาจากความมืดอีกยี่สิบสามสิบคน

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนพยักหน้า “ที่แท้คุณชายรองเหวินก็เตรียมการมาแล้ว วันนี้จะต้องเอาชีวิตโยวเอ๋อร์ให้ได้”

 

 

“ถูกต้อง ใครขวางข้าตาย ข้าเตือนนางแล้ว นางไม่แยแสเอง”

 

 

“ข้าไม่เข้าใจ คุณชายรองเหวินมีความสามารถเพียงนี้ เหตุใดถึงเอาชนะเหวินซื่อไม่ได้ ถูกเขาไล่จนไม่มีที่ซุกหัว”

 

 

คำพูดนี้สะกิดถูกต่อมคุณชายรองเหวิน เขาระเบิดอารมณ์ตอกกลับทันที “อย่าเอ่ยถึงเศษสวะนั่น หากไม่เพราะเจ้าเฒ่าลำเอียงนั่น ร้านยาเต๋อเหรินก็เป็นของข้าแล้ว เจ้าเศษสวะนั่นไม่มีวันได้ไป”

 

 

“ด้วยกำลังของคุณชายรองเหวินในตอนนี้ การกำจัดเหวินซื่อเป็นเรื่องง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ ไม่ทราบว่าเหตุใดท่านถึงไม่ลงมือ”

 

 

คุณชายรองเหวินหัวเราะลั่น “การจะฆ่าเขาทันทีมันง่ายเกินไป ข้าอยากทรมานให้มันตายช้าๆ เขาเที่ยวคุยโวว่ามีใจรักมั่นคงกับคุณหนูใหญ่เฝิงนักไม่ใช่เรอะ ข้าอยากเห็นนักว่าหากเฝิงจิ้งเหวินมีลูกไม่ได้ ถูกแรงกดดันจากเจ้าเฒ่านั่นจนต้องแต่งอนุเข้ามา ตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ ทั้งอยากเห็นตอนที่เขาแต่งอนุเป็นร้อยเข้าเรือน ก็มีลูกไม่ได้ ถูกเจ้าเฒ่าถีบออกจากสกุลจะมีสภาพเช่นไร”

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนร้อง “อ่อ” เบาๆ พูดว่า “ที่แท้คุณชายรองเหวินก็เป็นคนโรคจิตวิตปลาส ชอบเห็นคนอื่นเจ็บปวดเจียนตาย”

 

 

คุณชายรองเหวินหัวเราะเ**้ยมเกรียม “ท่านพูดถูกต้อง ข้าจะเก็บเหวินซื่อไว้ ได้เห็นภาพเขาถูกไล่ออกจากสกุล ถูกสกุลเฝิงไล่ล่าตามฆ่า แค่คิดข้าก็สะใจแล้วไ

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนส่ายหน้า “น่าเสียดายนัก”

 

 

“เสียดายอะไร” คุณชายรองเหวินหรี่นัยน์ตาถาม

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนยิ้มอ่อน “เสียดายที่เจ้าจะไม่ได้เห็นภาพนั้น”

 

 

“ขอเพียงนังตัวดีนี่ไม่เข้ามาแส่ วันนั้นไม่ช้าก็จะมาถึง”

 

 

หวงฝู่อี้เซวียนยังคงส่ายหน้า “ต่อให้วันพรุ่งเหวินซื่อตกอยู่ในสภาพนั้น คุณชายรองเหวินก็ไม่มีวันได้เห็น”

 

 

“แค่พวกเจ้าไม่กี่คน” คุณชายรองเหวินพูดดูแคลน “ประเมินตัวเองสูงไปหน่อยแล้ว”

 

 

“จัดการซะ” หวงฝู่อี้เซวียนพูดกับอากาศ แล้วหันหลังกลับเข้าห้องโดยสาร