TQF:บทที่ 505 อุบัติเหตุ พวกตาแก่มาเป็นฝูง (1)
เมื่อเฉิงเสี่ยวเสี่ยวปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน แต่ละคนก็อดบ่นนางไม่ได้ หวังว่าหลังจากนี้นางจะดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง
โดยเฉพาะคนเป็นแม่ทั้ง 2 ที่บ่นไม่หยุด
สัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงจากทุกคน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรีบตอบรับไว้ด้วยรอยยิ้ม
วันที่ 2 มีแขกอันคุ้นเคยมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน ลั่วจุนฮ่าวและกงซีหยวน และคนชราอีกคนที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่นางก็รู้สึกคุ้นเคยของใบหน้านั้นอยู่
ที่น่าแปลกใจก็คือคนชราผู้นี้ท่าทางละอายต่อนาง
แต่นางก็สามารถมองออกถึงฐานะที่แท้จริงของเขาได้ ซึ่งก็คือตาของนางนั่นเอง
ต้องบอกเลยว่าตาเฒ่าลั่วมาปรากฏตัวที่นี่ได้นั้นช่างน่าประหลาดใจเสียจริง
ตาเฒ่าลั่วเพิ่งเคยเห็นหลานสาวคนนี้เป็นครั้งแรก จากความรู้สึกแรกที่ได้พบ เขาบอกได้เลยว่าหลานสาวคนนี้ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง
แม้จะอยู่ในความสัมพันธ์ตาหลาน แต่ทั้ง 2 คนก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า
ที่จริงตาเฒ่าลั่วไม่ได้ตั้งใจจะมาดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน แต่ทนคำขอของลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ไหว และในขณะเดียวกันก็มีความอยากรู้อยากเห็นในตัวหลานสาวที่มหัศจรรย์คนนี้ด้วย จึงอยากมาดูให้เห็นกับตา
จึงได้มาปรากฏตัวต่อหน้านาง
ตอนนี้ตาหลานก็ได้พบกันแล้ว 2 พี่น้องลั่วหยูฉินและลั่วจุนฮ่าวก็มีท่าทีตื่นเต้นไม่น้อย กลัวว่า 2 ตาหลานนี้จะทะเลาะกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นคนอื่นก็คงจะเห็นเป็นเรื่องตลกแน่ๆ
ปฏิกิริยาของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเรียบเฉยมาก นางเพียงมองเขาแว้บนึงเท่านั้นก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีคนๆนี้อยู่ที่นี่ แม้ว่าจะเป็นญาติกัน แต่ในใจนางก็ไม่ได้รู้สึกถูกชะตากับเขานัก
ลั่วหยูฉินกลัวว่าท่านพ่อของตัวเองจะอึดอัด ขยับปากเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่ใช้สายตาตำหนิมองไปยังคนข้างๆ
เฉิงไป๋หยวนเข้าใจความหายของภรรยาตัวเองดี เขายิ้มก่อนจะหันไปพูดกับลูกสาว “เสี่ยวเสี่ยว ทำไมไม่เรียกท่านตาล่ะ”
ได้ยินคำของลูกเขย ตาเฒ่าลั่วจ้องมองนางด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความคาดหวัง ในใจก็ยังหวังว่าจะได้ยินนางเรียกตัวเองว่าท่านตา
อย่างไรซะก็เป็นหลานสาวแท้ๆของตัวเอง จะไม่คาดหวังให้ยอมรับตัวเองได้ไง
ไม่ใช่แค่เขาที่คาดหวัง ลั่วหยูฉินเองก็ทั้งคาดหวังและตื่นเต้น คอยดูปฏิกิริยาของลูกสาวตัวเอง
ภายใต้การจ้องมองจากทุกคน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแอบถอนหายใจกับตัวเอง ไม่ว่านางจะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเขา แต่ต่อหน้าทุกคนต้องให้เกียรติพ่อแม่ตัวเอง และต้องให้เกียรติตาเฒ่าคนนี้บ้าง จึงสบตาเข้ากับเขาและเรียกเบาๆ “คารวะท่านตา”
“ดี ดีๆ” ตาเฒ่าลั่วชื่นใจเป็นที่สุด เผยรอยยิ้มแห่งความดีใจ ในใจเขาไม่มีเรื่องให้เสียใจทีหลังแล้ว ไม่ว่าตอนนั้นจะถูกหรือผิด ตัวเองก็ได้รับการยอมรับจากนางแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว
โม่ซวนซุนที่เป็นหลานเขยก็ทักทายเขาเช่นกัน ตาเฒ่าลั่วยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ หลานเขยของเขาคนนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นคนธรรมดาซะที่ไหน
ลั่วหยูฉินวางใจได้ในที่สุด บนใบหน้ามีรอยยิ้มแห่งความสุข ตอนนี้นางพึงพอใจแล้ว
ทุกคนนั่งคุยสัพเพเหระอยู่ด้วยกัน ค่อยๆลืมเรื่องสงครามที่กำลังจะมาถึงไป ในห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวนั่งคุยเป็นเพื่อนกับทุกคนในห้องโถงสักพักก็ถูกกงซีหยวนเรียกออกมา
“รีบลากข้าออกมานี่มีอะไรเหรอ อย่าบอกนะว่าพวกท่านใกล้จะแต่งงานกันแล้วน่ะ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอมยิ้มมองคนตรงหน้า
กงซีหยวนหน้าขึ้นสีแดง พูดอย่างเว้าวอน “ข้าไม่ได้รีบเหมือนพวกเจ้านะ ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าน่ะเลือกวันไว้ตั้งมากมาย ข้าจะรีบยังไงก็รีบไม่เท่าพวกเจ้าหรอก อิอิ”
พูดถึงตรงนี้นางอดหัวเราะไม่ได้
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองบนใส่นางอย่างไม่เป็นกุลสตรีนัก เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เหยียบย่ำความหวังดีของข้านะ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกท่านไม่อยากจะรีบแต่งงาน ข้าเห็นท่านป้ากงแทบจะลากพวกท่านเข้าพิธีแต่งงานซะบัดเดี๋ยวนี้ ท่านยังกล้าเอาเรื่องพวกข้ามาล้ออีกนะ”
“ที่ข้าพูดมันเรื่องจริงนี่นา ไหนเจ้าลองบอกมาซิว่าท่านป้าทั้ง 2 เลือกวันดีไว้ให้พวกเจ้ากี่วัน” กงซีหยวนเถียง
“พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าว่าพวกท่านก็อายุไม่น้อยแล้ว ที่รีบน่ะควรเป็นพวกท่าน รีบๆแต่งงานกันเถอะ”
“พอแล้วๆ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กัน” กงซีหยวนเขินเกินกว่าจะพูดเรื่องส่วนตัวแบบนี้ต่อ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มบางๆ “ครั้งนี้พวกท่านมาด้วยเรื่องอะไรกัน อย่าบอกนะว่าได้ยินเรื่องที่เมืองโลกทมิฬส่งสาสน์สงครามมาน่ะ”
“เรื่องนี้น่ะพวกข้าได้ยินแล้ว ก็ตั้งใจมาดูจริงๆนั่นแหละว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย อย่างไรซะนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ จุนฮ่าวบอกว่าเราจะทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้ ถึงได้กลับมารอฟังคำสั่งจากเจ้า”
“หืม ถือว่าพวกท่านตั้งใจดีแล้ว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้า มองนางอย่างมีความหมาย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีเรื่องอื่นแล้วจริงๆเหรอ”
“อืม ถือว่ามีแหละ แต่เรื่องพวกนี้จุนฮ่าวจะมาพูดกับเจ้าเอง ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง” กงซีหยวนพูดด้วยความลังเล
“เรื่องอะไร ทำไมเจ้าพูดตอนนี้ไม่ได้”
“ไม่ใช่แบบนั้น ข้ารู้สึกว่าให้จุนฮ่าวบอกเจ้าจะเหมาะกว่า เขาจะมาคุยกับเจ้าเรื่องนี้เร็วๆนี้แหละ”
———————————-