TQF:บทที่ 504 สาสน์สงครามส่งมาถึง (3)
“อยากกินก็กินสิ คุณชายเจ้าน่ะใจกว้าง เจ้าอยากกินเท่าไหร่ก็ให้เจ้ากินเท่านั้น”
“ไม่เอา เดี๋ยวคุณหนูหึง”
“หึงอะไร บอกให้นะข้าทำได้ทุกอย่างยกเว้นหึง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวล้างหน้าแต่งตัวซะใหม่ด้วยความช่วยเหลือจากสาวใช้ เดินมาแทรกบทสนทนาไร้สาระของพวกเขา
“อิอิ คุณหนูท่านค่อยๆกินเถอะ ข้าไม่กินอาหารจานโอชะที่คุณชายตั้งใจทำให้ท่านหรอก ข้าไปดูข้างนอกก่อนนะ บาย” หยูเฮงโบกมือน้อยๆของนางก่อนจะหันหลังจากไป
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยักไหล่และเดินลงไปนั่งลงที่โต๊ะ มองคนข้างๆ “เจ้าทำเองจริงๆเหรอ”
“แน่นอนสิ” โม่ซวนซุนยกเอาข้าวต้มออกมาถ้วยนึงวางไว้ตรงหน้านาง “ครั้งนี้เจ้านอนไปนานจริงๆ หลายวันมานี้ข้าเตรียมของอร่อยมากมายให้เจ้าทุกวันเลย ไม่คิดเลยว่ายังไงซะเจ้าก็ไม่ตื่น รีบกินเถอะ หิวมาตั้งนานแล้ว ควรจะได้กินตั้งนานแล้ว จำไว้ว่าวันหลังทำอะไรก็ระวังหน่อย ไม่ต้องทำอะไรไม่คิดชีวิตขนาดนั้น ดูแลร่างกายตัวเองด้วย ทุกคนน่ะตกใจกันแทบแย่”
“อื้ม รู้แล้ว” ได้ยินเสียงบ่นของเขาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกอบอุ่นในใจ ยกถ้วยขึ้นกินข้าวต้มหมูหอมกรุ่น น้ำตาคลอขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
คนข้างๆยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆ “กินเยอะๆหน่อย ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว จำไว้นะ ช่วงนี้ข้าจะทำอาหารให้เจ้ากินเองตลอด ไม่ว่าข้าจะทำมาเยอะแค่ไหนเจ้าก็ต้องกินให้หมด อ้วนขึ้นกว่านี้หน่อย มีเนื้อมีหนังถึงจะสวย”
“วันหลังทำอะไรก็ระวังด้วย ไม่ใช่พอยุ่งแล้วก็ไม่สนใจตัวเอง เรื่องบางเรื่องให้คนอื่นทำได้ก็ให้คนอื่นทำ ไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองหรอก โชคดีที่ไม่เหนื่อยจนป่วยเป็นอะไรไป ไม่อย่างนั้นดูซิข้าจะลงโทษเจ้ายังไง”
เสียงบ่นพรึมพรำไม่ได้ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรำคาญเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่แปปเดียวนางก็กินข้าวต้มจนหมดถ้วย ยิ้มให้เขาอย่างสดใส “รับคำบัญชา ต่อไปนี้จะฟังเจ้าทุกอย่างเลย ดีมั้ย”
“ดี จำคำพูดเจ้าไว้ด้วย” โม่ซวนซุนพยักหน้าอย่างพอใจ ดันของตุ๋นบำรุงบนโต๊ะไปตรงหน้านาง “เด็กดี เชื่อข้า กินนี่เข้าไปด้วย อีก 1 ชั่วยามข้าจะเอาของหวานมาให้”
“เอ่อ อีก 1 ชั่วยามต้องกินอีกเหรอ เจ้าจะเลี้ยงข้าให้เป็นหมูเลยหรือไง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวชะงักไป มองหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้
โม่ซวนซุนเลิกคิ้วขึ้นสูง น้ำเสียงเริ่มไม่เป็นมิตร “เมื่อกี้เจ้ารับปากข้าว่าอะไร จะผิดคำพูดอีกแล้วใช่มั้ย”
“เจ้าชนะก็ได้” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตัดสินใจว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก “จริงสิ เมื่อกี้ข้าได้ยินจากหยูเฮงว่าคนของเมืองโลกทมิฬส่งสาสน์สงครามมา เรื่องนี้จริงรึเปล่า พวกเขาจะทำอะไรน่ะ หรือว่าถ้าพวกเขาไม่ตายหมดจะไม่พอใจ”
“ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็มีแค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น พวกเขาต้องการย้ายออกจากเมืองโลกทมิฬ อยากจะหาที่ดีๆไว้อาศัยอยู่”
“เรื่องนี้ข้าเข้าใจ แต่จำเป็นต้องสู้กันต่อเหรอ”
“เจ้าคิดว่าไม่จำเป็น แต่พวกเขาก็มีความคิดของพวกเขา ไม่ว่ายังไงก็ไม่ต้องใส่ใจเรื่องพวกเขาหรอก เรื่องนี้พวกผู้ใหญ่จะจัดการเอง”
“พวกเขาเตรียมจะออกรบเมื่อไหร่”
“ใกล้แล้ว อีก 3 วันให้หลัง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้ยินเวลาก็กล่าวเรียบๆ “พวกเราก็ยังต้องเตรียมตัวให้ดี คนที่ออกรบครั้งนี้ต้องเป็นพวกยอดฝีมือของเมืองโลกทมิฬแน่ นี่ต้องเป็นศึกที่ดุเดือดอย่างแน่นอน”
“เป็นไปได้ คนที่ออกรบครั้งนี้อาจจะเป็นเหล่าหัวหน้ากลุ่มและเหล่าผู้อาวุโสของเมืองโลกทมิฬ”
“นอกจากพวกเขา คนอื่นๆในเมืองโลกทมิฬน่าจะตายกันไปเกือบหมดแล้ว ตาแก่พวกนี้เก็บไว้ทีหลังสุด ข้าว่าพวกเขาไม่ใช่แค่อยากจะมาสู้กับเราให้รู้แล้วรู้รอด เกรงว่าตั้งใจจะมาเจรจาด้วย”
“นี่ก็เป็นเรื่องจริง”
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เจ้ากินอิ่มแล้วหรือยัง ให้ข้ายกมาเพิ่มมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก กินจนจุกแล้ว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหัว หันไปมองคนที่แม้แต่หนวดก็ไม่ได้โกน พูดอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าก็อยู่ในสภาพนี้อ่ะนะ โหล่ยโท่ยแบบนี้ไม่คิดจะล้างหน้าล้างตาหน่อยเหรอ”
“เมียจ๋า เจ้ามาล้างให้ข้าได้มั้ย”
“ไป๊ ไปไกลๆหน้าข้าเลย ข้าขี้เกียจจะรับใช้เจ้า”
———————————-